ซามูเอล บาวเออร์พูดต่อ “ประการที่สอง ผมอยากมาเห็นว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เกษียณไปแล้วฝีมือยังดีเหมือนที่ตำนานว่าไว้รึเปล่า?”“ประการที่สาม ผมต้องการมาทางหาความยุติธรรมให้กับโอลิเวอร์ บาวเออร์ ยังไงเสียเขาก็เป็นลูกน้องผม”ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ถ้าคุณอยากตาย ผมก็ฆ่าคุณได้ทุกเมื่อ”ซามูเอลยิ้ม เขาผายมือขวาออก ก่อนแผ่นป้ายที่ดูคล้ายหยกจะหล่นมาตรงหน้าฮาร์วีย์ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ประการที่สี่ ผมวางแผนเรื่องสาขาหลงเหมินมานานแล้ว”“ไม่ว่าโอลิเวอร์จะถูกคุณฆ่าหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาตาย”“ทันทีที่โอลิเวอร์ตาย ทุกอย่างในมอร์ดูก็ยุ่งเหยิงไปหมด ผมต้องการให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าควบคุมสาขาของหลงเหมิน โดยใช้แผ่นป้ายนี้ควบคุมความวุ่นวายพวกนี้ให้ได้ภายในหนึ่งเดือน”ฮาร์วีย์ยิ้ม “นายท่านบาวเออร์ คุณคงกำลังฝันอยู่รึไง?”“เกวิน บาวเออร์ เชิญให้ผมเป็นไปหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพชั้นนำทั้งเก้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผมก็ยังปฏิเสธ”“คุณคิดว่าคุณจะใช้ฐานะนายท่านแห่งหลงเหมินบังคับให้ผมเป็นหัวหน้าสาขาของสาขาหลงเหมินได้เหรอ?”ซามูเอลยิ้ม “คุณคิดมากไปหัวหน้าผู้ฝึกสอน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็มองหน้ากันอีธาน ฮันต์กระซิบเพียงครู่เดียว “หัวหน้าผู้ฝึกสอนด้วยความเคารพครับ”“หากทุกอย่างเป็นอย่างที่นายท่านแห่งหลงเหมินพูดจริง ๆ ประเทศหมู่เกาะกำลังเคลื่อนไหวในมอร์ดู คนธรรมดาทั่วไป แก้ปัญหานี้ไม่ได้อย่างแน่นอน”“แล้วถ้าหากมีใครเข้าไปจัดการ ประเทศหมู่เกาะก็จะจับตาดูคนเหล่านั้นแน่ หากเข้าไปที่นั่นอย่างบุ่มบ่าม เราก็คงไม่พบอะไรเลย”“สำหรับคุณ หลายปีมานี้ คุณใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ถึงตัวตนในฐานะเจ้าชายยอร์กจะถูกเปิดเผย แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณอยู่ดี”“คุณเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ควรไปตรวจสอบเรื่องนี้”“อีกอย่าง หัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณหายหน้าหายตาไปหลายปีแล้ว พี่น้องจากค่ายศัสตราวุธกำลังรอให้คุณกลับไปอีกครั้ง”“เดี๋ยวรู้กัน”ฮาร์วีย์โบกมือเบา ๆ'ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไหร่ ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น'ฮาร์วีย์รู้เรื่องนี้ดีสุดท้ายเขาก็เกษียณ ถ้าเขากลับไปอีกครั้ง เขาก็ต้องไปที่ "แม่น้ำและทะเลสาบ" แล้วเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระอีกต่อไปไทสัน วูดส์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอน ถ้า
ฮาร์วีย์ ยอร์กพิงโซฟาและพูดอย่างใจเย็นว่า “ผมยังไม่ได้สนใจอะไรเรื่องนี้เท่าไหร่ แค่รู้สึกว้าวุ่นใจเพราะถูกจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์สองคนนั่นร่วมหัวกันมากกว่า”“อีกอย่างหากจะต้องดูแลสาขาของหลงเหมิน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องต้องรีบร้อน”“ถ้าเราอยากจะไปที่นั่น เราก็รอสักสิบห้าวันเสียก่อน รอไปจนกว่าพวกเขาจะสู้กันเสร็จ”ทันใดนั้นเอง เรย์ ฮาร์ทก็เดินเข้ามา เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ซีอีโอยอร์ก ผมได้ส่งคนไปสอบสวนเรื่องของคุณซาเวียร์แล้ว”“แต่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“เธอลาออกเหมือนที่คนอื่น ๆ ทำ”“แต่สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดจนผมเกรงว่าคุณจะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ผมได้ยินมาว่าเธอจะขึ้นเครื่องบินเพื่อออกจากบัควู้ดในวันพรุ่งนี้”อีธาน ฮันต์ เบลลามี่ เบลค และไทสัน วูดส์ต่างก้มหน้าลง'นี่เป็นเรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอน อย่าแทรกแซง อย่ายุ่มย่าม'ฮาร์วีย์ลูบคิ้ว หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ถอนหายใจ ก่อนเขาจะลุกขึ้นและเดินจากไปครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ก็กดกริ่งหน้าอพาร์ทเมนต์ของอีวอนน์ ซาเวียร์สักพักประตูก็เปิดออก อีวอนน์เดินออกมาด้วยใบหน้าที่เปลือยเปล่าแต่ดูน่ารักเธอไม่ได้อยู่ในชุดทำงานตามปกติ แต่เนื่องจ
อีวอนน์ ซาเวียร์พูดทุกสิ่งที่เธอเก็บกดไว้ในใจในพรืดเดียว และเธอก็ผ่อนคลายลงมากในทันทีจากนั้นเธอก็เอ่ยแย่างแผ่วเบาว่า “ซีอีโอยอร์ก สกาย คอร์ปอเรชั่นเพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ การจัดการกับสี่ตระกูลชั้นนำในฮ่องกง สตาร์ แชโบล และตระกูลฌองแห่งมอร์ดูนั้นไม่ง่ายเลย”“อีกอย่างฉันไม่อยากรบกวนคุณอีกต่อไปแล้ว”“ตระกูลสมิธแห่งมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำด้วยใช่ไหม?”“คุณตาของฉันคือจาเดน สมิธ จากมอร์ดู!” อีวอนน์พูดขณะที่เธอถอนหายใจ"อะไรนะ?!" ฮาร์วีย์ ยอร์กตกใจ “ชายที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัม จาเดน สมิธเหรอ?”“และนายน้อยทอมป์สันที่มาจากตระกูลทอมป์สันแห่งโวลซิ่ง”“ไหนจะตระกูลซาเวียร์ แห่งโวลซิ่ง นี่มันสามในสิบตระกูลชั้นหนึ่งเชียวนะ!”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจลึก ๆ ในใจแม้ตัวตนของฮาร์วีย์จะไม่ใช่ธรรมดา ๆ แต่หลังจากได้ยินเกี่ยวกับสามตระกูลนี้เขาก็ยังปวดหัวเห็นได้ชัดว่าอีวอนน์จำต้องลาออกเพราะเธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เขาก๊อก ก๊อก ก๊อก…ฮาร์วีย์ยังถอนหายใจไม่ทันจบ ประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมา“อีวอนน์ เปิดประตู แม่มารับลูก!” มีเสียงมาจากนอกประตู“นั่นแม่ฉัน…
เมื่อเห็นลูกสาวของเธอสวมชุดนอนและมีเสื้อคลุมสวมทับ โดยที่รูปร่างแสนร้อนแรงของเธอค่อนข้างเปิดเผย มิเชลก็นึกอยากจะบีบคอฮาร์วีย์ ยอร์กให้ตายอีวอนน์ ซาเวียร์รีบก้าวไปข้างหน้า เธอฝืนยิ้มและพูดว่า “แม่ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของหนู เขามาส่งมอบงานกับหนู”"เพื่อนร่วมงาน?”“มาส่งมอบงาน?”ใบหน้าของมิเชลเย็นชา “เพื่อนร่วมงานผู้ชายมาส่งมอบงานกับลูกดึก ๆ ดื่น ๆ?”“ส่งมอบงานกันตอนกลางวันไม่ได้ ก็เลยต้องมาส่งมอบงานกันถึงที่นี่งั้นเหรอ?”“คิดว่าแม่จะเชื่อรึไง?”“บอกแม่ตรง ๆ ผู้ชายคนนี้มีนอกมีในอะไรกับลูกหรือเปล่า?”"เขาเป็นใคร?"มิเชลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาด้วยท่าทีวางมาดเธอจ้องมองฮาร์วีย์ ถ้าดวงตาของเธอสามารถฆ่าคนได้ ไอ้ส*รเลวคนนี้ที่ทำให้ความบริสุทธิ์ของลูกสาวของเธอต้องมัวหมองคงตายไปหลายพันครั้งแล้วอีวอนน์พูดไม่ออก เธอตกลงทำตามคำขอของตระกูลสมิธเรื่องนัดบอดเพียงเพื่อปกป้องฮาร์วีย์แต่การที่วันนี้แม่ของเธอบังเอิญเจอเขา หากมีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนของฮาร์วีย์ขึ้นมา สกาย คอร์ปอเรชั่นก็คงถึงคราวจบสิ้น“คุณป้า อีวอนน์ไม่ได้โกหก ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ”ฮาร์วีย์กล่าวอย่างเป็นมิตร“แต่ผมเป็นซีอี
“แม้ว่าแกจะใช้นามสกุลซาเวียร์ แต่แกก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลสมิธด้วย!”“ตระกูลสมิธจะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน และเพราะแกเติบโตในตระกูลสมิธ กินและใช้ของที่นั่น แกจึงต้องรับภาระหน้าที่นี้!”“ถ้าตระกูลสมิธไม่มีปัญหา ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกอยากจะทำอะไร!”“แต่ตอนนี้ตระกูลสมิธกำลังเผชิญกับวิกฤต แกต้องกลับไปแก้ปัญหาด้วยกันกับฉัน!”“ดังนั้น ตราบใดที่คุณตาของแกกับฉันต้องการ แกก็ต้องทำ ไม่ว่าแกจะเต็มใจแต่งงานกับเฮกเตอร์ ทอมป์สันหรือไม่ก็ตาม!”“ยิ่งไปกว่านั้น การแต่งงานกับตระกูลสมิธก็ได้รับการอนุมัติจากตระกูลซาเวียร์ในโวลซิ่งแล้วด้วย!”“เมื่อสองตระกูลชั้นนำเห็นดีเห็นงามด้วย แกก็มีแต่จะต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้!”“เพราะฉะนั้น ตอนนี้แกจะพูดอะไรก็ช่าง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลับไปยังมอร์ดู ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดพวกนี้อีก!”“ไม่อย่างนั้นคุณจะได้รู้ถึงผลที่ตามมา!”มิเชลเข้มงวดมาก ในน้ำเสียงของเธอเด็ดขาดไร้ความลังเลฮาร์วีย์ ยอร์กตระหนักว่าอีวอนน์ ซาเวียร์ ผู้ซึ่งเคยหนักแน่นและมั่นใจมาโดยตลอดมีสีหน้างุนงงและทำอะไรไม่ถูกในขณะนี้หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หันศีรษะไปอย่างรวดเร็ว เธอรีบเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาใ
เปลือกตาของมิเชลกระตุกอย่างรุนแรง และใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อยเธอจงใจมองข้ามฮาร์วีย์ ยอร์กไป เพราะอยากจะตัดความรำคาญและพาอีวอนน์ ซาเวียร์ออกไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่เธอไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะหาเรื่องใส่ตัวถึงฮาร์วีย์จะเป็นซีอีโอของสกาย คอร์ปอเรชั่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ เจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์...แต่เขาก็ยังเป็นตัวตลกในสายตาของมิเชลดินแดนป่าเถื่อนอย่างเซาท์ไลท์จะเทียบกับมอร์ดูได้อย่างไร?เจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดูคือเจ้าชายอย่างแท้จริงเจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์ไม่มีค่าอะไรเจ้าชายไร้ประโยชน์คนนี้ยังกล้าก้าวออกมาต่อต้านเธออย่างไร้สมองเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าอำนาจของเธอถูกเขาลบหลู่มิเชลหยิบเช็คออกมาเขียนชุดตัวเลขลงไปแล้วโยนใส่ฮาร์วีย์ เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นซีอีโอของอีวอนน์ เพื่อนร่วมงานของเธอ หรือผู้ชายของเธอ…”“ยังไงซะนายก็ไม่สมควรจะมีความสัมพันธ์กับเธอ นายไม่มีสิทธิ์เป็นเพื่อนกับเธอด้วยซ้ำ!”“รับร้อยล้านนี่ไป แล้วออกไปซะ อย่ามาใกล้อีวอนน์อีก!”มิเชลเปล่งรัศมีสูงส่งในตอนที่เธอยื่นคำขาดการใช้เงินเพื่อฟาดหัวคนอื่นคือสิ่งที่ตระกูลสมิธทำได้ด
"แก!"มิเชลตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะกล้าดูถูกเธอเช่นนี้เด็กส*รเลวคนนี้ปฏิบัติกับเธอเหมือนคนโง่งั้นรึ?หมื่นล้าน?ไอ้เ*ร!“จัดการเขาซะ!”ใบหน้าของมิเชลเย็นชา และเธอไม่ต้องการจะต่อความอีกต่อไป“พ่อหนุ่ม คุณผู้หญิงพูดจากับนายดีมากแล้ว แต่นายไม่เห็นคุณค่าของมันเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่าโทษฉันเลย!”ในตอนนี้เองชายชราในชุดสูทซึ่งยืนอยู่ข้างหลังมิเชลก้าวไปข้างหน้าและเสมองฮาร์วีย์“ถ้าฉันฆ่านายทิ้ง เกิดชาติหน้าก็อย่าไปหาเรื่องใครเขาล่ะ!”ชายชราผายมือไปทางฮาร์วีย์หลังจากที่เขาพูดจบตู้ม!ฝ่ามือของเขาส่งเสียงที่ทรงพลังราวกับพายุฝนฟ้าคะนองอีวอนน์ ซาเวียร์อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฮันเดล อย่า!”มิเชลรวดเร็ว เธอคว้าลูกสาวและหวังจะดูฮาร์วีย์เสียชีวิตตรงหน้าอย่างเย็นชาตู้ม!ฮาร์วีย์ดูเฉยเมย จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและตบออกไปมันรวดเร็วและรุนแรง ฝ่ามือของเขาเอื้อมไปถึงก่อน แม้จะเริ่มลงมือทีหลังก็ตามเพี๊ยะ!ฮันเดลซึ่งกำลังจะออกหมัด เบี่ยงใบหน้าเมื่อเห็นฝ่ามือของฮาร์วีย์พุ่งเข้ามา เขาไม่มีเวลาที่จะหลีกหนีการเคลื่อนไหวนั้น ฮาร์วีย์ก็ตบหน้าเขาในทันทีปัง!ด