ซีนเธียร์มองฮาร์วีย์ด้วยใบหน้าอ้อนวอน“อีกอย่าง นี่เป็นวันแรกที่ฉันได้เข้าร่วมสภานักเรียน ถ้าฉันไม่ไปร่วมงาน ก็คงหยาบคายมาก”“และถ้าไปคนเดียวฉันคงกลัวมาก ฉันไม่รู้จักใครมากเท่าไหร่ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะพาพี่ไปกับฉันด้วย!”“ที่สำคัญ งานสังสรรค์นี้กำหนดว่าต้องพาคู่หูไปด้วย”“นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มมากมาย! ฉันแน่ใจว่าพี่จะชอบที่นั่น พี่เขย!”ซีนเธียร์ส่งสายตาเย้ายวนให้ฮาร์วีย์ราวกับว่าคำสัญญาเรื่องอาหารอร่อยจะดึงดูดความสนใจของฮาร์วีย์ได้ฮาร์วีย์ตอบอย่างบึ้งตึง “ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าฉันจะไปด้วยหรือไม่ คุณก็จะไปอยู่ดีใช่ไหม?”ซีนเธียร์พยักหน้า“พี่ฉลาดมาก พี่เขย! เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องไป พี่ต้องไปกับฉันแน่นอน!”“ถ้าไม่อย่างนั้น พี่จะบอกพี่สาวฉันว่าอย่างไรถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน”“เอาล่ะ พอทีห้ามให้พี่สาวของคุณรู้เรื่องนี้ พ่อกับแม่คุณด้วย!”“และไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องกลับบ้านภายในเวลาเที่ยงคืน! ฉันจะจับตาดูคุณตลอดเวลา และห้ามดื่มด้วย!”ซีนเธียร์กระโดดด้วยความดีใจ“พี่ว่ายังไง ฉันก็ว่าอย่างนั้น พี่เขย!”ซีนเธียร์รู้สึกเบิกบานใจกับชีวิตในมหาวิทยาลัยของเธอ เธอรู้สึ
เอวาเฝ้าดูภาพเบื้องหน้า เธอถอนหายใจก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณก็เป็นแขกเช่นกัน ขึ้นรถ!"หลังจากนั้นเธอก็จ้องฮาร์วีย์ด้วยสายตาตัดสินหลายครั้ง ความดูแคลนฉายแววในดวงตาของเธอชั่วขณะหนึ่งแม้ว่าฮาร์วีย์จะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงชุดลำลองที่เขาสวมใส่มานานโขเมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาโง่เขลานัก!คนโง่ที่น่าสงสารคนนี้กล้าเข้าร่วมงานสังสรรค์ได้อย่างไร?คนอย่างเขาจะเทียบอะไรกับเหล่าเจ้าชายที่จะมารวมตัวกันได้?ไม่ต้องพูดถึงนายน้อยฮิวจ์ เบเกอร์ที่สนใจในตัวซีนเธียร์อย่างมากฮิวจ์สูง หล่อเหลา และดูเหมือนซุปเปอร์สตาร์ตระกูลของเขาโดดเด่นมาก เขายังเป็นนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโกพี่ชายร่วมสายเลือดของเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแซม เบเกอร์ เจ้าชายตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโก!คนแบบนั้นย่อมเหนือชั้นกว่าคนอื่น เป็นใครก็ต้องยอมคุกเข่าให้!ว่ากันว่าฮิวจ์มาที่บัควู้ดเพราะแซมกำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดของบัควู้ดฮิวจ์มาที่นี่เพื่อช่วยเขาสร้างพื้นที่สื่อฮาร์วีย์ชายผู้ดูยากไร้คนนี้ ไม่สามารถแม้แต่จะเทียบกับคนอย่างฮิวจ์ได
ฮาร์วีย์จ้องมองที่เอวาอย่างใจเย็น และปฏิเสธเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่แพ้กัน "คุณหมายถึงอะไร?"สีหน้าของเอวาเปลี่ยนเป็นเย็นชาพอ ๆ กับน้ำเสียงของเธอทันที “นายเป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน ถึงนายจะมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา แต่ฉันก็มีคนตรวจสอบประวัตินายแล้ว นายไม่ได้รับค่าจ้างในการทำงานของนายด้วยซ้ำ!”“ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉายาของนายเป็นของจริงหรือของปลอม!”“ในสายตาของฉัน นายมันก็แค่คนโง่น่าสมเพช!”“คนอย่างนายมีสิทธิ์อะไรมาเกาะติดซีนเธียร์”เอวามั่นใจว่าเธอมีอำนาจเหนือกว่าฮาร์วีย์“นายอยู่ให้ห่างจากซีนเธียร์ซะ นายไม่เหมาะกับเธอสักนิด!”ฮาร์วีย์ยังคงสงบ “คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?”"นายหมายถึงอะไร?"ใบหน้าของเอวาเย็นชายิ่งกว่าเดิม“นี่นายกำลังจะบอกฉันว่า ซีนเธียร์เป็นฝ่ายที่เกาะติดคุณงั้นเหรอ?”“ที่อวดดีขนาดนี้! นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"“นายมันก็เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน! ทำไมซีนเธียร์ถึงต้องเกาะแกะนาย”“ฉันจะบอกนายให้ ไม่ใช่แค่นายไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ควงของซีนเธียร์ แต่นายไม่มีสิทธิ์เป็นเพื่อนของเธอด้วย!”“ทำไมลูกเขยแต่งเข้าบ้านถึงมาเกาะแกกับผู้หญิงคนอื่นข้างนอก”“นายมันคนละชั้นกับ
“มาแล้วเหรอ เอวา?”ชายในเสื้อเชิ้ตสีขาวหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาเดินไปจับมือเอวาเขาสูงและหล่อเหลา ใบหน้าคมเป็นสัน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสิ่งของหรูหรา ข้อมือของเขามีนาฬิการิชาร์ด มิลล์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความมั่งคั่งของมหาเศรษฐี ด้วยเหตุนี้ รัศมีของเจ้านายในตระกูลที่ร่ำรวยของเขาจึงโดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ“ฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ นายน้อยเบเกอร์ ฉันเจอขอทานระหว่างทางมาที่นี่ ถึงได้เสียเวลาไปมาก”เอวาหัวเราะอย่างเขินอาย แต่เธอก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เธอต้องการเห็นการต่อสู้ครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในที่นี่ตอนนี้“โปรดยกโทษให้กับความหยาบคายของฉันด้วยนะคะ!”“เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่คุณมาร่วมงาน!”ฮิวจ์ส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอ แล้วหันไปหาซีนเธียร์“นี่ต้องเป็นรุ่นน้องที่เธอเล่าให้ฟัง ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ น้องใหม่ในสภานักเรียนใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ นั่นคือเธอ เธอไม่เพียงแต่เป็นสมาชิกใหม่ในสภานักเรียนเท่านั้น แต่เธอยังเป็นสาวงามประจำปีนี้ของมหาวิทยาลัยเซาท์ไลท์ด้วย!” เอวาแนะนำในขณะที่ยิ้ม“ว่ากันว่าจำนวนผู้ชายที่ตามจีบเธอสามารถตั้งแถวได้ตั้งแต่บัควู้ดไปจนถึงอ่าววิคตอเรียเลยล่ะค่ะ!”“รุ่นน้องซิมเมอร์สวัสดี”ซ
พระเจ้า!เมื่อฮิวจ์เห็นฮาร์วีย์จูบซีนเธียร์ เขาก็ระเบิดความโกรธออกมา เจตนาฆ่าฉายออกมาจากดวงตาของเขาฮิวจ์ เบเกอร์คือใคร?เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโก!ตระกูลเบเกอร์ เป็นตระกูลชั้นนำในซานฟรานซิสโก พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากแม้ว่าจะอยู่ในมอร์ดู!พี่ชายของเขา แซม เบเกอร์เทียบได้กับสี่นายน้อยแห่งโวลซิ่ง นายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง และเจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดู!ฮิวจ์จะได้ผู้หญิงที่เขาต้องการเสมอแม้ว่าเธอจะเป็นคนดังระดับสูงสุดหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ต เขาก็จะได้คนเหล่านั้นมาอยู่ในกำมืออย่างง่ายดายเขาไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่เพราะซีนเธียร์สิ่งที่น่าโมโหที่สุดสำหรับเขาคือการที่ฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อคำเตือนของเขาและทำให้เขาขายหน้า!มดตัวหนึ่งกล้าที่จะท้าทายเขา ฮิวจ์!บ้าบิ่นเหลือเกิน!ช่างไร้เดียงสานัก!ฮิวจ์โกรธมาก เรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ แน่เอวาและผีเสื้อสังคมอื่น ๆ ก็เดือดดาลด้วยความโกรธเช่นกันพวกเขาทุกคนรู้ว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงไม้กันหมา แต่พวกเขาไม่คิดว่าคน ๆ นี้จะไร้ยางอายขนาดนี้!สำหรับเอวา เขาไม่เคารพเธอต่อห
ทุกคนดูออกว่าชายหัวโล้นกำลังเยาะเย้ยฮาร์วีย์ลูกเขยแต่งเข้าบ้านจะมีเงินสามร้อยล้านได้อย่างไร?ถ้าเขามีเงินมากขนาดนั้น เขาคงได้รับการยอมรับในฐานะแขกผู้มีเกียรติในแวดวงสังคมชั้นสูงแล้วปัญหาคือฮาร์วีย์ดูไม่เหมือนคนในแวดวงนั้นเลย!“สามร้อยล้าน?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างไม่แยแส “ฉันไม่สนใจเรื่องเงิน และฉันไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วในบัญชีธนาคารของฉันมีเงินอยู่เท่าไหร่”“แต่ฉันคงมีสักอย่างน้อยหนึ่งหมื่นห้าพันล้านเหรียญ” ผีเสื้อสังคมหลายคนเริ่มกลอกตาเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์พวกเขาหัวเราะคิกคักเยาะเย้ยเขา'หนึ่งหมื่นห้าพันล้าน?''คงจะถอนเงินแค่สิบห้าเหรียญออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำ!'‘ถ้าโอ้อวดได้ขนาดนี้ ทำไมไม่ไปออกรายการทอล์คโชว์เสียเลยล่ะ?!’'คนอย่างเขายิ่งต้องการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโอ้อวดมากเท่านั้น!'แม้แต่ซีนเธียร์ก็ตัวแข็งเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ จากนั้นเธอก็เข้าใจทันทีเธอรู้ว่าพี่เขยของเธอมีความสามารถ แต่หนึ่งหมื่นห้าพันล้านเหรียญไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเธอคิดเสมอว่าฮาร์วีย์อาจมีเงินสองสามร้อยล้านเหรียญอยู่ในมือ แต่ความแตกต่างระหว่างจำนวนเท่านี้กับหนึ่งหมื่นห้าพันล้านเหรียญไม่ใช่แค่เลขศูน
ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะยังคงจับมือของซีนเธียร์ เขายืนตัวตรงและตอบฮิวจ์ด้วยน้ำเสียงขี้เล่นว่า “การลงทุนเจ็ดร้อยห้าสิบล้านเหรียญได้ผลตอบแทนสามร้อยล้านต่อปี นั่นกำไรงามทีเดียว”“เอาอย่างนี้ดีไหม? ส่งข้อเสนอโครงการมา แล้วฉันจะให้ทีมประเมินแผน หากมันมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ฉันจะคิดเกี่ยวกับการลงทุนนี้”“แน่นอน เราจะต้องได้ลงนามในข้อตกลง”เห็นได้ชัดว่าฮิวจ์พยายามเยาะเย้ยฮาร์วีย์ ดังนั้นฮาร์วีย์ก็ไม่รังเกียจที่จะเยาะเย้ยฮิวจ์กลับไปเช่นกันนอกจากนี้ ฮาร์วีย์จะไม่รังเกียจที่จะซื้อหุ้นเพื่อซีนเธียร์ หากโครงการสวนสนุกทำกำไรได้"ข้อเสนอโครงการ?"“ลงทุนเจ็ดร้อยห้าสิบล้านเหรียญ?”"ข้อตกลง?"ฝูงชนไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป ท้องของพวกเขาใกล้จะระเบิดแล้วขณะที่พวกเขาหัวเราะออกมาดัง ๆงานสังสรรค์คืนนี้น่าสนใจมากเกินไป!ไม่เพียงแค่มีผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างซีนเธียร์เท่านั้น แต่ยังมีตัวตลกอย่างฮาร์วีย์อยู่ด้วย!เห็นได้ชัดว่านายน้อยเบเกอร์กำลังแกล้งฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่เพิกเฉย แต่เขายังทำตัวราวกับว่าเป็นคนใจกว้างณ จุดนี้ เขาเองก็คงเชื่อในคำโกหกของตัวเองไปแล้วซีนเธียร์ซึ่งตอ
ฮิวจ์และทริสตันรู้สึกงุนงงเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่เมื่อเอวาพูดเช่นนั้นทั้งคู่ก็แสดงสีหน้าประหนึ่งว่ารู้ความจริงแล้ว"ฉันเข้าใจแล้ว นายเตี๊ยมกับเพื่อนมาล่วงหน้างั้นสินะ?”“ฉันต้องยอมรับว่านั่นเป็นวิธีที่ดีจริง ๆ!”“น่าเสียดายที่นายดันใส่เสื้อผ้าที่ซื้อจากแผงลอย ดูไม่เหมือนมหาเศรษฐีเลยสักนิด!”“ถ้านายกล้าพอก็บอกมาเลยว่านายคือเจ้าชายยอร์ก! ถ้าเป็นในเซาท์ไลท์ การพูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้จะทำให้นายตายได้เลย!”"ใช่! ดูสารรูปตัวเองหน่อยสิ! นายยังจะเสแสร้งเป็นเจ้านายจากตระกูลมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอยู่อีกหรือ?”“นายรู้หรือเปล่าว่าในพันล้านมีศูนย์อยู่กี่หลัก?”“นายน้อยเบเกอร์และนายท่านทริสตันปฏิบัติกับนายไม่ต่างจากพวกโง่เง่าคนหนึ่งหรอก! คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขนาดนั้นจริงเหรอ?!”เหล่าลิ่วล้อของฮิวจ์ผุดตัวขึ้นด้วยความโกรธ พวกเขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์ขณะที่เยาะเย้ยเขาอย่างไม่ลดละพวกเขาเกือบจะถูกคนโง่น่าสมเพชคนนี้หลอกเข้าให้แล้ว!ฮาร์วีย์มองดูฝูงชนที่ตื่นตระหนกด้วยความสนใจอย่างมาก“ฉันไม่ยอมให้พวกคุณมาพูดกับพี่เขยของฉันแบบนี้!”“เขาไม่ได้โกหกพวกคุณ! เขามีเงินสามพันล้านเหรียญในบัญชีธนาคารของเขาจริง ๆ!”“เขา