“สายเลือดโดยตรงของตระกูลสมิธยังคงปลอดภัยก็เพราะหัวหน้าขององค์กรนั่นกำลังรอให้ถึงวันที่สิบห้าของเดือนหน้า”“เพราะวันนั้น… เป็นวันที่เราฆ่าหัวหน้าองค์กรเมื่อยี่สิบปีก่อน!”“เธอจะใช้ตระกูลสมิธทั้งตระกูลไปสังเวยให้ผู้นำของเธอ!”“ฉันเหลือเวลาไม่มาก!”“ตระกูลสมิธเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!”“นั่นเป็นเหตุผลที่นายไม่ควรเข้ามายุ่ง ฮาร์วีย์ ยอร์ก ไม่เพียงแต่นายจะแก้ปัญหาให้เราไม่ได้ แต่นายยังสร้างปัญหามากมายอีกต่างหาก!”หัวหน้าองค์กรที่เหลือเรียกว่า ทริชา คลาวด์เธอเป็นนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในองค์กรในตอนนั้น เธอเฝ้ารอมาตลอดยี่สิบปีเต็ม ไม่มีใครรู้ว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าเธอมีลูกน้องมากน้อยเพียงใดกลุ่มนักฆ่าที่ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ เงิน อำนาจ อำนาจ การสนับสนุน และเส้นสายไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาตระกูลสมิธเองก็มีศักดิ์ศรีในฐานะหนึ่งในสิบตระกูลแรกมิเชลก็มีศักดิ์เช่นนั้นเหมือนกัน ถ้าเธอมีทางเลือกอื่น หญิงสาวจากตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้จะไม่ใช้ลูกสาวของเธอเป็นข้อต่อรองอย่างแน่นอนอีกมิเชลก็ไม่ได้โง่ แม้แต่ฮาร์วีย์เองยังดูออกว่าตระกูลทอมป์สันมีแผนซ่อนเร้นอื่น
ฮาร์วีย์ ยอร์กหัวเราะเบา ๆ“ถ้าทั้งหมดที่ผมต้องทำคือโทรหานักฆ่าสิบอันดับแรกมาเพื่อแก้ไขปัญหา ผมก็จะทำให้”“เพราะนักฆ่าสามอันดับแรกล้วนเป็นหนี้บุญคุณผม”“ฉันจะเรียกหนึ่งในนั้นให้มาจัดการ”ฮาร์วีย์กำลังพูดความจริง ในสมรภูมิยูโร-อเมริกันในตอนนั้น ทุกประเทศที่มีอำนาจใช้เงินจำนวนมากในการจ้างนักฆ่าสิบอันดับแรกเพื่อจัดการกับฮาร์วีย์แต่พวกนั้นเสียชีวิตไปกว่าครึ่ง มีไม่กี่คนที่ฮาร์วีย์ยอมอ่อนข้อให้ด้วยเหตุผลหลายประการตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮาร์วีย์ไม่ได้ติดต่อพวกเขาเลยแต่ถ้ามีความจำเป็น เพียงประโยคสั้น ๆ ก็สามารถพานักฆ่าหนึ่งหรือสองคนมาที่นี่ได้"นายน่ะหรือ?"มิเชลหัวเราะเบา ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร“ฉันยอมรับว่านายมีเงินและมีอิทธิพลอยู่บ้าง แต่ฉันก็ยังไม่เชื่อนายอยู่ดี”“ไม่ต้องถึงขนาดโทรเรียกพวกเขาหรอก แค่นายระบุชื่อนักฆ่าจากรายชื่อได้แม้แต่คนเดียว ฉันจะยอมคุกเข่าให้เลย!”“ฮาร์วีย์ ยอร์ก การคุยโวโอ้อวดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรหรอก!”“ถึงตอนนี้นายยังกล้าพูดแบบนี้ได้อีกงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ไม่ตอบทันที เขาหันไปมองฮันเดลที่เงียบมาตลอด“ฮันเดล คุณป้าคงไม่รู้ว่าใครอยู่ในรายชื่อนักฆ่าสิบอันดั
กลับมาที่การ์เด้น เรสซิเด้นท์ แมนดี้ ซิมเมอร์หลับไปแล้วฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้ไปกวนเธอ เขาเข้าไปในห้องทำงานและหยิบโทรศัพท์ที่ดูเก่าออกมาหลังจากถอนหายใจเบา ๆ ฮาร์วีย์ก็กดโทรศัพท์"ฉันเอง"ความเงียบดังก้องจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ชั่วขณะหนึ่ง เสียงอ่อนโยนตอบกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน“หัวหน้าฝึกสอน ทำไมท่านถึงโทรหาฉันตอนนี้”“ฉันต้องการให้เธอปกป้องใครสักคน” ฮาร์วีย์ตอบในทันที“ฉันเป็นนักฆ่า ไม่ใช่ผู้คุ้มกัน”ได้ยินเสียงเย็น ๆ จากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ ฉันต้องการให้เธอติดตามคน ๆ หนึ่งและฆ่านักฆ่าทุกคนที่กล้าเข้าใกล้เธอเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ตาย”หลังจากเงียบไปนาน คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ตอบว่า “เวลา สถานที่ ราคา”“ฉันไม่แน่ใจเรื่องเวลาและสถานที่หรอก แต่เธอจะไม่ต้องติดค้างอะไรกับฉันอีกต่อไป หลังจากที่เธอทำเรื่องนี้ให้ฉัน”"ดี!"บุคคลนั้นวางสายหลังจากรับปากในข้อตกลงที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดนักหลังจากเงียบไปพักหนึ่งฮาร์วีย์ก็เปิดคอมพิวเตอร์และพิมพ์รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับมิเชลและสถานการณ์ที่เธอและตระกูลประสบอยู่ในอีเมลแล้วกดส่งต่อวิธีที่ดีที่สุดในก
ทุกคนนิ่งเงียบมิเชลตวาดเสียงดังในวินาทีต่อมา “ไอ้ส*รเลว! แกจะฆ่าฉันเหรอ?!”ฮันเดลและคนอื่น ๆ กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและรีบไปหาเจ้านายของพวกเขาเพื่อทำการช่วยเหลือบางคนถึงกับเล็งปืนไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์ก พวกเขาจะยิงฮาร์วีย์ให้ตาย หากมิเชลสิ้นลม พวกเขาจะมีเรื่องที่จะรายงานเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น“งะ…”มิเชลตัวสั่นเล็กน้อย ใบหน้าซีดเซียวของเธอเปลี่ยนเป็นสีดำในพริบตา ร่างกายของเธอเริ่มสั่นอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเธอเจ็บปวดทรมาณเป็นอย่างมากในตอนนี้“ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง คนที่เธอต้องรับผิดชอบดูแลอาจจะตายที่นี่!” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นในเสี้ยววินาทีนั้น บริกรหญิงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นก็พุ่งมาจากมุมห้องใบหน้าของเธอดูธรรมดามาก รูปร่างของเธอก็เช่นกัน หากเธอเดินไปกับฝูงชนแล้วล่ะก็ คงไม่มีใครสังเกตุเห็นเธอได้เธอมาตรงหน้ามิเชลอย่างรวดเร็วและเคาะที่คอของเธอสองครั้ง ก่อนจะยัดเม็ดยาสีเขียวเข้าปากของมิเชลไปมิเชลตัวสั่นและไอออกมาเป็นเลือดสีดำจำนวนมาก ใบหน้าของเธอที่มืดมนราวกับกลางคืนฟื้นคืนกลับมาดูดีดังเดิมแล้วจากนั้นบริกรหญิงก็จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาและจากไปอย่างไร้ร่องรอยฮั
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองดูมิเชลอย่างใจเย็นและพูดอย่างจริงใจว่า “คนกำลังจะตายอยู่รอมร่อ ใครจะไม่กลัวตาย?”“เพราะงั้นผมไม่โทษคุณป้ากลัวขนาดนี้”“แต่ตอนนี้คุณเคยไปเหยียบประตูนรกด้วยขาข้างหนึ่งมาแล้ว และยังเป็นการยืนยันได้ว่ามีคนคอยปกป้องคุณอยู่ตลอดเวลา ผมคิดว่าตอนนี้คุณคงไม่ต้องการการสนับสนุนจากตระกูลทอมป์สันอีกแล้ว ใช่รึเปล่า?”“ผมรับประกันได้เลยว่าแม้แต่ตระกูลทอมป์สันเองก็ยังหาคนที่แข็งแกร่งเท่าคอร่า ลอยด์ไม่ได้”“และด้วยไพ่ตายใบนี้ ผมมั่นใจว่าคุณจะได้ประโยน์ไม่น้อยเมื่อกลับไปยังตระกูล”“ปัญหามักนำมาซึ่งความก้าวหน้าใช่ไหม?”ดวงตาของมิเชลและฮันเดลกระตุกครู่หนึ่ง พวกเขาไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาแต่พวกเขาต้องยอมรับว่าฮาร์วีย์พูดถูกหลังจากประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าว และได้นักฆ่าคนใหม่มาเป็นผู้คุ้มกัน มิเชลก็ไม่กลัวทริชา คลาวด์ อีกต่อไปมองอีกมุม วิกฤติในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับมิเชลในการเลื่อนตำแหน่งมิเชลกำลังมองฮาร์วีย์ด้วยความชื่นชมในดวงตาของเธอโดยไม่รู้ตัว“เอาล่ะ นั่นคือทั้งหมดที่ผมอยากจะพูดในตอนนี้ วันที่สิบห้าเดือนหน้า ผมจะไปเยี่ยมตระกูลสมิธด้วยตัวเอง ไม่ว
นางพญางู คือคนที่ลูคัส ฌองมอบหมายให้มาปกป้องผู้อาวุโสซิมเมอร์เธอค่อนข้างทรงพลัง และเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริงนี่เป็นเหตุผลที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้แม่มดเฒ่าที่ถืองูสีดำอยู่ในมือเดินออกไปทันที รอยยิ้มชั่วร้ายเด่นชัดใบหน้า ก่อนเธอจะถอยกลับเข้าไปในเงามืดหลังจากเห็นภาพนั้น แม้แต่ควินน์ ซิมเมอร์ซึ่งถือว่าค่อนข้างทรงพลังก็ยังรู้สึกชาหนึบในหัวนางพญางู น่ากลัว เธอไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เธอยังรู้วิธีควบคุมงูในมืออีกด้วย นั่นทำให้เธอน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก***ณ การ์เด้นส์ เรสซิเด้นซ์ไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยตส์ซึ่งจากไปเป็นเวลานานกลับมาและเตรียมอาหารมื้อใหญ่ พวกเขาขอให้แมนดี้ ซิมเมอร์พาฮาร์วีย์ ยอร์กกลับมาด้วยหลังจากเห็นพ่อแม่ของเธอทำแบบนี้ แมนดี้ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์มายืนยันแมนดี้เรียกฮาร์วีย์กลับมาบ้านซีนเธียร์ ซิมเมอร์เองก็ถูกขอให้กลับมาด้วยในที่สุดทั้งตระกูลก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน ช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่นหลังจากเห็นฮาร์วีย์ ซีนเธียร์ก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้“พี่เขย รุ่นพี่คนหนึ่งของฉันได้เป็นผู้กำกับหลังจากเรียนจบ
“แม่คะ แม่เลิกยุ่งกับการแต่งงานระหว่างฮาร์วีย์ ยอร์กกับหนูได้ไหม?”แมนดี้ ซิมเมอร์รู้ดีว่าทำไมแม่ของเธอถึงพูดคำเหล่านั้น แมนดี้กัดริมฝีปากสีซีดของเธอและเอื้อเอ่ยคำพูดของเธออย่างแผ่วเบา“เลิกยุ่งเหรอ? ถ้าฉันไม่เข้าไปยุ่ง คงมีแต่พระเจ้าที่จะรู้ว่าพวกเธอสองคนจะก่อปัญหาอะไรอีก!”“ตระกูลฌองแห่งมอร์ดูเป็นหัวหน้าตระกูลของเรา เจ้าชายให้เกียรติลูกด้วยการขอให้แกหย่าและเตรียมการให้แกไปเฉิดฉายในมอร์ดู!”“แกปฏิเสธข้อเสนอครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่ออะไร?”“ในตอนนี้แกอาจจะคิดว่าฮาร์วีย์เหมาะกับแก เพราะเขาค่อนข้างมีอำนาจ!”“แต่เจ้าชายคนนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหนกัน!”“สี่ตระกูลชั้นนำจากฮ่องกงต่อต้านเขา!”“ใครจะรู้ว่าจะมีตระกูลไหนอีกที่อยากให้เขาตายเป็นรายต่อไป!”“แกจะปลอดภัยแค่ไหนถ้ายังอยู่ใกล้ผู้ชายแบบนี้!”“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตระกูลฌองแข็งแกร่งกว่าเจ้าชายไร้บัลลังก์นี่อย่างน้อยพันเท่า! แกต้องฟัง เจ้าชายฌองและแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยจากเนื้อแท้สิ! หากเป็นหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำก็คงจะดีไม่น้อย!”“ทรัพย์สินของเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!”ลิเลียนหยุดนิ่งทันทีและตวาดเสียงดังหลังจากตระกูลซิมเมอ
ปัง!ในขณะนี้ ประตูของการ์เด้น เรสซิเด้นท์ถูกเปิดออกลิเลียน เยตส์ยืนขึ้นและกรีดร้องอย่างเดือดดาลหลังจากเห็นภาพนั้น“ส*รเลวที่ไหนมันมาถีบประตูบ้าน?!”“ไม่รู้หรือไงว่านี่เป็นสมบัติของฉัน?!”ไซม่อน ซิมเมอร์มองตามเสียงไปเช่นกันมีคนประมาณหกคนปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้า นางพญางูซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มมีงูเหลือมดำเลื้อยอยู่รอบคอของเธอคนที่ติดตามเธอดูทรงพลังมากแต่ทุกคนก็รักษาระยะห่างกับ นางพญางูพวกเขาต่างทั้งหมดกลัวงูเหลือมดำตัวนั้นหลังจากที่เห็นว่าคนที่เตะประตูเป็นคนสนิทของผู้อาวุโสซิมเมอร์ ใบหน้าที่เย่อหยิ่งและเกรี้ยวกราดของลิเลียนก็เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข จากนั้นเธอก็เดินไปข้างหน้าและพูดว่า “คุณนั่นเอง นางพญางู! เชิญนั่งก่อน!”“ฉันสงสัยว่าทำไมเมื่อเช้าตาขวาถึงกระตุกไม่หยุด!”“คงเป็นเพราะคุณมาที่นี่และให้เกียรติเราด้วยการปรากฏตัวของคุณ!”เธอจ้องเขม็งไปที่ไซม่อนหลังจากนั้นไม่นาน“ไซม่อนรินชาให้นางพญางูสักถ้วยสิ!”“ถ้าคุณยังช้าอีกนิด ฉันจะไล่คุณออกจากบ้าน!”สีหน้าของไซม่อนเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน แต่เขาก็ทำได้แค่ไปชงชาสีหน้าของแมนดี้ ซิมเมอร์แย่ลงเล็กน้อย แต่เธอก็ลุกขึ