ตูมมมม! คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงบนตัวซัค มันทำให้เขาถึงกับแขนขาอ่อนแรงลง ริชาร์ดเองก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาถึงขั้นสร่างเมาเลยทีเดียว สองพ่อลูกจ้องมองเวสลีย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ซัคถูกไล่ออก… โดนไล่ออกง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?! ซัคทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเซียว ไม่นานริชาร์ดก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาคำรามอย่างเย็นชา “เวสลีย์ อย่าลืมสิว่าพวกเรามีบุคคลที่มีอำนาจคอยสนับสนุนพวกเราตระกูลบราฟฟ์อยู่!” “คุณจะทนรับกับผลที่จะตามมาของการไล่ลูกชายฉันออกจากราชการง่าย ๆ แบบนี้ได้ไหม?” ในทางกลับกัน เวสลีย์จ้องมองกลับไปที่ริชาร์ดด้วยสายตาอันเชือดเฉือน “นายมีบุคคลแข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังหลังนายเหรอ? ริชาร์ด ฉันจะเตือนให้เอาบุญก็แล้วกัน อย่าพูดชื่อพวกเขาออกมา! ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะต้องตายไปพร้อม ๆ กับนายนั่นแหละ!” “เวสลีย์! นายก็เป็นแค่ผู้บัญชาการลำดับหนึ่งของระบบการเคหะของบัควู้ดเท่านั้น ตำแหน่งของนายเทียบเท่ากับของฉัน! กล้าดียังไงถึงมาขู่ฉัน?!” ริชาร์ดโกรธจัดจนฟิวส์ขาด “ขู่นาย?” เวสลีย์หัวเราะอย่างเย็นชา เขากดเบอร์โทรหาหมายเลขหนึ่งทันทีและพูดด้วยน้ำเสีย
เมื่อเห็นว่าซัคเกือบที่จะขาดใจตายคามือพ่อของตัวเองแล้ว เวสลีย์ก็โบกมือ “เอาพวกมันออกไป! พวกเขาต้องได้รับโทษตามกฎหมาย! ต้องไม่มาตายที่นี่!” ตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าจับกุมสองพ่อลูกและพาออกไป แน่นอนว่าเวสลีย์ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ก่อนที่จะมาที่นี่แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน เขาและคนของเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุไป ผู้คนที่เหลือมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างงุนงง ที่ปรึกษายอร์กเหรอ?! ตัวตนของชายคนนี้น่ากลัวมาก! แม้แต่แมนดี้เองก็ยังตกใจกับเรื่องของฮาร์วีย์ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสามีของเธอจะกลายมาเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด! ถึงแม้จะไม่มีเงินเดือนสำหรับตำแหน่งนี้ แต่... อำนาจที่เขามีในฐานะที่ปรึกษานั้นมันยิ่งใหญ่มาก! อีกทั้งฮาร์วีย์ยังเป็นผู้รับผิดชอบฟอรัมการลงทุนและการมีส่วนร่วมทางธุรกิจอีกด้วย ชะตากรรมของธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งอยู่ในกำมือของเขา ครอบครัวซิมเมอร์… พวกเขามีผู้ชายที่มีอำนาจมากขนาดนี้ในครอบครัวจริง ๆ เหรอเนี่ย! ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “เชิญนั่งก่อนทุกคน นี่ควรจะเป็นการประชุมไม่ใช่เหรอ?” ฝูงชนทั้งหมดนั่งลงแต่สีหน้าของพวกเขาก็ยังคงดูประหลาดใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดตอน
ณ เดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์ แมนดี้นั่งตรงข้ามกับฮาร์วีย์ ขณะที่ไซม่อน ลิเลียน และซีนเธียร์นั่งอยู่ทางด้านข้าง ทั้งครอบครัวมีท่าทางที่ค่อนข้างดูกังวล นอกเหนือจากความวิตกกังวลแล้ว ทั้งไซม่อนและลิเลียนเองก็รู้สึกมีความสุขมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน แมนดี้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองตาฮาร์วีย์ “ที่รัก คุณจะช่วยเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฉันฟังได้ไหมคะ? คุณมาอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไร? ฮาร์วีย์ยิ้ม “โอ้ที่รัก ผมลืมบอกคุณไป” “หลังจากออกจากสกาย คอร์ปอเรชั่น ผมก็ได้งานใหม่” “ตอนนี้ผมทำงานเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดอยู่” “ผมรับผิดชอบฟอรัมการลงทุนและยังมีส่วนร่วมในด้านธุรกิจด้วย” จริงเหรอ! “ที่ปรึกษารัฐบาลเลยเหรอ?!” ไซม่อนอึ้งจนอ้าปากค้าง “ฮาร์วีย์! นายไม่ได้มีไข้อยู่ใช่ไหม? นายเนี่ยนะเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด! อย่าบอกนะว่านายคือที่ปรึกษายอร์กในตำนาน?!” ลิเลียนเอ่ยถามอย่างลังเลว่า “แมนดี้ เรื่องล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย แม้ว่าสถานะของที่ปรึกษายอร์กจะไม่สูงส่งเท่าเจ้าชายยอร์กแต่มันก็ยังดูไม่มีน้ำหนักพอที่จะเชื่อได้เลย!” “ปกติเจ้าฮาร์วีย์ชอบที่จะก่อเรื่องพูดจาโอ้อว
ในวิลล่าสุดหรุที่บัควู้ด หัวหน้าครอบครัวจากตระกูลฌองของมอร์ดูหลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ท็อดด์ ฌองถือแก้วในมือและมองดูเหล่าเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นไม่นาน ท็อดด์ก็วางเอกสารในมือลงและกระซิบว่า “ผู้อาวุโส ได้ข่าวมาว่าพวกเขารู้แล้วว่าใครเป็นผู้สนับสนุนฮาร์วีย์ ยอร์ก!” “ปรากฎว่าเป็นโยเอล เกรฮัมผู้บัญชาการสูงสุดของบัควู้ดที่เป็นผู้สนับสนุนตัวจริงของเขา!” “และปัจจุบันเขายังเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดอีกด้วย เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่ทรงพลังเป็นอันดับสองของที่นั่นเลยก็ว่าได้!” “ทรงพลังและมีอิทธิพลมาก!” ทอดด์แสดงความหวาดกลัวออกมาทางสีหน้าขณะที่กำลังพูด ถ้าพวกเขาอยู่ในมอร์ดู ตระกูลฌองก็คงจะไม่หวาดกลัว อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือบัควู้ด แม้ว่าตระกูลฌองจะเป็นกองกำลังที่ทรงพลังจากภายนอก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะกองกำลังท้องถิ่นได้! ทอดด์เก็บเอกสารหลังจากที่อ่านมัมาได้สักพัก เขาใช้มือขวาตบไปที่เท้าแขนของเก้าอี้และพูดขึ้นว่า “แม้ว่าเราจะสูญเสียบริษัทมอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปไป แต่ในที่สุดเราก็ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของมันจากเรื่องนี้!” “ดังคำกล่าวที่ว่า ‘การรู้ว่าเรากำลังสู้ก
ทหารชั้นสูงทั้งสี่คอยต่อสู้อยู่เคียงบ่าเคียงใหล่กับนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ตั้งแต่ยังอยู่ในสนามรบ และพวกเขาก็อยู่กับเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา การให้แบรดลีย์นำทหารชั้นสูงทั้งสามไปด้วยเป็นการบ่งชี้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์มากเพียงใด หลังจากที่แบรดลีย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ให้เหตุผลว่า “นายท่านครับ ทำไมท่านถึงไม่ให้ผมพาทหารชั้นสูงทั้งสี่ไปเลยล่ะครับ? ในกรณีนี้สิ่งต่าง ๆ ก็อาจจะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม” นายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ “ฉันยังไม่ได้บอกคุณถึงที่มาของทหารชั้นสูงทั้งสี่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉันเลย ถ้าอย่างนั้นฉันใช้โอกาสนี้เพื่อแนะนำให้คุณได้รู้จักในวันนี้เลยก็แล้วกัน” “ทหารชั้นสูงลำดับที่สอง บาห์น เขาเป็นนักสู้จากประเทศไทย เขาได้รับการฝึกฝนมาพิเศษด้านมวยไทยจากประเทศไทยตั้งแต่อายุยังน้อย เขาไร้เทียมทานในการต่อสู้ระยะประชิดและก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งตำนานของมวยไทย” “ทหารชั้นสูงลำดับที่สาม ฟลอยด์ เขาเป็นปรมาจารย์คาราเต้จากประเทศในหมู่เกาะ เขาให้ความสำคัญกับทุก ๆ การเคลื่อนไหวในการฝึกคาราเต้ของเขา” “ทหารชั้นสูงลำด
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแบรดลีย์โค้งคำนับและพูดขึ้น “อย่างที่รู้ ๆ กัน พ่อบุญธรรมเป็นคนรอบคอบอย่างที่สุด ผมแค่ต้องการจบทุกอย่างในพริบตาเดียว โดยไม่สนว่าจะมีผลกระทบร้ายแรงตามมารึเปล่า”!“พ่อบุญธรรม ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าสารวัตรใหญ่อยู่ในบัควู้ด ผมจะจัดการอย่างระมัดระวังแน่นอนครับ”นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์พูดอย่างเฉยชา “จำไว้ให้ดีล่ะ ว่าแม้เราจะแข็งแกร่ง แต่เราก็ไม่ใช่คนในประเทศนี้ เวลาจะทำอะไรก็ระวังอย่าทำให้เด่นเกินไปนัก ทำงานให้หนัก พูดให้น้อย”แบรดลีย์โค้งคำนับแล้วจากไปเขาไม่มีปัญหากับการที่นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ดูระแวดระวังเช่นนี้ ทหารระดับสูงผู้นี้ซึ่งอยู่ในสนามรบมาหลายปี ทุ่มเทอย่างเต็มที่อยู่เสมอ แม้ในยามที่ต้องต่อสู้กับศัตรูกระจอก ๆ หรือในยามที่ต้องจัดการกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆหลังจากที่แบรดลีย์จากไป ชายหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากเงามืดจากด้านหลังห้องโถงราชาแห่งอาวุธลำดับที่หนึ่ง อีแวนเดอร์!อีแวนเดอร์กระซิบ “นายท่านลำดับที่สี่ ผมเคยได้ยินเรื่องสารวัตรใหญ่มาบ้างครับ ว่ากันว่าสี่เทพสงครามที่ติดตามเขาเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ผมอยากไปล
ฟิล เยตส์ยิ้มและพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าตระกูลไนส์เวลล์ เป็นตระกูลชั้นสูงในบัควู้ดซึ่งเข้าข้างสกายคอร์ปอเรชั่น และฮาร์วีย์ ยอร์กมาโดยตลอด!”“คุณไนส์เวลล์ผู้แสนเย็นชาคนนั้นมีเรื่องกับฮาร์วีย์นิดหน่อยน่ะสิ”“ทำไมเราไม่ไปเจอเขาแบบตัวต่อตัวเลยล่ะ เราไปที่ไนส์เวลล์ก่อนเป็นไง?”แบรดลีย์พยักหน้าและพูดว่า “เอาสิ!”แม้ว่าแบรดลีย์จะเป็นคนมาดำเนินการตามแผนในครั้งนี้ แต่เนื่องจากมีฟิลอยู่ข้างกาย เขาจึงเข้าใจตำแหน่งของเขาไปโดยปริยายฟิลเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งเจ้าชายแห่งตระกูลเยตส์ และเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้รับตำแหน่งแบรดลีย์เป็นเพียงคนรับใช้ของตระกูลเยตส์ ถึงจะเป็นคนรับใช้ระดับสูงก็ตามดังนั้นตราบใดที่ฟิลไม่เข้ามายุ่ง แบรดลีย์ก็จะทำตามสัญชาติญาณของตัวเองในเรื่อเล็ก ๆ บางเรื่อง***ที่ไนส์เวลล์ในขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงของไนส์เวลล์มารวมตัวกันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในบัควู้ดทำให้ไนส์เวลล์ซึ่งในตอนแรกจัดการแค่เฉพาะธุรกิจวัตถุโบราณจึงค่อย ๆ ขยับขยายไปยังธุรกิจอื่น ๆในเวลาเพียงไม่กี่เดือนนั้นสามารถทำผลกำไรมากกว่าในทศวรรษก่อนหน้าเสียด้วยซ้ำไปทรัพย์สินของพวกไนส์เวลล์คนปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอีกสามคนซึ่งมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันอยู่เบื้องหลังสองคนด้านหน้าบาห์นสวมเพียงกางเกงขาสั้น และร่างกายส่วนใหญ่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล สีหน้าของเขาแสนเย็นชาฟลอยด์สวมเสื้อคลุมและมีลูกเหล็กสองสามลูกอยู่ในมือ เขาหมุนมันบนฝ่ามือเป็นครั้งคราว และระบายยิ้มออกมาคนสุดท้ายคือเลนน็อกซ์ซึ่งยังคงกดมือขวาลงบนด้ามดาบที่เอวของเขาราวกับว่าสามารถเหวี่ยงดาบเล่มนี้ออกจากฝักได้ทุกเมื่อไม่ว่าใครที่มองมาก็จะเห็นว่าทั้งสามคนนั้นไม่ใช่แค่คนธรรมดาอย่างแน่นอนกลิ่นอายแบบนั้นทำให้ไนส์เวลล์อึดอัดจนแทบจะระเบิดทันใดนั้น คนตระกูลเยตส์จากอเมริกาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เชน ไนส์เวลล์ ผมขออนุญาตแนะนำตัว!”“นี่คือนายน้อยฟิล เยตส์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งเจ้าชายแห่งตระกูลเยตส์จากอเมริกา!“และนี่คือบุตรบุญธรรมของปรมาจารย์เยตส์ที่สี่คุณแบรดลีย์!”"อะไรนะ?!"แม้แต่เชน ไนส์เวลล์ที่สงบและผ่อนคลายก็ยังตกใจเล็กน้อยในตอนที่ได้ยินตัวตนของคนสองคน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นสองคนนั้นแรกน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่คนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาคือนายท่านลำดับที่สี่ของตระกูลเยตส์ผู้ชั่วร้ายคนนั้นต่างหาก!ค