“คุณยังอยากได้ลูกเขยที่ถูกไล่ออกจากตระกูลอื่นและยื่นคำขาดว่าจะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเราอีก?!”“เคลลี่ มาโลน คุณมันบ้าไปแล้ว! คุณมันบ้า!”เคลลี่ตอบอย่างเย็นชาว่า “เฮเซล มาโลนและฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นคู่รักในวัยเด็ก ทั้งสองตระกูลตกลงเรื่องการแต่งงานกันไว้แล้ว ผมเพียงทำตามคำสัญญา ทำไม มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”"คุณ…"จูน ลีโกรธมากจนหายใจไม่ออก เธอนั่งบนเก้าอี้และจ้องไปที่เคลลี่ราวกับอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆเฮเซลขมวดคิ้ว เธอรู้สึกขยะแขยงขึ้นไปอีก เมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์นอกจากการล่าเรื่องใส่ตัวแล้วแล้ว ฮาร์วีย์ยังถนัดไขว่คว้าสิ่งที่เขาไม่คู่ควรมาครองเสียด้วยเป็นเพราะฮาร์วีย์ที่ทำให้พ่อแม่ที่รักและห่วงใยกันของเฮเซลต้องทะเลาะกันแม่ของเธออาจจะเป็นลมล้มพับไปเพราะความโมโหสตีเว่น วอล์คเกอร์โกรธมากจนต้องจากไปเช่นนั้น ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อไปเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านั้น เฮเซลก็รู้สึกขยะแขยงมากขึ้นไปอีกฮาร์วีย์ไม่ต้องการให้ตระกูลมาโลนทะเลาะกันอีก เขายืนขึ้นและหยุดคนทั้งคู่“คุณลุง คุณป้า หยุดทะเลาะกันเถอะครับ!”“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมเอง!”“ฉันได้เตรียมการไว้แล้วก่อนที่จะมายังมอ
ฮาร์วีย์ ยอร์กเดินออกจากอาคารแห่งสันติ แล้วมองไปข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำเขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินแห่งมอร์ดู และนี่คือที่ที่เขาจะเปิดเผยตัวตนของเขาแม้ว่าเคลลี่ มาโลนและครอบครัวของเขาไม่เชื่อฮาร์วีย์ แต่ในอนาคตพวกเขาจะได้รู้ฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะอธิบายเช่นกัน เขาเรียกรถแท็กซี่และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ไทสัน วูดส์จัดไว้ให้โทรศัพท์ของฮาร์วีย์สั่น เพราะมีข้อความเข้ามาเคลลี่ขอร้องให้ฮาร์วีย์พักในโรงแรมไปก่อน จากนั้นจึงบอกฮาร์วีย์ว่าอย่าไล่ตามความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง และให้อยู่กับความเป็นจริง นอกจากนี้เขายังเตือนฮาร์วีย์ว่าอย่าได้พูดอะไรให้มากความฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะยิ้มหลังจากเห็นข้อความ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกันนานแล้ว แต่เคลลี่ก็ยังเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพฮาร์วีย์รู้สึกว่าเคลลี่ห่วงใยเขาอย่างแท้จริงฮาร์วีย์ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นก็ตอบกลับไปโดยไม่ได้ให้คำอธิบายมากนัก โดยบอกว่าเขามีการเตรียมการอย่างอื่นไว้แล้วและหากเขามีเวลาจะไปเยี่ยมเคลลี่อีกครั้งหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถแท็กซี่ก็มาถึงคลับส่วนตัวระดับไฮเอนด์บริเวณปากอ่าวของมอร์ดูฮาร์วีย์มาที่ห้อง
จอร์จ ซาเบลเปิดรูปภาพในโทรศัพท์ด้วยความเคารพ ก่อนส่งภาพไปยังจอโทรทัศน์ จากนั้นจึงเริ่มอธิบาย“ในบรรดาบุตรชายสี่คนจากตระกูลบาวเออร์ บุตรชายคนที่สองและสามเป็นพวกไม่เอาถ่านทั้งคู่ ไม่มีข้อดีอะไรให้พูดถึง“แต่ไอเดน ลูกชายคนโต และมาร์โกลูกชายคนเล็กเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถ“นอกจากความสามารถในการต่อสู้ที่ดีแล้ว พวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกผู้ก่อตั้งสาขามอร์ดู ของหลงเหมินหลายคน“ก่อนหน้านี้ ไอเดนเป็นพันธมิตรกับรองหัวหน้าสาขาอย่างจอช วอร์ด ในขณะที่มาร์โก้เข้าร่วมกองกำลังกับรองหัวหน้าสาขาอย่างจัสติน วอล์คเกอร์ “รองหัวหน้าสาขาสองคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพล แต่พวกเขาไม่ได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้โดยไม่หวังค่าตอบแทนใด ๆ“ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงกันว่าเมื่อตระกูลบาวเออร์ได้เลื่อนตำแหน่ง พวกเขาจะต้องสนับสนุนรองหัวหน้าสาขาเหล่านี้และจัดตั้งให้พวกเขาได้เป็นผู้นำสาขาอย่างเป็นทางการ“ตระกูลบาวเออร์มีอิทธิพลอย่างมากต่อสาขามอร์ดูของหลงเหมิน มันคงยากที่จะไต่เต้าขึ้นไปหากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลบาวเออร์”จอร์จเปิดภาพอีกภาพแล้วพูดต่อ“นี่คือดรูว์ เชลตัน รองหัวหน้าสาขาเพียงคนเดีย
จอร์จ ซาเบลและโอลด์ ไนเนอร์ได้เตรียมการในมอร์ดูไว้หลายอย่างแล้ว ทั้งคู่ไม่สามารถรอให้ฮาร์วีย์ ยอร์กดำเนินการได้เพราะพวกเขาก็อยากจะมีโอกาสได้แสดงฝีมือเช่นกันฮาร์วีย์คิดแล้วตอบว่า “หากเราต้องดำเนินการตอนนี้ มันคงมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป”“ปล่อยให้พวกเขาสู้กันไปก่อน พอหัวส่วนใหญ่หายไป เราจะกวาดล้างส่วนหางเอง“มีข่าวเกี่ยวกับตระกูลสมิธบ้างไหม?”ฮาร์วีย์เปลี่ยนเรื่อง“ตระกูลสมิธ…”จอร์จมีสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็กระซิบว่า “นายท่านยอร์ก ผมไร้ความสามารถ”“ผมพยายามรวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่งที่ผมมี แต่หน่วยสอดแนมที่ส่งไปหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับมีตาที่มองไม่เห็นกำลังจ้องมองเราอยู่“นั่นคือเหตุผลที่หลังจากสูญเสียมือดีที่สุดของผมไปสองสามคน ฉันจึงห้ามไม่ให้พวกเขาทำภารกิจต่อ“ได้โปรดให้คำแนะนำผมทีว่าผมต้องทำอย่างไรต่อไป”ฮาร์วีย์รู้สึกงุนงงเล็กน้อย“หน่วยสอดแนมที่คุณฝึกฝนไม่ได้ข้อมูลอะไร และพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ว่าพวกเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?”จอร์จพยักหน้า"น่าสนใจ ตระกูลสมิธมีปัญหามากกว่าที่ฉันคิด คุณหรือคนของคุณอย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องน
“เธอเป็นก็แค่ขยะ! ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งที่สุดในหลงเหมินสาขามอร์ดูอีกเหรอ?!”“นายน้อยบาวเออร์ปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพ!”“เธอยังไม่รู้จักรสชาติแห่งความตายหรอก แต่ขาก็ก้าวลงนรกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”“เธอควรจะยอมสละและแบ่งหุ้นที่เป็นของนายน้อยบาวเออร์ แล้วเธอก็จะสามารถเพลิดเพลินกับเกียรติยศและความร่ำรวยทั้งหมดที่เธอเคยมีได้! มึอาหารดี ๆ และชุดสวย ๆ ที่เคยได้ใส่!”“แต่เธอมันไม่มีหัวคิด! เรื่องนี้เธอจะโทษใครได้?!“มา พาเธอกลับมา! นายน้อยบาวเออร์รออยู่!”ในขณะที่ผู้นำกลุ่มกำลังพูด เขาก็ตบหน้าเธออีกสองครั้ง ราเชล ฮาร์ดีดูคล้ายกับว่าเธอกำลังจะเป็นลมหลังจากถูกทุบตีอย่างหนักแต่เรเชลยังคงมีสติสัมปชัญญะอยู่บ้าง เธอมองไปยังทิศทางของฮาร์วีย์ ยอร์ก และคนอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงพึมพำเบา ๆ ว่า “ช่วยฉันด้วย…”เพี๊ยะ!นักสู้คนนั้นตบหน้าเธออีกครั้ง จากนั้นอุทานอย่างเย็นชา “ช่วยเธอเหรอ? ใครจะกล้า?! ใครจะยอมเหยียบหน้านายน้อยบาวเออร์?!”เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์หลังจากพูดคำเหล่านั้น จากนั้นพูดอย่างเย็นชา “จำไว้ นายไม่เห็นอะไรทั้งนั้น! นายไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง!”“หากนายไม่ฟัง ฉันจะฆ่านาย!”นั
หลังจากได้เห็นไอเดน บาวเออร์แล้วฮาร์วีย์ ยอร์กก็เข้าใจว่าทำไมจอช วอร์ดถึงต้องการเป็นพันธมิตรกับเขาไอเดนดูเหมือนทายาทเศรษฐีจอมเสเพล ไม่ว่าฮาร์วีย์จะมองเขาอย่างไร มันก็คงไม่ยากที่จะควบคุมคนอย่างเขา ถ้าเขาเป็นคนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจริง ๆจอชยังสามารถเข้าควบคุมไคเซ็น กรุ๊ปผ่านไอเดนได้ และอาจจะควบคุมไปแม้กระทั่งทั้งตระกูลบาวเออร์ จอชมีแผนค่อนข้างดี ช่างน่าอายนักที่เขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนที่ไม่ควรและต้องชดใช้ด้วยชีวิต“วิกเตอร์ ทำไมกับอีแค่พาผู้หญิงพิการกลับไปแกถึงเสียเวลานานนัก?”ไอเดนเดินไปข้างหน้าและตบหน้านักสู้ผู้หยิ่งผยองทันที“แกไม่รู้หรือไงว่าถ้าแกไร้ความสามารถในการทำงาน แกจะถูกกฎแห่งตระกูลเล่นงาน?”“ฉันถอดกางเกงลงไปครึ่งนึงแล้ว ทำไมแกยังมาเสียเวลาอยู่ที่นี่?”“แกจะกวนประสาทฉันรึไง?”วิคเตอร์กลัวจนหน้าซีดไปหมด เขาโค้งคำนับและตอบในทันที “นายน้อยบาวเออร์ เป็นความผิดของผมเอง มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด! ผมทำให้คุณไม่มีความสุข!”“แต่เรื่องทั้งหมดนี้จะโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้! พวกบ้านนอกเหล่านี้ถือดีว่าพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่พยายามจะช่วยหญิงสาวที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาไ
วูบ!ไทสัน วูดส์ไม่เสียเวลาพูดและก้าวไปข้างหน้า เขาผลักนักสู้บางคนออกไป แล้วคว้าราเชล ฮาร์ดีซึ่งนอนอยู่บนพื้นเหวี่ยงไปทางจอร์จ ซาเบลโอลด์ ไนเนอร์เดินไปข้างหน้าและปกป้องราเชลไว้ข้างหลังเขาโดยที่ยังไม่มีคำสั่งใด ๆ"แกไอ้บัดซบ! กล้าต่อกรกับเราเหรอ!”วิกเตอร์ตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่ไทสัน“ตายไปซะ!”ก่อนที่วิกเตอร์จะเหนี่ยวไก ไทสันก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกระโจนไปข้างหน้า ก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบ ในชั่วพริบตาเขาก็อยู่ต่อหน้าวิกเตอร์ ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ปืนก็ย้ายมาอยู่ในมือของไทสันแล้วแมลงตัวเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่สมควรที่ต้องให้ถึงฮาร์วีย์ ยอร์กพวกเขาผ่านไทสันไปไม่ได้ด้วยซ้ำ“อยากให้ฉันตายเหรอ?”ไทสันไม่สนใจสถานการณ์“ตอนที่ฉันเอาชีวิดรอดในโลกใต้ดิน แกยังเล่นโคลนอยู่เลย!”ไทสันจับผมของวิกเตอร์แล้วทุบหน้าเขาลงบนโต๊ะหินอ่อนปัง!วิกเตอร์เป็นอัมพาตอยู่บนพื้นพร้อมกับเสียงที่ดังโครมคราม เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กลับไอเดน บาวเออร์และคนอื่น ๆ ตกตะลึง พวกเขาดูไม่ออกเลย ไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะมีผู้คุ้มกันที่มีความสามารถระดับนี้มาด้วยนี่คือถิ่นของพวกเขา!ในถ
การแสดงออกของนักสู้เหล่านั้นดูน่ากลัว พวกเขาไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ แต่ก็ถอยไปไหนไม่ได้เช่นกันใบหน้าของไอเดน บาวเออร์บวมแดงหลังจากถูกตบหน้าหลายครั้ง รอยฝ่ามือขนาดใหญ่บนใบหน้าของเขาทำให้ฝูงชนตกใจ ดวงตาของไอเดนกระตุกอย่างต่อเนื่องเพราะเหตุนี้"แกมันสารเลว! ฉันจะบอกแกเอาไว้อย่างหนึ่ง ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใคร ฉันไม่สนว่าแกมาจากไหน และฉันไม่สนใจว่าใครจะอยู่เบื้องหลังแก!”“ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้เลย!”“ไม่อย่างนั้น พรุ่งนี้ฉันจะฆ่าตระกูลของแกทั้งตระกูล!”“ฉันไอเดน บาวเออร์ พูดคำไหนคำนั้น!”ฮาร์วีย์ ยอร์กเดาะลิ้นด้วยความดูแคลน จากนั้นเขาก็เชยกรามของไอเดนขึ้นด้วยปลายปืนและตบหน้าของเขาเพี๊ยะ!“คิดว่าฉันจะไม่ฆ่านายเหรอ?”เพี๊ยะ!“คิดจะฆ่าคนทั้งตระกูลของฉันด้วยความสามารถง่อย ๆ ของตัวเองงั้นเหรอ?”เพี๊ยะ!“ฉันต้องกลัวนายรึไง?!”เพี๊ยะ!“ใครใช้ให้นายกล้าอวดดีต่อหน้าฉัน!”ศีรษะของไอเดนส่ายอย่างรุนแรงเพราะการตบของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็อุทานออกมาอย่างโมโหว่า “ฉันพูดคำไหนคำนั้น!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ ก่อนจะปรากฏยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้า“ดูเหมือนว่าฉันจะเมตตาต่อนายมากเกินไป”ฮาร์วีย์คว้าผมของไอเดนไว้แล