อาเวลหยิบกล่องไม้โบราณจากมือหนึ่งในลูกน้องของเขาขึ้นมา เขาเปิดมันต่อหน้าฮาร์วีย์ ข้างในกล่องมีอัญมณีสีแดงดุจเลือดอยู่เม็ดหนึ่งอัญมณีนั้นเป็นสีแดงก่ำ แต่มีริ้วเข้มข้างใน ดูมีค่าพอสมควร“ซีอีโอยอร์กครับ อัญมณีเม็ดนี้คืออัญมณีของแม่ทัพในตำนาน ว่ากันว่าแม่ทัพโบราณถูกฝังไปพร้อมกับอัญมณีเม็ดงามเม็ดนี้ครับ”“ผมได้ยินมาจากตาแก่ว่าคุณเชี่ยวชาญด้านการประเมินค่าวัตถุโบราณ ผมก็เลยเอาของขวัญชิ้นนี้มาให้คุณครับ ถือว่าเป็นคำอวยพรเล็ก ๆ จากผม”ฮาร์วีย์ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบอัญมณีเลย แต่กลับจ้องมันอยู่ชั่วขณะใหญ่“คุณเสียเงินให้เจ้านี่ไปมากเท่าไหร่?”อาเวลยิ้มแล้วตอบกลับมา “ก็ไม่มากครับ ราคาประมาณ 1.5 ล้าน เงินขี้ประติ๋วมาก”“1.5 ล้านเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสงบนิ่ง“ขอบคุณพระเจ้าที่ผมรู้ว่าคุณเป็นเจ้านายกลุ่มนักเลงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจจริง ๆ ของตระกูลไนส์เวลล์”“ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมอาจจะบีบคอคุณจนตายไปพร้อมกับทั้งครอบครัวคุณเลยก็ได้”อาเวลถึงกับช็อก“ซีอีโอยอร์ก ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ?”“ผมซื้ออัญมณีนี้มาจากร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ที่เพิ่งเปิดใหม่นะครับ! ร้านที่หนึ่งใ
ณ เวลาสิบโมงเช้า ฮาร์วีย์และอาเวลปรากฏตัวที่เขตขายวัตถุโบราณของบัควู้ดฮาร์วีย์มาเพื่อสังเกตการณ์ความสนุกสนานและเพื่อมาดูว่าใครคือเจ้าของร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์กันแน่ รวมถึงมาดูว่าพวกเขาไปเอาความกล้าจากไหนที่มาเล็งเขาเป็นเป้าหมายถ้าสมมุติว่าร้านขายของเก่าตระกูลฟลินน์เป็นธุรกิจของพวกคนตระกูลลีโอจากฮ่องกง เขาก็พอจะเข้าใจได้แต่เขาไม่เคยเจอใครจากตระกูลฟลินน์มาก่อนเลย เขาเลยไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงลงทุนทำอะไรแบบนี้ไม่นานนัก คนหลายคนก็มารุมล้อมหน้าทางเข้าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์นักเลงคนที่ยืนอยู่หน้าสุดถีบประตูพัง จากนั้นกลุ่มนักเลงคนอื่น ๆ ก็เดินดาหน้าเข้าไป ทุกคนต่างมีสายตาอาฆาตแค้นลูกค้าในร้านกลัวจนตัวสั่น พวกเขารีบถอยหลังกลับไปเพื่อหลีกทางให้“พวกคุณเป็นใคร? จะมาทำอะไรกัน?”พนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในร้านทำท่าราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูอันตราย รปภ.บางคนเริ่มหยิบกระบองไฟฟ้าออกมากวัดแกว่งไล่พวกนักเลงแล้วอาเวลเดินตึง ๆ เข้ามาในร้านแล้วเตะแจกันโบราณทิ้ง เขาคำราม “ดาร์เรน ฟลินน์! โผล่หัวออกมาที่นี่ เดี๋ยวนี้!”ฮาร์วีย์เดินตามอาเวลไปอย่าง
ถ้าไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์ค้นพบความจริงเรื่องอัญมณีปลอมแล้วล่ะก็ เหตุการณ์มันจะออกมาเลวร้ายมากทำไมดาร์เรนยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปได้อีกล่ะพวกเขาต่างก็เป็นนักเลง แกล้งทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์สารกัมมันตรังสีซึ่งสกัดด้วยวิธีไฮเทคที่แอบซ่อนอยู่ในอัญมณีสีเลือดราคาแพงอย่างนั้นเหรอ?ถ้าผลออกมาว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของตระกูลฟลินน์แล้วล่ะก็ อาเวลยอมตัดหัวตัวเองเลย!อาเวลจ้องไปทางดาร์เรนด้วยสายตาเย็นชา “ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง ดาร์เรน ยอมรับมาว่าแกทำอะไรลงไป แล้วฉันจะปล่อยให้แกรอดชีวิต”“ถ้าแกรอให้ฉันเล่าความผิดแกให้ฟังล่ะก็ แกจะไม่มีโอกาสได้เปิดร้านอีกต่อไป คนอื่นนี่แหละที่ต้องมาเปิดฝาโลงแก!”สีหน้าหดหู่แวบขึ้นมาบนใบหน้าของดาร์เรนครู่หนึ่ง แต่เขารีบสลัดมันทิ้งไป เขาหัวเราะเบา ๆ “ผมไม่รู้จริง ๆ ครับว่าผมทำอะไรผิดไป ช่วยบอกผมที!”ก็เป็นปกติ ที่จะมีบางสิ่งที่ดาร์เรนไม่กล้ายอมรับอาเวลเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาพลางโบกมือ ลูกน้องคนหนึ่งของเขาหยิบกระเป๋าใบหนึ่งขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์แล้วเปิดมันออกอัญมณีสีเลือดที่แตกกระจายและสารกัมมันตรังสีก็อยู่ข้างในกระเป๋าใบนั้นลูกค้าที่ต่างสงสัยเรื่องว่าเ
ของปลอมในวงการวัตถุโบราณแทบจะไม่มีความหมายอะไร ในเมื่อทุกคนต่างก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ต่อให้พวกเขาถูกหลอก พวกเขาก็จะปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยการเสียเงินเปล่าไปในสายงานนี้หมายความว่าคน ๆ นั้นยังเก่งไม่มากพอ แทบจะโทษคนอื่น ๆ ไม่ได้เลยแต่การซ่อนสารกัมมันตรังสีไปทำร้ายคนอื่นนี่มีค่าเท่ากับการดีดตัวเองออกนอกวงการดวงตาของดาร์เรนกระตุก รอยยิ้มฝืน ๆ ฉายขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ดั่งอัญมณีสีขาว“นายน้อยไนส์เวลล์ครับ ต้องมีข้อผิดพลาดบางอย่างแน่นอน! ผมเป็นคนที่นำเจ้าอัญมณีนี้มาที่นี่เอง ผมถึงกับประเมินอัญมณีเองด้วยซ้ำ เพราะมันมีลักษณะพื้นผิวที่ดีมาก ถ้าหากมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะก็ ผมไม่มีทางขายมันให้คุณแน่นอน…”“เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที!”อาเวลพูดตัดบทดาร์เรนในทันควัน“พวกเราที่นี่ก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เข้าประเด็นเลยดีกว่า ในเมื่อแกพยายามจะพิสูจน์ว่าแกไม่ได้มีจุดประสงค์มุ่งร้าย งั้นก็ได้ กลืนเจ้านี่ลงไปให้หมดสิ นอกจากฉันจะเชื่อแกแล้ว ฉันจะยอมคุกเข่าขอโทษแกด้วย! ฉันจะยอมให้ร้านวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์เทคโอเวอร์ตลาดวัตถุโบราณทั้งหมดของบัควู้ดไปได้เลย!”“แต่ถ้า
ชื่อที่พูดออกมาทำให้ฮาร์วีย์สับสนเฟย์ ก็อดดาร์ดเป็นบุคคลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในฮ่องกง อันที่จริง ทั้งในสังคมของประเทศจีนเลยต่างหากว่ากันว่าเธอเป็นคนที่เจ้าแผนการอย่างถึงที่สุด ช่วงที่เธอยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เธอได้พบกับเศรษฐีวัย 80 บนเครื่องบินชั้นเฟิสต์คลาสจากนั้นเธอก็แต่งงานเข้าตระกูลเศรษฐีคนนั้นตั้งแต่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ พอเธอเรียนจบ สามีวัย 80 ปีของเธอก็เสียชีวิตลง ส่งผลให้ทรัพย์สินจำนวนมากของเขาส่งต่อมาถึงมือเธอในกลุ่มสังคมวงในของชนชั้นปกครองที่ฮ่องกง เฟย์มีฉายาว่า ‘แม่ม่ายดำ’แม้ว่าเธอจะมีเล่ห์กลหรือแรงจูงใจก็ตาม แต่เธอก็มีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา เธอใช้ชีวิตที่สมบูรณ์อู้ฟู่อยู่ในฮ่องกง ลาสเวกัส และเซาท์ไลท์ ใบหน้าของเธอปรากฏบนนิตยสารเช่นกันไม่มีใครคิดว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ฮาร์วีย์เลิกคิ้วเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอาเวลเฟย์มีชื่อเสียงพอตัวด้านการประเมินคุณภาพวัตถุโบราณ และฉายาของเธอก็ฟังดูน่ากลัวใช้ได้ ตระกูลไนส์เวลล์ย่อมไม่อยากไปทำให้คนอย่างเธอโกรธแน่แต่เธอกลับมากล่าวถือหางเข้าข้างร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์
เฟย์ส่งรอยยิ้มหยอกล้อให้อาเวล“เอาล่ะ ฉันจะเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน นายเคยได้ยินหรือนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง ใช่ไหมล่ะ?”“ต่อให้ไม่เคย ก็ต้องเคยได้ยินเรื่องตระกูลใหญ่ทั้งสี่ในฮ่องกงมาบ้างแหละเนอะ?”เฟย์ทำสีหน้าของคนมั่นใจว่าตัวเองกำลังชนะ“ตระกูลใหญ่ทั้งสี่น่ะมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกัน คุณหนูทั้งสี่แห่งฮ่องกงก็สนิทกันเหมือนพี่น้องเลยล่ะ!”“นายต้องเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้วสิ”สีหน้าของกลุ่มคนที่ฟังอยู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นฮ่องกงไม่ใช่สถานที่ที่ความเจริญห่างจากบัควู้ดมาก มันเป็นเมืองใหญ่นานาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับโวลซิ่งและมอร์ดูที่ฮ่องกง ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ยืนอยู่จุดสูงสุดของเมืองข่าวลือว่ากันว่า แม้ในแต่ละตระกูลจะมีปากเสียงกัน แต่ถ้าหากเกิดศึกเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมจะร่วมมือกันได้ทุกเมื่อตระกูลใหญ่ตระกูลเดียวอาจจะไม่น่ากลัวมากแต่ถ้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลของฮ่องกงรวมพลังกัน ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่สิบตระกูลในประเทศ H ก็ต้องกลัวสำหรับเมืองอย่างบัควู้ดที่อยู่ใกล้กับฮ่องกงแล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกงรวมกันนั้นเป็นอะไรที่มหาศาลมากตอ
”จากที่คุณพูดมา เจ้าหญิงก็อดดาร์ด คุณกำลังบอกว่าผมไม่สามารถหาความยุติธรรมให้ตัวเองได้ หลังจากที่คุณพยายายามจะลอบสังหารเจ้าชายยอร์กกับตระกูลของผมอย่างนั้นเหรอ?”สีหน้าของอาเวลเย็นชาสนิทถ้าวันนี้มีแค่เขาคนเดียว เขาอาจจะยอมแพ้ไปแล้วก็ได้แต่ถ้ามีบุคคลในตำนานอย่างเจ้าชายยอร์กอยู่ข้าง ๆ แล้ว อาเวลจะต้องสั่นกลัวไปทำไม?!ไม่ว่านายน้อยทั้งสี่ของฮ่องกงจะทรงพลังแค่ไหน แต่ที่นี่มันเซาท์ไลท์ ที่นี่มันบัควู้ด ไม่ใช่ฮ่องกงดาร์เรนก้าวขึ้นมาข้างหน้า ใบหน้ายิ้มกว้าง“นายน้อยไนส์เวลล์ ยิ่งพวกเราคุยกัน ความจริงก็ยิ่งปรากฏนะครับ!”“ทุกคนที่นี่เขาก็เชี่ยวชาญงานสายนี้กันทั้งนั้น คุณก็ควรจะเข้าใจว่าการประเมินค่าวัตถุโบราณผิดไปมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา!”“ผมมองว่า ผมตัดสินค่าวัตถุนั้นผิดไป คุณก็เหมือนกัน!”“ตามกฎแล้ว คุณควรจะต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยซ้ำ”ดาร์เรนกอดอก พอมีการสนับสนุนของเฟย์แล้ว เขาก็ทำตัวหยิ่งยโสและไร้ศีลธรรมได้ตามใจอาเวลเหลืออด “นี่แกคิดว่าฉันจะไม่กล้าแตะต้องแกแค่เพราะว่าแกได้รับการสนับสนุนจากนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงเนี่ยนะ?!”“แกคิดว่าตระกูลไนส์เวลล์ทำงานสายนี้ได้ห่วยแตกนักหรือไง?
ฮาร์วีย์ยังใจเย็นอยู่ “ผมมันก็แค่แมลงตัวจิ๊บตัวจ้อย ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับว่าผมเป็นใคร”ดาร์เรนมองฮาร์วีย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็แอบใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพฮาร์วีย์ แน่นอนว่าเขากำลังหาคนที่จะมาสืบข้อมูลของฮาร์วีย์ได้ไม่นานนัก โทรศัพท์ของดาร์เรนก็ส่งเสียงดัง เขาเหลือบมองดูโทรศัพท์ชั่วครู่ ก่อนจะยื่นส่งให้เฟย์เฟย์ส่งรอยยิ้มดูมีความหมายมาให้ตอนที่เธอเหลือบมองดูเนื้อหาในโทรศัพท์ “อ้อ คุณเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดนี่เอง”“ได้ยินว่าฟอรั่มการเข้าถึงธุรกิจและการลงทุนที่คุณจัดการอยู่มันล้มเหลวนี่นา แล้วตอนนี้คุณก็มาทำงานกับอาเวลแล้วเหรอ? คุณเก่งมากเลยนะเนี่ย หาเงินกับทั้งรัฐบาล ทั้งพวกนักเลง!”“อ้อใช่ คุณยังเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านซิมเมอร์ด้วย ดูดเงินจากที่นั่นด้วยเหมือนกันนี่นา!”สายตาของเฟย์ที่จับจ้องฮาร์วีย์เต็มไปด้วยความดูหมิ่นผู้หญิงอย่างเธอมักจะนิยมชมชอบลูกชายหรือนายน้อยที่ร่ำรวยอยู่แล้วดังนั้นเธอจะไม่มีทางชายตามองผู้ชายที่ปีนบันไดสังคมด้วยการหวังพึ่งผู้หญิงและโชคหรอกแต่ไอ้เจ้าลูกเขยแต่งเข้าบ้านสถานะกระจ้อยร่อยที่เธอไม่สนใจแม้แต่น้อย กลับกล้ามายืนขวางทางเพื่อหยุดอาเวลและทำล