“แม้ว่าแกจะใช้นามสกุลซาเวียร์ แต่แกก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลสมิธด้วย!”“ตระกูลสมิธจะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน และเพราะแกเติบโตในตระกูลสมิธ กินและใช้ของที่นั่น แกจึงต้องรับภาระหน้าที่นี้!”“ถ้าตระกูลสมิธไม่มีปัญหา ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกอยากจะทำอะไร!”“แต่ตอนนี้ตระกูลสมิธกำลังเผชิญกับวิกฤต แกต้องกลับไปแก้ปัญหาด้วยกันกับฉัน!”“ดังนั้น ตราบใดที่คุณตาของแกกับฉันต้องการ แกก็ต้องทำ ไม่ว่าแกจะเต็มใจแต่งงานกับเฮกเตอร์ ทอมป์สันหรือไม่ก็ตาม!”“ยิ่งไปกว่านั้น การแต่งงานกับตระกูลสมิธก็ได้รับการอนุมัติจากตระกูลซาเวียร์ในโวลซิ่งแล้วด้วย!”“เมื่อสองตระกูลชั้นนำเห็นดีเห็นงามด้วย แกก็มีแต่จะต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้!”“เพราะฉะนั้น ตอนนี้แกจะพูดอะไรก็ช่าง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลับไปยังมอร์ดู ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดพวกนี้อีก!”“ไม่อย่างนั้นคุณจะได้รู้ถึงผลที่ตามมา!”มิเชลเข้มงวดมาก ในน้ำเสียงของเธอเด็ดขาดไร้ความลังเลฮาร์วีย์ ยอร์กตระหนักว่าอีวอนน์ ซาเวียร์ ผู้ซึ่งเคยหนักแน่นและมั่นใจมาโดยตลอดมีสีหน้างุนงงและทำอะไรไม่ถูกในขณะนี้หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หันศีรษะไปอย่างรวดเร็ว เธอรีบเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาใ
เปลือกตาของมิเชลกระตุกอย่างรุนแรง และใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อยเธอจงใจมองข้ามฮาร์วีย์ ยอร์กไป เพราะอยากจะตัดความรำคาญและพาอีวอนน์ ซาเวียร์ออกไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่เธอไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะหาเรื่องใส่ตัวถึงฮาร์วีย์จะเป็นซีอีโอของสกาย คอร์ปอเรชั่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ เจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์...แต่เขาก็ยังเป็นตัวตลกในสายตาของมิเชลดินแดนป่าเถื่อนอย่างเซาท์ไลท์จะเทียบกับมอร์ดูได้อย่างไร?เจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดูคือเจ้าชายอย่างแท้จริงเจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์ไม่มีค่าอะไรเจ้าชายไร้ประโยชน์คนนี้ยังกล้าก้าวออกมาต่อต้านเธออย่างไร้สมองเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าอำนาจของเธอถูกเขาลบหลู่มิเชลหยิบเช็คออกมาเขียนชุดตัวเลขลงไปแล้วโยนใส่ฮาร์วีย์ เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นซีอีโอของอีวอนน์ เพื่อนร่วมงานของเธอ หรือผู้ชายของเธอ…”“ยังไงซะนายก็ไม่สมควรจะมีความสัมพันธ์กับเธอ นายไม่มีสิทธิ์เป็นเพื่อนกับเธอด้วยซ้ำ!”“รับร้อยล้านนี่ไป แล้วออกไปซะ อย่ามาใกล้อีวอนน์อีก!”มิเชลเปล่งรัศมีสูงส่งในตอนที่เธอยื่นคำขาดการใช้เงินเพื่อฟาดหัวคนอื่นคือสิ่งที่ตระกูลสมิธทำได้ด
"แก!"มิเชลตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะกล้าดูถูกเธอเช่นนี้เด็กส*รเลวคนนี้ปฏิบัติกับเธอเหมือนคนโง่งั้นรึ?หมื่นล้าน?ไอ้เ*ร!“จัดการเขาซะ!”ใบหน้าของมิเชลเย็นชา และเธอไม่ต้องการจะต่อความอีกต่อไป“พ่อหนุ่ม คุณผู้หญิงพูดจากับนายดีมากแล้ว แต่นายไม่เห็นคุณค่าของมันเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่าโทษฉันเลย!”ในตอนนี้เองชายชราในชุดสูทซึ่งยืนอยู่ข้างหลังมิเชลก้าวไปข้างหน้าและเสมองฮาร์วีย์“ถ้าฉันฆ่านายทิ้ง เกิดชาติหน้าก็อย่าไปหาเรื่องใครเขาล่ะ!”ชายชราผายมือไปทางฮาร์วีย์หลังจากที่เขาพูดจบตู้ม!ฝ่ามือของเขาส่งเสียงที่ทรงพลังราวกับพายุฝนฟ้าคะนองอีวอนน์ ซาเวียร์อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฮันเดล อย่า!”มิเชลรวดเร็ว เธอคว้าลูกสาวและหวังจะดูฮาร์วีย์เสียชีวิตตรงหน้าอย่างเย็นชาตู้ม!ฮาร์วีย์ดูเฉยเมย จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและตบออกไปมันรวดเร็วและรุนแรง ฝ่ามือของเขาเอื้อมไปถึงก่อน แม้จะเริ่มลงมือทีหลังก็ตามเพี๊ยะ!ฮันเดลซึ่งกำลังจะออกหมัด เบี่ยงใบหน้าเมื่อเห็นฝ่ามือของฮาร์วีย์พุ่งเข้ามา เขาไม่มีเวลาที่จะหลีกหนีการเคลื่อนไหวนั้น ฮาร์วีย์ก็ตบหน้าเขาในทันทีปัง!ด
ฮันเดลส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขายังรู้สึกว่าตัวเองประมาทเกินไปจริง ๆเขาคิดว่าคู่ต่อสู้เป็นแค่ชายหนุ่มอายุน้อย ดังนั้นเขาจึงใช้พละกำลังเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นเมื่อมิเชลพูดเช่นนั้น เขาจึงต้องใช้พลังทั้งหมดของตัวเองฮันเดลถอนหายใจเล็กน้อย เจ้าเด็กนี่หน้าตาดีมาก แต่อีกไม่นานเขาอาจจะดูไม่ได้!ฮันเดลถอนหายใจและพูดว่า “ส*รเลว นายทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันจะพยายามฉีกทึ้งนายเป็นชิ้น ๆ ให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของคุณหนูซาเวียร์…”ร่างกายของเขาแผ่รัศมีออกมา และกระดูกของเขาส่งเสียงเหมือนก๊อกแก๊กขณะที่เขาพูดเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาตบฮันเดลอีกครั้งด้วยหลังมือดวงตาของฮันเดลหม่นลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและหวังจะหลบหลีกการตบของฮาร์วีย์ความเร็วของเขานั้นไม่ช้าเลยสักนิด แต่ฮาร์วีย์เร็วกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัดในโลกของศิลปะการต่อสู้ ไม่มีอะไรยั่งยืน มีเพียงความเร็วเท่านั้นที่จะไม่มีวันพ่ายแพ้!การตบของฮาร์วีย์เร็วมากจนถึงขีดสุด!เพี๊ยะ!ร่างของฮันเดลหมุนไปมากลางอากาศสองสามครั้ง ก่อนจะปลิวไปกระแทกเข้ากับผนังทางเดินอีกครั้งคราวนี้ มีรอยฝ่ามือปรากฏบนแก้มซ้ายของเขาด้วยเขา
หลังจากได้ยินคำพูดของแฮนเดล ดวงตาของมิเชลก็กระตุกพร้อมกับคนอื่น ๆ อีกสองสามคนที่มองคนทั้งสอง'เขายอมแพ้?''เขาเข้าใจแล้ว?''นี่ใช่ฮันเดลคนที่เรารู้จักงั้นเหรอ!''ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้มาจากตระกูลสมิธแห่งมอร์ดู เขาคือผู้คุ้มกันของมิเชล!''ก่อนหน้านี้เขาไม่ตอบโต้ เพราะเกรงใจอีวอนน์ ซาเวียร์ไม่ใช่หรือ?''แล้วทำไมเขาถึงยอมรับความพ่ายแพ้แบบนั้น?'มิเชลและคนอื่น ๆ รู้ดีถึงความแข็งแกร่งของฮันเดลคนที่ทัดเทียมฮันเดลยังหาได้ยาก ไม่ใช่แค่ในตระกูลสมิธเท่านั้น ยังรวมไปถึงมอร์ดูด้วยแต่คนยิ่งใหญ่อย่างเขาหลังโดนฮาร์วีย์ ยอร์กตบไปมาหลายหนกลับบวมอย่างกับหมูและยังร้องขอความเมตตาอีก!สายตานั้นดูเครียดแค้น ทุกคนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นครั้งแรกฮันเดลโดนโจมตีเพราะเขาประมาทแต่หลังจากโดนโจมตีติดต่อกันถึงห้าครั้ง มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของฮาร์วีย์เมื่อรู้เรื่องนี้ ใบหน้าของมิเชลก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวเธอจ้องมองฮันเดลอย่างเย็นชาและตวาดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “โสโครก! คุณมันไร้ประโยชน์!”ฮันเดลแสดงสีหน้าสยดสยอง เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอามือกุมใบหน้าตัวเองเขาไม่
มิเชลหัวเราะลั่นหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์ก จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “พ่อหนุ่ม อย่าคิดว่าแค่ตัวเองพอมีฝีมือแล้วจะกลายเป็นราชาสิ ฉันจะบอกนายให้เอาบุญ คนเราน่ะไม่ควรประเมินตัวเองสูงเกินความเป็นจริงหรอก!”“ถ้านายไปที่มอร์ดูหรือโวลซิ่ง นายจะรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ตัวตลก!”“บัควู้ดเต็มไปด้วยพวกชั่ว นายคิดว่านายมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่เพียงเพราะบางคนเรียกนายว่าเจ้าชายรึไง? นายเชื่อจริง ๆ หรือว่าตัวเองมีพลังอำนาจเช่นนั้น?”“ถ้าเป็นในโวลซิ่งและมอร์ดู ภูมิหลังและพลังอำนาจของนายก็เป็นแค่เรื่องตลก!”“ด้วยพฤติกรรมที่โอหังของนายและความจริงที่ว่านายหาเรื่องตระกูลสมิธ อนาคตของนายจะมีชีวิตที่ยากลำบากรออยู่แน่นอน”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็นโดยไม่ให้คำตอบตรง ๆ“ผู้มีอำนาจ ภูมิหลัง เส้นสาย ความแข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”“แต่แน่นอน หากเราจะเปรียบเทียบกันที่สิ่งเหล่านั้น ผมก็เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด มีภูมิหลังที่พิเศษที่สุด มีเส้นสายที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย…”“ไม่สำคัญว่าคุณป้าจะเชื่อหรือเปล่า แต่นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ในอพาร์ตเมนต์ฮาร์วีย์ ยอร์กโยนจดหมายลาออกของอีวอนน์ ซาเวียร์ที่เขานำกลับมาให้เธอและพูดว่า “ผมไม่รับเรื่องลาออก คุณยังคงเป็นเลขาซีอีโอของสกาย คอร์ปอเรชั่น”“นอกจากนี้ ผมจะให้ไทสันหาคนมาคุ้มครองคุณตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”“ถ้าจำเป็น ผมจะหาคนจากค่ายศัสตราวุธมาด้วย”“ไม่ว่ายังไง ผมจะรับผิดชอบความปลอดภัยของคุณเอง! จะไม่มีใครมาบังคับให้คุณทำอะไร!”อีวอนน์แอบถอนหายใจเธอได้เห็นด้านที่บ้าอำนาจของฮาร์วีย์อีกครั้งในวันนี้ไม่เพียงแต่เขาจะมีอำนาจเหนือกว่าเท่านั้น แต่เขายังทำให้แม่ของเธอขุ่นเคืองอย่างถึงที่สุดและยังทำตัวรู้สึกหยิ่งยโสใส่แม่ของเธอเข้าไปเสียด้วยหากอีวอนน์และฮาร์วีย์ยังอยู่ด้วยกันต่อไป พวกเขาจะต้องพบกับปัญหามากมายแน่แต่อีวอนน์ก็เดาไม่ออกว่าฮาร์วีย์คิดอะไรอยู่ เธอกลอกตา ปิดประตูหน้าแล้วหัวเราะเบา ๆ“ท่านซีอีโอยอร์ก ฉันพบทางออกแล้ว”"ทางไหน?"ดวงตาของฮาร์วีย์เป็นประกาย“ผมจะทำทุกอย่างอย่างสุดความสารถ”“โอ้ คุณจะทำได้มากกว่านี้แน่”อีวอนน์ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วเดินไปข้าง ๆ หูของฮาร์วีย์“คุณก็คบกับฉันสิ”ปัง ปัง ปัง!เสียงดังก้องจากภายในอพาร์ตเมนต์ หน้าต่
ณ การ์เด้นส์ เรสซิเด้นซ์ไซม่อน ซาเวียร์และลิเลียน เยตส์ซึ่งอยู่ที่นี่มาตลอดได้ย้ายออกไปแล้วในทางกลับกันซีนเธียร์ ซิมเมอร์ก็กลับไปที่มหาวิทยาลัยมีเพียงแมนดี้ ซิมเมอร์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในบ้านที่กว้างขวางเช่นนี้ อย่างโดดเดี่ยวกองเอกสารสุมอยู่บนโต๊ะกาแฟ หลังจากพลิกดูเอกสารแมนดี้ขมวดคิ้วจนใบหน้าของเธอขุ่นมัวเมื่อตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ เอกสารเหล่านั้นคือสัญญาที่ถูกยกเลิกและสัญญาการถ่ายโอนเงินทุนทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในวันนี้หุ้นทั้งหมดของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ที่หมุนเวียนในตลาดหุ้นตกไปอยู่ในมือของตระกูลซิมเมอร์แห่งเซาท์ไลท์และพันธมิตรทางธุรกิจทุกคนที่ตกลงร่วมงานกับรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ก็ตัดขาดความร่วมมือภายในหนึ่งชั่วโมงถึงพวกเขาจะรู้ว่าสกาย คอร์ปอเรชั่นอยู่เบื้องหลังรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ พวกเขาก็ยังคงยกเลิกข้อตกลงตามที่พวกเขาต้องการอยู่ดี นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าฝ่ายตรงข้ามอยากจะมีปัญหา“ตระกูลซิมเมอร์แห่งเซาท์ไลท์…”แมนดี้กำลังกุมขมับของตัวเอง ความเหนื่อยล้าฉายชัดในดวงตาของเธอเธอไม่คิดว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ซึ่งสูญเสียอำนาจไปก่อนหน้านี้จะลุกขึ้นได้อีกครั้งจาก