ในเวลาต่อมา ชาร์ลีและรูเบิร์ตก็ได้จากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับคนอื่น ๆ งานเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างก็ตัวสั่นเทาไปหมดขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความกลัว พวกเขาไม่ใช่คนโง่เง่า ฮาร์วีย์สามารถจัดการกับคนจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้อย่างง่ายดาย และในเมื่อเป็นเช่นนั้นเพียงแค่คำพูดของเขามันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขาสูญเสียทุกอย่าง ฮาร์วีย์ยิ้มและมองไปที่ซัค น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก “ฉันได้ยินมาว่านายทำตัวนอกลู่นอกทางอยู่บ่อย ๆ เพื่อก่อความวุ่นวายในสถานที่ทำงานของภรรยาของฉันเหรอ คุณซัค?” “นั่นเป็นโครงการปรับปรุงเก่าสามโครงการที่ได้รับอนุมัติโดยโยเอลเอง แต่นายก็ยังกล้าหาญที่จะก่อความวุ่นวายอีกเหรอ? นายกล้าที่จะหยุดโครงการจริง ๆ เหรอ?” เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าของซัค เขารู้ดีว่าชายตรงหน้าของเขานั้นมีสถานะที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ หนำซ้ำเขายังรู้สึกอยากที่จะคุกเข่าลงในตอนนี้เสียด้วยซ้ำ แต่ในฐานะข้าราชการ เขาเข้าใจดี ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถคุกเข่าได้! เขาต้องต่อสู้ด้วยเหตุและผลถึงแม้ว่าเขาจะต้องใช้ความพยายามเจียนตายก็ตาม ไม่อย่างนั้นชีวิตขอ
หลังจากนั้นไม่นาน รถคันหนึ่งก็มาจอดที่หน้าทางเข้าโรงแรมเวสทิน ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมลงจากรถด้วยสีหน้าอันเศร้าหมอง เมื่อซัคเห็นชายคนนั้น เขาก็เปี่ยมช้นไปด้วยความสุข เขารีบรุดไปหาชายคนนั้นทันที "พ่อ! ในที่สุดพ่อก็มาถึงแล้ว! พ่อต้องช่วยผมทวงคืนความยุติธรรมนะ!” ริชาร์ดพ่อของซัคนั้นฟุ้งไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์อย่างแรง เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งดื่มมา เขามองไปที่ซัคแล้วถามว่า “มันเป็นใครล่ะ?! มีคนกล้าดูหมิ่นฉันในบัควู้ดแห่งนี้ได้อย่างไร?!” ซัคยังคงสงบนิ่ง เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์และกระซิบว่า “คนนั้นแหละพ่อ แต่ตัวตนของเขาดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว” "พิเศษเหรอ?" ริชาร์ดมองสำรวจฮาร์วีย์แล้วเสียงอันสุดแสนจะเย้ยหยันก็ออกมาจากแกของเขา “ฉันทำงานให้กับรัฐบาลมาหลายปีแล้ว ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่อายุน้อยเท่านี้มาก่อนในรัฐบาล!” “ไม่ว่าจะมีสถานะสูงเฉียดฟ้าเพียงใด พวกเขาล้วนแล้วเป็นขยะเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของรัฐ!” ซัคเริ่มระเบิดความกล้าอีกครั้งหลังจากได้ยินคำพูดของพ่อ ในตอนแรกเขาสันนิษฐานว่าฮาร์วีย์คงเป็นเพียงแค่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลบัควู้ด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่รู้สึกสะทกส
ตูมมมม! คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงบนตัวซัค มันทำให้เขาถึงกับแขนขาอ่อนแรงลง ริชาร์ดเองก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาถึงขั้นสร่างเมาเลยทีเดียว สองพ่อลูกจ้องมองเวสลีย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ซัคถูกไล่ออก… โดนไล่ออกง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?! ซัคทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเซียว ไม่นานริชาร์ดก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาคำรามอย่างเย็นชา “เวสลีย์ อย่าลืมสิว่าพวกเรามีบุคคลที่มีอำนาจคอยสนับสนุนพวกเราตระกูลบราฟฟ์อยู่!” “คุณจะทนรับกับผลที่จะตามมาของการไล่ลูกชายฉันออกจากราชการง่าย ๆ แบบนี้ได้ไหม?” ในทางกลับกัน เวสลีย์จ้องมองกลับไปที่ริชาร์ดด้วยสายตาอันเชือดเฉือน “นายมีบุคคลแข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังหลังนายเหรอ? ริชาร์ด ฉันจะเตือนให้เอาบุญก็แล้วกัน อย่าพูดชื่อพวกเขาออกมา! ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะต้องตายไปพร้อม ๆ กับนายนั่นแหละ!” “เวสลีย์! นายก็เป็นแค่ผู้บัญชาการลำดับหนึ่งของระบบการเคหะของบัควู้ดเท่านั้น ตำแหน่งของนายเทียบเท่ากับของฉัน! กล้าดียังไงถึงมาขู่ฉัน?!” ริชาร์ดโกรธจัดจนฟิวส์ขาด “ขู่นาย?” เวสลีย์หัวเราะอย่างเย็นชา เขากดเบอร์โทรหาหมายเลขหนึ่งทันทีและพูดด้วยน้ำเสีย
เมื่อเห็นว่าซัคเกือบที่จะขาดใจตายคามือพ่อของตัวเองแล้ว เวสลีย์ก็โบกมือ “เอาพวกมันออกไป! พวกเขาต้องได้รับโทษตามกฎหมาย! ต้องไม่มาตายที่นี่!” ตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าจับกุมสองพ่อลูกและพาออกไป แน่นอนว่าเวสลีย์ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ก่อนที่จะมาที่นี่แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน เขาและคนของเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุไป ผู้คนที่เหลือมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างงุนงง ที่ปรึกษายอร์กเหรอ?! ตัวตนของชายคนนี้น่ากลัวมาก! แม้แต่แมนดี้เองก็ยังตกใจกับเรื่องของฮาร์วีย์ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสามีของเธอจะกลายมาเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด! ถึงแม้จะไม่มีเงินเดือนสำหรับตำแหน่งนี้ แต่... อำนาจที่เขามีในฐานะที่ปรึกษานั้นมันยิ่งใหญ่มาก! อีกทั้งฮาร์วีย์ยังเป็นผู้รับผิดชอบฟอรัมการลงทุนและการมีส่วนร่วมทางธุรกิจอีกด้วย ชะตากรรมของธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งอยู่ในกำมือของเขา ครอบครัวซิมเมอร์… พวกเขามีผู้ชายที่มีอำนาจมากขนาดนี้ในครอบครัวจริง ๆ เหรอเนี่ย! ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “เชิญนั่งก่อนทุกคน นี่ควรจะเป็นการประชุมไม่ใช่เหรอ?” ฝูงชนทั้งหมดนั่งลงแต่สีหน้าของพวกเขาก็ยังคงดูประหลาดใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดตอน
ณ เดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์ แมนดี้นั่งตรงข้ามกับฮาร์วีย์ ขณะที่ไซม่อน ลิเลียน และซีนเธียร์นั่งอยู่ทางด้านข้าง ทั้งครอบครัวมีท่าทางที่ค่อนข้างดูกังวล นอกเหนือจากความวิตกกังวลแล้ว ทั้งไซม่อนและลิเลียนเองก็รู้สึกมีความสุขมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน แมนดี้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองตาฮาร์วีย์ “ที่รัก คุณจะช่วยเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฉันฟังได้ไหมคะ? คุณมาอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไร? ฮาร์วีย์ยิ้ม “โอ้ที่รัก ผมลืมบอกคุณไป” “หลังจากออกจากสกาย คอร์ปอเรชั่น ผมก็ได้งานใหม่” “ตอนนี้ผมทำงานเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดอยู่” “ผมรับผิดชอบฟอรัมการลงทุนและยังมีส่วนร่วมในด้านธุรกิจด้วย” จริงเหรอ! “ที่ปรึกษารัฐบาลเลยเหรอ?!” ไซม่อนอึ้งจนอ้าปากค้าง “ฮาร์วีย์! นายไม่ได้มีไข้อยู่ใช่ไหม? นายเนี่ยนะเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด! อย่าบอกนะว่านายคือที่ปรึกษายอร์กในตำนาน?!” ลิเลียนเอ่ยถามอย่างลังเลว่า “แมนดี้ เรื่องล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย แม้ว่าสถานะของที่ปรึกษายอร์กจะไม่สูงส่งเท่าเจ้าชายยอร์กแต่มันก็ยังดูไม่มีน้ำหนักพอที่จะเชื่อได้เลย!” “ปกติเจ้าฮาร์วีย์ชอบที่จะก่อเรื่องพูดจาโอ้อว
ในวิลล่าสุดหรุที่บัควู้ด หัวหน้าครอบครัวจากตระกูลฌองของมอร์ดูหลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ท็อดด์ ฌองถือแก้วในมือและมองดูเหล่าเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นไม่นาน ท็อดด์ก็วางเอกสารในมือลงและกระซิบว่า “ผู้อาวุโส ได้ข่าวมาว่าพวกเขารู้แล้วว่าใครเป็นผู้สนับสนุนฮาร์วีย์ ยอร์ก!” “ปรากฎว่าเป็นโยเอล เกรฮัมผู้บัญชาการสูงสุดของบัควู้ดที่เป็นผู้สนับสนุนตัวจริงของเขา!” “และปัจจุบันเขายังเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดอีกด้วย เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่ทรงพลังเป็นอันดับสองของที่นั่นเลยก็ว่าได้!” “ทรงพลังและมีอิทธิพลมาก!” ทอดด์แสดงความหวาดกลัวออกมาทางสีหน้าขณะที่กำลังพูด ถ้าพวกเขาอยู่ในมอร์ดู ตระกูลฌองก็คงจะไม่หวาดกลัว อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือบัควู้ด แม้ว่าตระกูลฌองจะเป็นกองกำลังที่ทรงพลังจากภายนอก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะกองกำลังท้องถิ่นได้! ทอดด์เก็บเอกสารหลังจากที่อ่านมัมาได้สักพัก เขาใช้มือขวาตบไปที่เท้าแขนของเก้าอี้และพูดขึ้นว่า “แม้ว่าเราจะสูญเสียบริษัทมอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปไป แต่ในที่สุดเราก็ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของมันจากเรื่องนี้!” “ดังคำกล่าวที่ว่า ‘การรู้ว่าเรากำลังสู้ก
ทหารชั้นสูงทั้งสี่คอยต่อสู้อยู่เคียงบ่าเคียงใหล่กับนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ตั้งแต่ยังอยู่ในสนามรบ และพวกเขาก็อยู่กับเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา การให้แบรดลีย์นำทหารชั้นสูงทั้งสามไปด้วยเป็นการบ่งชี้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์มากเพียงใด หลังจากที่แบรดลีย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ให้เหตุผลว่า “นายท่านครับ ทำไมท่านถึงไม่ให้ผมพาทหารชั้นสูงทั้งสี่ไปเลยล่ะครับ? ในกรณีนี้สิ่งต่าง ๆ ก็อาจจะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม” นายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ “ฉันยังไม่ได้บอกคุณถึงที่มาของทหารชั้นสูงทั้งสี่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉันเลย ถ้าอย่างนั้นฉันใช้โอกาสนี้เพื่อแนะนำให้คุณได้รู้จักในวันนี้เลยก็แล้วกัน” “ทหารชั้นสูงลำดับที่สอง บาห์น เขาเป็นนักสู้จากประเทศไทย เขาได้รับการฝึกฝนมาพิเศษด้านมวยไทยจากประเทศไทยตั้งแต่อายุยังน้อย เขาไร้เทียมทานในการต่อสู้ระยะประชิดและก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งตำนานของมวยไทย” “ทหารชั้นสูงลำดับที่สาม ฟลอยด์ เขาเป็นปรมาจารย์คาราเต้จากประเทศในหมู่เกาะ เขาให้ความสำคัญกับทุก ๆ การเคลื่อนไหวในการฝึกคาราเต้ของเขา” “ทหารชั้นสูงลำด
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแบรดลีย์โค้งคำนับและพูดขึ้น “อย่างที่รู้ ๆ กัน พ่อบุญธรรมเป็นคนรอบคอบอย่างที่สุด ผมแค่ต้องการจบทุกอย่างในพริบตาเดียว โดยไม่สนว่าจะมีผลกระทบร้ายแรงตามมารึเปล่า”!“พ่อบุญธรรม ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าสารวัตรใหญ่อยู่ในบัควู้ด ผมจะจัดการอย่างระมัดระวังแน่นอนครับ”นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์พูดอย่างเฉยชา “จำไว้ให้ดีล่ะ ว่าแม้เราจะแข็งแกร่ง แต่เราก็ไม่ใช่คนในประเทศนี้ เวลาจะทำอะไรก็ระวังอย่าทำให้เด่นเกินไปนัก ทำงานให้หนัก พูดให้น้อย”แบรดลีย์โค้งคำนับแล้วจากไปเขาไม่มีปัญหากับการที่นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ดูระแวดระวังเช่นนี้ ทหารระดับสูงผู้นี้ซึ่งอยู่ในสนามรบมาหลายปี ทุ่มเทอย่างเต็มที่อยู่เสมอ แม้ในยามที่ต้องต่อสู้กับศัตรูกระจอก ๆ หรือในยามที่ต้องจัดการกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆหลังจากที่แบรดลีย์จากไป ชายหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากเงามืดจากด้านหลังห้องโถงราชาแห่งอาวุธลำดับที่หนึ่ง อีแวนเดอร์!อีแวนเดอร์กระซิบ “นายท่านลำดับที่สี่ ผมเคยได้ยินเรื่องสารวัตรใหญ่มาบ้างครับ ว่ากันว่าสี่เทพสงครามที่ติดตามเขาเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ผมอยากไปล