เฟย์ส่งรอยยิ้มหยอกล้อให้อาเวล“เอาล่ะ ฉันจะเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน นายเคยได้ยินหรือนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง ใช่ไหมล่ะ?”“ต่อให้ไม่เคย ก็ต้องเคยได้ยินเรื่องตระกูลใหญ่ทั้งสี่ในฮ่องกงมาบ้างแหละเนอะ?”เฟย์ทำสีหน้าของคนมั่นใจว่าตัวเองกำลังชนะ“ตระกูลใหญ่ทั้งสี่น่ะมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกัน คุณหนูทั้งสี่แห่งฮ่องกงก็สนิทกันเหมือนพี่น้องเลยล่ะ!”“นายต้องเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้วสิ”สีหน้าของกลุ่มคนที่ฟังอยู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นฮ่องกงไม่ใช่สถานที่ที่ความเจริญห่างจากบัควู้ดมาก มันเป็นเมืองใหญ่นานาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับโวลซิ่งและมอร์ดูที่ฮ่องกง ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ยืนอยู่จุดสูงสุดของเมืองข่าวลือว่ากันว่า แม้ในแต่ละตระกูลจะมีปากเสียงกัน แต่ถ้าหากเกิดศึกเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมจะร่วมมือกันได้ทุกเมื่อตระกูลใหญ่ตระกูลเดียวอาจจะไม่น่ากลัวมากแต่ถ้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลของฮ่องกงรวมพลังกัน ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่สิบตระกูลในประเทศ H ก็ต้องกลัวสำหรับเมืองอย่างบัควู้ดที่อยู่ใกล้กับฮ่องกงแล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกงรวมกันนั้นเป็นอะไรที่มหาศาลมากตอ
”จากที่คุณพูดมา เจ้าหญิงก็อดดาร์ด คุณกำลังบอกว่าผมไม่สามารถหาความยุติธรรมให้ตัวเองได้ หลังจากที่คุณพยายายามจะลอบสังหารเจ้าชายยอร์กกับตระกูลของผมอย่างนั้นเหรอ?”สีหน้าของอาเวลเย็นชาสนิทถ้าวันนี้มีแค่เขาคนเดียว เขาอาจจะยอมแพ้ไปแล้วก็ได้แต่ถ้ามีบุคคลในตำนานอย่างเจ้าชายยอร์กอยู่ข้าง ๆ แล้ว อาเวลจะต้องสั่นกลัวไปทำไม?!ไม่ว่านายน้อยทั้งสี่ของฮ่องกงจะทรงพลังแค่ไหน แต่ที่นี่มันเซาท์ไลท์ ที่นี่มันบัควู้ด ไม่ใช่ฮ่องกงดาร์เรนก้าวขึ้นมาข้างหน้า ใบหน้ายิ้มกว้าง“นายน้อยไนส์เวลล์ ยิ่งพวกเราคุยกัน ความจริงก็ยิ่งปรากฏนะครับ!”“ทุกคนที่นี่เขาก็เชี่ยวชาญงานสายนี้กันทั้งนั้น คุณก็ควรจะเข้าใจว่าการประเมินค่าวัตถุโบราณผิดไปมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา!”“ผมมองว่า ผมตัดสินค่าวัตถุนั้นผิดไป คุณก็เหมือนกัน!”“ตามกฎแล้ว คุณควรจะต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยซ้ำ”ดาร์เรนกอดอก พอมีการสนับสนุนของเฟย์แล้ว เขาก็ทำตัวหยิ่งยโสและไร้ศีลธรรมได้ตามใจอาเวลเหลืออด “นี่แกคิดว่าฉันจะไม่กล้าแตะต้องแกแค่เพราะว่าแกได้รับการสนับสนุนจากนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงเนี่ยนะ?!”“แกคิดว่าตระกูลไนส์เวลล์ทำงานสายนี้ได้ห่วยแตกนักหรือไง?
ฮาร์วีย์ยังใจเย็นอยู่ “ผมมันก็แค่แมลงตัวจิ๊บตัวจ้อย ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับว่าผมเป็นใคร”ดาร์เรนมองฮาร์วีย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็แอบใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพฮาร์วีย์ แน่นอนว่าเขากำลังหาคนที่จะมาสืบข้อมูลของฮาร์วีย์ได้ไม่นานนัก โทรศัพท์ของดาร์เรนก็ส่งเสียงดัง เขาเหลือบมองดูโทรศัพท์ชั่วครู่ ก่อนจะยื่นส่งให้เฟย์เฟย์ส่งรอยยิ้มดูมีความหมายมาให้ตอนที่เธอเหลือบมองดูเนื้อหาในโทรศัพท์ “อ้อ คุณเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดนี่เอง”“ได้ยินว่าฟอรั่มการเข้าถึงธุรกิจและการลงทุนที่คุณจัดการอยู่มันล้มเหลวนี่นา แล้วตอนนี้คุณก็มาทำงานกับอาเวลแล้วเหรอ? คุณเก่งมากเลยนะเนี่ย หาเงินกับทั้งรัฐบาล ทั้งพวกนักเลง!”“อ้อใช่ คุณยังเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านซิมเมอร์ด้วย ดูดเงินจากที่นั่นด้วยเหมือนกันนี่นา!”สายตาของเฟย์ที่จับจ้องฮาร์วีย์เต็มไปด้วยความดูหมิ่นผู้หญิงอย่างเธอมักจะนิยมชมชอบลูกชายหรือนายน้อยที่ร่ำรวยอยู่แล้วดังนั้นเธอจะไม่มีทางชายตามองผู้ชายที่ปีนบันไดสังคมด้วยการหวังพึ่งผู้หญิงและโชคหรอกแต่ไอ้เจ้าลูกเขยแต่งเข้าบ้านสถานะกระจ้อยร่อยที่เธอไม่สนใจแม้แต่น้อย กลับกล้ามายืนขวางทางเพื่อหยุดอาเวลและทำล
ดาร์เรนชะงักอีกครั้งพอได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ จากนั้นก็ระเบิดหัวเราะออกมา“อะไรกัน? วิธีจัดการพวกเราด้วยเหตุผลที่นายว่าก็คือการซื้อของในร้านเราทั้งหมดเนี่ยนะ?”“นี่จะมาระบายอารมณ์หรือแค่แจกเงินให้พวกเรากันแน่?”ก่อนหน้านี้ เฟย์ก็คาดหวังกับแผนต่อไปของฮาร์วีย์เช่นกัน พอได้ยินดังนั้นเธอก็อดขำไม่ได้ เธอหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยแววตาเหยียดหยาม“ระบายอารมณ์ด้วยการซื้อของเนี่ยนะ? ตลกนักเหรอ?”‘ของในร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์มีมากมายก็จริง แต่ไม่มีสักชิ้นเลยที่เป็นของโบราณมีค่าอย่างแท้จริง’‘ต่อให้ฮาร์วีย์สามารถเลือกวัตถุโบราณที่มีค่าจริง ๆ ได้สักสองสามชิ้นจากการใช้การสังเกตอันหลักแหลมของเขา ร้านก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากอยู่ดี’‘อีกอย่าง การหยิบวัตถุโบราณไปจริง ๆ จะถือเป็นการโฆษณาร้านฟรี ๆ เสียด้วยซ้ำ’‘ถ้าฮาร์วีย์หยิบของเก่าออกไป อันนั้นก็เป็นปัญหาของเขาแล้วล่ะ’‘แต่เขายังดูหนุ่มมาก ๆ อยู่เลย เขามีความสามารถด้านการประเมินวัตถุโบราณจริง ๆ เหรอ?’เฟย์ไม่อยากเชื่อ นักประเมินวัตถุโบราณต้องสั่งสมประสบการณ์มากมายหลายปี คนปกติธรรมดาแยกไม่ออกระหว่างของจำลองคุณภาพสูงกับต่ำด้วยซ้ำ อย่าว่า
ไม่มีใครเคยเห็นคนซื้อวัตถุโบราณเหมือนผู้ชายคนนี้มากอนคนทั่วไปปกติเขาจะซื้อวัตถุโบราณหลังจากค่อย ๆ ศึกษาแล้วก็ประเมินมันไม่ใช่เหรอ?ถ้าพูดในทางปกติแล้ว ผู้ซื้อวัตถุโบราณมักจะมีความระมัดระวังสูงมากเพราะหากพวกเขาพลาด ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะมีมากมายเหนือจินตนาการคนที่ซื้อวัตถุโบราณด้วยท่าทางแบบฮาร์วีย์มีแค่พวกมหาเศรษฐี หรือไม่ก็ไอ้โง่สุดโต่งเฟย์มองสถานการณ์ด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามที่มุมปาก พอเธอเห็นภาพเต็ม ๆ รอยยิ้มเหยียดหยามที่ว่าก็ยิ้มออกมาเต็มปากฮาร์วีย์ซื้อวัตถุโบราณมูลค่าหนึ่งร้อยสิบห้าล้านดอลลาร์ไปแล้ว เรียกได้ว่าวันนี้ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ได้กำไรอื้อซ่ากันเลยทีเดียวถ้าพวกเขาโฆษณาให้ร้านอย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็ ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์จะมีชื่อเสียงได้ด้วยซ้ำฮาร์วีย์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อพังร้านพวกเธอด้วยซ้ำ! เขามาที่นี่เพื่อมาทำประโยชน์ให้ต่างหาก!ไม่นานนัก ฮาร์วีย์ก็หยุดซื้อของตอนนี้เองที่เขามีอัญมณีดิบราวห้าสิบเม็ดอยู่กับตัว“กะเทาะแต่ละเม็ดให้แตกเลย”พอฮาร์วีย์โบกมือ ผู้เชี่ยวชาญการกะเทาะอัญมณีแต่ละคนก็เริ่มทำงานพร้อม ๆ กันเสียงเครื่องจักรดังอื้ออึ
ฮาร์วีย์ ยอร์กยังยืนอยู่ตรงกลางร้านอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณและการประเมินสมบัติจากทั่วโลกที่อยู่ตรงนั้นต้องสั่นเทาไปตาม ๆ กันคนธรรมดาทำเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงกัน?นักประเมินบางคนที่ออกตัวว่าเป็นคนมีความสามารถกลับรู้สึกว่าตัวเองถูกดูหมิ่นเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษมีเพียงสีหน้าของเฟย์ ก็อดดาร์ดและดาร์เรน ฟลินน์ที่บิดเบี้ยวเสียจนดูไม่ได้ ราวกับว่าพวกเขาเป็นฝ่ายทำพลาดเสียเองก็พวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะทำได้ขนาดนี้นี่นา!กวาดขุมทรัพย์ไปอยู่ในการครอบครองของตัวเองได้มากมายถึงพวกเขาจะได้เงินมามากพอ แต่ก็เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับกำไรที่ฮาร์วีย์ได้ไปในการซื้อครั้งนี้ฮาร์วีย์ค่อย ๆ ยกมือขึ้น เขาทำท่าทางบอกให้ฝูงชนเงียบเสียง จากนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงต่ำ “ทุกคนครับ ผมขอบอกอะไรสักอย่างให้ฟัง ผมคัดเลือกวัตถุโบราณทั้งหมดเหล่านี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์มีความบกพร่องมากแค่ไหน”“ของที่ผมไม่ได้ซื้อ ถ้าไม่เป็นขยะ ก็ไม่คุ้มค่ากับราคาที่ตั้งโชว์ไว้”“ผมว่าผมไม่ต้องบอกทุกคนก็คงจะรู้นะ
ตอนนี้อาเวล ไนส์เวลล์ถูกฮาร์วีย์ชักจูงไปเรียบร้อยเขารีบนำวัตถุโบราณที่ฮาร์วีย์เลือกไว้มาทันที อาเวลโน้มตัวไปข้างหน้า เอ่ยถามว่า “พี่ยอร์ก พี่วางแผนจะทำอะไรกันแน่ครับ?”ฮาร์วีย์มองแจกันกระเบื้องในมือ เขาชี้ไปที่ฉลากของแจกันด้วยท่าทีไม่ยินดียินร้ายพร้อมพูดว่า “แจกันกระเบื้องของราชวงศ์ฉิง มูลค่าเจ็ดสิบหกดอลลาร์ ก็เป็นของที่ดี แต่ว่า…”เพล้ง!มีเสียงของตกแตกเพราะฮาร์วีย์ปาแจกันกระเบื้องนั้นลงพื้นทันทีพอทุกคนเห็นภาพนั้นเข้าต่างก็ชะงักนิด ๆ ไปตาม ๆ กัน นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่?ฮาร์วีย์สุ่มหยิบชิ้นส่วนฐานกลมของแจกันที่แตกขึ้นมาแล้วเอ่ยเบา ๆ ว่า “ตัวแจกันกระเบื้องเองไม่ได้มีค่าอะไร สิ่งที่มีค่าคือสิ่งที่อยู่ข้างในต่างหาก”ระหว่างที่พูด ฮาร์วีย์ก็พังชิ้นส่วนฐานกลม ๆ นั้นเป็นสองซีกทันใดนั้นเอง ก็มีช่องว่างปรากฏขึ้นใต้ฐานกลมของแจกัน ในนั้นมีอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนหยกซ่อนไว้อยู่ แต่มันก็ไม่ใช่หยกเสียทีเดียว“ที่ปรึกษายอร์ก นั่นมัน…”ทุกคนต่างก็สงสัยทุกคนพอจะมองออกว่านี่เป็นของดี แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรฮาร์วีย์พูดขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ “สิ่งนี้คือหยกพอร์ซเลนในตำนาน ในสมัย
เฟย์ ก็อดดาร์ดใบหน้าเหยเก และตอนนี้สีหน้าของเธอแย่เหลือทนวัตถุโบราณของฟลินน์หมดทางไปต่อแล้ว ซึ่งหมายความว่านายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงจะต้องสูญเงินไปมากกว่าพันล้านเหรียญขณะคิดถึงสิ่งนี้ เฟย์ตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ จากนั้นเธอก็จ้องไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยแววตาขมขื่นและพูดว่า “นายยอร์กเรื่องนี้มันยังไม่จบ คุณจะต้องชดใช้”ฮาร์วีย์ซึ่งกำลังจะหันหลังกลับและจากไปถึงกับชงัก ก่อนตอบกลับไป “พูดอีกทีสิ?”“ฉันบอกว่า เรื่องนี้มันยังไม่จบ ไม่ใช่แค่คุณที่ต้องจ่าย แต่รวมไปถึงภรรยา และครอบครัวของคุณที่จะต้องอยู่ในบัญชีแค้นของเราด้วย ฉันสาบานเลยว่าต่อจากนี้ไปพวกคุณจะต้องอยูาอย่างไม่มีความสุข และไม่ได้เจอวามสงบ…”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ตบเธอก่อนที่เธอจะพูดจบด้วยซ้ำเฟย์มีสีหน้าขมขื่น เธอกระเด็นลอยไปกระแทกชั้นวางของโบราณ จนเป็นเหตุให้โบราณวัตถุจำนวนมากหล่นแตกเป็นเสี่ยง ๆเฟย์รู้สึกงุนงงหลังจากถูกตบ ประกอบกับรอยฝ่ามือสีแดงบนใบหน้าขซึ่งทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย ด้วยฐานะของเธอแล้ว เธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าตบเธอจริง ๆมันสำคัญที่ต้องเข้าใจว่าเธอคือแม่ม่ายดำ เจ้าหญิงเฟย์!มีนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงและสี