“ผมทำไม่ได้! ผมไม่กล้า!”“ผมไม่คู่ควรที่จะต่อสู้กับคุณ!”วอลเลซ พาร์คเสียใจอย่างมากและกำลังจะอาเจียนเป็นเลือดถ้าเขารู้ว่าเขาจะได้พบกับหัวหน้าผู้สอน เขาจะไม่มาเหยียบที่บัควู้ดเด็ดขาด!คนอย่างพวกเขาไม่มีสิทธิ์มาเหยียบที่นี่“นี่ไม่เกี่ยวกับว่าคุณกล้าหรือไม่กล่า แต่คุณ คนของประเทศ J ตบหน้าผมไปแล้ว ถ้าผมปล่อยคุณไปแบบนี้ ต่อไปก็คงมีคนที่ไหนก็ไม่รู้มายุ่งกับผมอีก”ฮาร์วีย์ ยอร์กก้าวไปข้างหน้า“ยืนขึ้นและรับการโจมตีจากผม”วอลเลซสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าของเขาซีดลงหลังจากได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด เขารู้ดีว่าฮาร์วีย์แสดงความเมตตาต่อเขาแล้วไม่อย่างนั้นด้วยตัวตนของฮาร์วีย์ การมาที่บัควู้ดของวอลเลซก็ถือเป็นตั๋วเที่ยวเดียวของเขาไปแล้วถ้าเขาอยากที่จะมีชีวิตอยู่ เขาต้องรับการโจมตีจากฮาร์วีย์และออกไปให้เร็วที่สุด!“ขอโทษที่ทำให้ต้องขุ่นเคืองด้วยครับ!”วอลเลซสูดหายใจเข้าปอด ความสามารถฮาร์วีย์อยู่ในระดับปรมาจารย์ ในขณะนี้ เขากระแทกมือทั้งสองข้างลงบนพื้น ก่อนที่ร่างกายทุกส่วนจะกระโจนขึ้นไปในอากาศ เคลื่อนตัวออกไปเตะนักเทควันโดอันดับหนึ่งของประเทศ J มีความสามารถสูงเป็นพิเศษ การโจมตีของเขาร
ณ จุดนี้ การจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ของสกาย คอร์ปอเรชั่นก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วแมนดี้ ซิมเมอร์นั่งข้างฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน เธอถอนหายใจและถึงยอมเอ่ยปากพูด “สรุปว่าทุกอย่างที่คุณพูดล้วนเป็นความจริง”“คุณคือเจ้าชายยอร์กจริง ๆ!”น้ำเสียงของแมนดี้อ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเธอก็มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับฮาร์วีย์ด้วยเมื่อก่อนเธอมักรู้สึกว่านอกจากนิสัยขี้โม้ของเขาแล้ว สามีของเธอเก่งทุกเรื่องแต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้ว่าทุกสิ่งที่ฮาร์วีย์พูดนั้นในตอนนั้นล้วนเป็นความจริงหากเธอเชื่อเขาแต่แรก ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงดำเนินไปอย่างก้าวกระโดด“เจ้าชายอะไร? มันไม่มีความหมายอะไรหรอก”“ผมจะเป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ต่อหน้าคุณเสมอ”ฮาร์วีย์ดื่มชาและดูผ่อนคลาย“ที่คุณเข้าใจผมผิดไปไกล ผมก็ไม่โทษคุณอยู่ดี เพราะผมก็หมดตัวจริง ๆ ตอนผมมาที่บัควู้ด ถึงผมจะมีการเตรียมการมามากมายแต่ก็ยังพลาด”“เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากไปเลย”“เนื่องจากคุณชอบทำธุรกิจ ผมจะยกสกาย คอร์ปอเรชั่นให้คุณในอนาคต”"อะไรนะ?!"แมนดี้ตกใจมาก เธอจ้องไปที่อีวอนน์ ซาเวียร์ด้วยความหึงหวงเล็กน้อย เธอ
ที่สวนบนดาดฟ้าของสกาย คอร์ปอเรชั่นซามูเอล บาวเออร์ยืนเอามือไพล่หลังขณะมองดูการจราจรคับคั่งเบื้องล่าง สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนฮาร์วีย์ ยอร์กยืนอยู่ข้าง ๆ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นว่า “นายท่านบาวเออร์ คุณไม่มีคำอธิบายอะไรเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้เหรอ?”แม้ว่าฮาร์วีย์และซามูเอลจะเคยรู้จักกันมาก่อน...แต่ฮาร์วีย์ก็เพิ่งทำให้โอลิเวอร์ บาวเออร์พิการไป ดังนั้นเมื่อพบว่าโอลิเวอร์เสียชีวิต พวกหลงเหมินจึงคิดว่าเป็นฝีมือของฮาร์วีย์ที่ถูกคือวันนี้ซามูเอลควรมาสร้างปัญหา แต่เขากลับมาที่นี่เพื่อสนับสนุนฮาร์วีย์แทน และนั่นมันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่หลังจากที่ซามูเอลมองไปที่ฮาร์วีย์ครู่หนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ยิ้มอย่างเลศนัยและพูดว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณฮีโร่ คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าทำไมผมถึงมาวันนี้?”ฮาร์วีย์ไม่พูด แต่มองซามูเอลจากด้านข้างอย่างไม่ยี่หระรัศมีที่เปล่งออกมาจากซามูเอลนั้นไม่อาจควบคุมได้ก่อนที่กลิ่นอายแห่งความสูงส่งอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากเขาแม้ฮาร์วีย์จะยังดูปกติ เขาก็ยังขมวดคิ้วเล็ก ๆเพราะซามูเอลในชั่วขณะนี้ให้ความรู้สึกที่ทรงพลังมากราวกับว่าเขาสามารถคว
ซามูเอล บาวเออร์พูดต่อ “ประการที่สอง ผมอยากมาเห็นว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เกษียณไปแล้วฝีมือยังดีเหมือนที่ตำนานว่าไว้รึเปล่า?”“ประการที่สาม ผมต้องการมาทางหาความยุติธรรมให้กับโอลิเวอร์ บาวเออร์ ยังไงเสียเขาก็เป็นลูกน้องผม”ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ถ้าคุณอยากตาย ผมก็ฆ่าคุณได้ทุกเมื่อ”ซามูเอลยิ้ม เขาผายมือขวาออก ก่อนแผ่นป้ายที่ดูคล้ายหยกจะหล่นมาตรงหน้าฮาร์วีย์ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ประการที่สี่ ผมวางแผนเรื่องสาขาหลงเหมินมานานแล้ว”“ไม่ว่าโอลิเวอร์จะถูกคุณฆ่าหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาตาย”“ทันทีที่โอลิเวอร์ตาย ทุกอย่างในมอร์ดูก็ยุ่งเหยิงไปหมด ผมต้องการให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าควบคุมสาขาของหลงเหมิน โดยใช้แผ่นป้ายนี้ควบคุมความวุ่นวายพวกนี้ให้ได้ภายในหนึ่งเดือน”ฮาร์วีย์ยิ้ม “นายท่านบาวเออร์ คุณคงกำลังฝันอยู่รึไง?”“เกวิน บาวเออร์ เชิญให้ผมเป็นไปหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพชั้นนำทั้งเก้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผมก็ยังปฏิเสธ”“คุณคิดว่าคุณจะใช้ฐานะนายท่านแห่งหลงเหมินบังคับให้ผมเป็นหัวหน้าสาขาของสาขาหลงเหมินได้เหรอ?”ซามูเอลยิ้ม “คุณคิดมากไปหัวหน้าผู้ฝึกสอน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็มองหน้ากันอีธาน ฮันต์กระซิบเพียงครู่เดียว “หัวหน้าผู้ฝึกสอนด้วยความเคารพครับ”“หากทุกอย่างเป็นอย่างที่นายท่านแห่งหลงเหมินพูดจริง ๆ ประเทศหมู่เกาะกำลังเคลื่อนไหวในมอร์ดู คนธรรมดาทั่วไป แก้ปัญหานี้ไม่ได้อย่างแน่นอน”“แล้วถ้าหากมีใครเข้าไปจัดการ ประเทศหมู่เกาะก็จะจับตาดูคนเหล่านั้นแน่ หากเข้าไปที่นั่นอย่างบุ่มบ่าม เราก็คงไม่พบอะไรเลย”“สำหรับคุณ หลายปีมานี้ คุณใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ถึงตัวตนในฐานะเจ้าชายยอร์กจะถูกเปิดเผย แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณอยู่ดี”“คุณเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ควรไปตรวจสอบเรื่องนี้”“อีกอย่าง หัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณหายหน้าหายตาไปหลายปีแล้ว พี่น้องจากค่ายศัสตราวุธกำลังรอให้คุณกลับไปอีกครั้ง”“เดี๋ยวรู้กัน”ฮาร์วีย์โบกมือเบา ๆ'ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไหร่ ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น'ฮาร์วีย์รู้เรื่องนี้ดีสุดท้ายเขาก็เกษียณ ถ้าเขากลับไปอีกครั้ง เขาก็ต้องไปที่ "แม่น้ำและทะเลสาบ" แล้วเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระอีกต่อไปไทสัน วูดส์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอน ถ้า
ฮาร์วีย์ ยอร์กพิงโซฟาและพูดอย่างใจเย็นว่า “ผมยังไม่ได้สนใจอะไรเรื่องนี้เท่าไหร่ แค่รู้สึกว้าวุ่นใจเพราะถูกจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์สองคนนั่นร่วมหัวกันมากกว่า”“อีกอย่างหากจะต้องดูแลสาขาของหลงเหมิน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องต้องรีบร้อน”“ถ้าเราอยากจะไปที่นั่น เราก็รอสักสิบห้าวันเสียก่อน รอไปจนกว่าพวกเขาจะสู้กันเสร็จ”ทันใดนั้นเอง เรย์ ฮาร์ทก็เดินเข้ามา เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ซีอีโอยอร์ก ผมได้ส่งคนไปสอบสวนเรื่องของคุณซาเวียร์แล้ว”“แต่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“เธอลาออกเหมือนที่คนอื่น ๆ ทำ”“แต่สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดจนผมเกรงว่าคุณจะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ผมได้ยินมาว่าเธอจะขึ้นเครื่องบินเพื่อออกจากบัควู้ดในวันพรุ่งนี้”อีธาน ฮันต์ เบลลามี่ เบลค และไทสัน วูดส์ต่างก้มหน้าลง'นี่เป็นเรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอน อย่าแทรกแซง อย่ายุ่มย่าม'ฮาร์วีย์ลูบคิ้ว หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ถอนหายใจ ก่อนเขาจะลุกขึ้นและเดินจากไปครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ก็กดกริ่งหน้าอพาร์ทเมนต์ของอีวอนน์ ซาเวียร์สักพักประตูก็เปิดออก อีวอนน์เดินออกมาด้วยใบหน้าที่เปลือยเปล่าแต่ดูน่ารักเธอไม่ได้อยู่ในชุดทำงานตามปกติ แต่เนื่องจ
อีวอนน์ ซาเวียร์พูดทุกสิ่งที่เธอเก็บกดไว้ในใจในพรืดเดียว และเธอก็ผ่อนคลายลงมากในทันทีจากนั้นเธอก็เอ่ยแย่างแผ่วเบาว่า “ซีอีโอยอร์ก สกาย คอร์ปอเรชั่นเพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ การจัดการกับสี่ตระกูลชั้นนำในฮ่องกง สตาร์ แชโบล และตระกูลฌองแห่งมอร์ดูนั้นไม่ง่ายเลย”“อีกอย่างฉันไม่อยากรบกวนคุณอีกต่อไปแล้ว”“ตระกูลสมิธแห่งมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำด้วยใช่ไหม?”“คุณตาของฉันคือจาเดน สมิธ จากมอร์ดู!” อีวอนน์พูดขณะที่เธอถอนหายใจ"อะไรนะ?!" ฮาร์วีย์ ยอร์กตกใจ “ชายที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัม จาเดน สมิธเหรอ?”“และนายน้อยทอมป์สันที่มาจากตระกูลทอมป์สันแห่งโวลซิ่ง”“ไหนจะตระกูลซาเวียร์ แห่งโวลซิ่ง นี่มันสามในสิบตระกูลชั้นหนึ่งเชียวนะ!”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจลึก ๆ ในใจแม้ตัวตนของฮาร์วีย์จะไม่ใช่ธรรมดา ๆ แต่หลังจากได้ยินเกี่ยวกับสามตระกูลนี้เขาก็ยังปวดหัวเห็นได้ชัดว่าอีวอนน์จำต้องลาออกเพราะเธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เขาก๊อก ก๊อก ก๊อก…ฮาร์วีย์ยังถอนหายใจไม่ทันจบ ประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมา“อีวอนน์ เปิดประตู แม่มารับลูก!” มีเสียงมาจากนอกประตู“นั่นแม่ฉัน…
เมื่อเห็นลูกสาวของเธอสวมชุดนอนและมีเสื้อคลุมสวมทับ โดยที่รูปร่างแสนร้อนแรงของเธอค่อนข้างเปิดเผย มิเชลก็นึกอยากจะบีบคอฮาร์วีย์ ยอร์กให้ตายอีวอนน์ ซาเวียร์รีบก้าวไปข้างหน้า เธอฝืนยิ้มและพูดว่า “แม่ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของหนู เขามาส่งมอบงานกับหนู”"เพื่อนร่วมงาน?”“มาส่งมอบงาน?”ใบหน้าของมิเชลเย็นชา “เพื่อนร่วมงานผู้ชายมาส่งมอบงานกับลูกดึก ๆ ดื่น ๆ?”“ส่งมอบงานกันตอนกลางวันไม่ได้ ก็เลยต้องมาส่งมอบงานกันถึงที่นี่งั้นเหรอ?”“คิดว่าแม่จะเชื่อรึไง?”“บอกแม่ตรง ๆ ผู้ชายคนนี้มีนอกมีในอะไรกับลูกหรือเปล่า?”"เขาเป็นใคร?"มิเชลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาด้วยท่าทีวางมาดเธอจ้องมองฮาร์วีย์ ถ้าดวงตาของเธอสามารถฆ่าคนได้ ไอ้ส*รเลวคนนี้ที่ทำให้ความบริสุทธิ์ของลูกสาวของเธอต้องมัวหมองคงตายไปหลายพันครั้งแล้วอีวอนน์พูดไม่ออก เธอตกลงทำตามคำขอของตระกูลสมิธเรื่องนัดบอดเพียงเพื่อปกป้องฮาร์วีย์แต่การที่วันนี้แม่ของเธอบังเอิญเจอเขา หากมีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนของฮาร์วีย์ขึ้นมา สกาย คอร์ปอเรชั่นก็คงถึงคราวจบสิ้น“คุณป้า อีวอนน์ไม่ได้โกหก ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ”ฮาร์วีย์กล่าวอย่างเป็นมิตร“แต่ผมเป็นซีอี