นักดาบของประเทศหมู่เกาะ เปล่งรัศมีที่ไม่ดูสูงส่งว่าศัตรูนับพันดาบยาวที่เขาถืออยู่ในมือเปรียบดั่งสายฟ้า ทุกครั้งที่เขากวัดแกว่งมัน ใบมีดจะเปล่งประกายออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัวสาวกสองคนของหลงเหมินถือดาบยาวก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในอีกระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับเหล่าสาวกที่เหลือดาบของพวกเขาส่องแสงเป็นประกาย พวกมันมุ่งเป้าไปที่นักดาบผู้นั้นนักดาบไม่ได้ถอยหนี ทว่ากลับเหวี่ยงดาบออกไปสู้แทนแกร๊ง!ดาบยาวทั้งสองหักครึ่งในทันที สาวกทั้งสองถอยหลังอย่างช้า ๆ ขณะที่พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและไม่ยอมแพ้ ในไม่ช้าพวกเขาก็ล้มลงกับพื้นแน่นิ่งไปสาวกคนอื่น ๆ ที่ถูกครอบงำอย่างหนักไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอีก พวกเขาและคนอื่น ๆ ถอยกลับไปเพื่อปกป้องซามูเอลและฮาร์วีย์แต่ไม่มีใครมองออกว่าความกล้าหาญของพวกเขามลายหายไปหมดเพราะนักดาบผู้นั้นไทสันขมวดคิ้ว เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ จากนั้นดึงดาบที่เอวของเขาออกมาและถามว่า “นายเป็นใคร?!”"ฉันเป็นใครเหรอ?"ใบหน้าของนักดาบเย็นชา เขาเช็ดใบมีดด้วยแขนเสื้อและตอบอย่างใจเย็นว่า “ฉันคือไคโตะ ยามากุจิแห่งชินดัน เวย์ คุณจอชได
ชวิ้ง!เป็นวิชาเคนโดของประเทศหมู่เกาะอีกครั้ง!ไคโตะไม่ได้พุ่งโจมตีไปข้างหน้า แต่กลับหมุนวนเป็นวงกลมรอบตัวแทนทันใดนั้นรัศมีอันเป็นประกายก็ล้อมรอบร่างของเขาปัง!พวกสาวกไม่สามารถทานทนต่อการโจมตีของเขาได้ พวกเขาล้วนกระเด็นออกไป เลือดกระฉูดออกจากอกของพวกเขาผู้ชายคนนี้ทรงพลัง!ทรงพลังเกินไป!ไคโตะที่ถือดาบสั้นนั้นแข็งแกร่งกว่าตอนที่ถือดาบยาวถึงสามเท่า!การฟาดฟันเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าคนได้สองโหล!ไคโตะเดินไปข้างหน้า เขาฟันทุกคนที่ขวางทางเขา ในชั่วพริบตา สาวกมากกว่าห้าสิบคนก็นอนสิ้นสติอยู่บนพื้น สาวกที่ปกป้องซามูเอลกำลังลดจำนวนลงอย่างช้า ๆพวกระดับสูงของหลงเหมิน และผู้ยิ่งใหญ่จากโลกใต้ดินคอแห้งผากเมื่อเห็นภาพที่น่าสะพรึงกลัว'เขาแข็งแกร่งมาก!''นักดาบประเทศหมู่เกาะคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!'ด้วยท่วงท่าของนักฆ่าที่ดูดุดัน จึงไม่มีใครสามารถต้านทานมันได้ไทสันกดดาบของเขา ดวงตากระตุกอย่างรุนแรงเขาถามตัวเองว่าเขาจะต่อกรกับไคโตะได้นานแค่ไหน แต่เพราะฮาร์วีย์ไม่ได้ออกคำสั่ง เขาจึงไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าทันใดนั้นถ้วยชาในมือของฮาร์วีย์ก็กระเด็นออกไปทาง ไคโตะแกร๊ง!ไ
“นายควรชิงฆ่าตัวตายไปเสียเดี๋ยวนี้”ซามูเอลพูดอย่างใจเย็น“ถ้านายรอให้ฉันลงมือ นายจะต้องลงเอยด้วยการตายอย่างสยดสยอง”“ฆ่าตัวตาย?!”ไคโตะหัวเราะอย่างเย็นชา"แกคิดว่าแกเป็นใคร?!"“คนจากประเทศ H อย่างพวกแก มักจะคุยโวเรื่องศิลปะการต่อสู้ของประเทศว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนานแค่ไหน แต่มันก็มีแค่เรื่องตื้นเขินเท่านั้น!”“อะไรทำให้แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”“แกไม่รู้หรือว่าความตายเป็นยังไง?”ผู้ช่วยคนหนึ่งของซามูเอลเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชาและอุทานว่า “มาทำให้นายท่านแห่งหลงเหมินต้องอับอายขายหน้า แกมันรนหาที่ตาย!”“นายท่านแห่งหลงเหมิน?”ใบหน้าของไคโตะเย็นชา“ชายชราผู้น่าสมเพชกล้ามาอวดดีกับเด็กรุ่นใหม่งั้นหรือ?”“แกคิดว่าคนธรรมดา ๆ อย่างแกจะมาทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าชินดัน เวย์จากประเทศหมู่เกาะได้หรือ?”“ไร้สาระน่า! คนจากประเทศ H ก็เป็นแค่หมาป่วยแห่งตะวันออกไกลเท่านั้นแหละ!”ใบหน้าของไคโตะเต็มไปด้วยความดูถูก เขาเดาได้เลยว่าซามูเอลคงเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่แสร้งทำเป็นเก่งก็เท่านั้น“หมาป่วยแห่งตะวันออกไกล?”ซามูเอลยิ้มอย่างขบขัน“คนจากประเทศหมู่เกาะคนสุดท้ายที่พูดแบบนี้ถูกฉันฉีกเป็
ข่าวลือแพร่กระจายไม่นานหลังจากฮาร์วีย์จากไปไคโตะ ยามากุจิ หนึ่งในยอดฝีมือจากประเทศหมู่เกาะ พยายามลอบสังหารซามูเอล บาวเออร์ ดังนั้นจอช วอร์ดและครอบครัวของเขาได้ต่อสู้กับไคโตะอย่างกล้าหาญและเสียชีวิตในสมรภูมิดังกล่าว!ด้วยเหตุนี้ ซามูเอลจึงเรียกร้องคำชี้แจงจากทางชินดัน เวย์การแพร่กระจายของข่าวแสดงให้เห็นว่าฮาร์วีย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ฮาร์วีย์ตัวแข็งเล็กน้อยก่อนที่จะดึงสติกลับมาได้ซามูเอลไม่ต้องการให้ฮาร์วีย์ดังกระฉ่อนไปทั่วมอร์ดู ก่อนที่เขาจะเข้าไปเหยียบที่นั่นจะดีกว่าหากซามูเอลจะปล่อยให้ฮาร์วีย์จัดการเรื่องต่าง ๆ ในมอร์ดูอย่างสุขุมรอบคอบ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหลงเหมินเช่นกันแน่นอนแล้วว่าฮาร์วีย์จะมุ่งหน้าไปยังมอร์ดูกลับมาที่การ์เด้น เรสซิเด้นท์ แมนดี้ยุ่งอยู่กับการจัดการธุรกิจของตระกูลซิมเมอร์แห่งเซาท์ไลท์และยังไม่อาจกลับบ้านได้ฮาร์วีย์ก็ไม่อยากรบกวนเธอเช่นกัน มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแมนดี้ที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง ฮาร์วีย์เข้าใกล้การปล่อยให้แมนดี้สร้างครอบครัวที่มั่งคั่งด้วยตัวเธอเองไปอีกก้าวหนึ่งแล้วฮาร์วีย์ขอให้ไทสันส่งข้อมูลเกี่ยวกับมอร์ดูมาให้ จากนั้นก็พลิ
กระทั่งเคลลี่วางสาย ฮาร์วีย์ไม่มีจังหวะได้อธิบายอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเฮเซล ลูกสาวของเคลลี่สาวน้อยคนนั้นเคยตามฮาร์วีย์ต้อย ๆ ถึงตอนนี้เธอคงโตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลมาโลนหรอกเนื่องจากฮาร์วีย์บังเอิญได้ติดต่อกับเคลลี่ หลังจากไปเหยียบมอร์ดู เขาคงต้องไปพบครอบครัวของเคลลี่อย่างแน่นอน…เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว แต่แมนดี้ก็ยังไม่กลับมาฮาร์วีย์กำลังจะออกไปตามหาเธอที่บ้านของตระกูลซิมเมอร์ แต่จู่ ๆ ก็มีรถเล็กซัสสีดำคันหนึ่งขับมาหยุดตรงหน้าฮาร์วีย์ที่ประตูหน้าเรย์ลงจากรถด้วยสีหน้ากังวล“ซีอีโอยอร์ก คุณซาเวียร์ได้รับโทรศัพท์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว!”“เธอมอบงานทั้งหมดที่เธอทำให้สกาย คอร์ปอเรชั่นมาให้ผม จากนั้นก็ส่งจดหมายลาออกและมุ่งหน้าไปสนามบิน!”“เธอบอกว่าเธอจะจากไปอย่างช้าที่สุดครึ่งปี หรือเร็วที่สุดเพียงไม่กี่สัปดาห์”“ผมรู้สึกว่าคุณซาเวียร์ต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ ๆ! ซีอีโอยอร์ก คุณต้องช่วยเธอนะครับ!”“อีวอนน์ไปมอร์ดู?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขามืดลงเขาเคยจัดการกับปัญหาของมิเชลไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาสัญญาว่าจะไปที่บ้านของตระกูลสมิ
เช้าวันรุ่งขึ้น เรย์และไทสันยังไม่ได้ข่าวคราวของอีวอนน์ในทางกลับกัน อีวอนน์ส่งข้อความหาฮาร์วีย์เพียงสามคำ "ฉันสบายดี"เมื่อฮาร์วีย์ได้รับข้อความ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะพอกดโทรกลับไปก็ถูกตัดสายเหมือนเดิมในที่สุด ฮาร์วีย์ก็ตัดสินใจได้ว่าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร เขาก็ต้องไปมอร์ดู เนื่องจากเวลานั้นมีค่ามาก ฮาร์วีย์จึงไม่มีเวลาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้แมนดี้ฟัง ฮาร์วีย์ให้อีธานดูแลความปลอดภัยของแมนดี้และช่วยเรื่องการควบรวมตระกูลซิมเมอร์เรย์อยู่จัดการกับงานของสกาย คอร์ปอเรชั่นฮาร์วีย์พาไทสันไปด้วย จนเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงตรงไปยังมอร์ดูจอร์จ ซาเบลและโอลด์ ไนเนอร์ ผู้ใต้บังคับบัญชาของไทสันได้รับหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลในมอร์ดูเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาถูฝ่ามือเข้าหากันเมื่อพบว่าฮาร์วีย์จะมาถึงมอร์ดูในเร็ว ๆ นี้ และเตรียมพร้อมที่จะค้นหาสิ่งใหม่ ๆตลอดการเดินทางบนรถไฟความเร็วสูง ใบหน้าของฮาร์วีย์ดูเคร่งขรึม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาจำเป็นต้องแก้ไขในมอร์ดูและเขาไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนหลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก ฮาร์วีย์ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหมายเลขจากมอร
ฮาร์วีย์ ยอร์กยังคงไม่แยแส มือขวากำลังจะผลักเข้าหาเขาโดยไม่รู้ตัวทันใดนั้น เสียงที่นุ่มนวลซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจดังมาจากในตู้เสบียง “โยนา ลินช์ อย่าทำอะไรโดยไม่คิด!”“แค่ยึดตู้เสบียงก็ผิดมากแล้ว ยิ่งทำร้ายคนตามอำเภอใจนั้นก็ยิ่งน่าขยะแขยงกว่าเดิมอีก”ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของโยนาหายไปหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น จากนั้นเธอก็ก้มศีรษะลงและตอบว่า “ค่ะท่าน”จากนั้นเธอก็จ้องฮาร์วีย์ตาถลึง หลังจากที่เธอพูดจบและก้าวออกไปอย่างไม่เต็มใจฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะมองมาที่เธอและเดินตรงไปในตู้เสบียงในตู้เสบียงมีบริกรไม่มากนัก พวกเขามีกันเพียงสองคน และมีโต๊ะตั้งอยู่ตรงกลางชายและหญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นชายและหญิงวัยกลางคน แม้ว่าเสื้อผ้าของพวกเขาจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่ก็มีรัศมีที่ดูไม่ธรรมดาพร้อมกับท่าทางของพวกชนชั้นสูง พวกเขาดูเหมือนจะร่ำรวยไม่ก็มีเกียรติในที่เกิดเหตุมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่เพียงคนเดียว มีอาหารเลิศรสมากมายอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขากินไม่มากนัก เขาเพิ่งหยิบตะเกียบขึ้นมาและกินมันเพียงไปบางส่วนสายตาของฮาร์วีย์มองข้ามฝูงชนและไปมองเข้าที่ใบหน้าของชายวัยกลางคน เขาต้องเป็นคนที่พูดเมื่อกี้แน่อ
โยนา ลินช์เป็นคนแรกที่ตะโกนใส่ฮาร์วีย์ ยอร์ก "ไอ้ส*รเลว! กล้าดียังไงมาแช่งเจ้านายของฉัน?!”เมื่อเธอพูดจบปืนที่เอวก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ มันเกือบจะจ่อไปที่หน้าผากของฮาร์วีย์ชายและหญิงหลายคนเอามือท้าวเอวไว้ฮาร์วีย์ไม่สนใจคนกลุ่มนี้และพูดอย่างเฉยเมยว่า “คนที่ต้องการเอาชีวิตคุณจะมาฆ่าคุณอย่างช้าที่สุดในอีกสามวัน ถึงตอนนั้นแม้แต่เทพฮาเดสก็ไม่อาจช่วยคุณได้”“ใครจะกล้ามาปลิดชีวิตนายท่าน?!” ใบหน้าสวยของโยนาเย็นชา!“ฉันไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร แต่การมาเพื่อเรียกร้องความสนใจวิธีนี้ คุณเชื่อไหมว่า ฉันจะฆ่าคุณในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า”“คุณรู้ไหมว่านายท่านของฉันคือใคร?”“ในมอร์ดูนายท่านของฉัน…”ขณะพูดออกไป ชายวัยกลางคนก็จ้องมองโยนะอย่างเย็นชา ซึ่งทำให้เธอหยุดพูดทันทีเธอเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากออกไป เธอจึงเปลี่ยนไปหัวข้ออื่นทันทีและพูดว่า “รีบขอโทษนายท่านเสีย ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าคุณ!”ในขณะที่พูด เซฟตี้ปืนของโยนาก็ถูกปลดออก และคราวนี้ปืนก็กดเข้าที่หน้าผากของฮาร์วีย์"หนวกหู!"ดวงตาของฮาร์วีย์เย็นชา เขาตบหน้าเธอโยนาวูบไปชั่วครู่ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ บนใบหน้าของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดอย