ฮาร์วีย์หันไปมองนอกหน้าต่างแล้วยิ้ม “ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? พวกเขามาที่นี่เพื่อทำให้คุณกลับไปเป็นแพะรับบาปไง” “ใครกันล่ะที่พวกเขาจะสามารถมอบความโกลาหลครั้งใหญ่ของบริษัทให้ได้นอกจากคุณ” แมนดี้ได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ผ่านแหล่งข้อมูลของเธอแล้ว จากนั้นเธอก็พูดพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “ตามความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ มันไม่น่าจะมีปัญหามากมายขนาดนี้ ทำไมปัญหามากมายจึงเกิดขึ้นทันทีที่ฉันไม่ได้ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานกรรมการบริหารของที่นั่นอีกต่อไป? “ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด” “แน่นอน” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น "ผมเอง" "ฮะ? มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า! ถ้าหากคุณมีความสามารถขนาดนั้น เราก็คงจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอให้ตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นตอบตกลงลงทุนในข้อเสนอทางธุรกิจของฉันหรอกน่า” แมนดี้ไม่เชื่อฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ยิ้มและตอบกลับว่า “มันก็ค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่แล้วว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์สูญเสียการสนับสนุนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นยังไงล่ะ” “หากไม่มี
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น “คุณกำลังขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นให้ทำอะไรบางอย่างให้กับคุณด้วยทัศนคติแบบนี้น่ะเหรอ แล้วยังจะมาขู่ว่าจะจับเข้าคุกอีก? เอาสิ! ฉันขอท้านายเลย!” “นายคิดว่าที่นี่คือที่ไหน?!” “ที่นี่คือสกาย คอร์ปอเรชั่น!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับสิบคนกรูกันเข้ามาในทันที และขับไล่เหล่าตระกูลเยตส์ทั้งหมดออกจากบริเวณอาคารบริษัท ตระกูลเยตส์ที่น่าสงสาร พวกเขาเป็นถึงตระกูลชนชั้นหนึ่ง พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต คุณย่าเยตส์ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ อำนาจของตระกูลเยตส์ส่วนใหญ่มาจากคีธ เยตส์ เขารู้จักมักจี่กับเหล่าคนใหญ่คนโตจากหลาย ๆ ที่ แต่ในเมื่อคีธไม่อยู่แล้ว ตระกูลของพวกเขาก็ได้กลับกลายมาเป็นแบบนี้ คุณย่าเยตส์ไม่สามารถแม้แต่จะหาวิธีติดต่อกับเหล่าคนระดับสูง ๆ จากสกาย คอร์ปอเรชั่น ทันใดนั้นรถโรลส์รอยซ์ก็เข้ามาจอดอยู่ที่ทางเข้าของสกาย คอร์ปอเรชั่น และมองเข้าไปก็จะสามารถมองเห็นเรย์ ฮาทที่กำลังจะลงจากรถ ขณะที่คุณย่าเยตส์เห็นเรย์กำลังลงจากรถ เธอก็คิดว่าฟ้าได้ประธานโอกาสมาให้เธออีกครั้งแล้ว เธอเคยพบเ
เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นฮาร์วีย์ที่กำลังเดินลงมา ตระกูลเยตส์ทุกคนที่ยืนอยู่บริเวรโถงต้อนรับต่างก็แสดงท่าทีอวดดีทันที 'เจ้างั่งฮาร์วีย์พร้อมท่าทางสุดหยิ่งผยองนั่นคืออะไรกัน?' 'ต่อหน้าของตระกูลเยตส์ มันก็เป็นได้แค่เด็กโง่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งเท่านั้นเอง!' 'แน่นอน ต่อหน้าของพวกเรามันจะต้องเชื่อฟังพวกเราอยู่แล้ว!' พวกตระกูลเยตส์แสดงสีหน้าราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ชนะ ในมุมมองของพวกเขา การกระทำที่เย่อหยิ่งของพวกเขาในสกาย คอร์ปอเรชั่นก่อนหน้านี้นั้นมันคือการขับไล่ฮาร์วีย์และแมนดี้ออกไปจากที่นี่ ตามที่คาดเอาไว้ ฮาร์วีย์ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว นี่คือพลังของตระกูลเยตส์! ฮาร์วีย์เดินไปหาเหล่าตระกูลเยตส์และยิ้ม “ตระกูลเยตส์นี่ช่างเหลือเชื่อเสียจริง ๆ พวกคุณทุกคนเคยคิดเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกคุณอยู่ในต้อนนี้บ้างไหม?” “พวกคุณกล้าที่จะสร้างความวุ่นวายภายในบริเวณอาคารของสกาย คอร์ปอเรชั่นเชียวหรือ? พวกคุณทุกคนคงจะกำลังรนหาที่ตายอยู่สินะ!” “ที่พวกเราทำเช่นนี้ก็เพราะแกกับนังตัวดีแมนดี้นั่นแหละ!” คุณย่าเยตส์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนังแมนดี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำไมหล่อนไม่มาที่นี่เพื่อพ
น้ำเสียงของฮาร์วีย์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะมอบให้กับตระกูลเยตส์ แต่หลังจากที่พวกเขาหยุดนิ่งไปสักพัก พวกเขาก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากนั้นไม่นานนัก "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…" “คุณย่า เจ้าหมอนี่มันคิดว่ามันสามารถเหยียบย่ำพวกเราได้อย่างนั้นเพียงเพราะว่าพวกเรากำลังมีปัญหาอยู่!” “มันไม่รู้อะไรเสียแล้ว!” “ผมได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมันมาแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่คนขับรถของเจ้าชายยอร์กเท่านั้นเอง คนขับรถกระจอก ๆ เพียงคนเดียวจะสามารถทำลายทั้งตระกูลเยตส์ได้หรือเปล่านะ? หยุดฝันกลางวันได้แล้ว!” “มันไม่สามารถแก้ไขนิสัยเก่า ๆ ของตัวเองในการคุยโวโอ้อวดได้เลยแม้สักนิด!” “แกกำลังคุกคามตระกูลเยตส์เหรอ? แกคิดว่าไม่มีใครสนับสนุนพวกเราแล้วจริง ๆ เหรอ?” การแสดงออกของเหล่าตระกูลเยตส์ทั้งหมดนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่ว่าพวกเขาจะตกต่ำไปมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใช่ตระกูลที่ลูกเขยกระจอก ๆ ที่เกาะภรรยาตัวเองกินจะสามารถก้าวข้ามไปได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนกำลังจะมาพบกับพวกเขาในอีกสามวันข้างหน้า เมื่อแผนของตระกูลเยตส์สำเร็จ พวกเขาก็จะได้เป็นตระกูลอันดับ
เหล่าชายจากตระกูลเยตส์ต่างแสดงสีหน้าอันเกรี้ยวกราดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฟีบี พวกเขาควรที่จะจัดการกับคนที่ทรยศต่อตระกูลเยตส์เช่นนี้ “คุณแม่ พวกเราควรที่จะทำอย่างไรต่อไปดี?!” มีคนเอ่ยถามขึ้น ตระกูลเยตส์กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ถ้าพวกเขาไม่สามารถทำให้แมนดี้มาเป็นแพะรับบาปได้ พวกเขาอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ คุณย่าเยตส์ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วตอบอย่างช้า ๆ ว่า “ณ ตอนนี้ เราทำได้เพียงพยายามต่อไปเท่านั้น!” “หยุดสนใจซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ไปก่อน ใช้คนของพวกคุณทั้งหลายเพื่อกระจายข่าวว่าหัวหน้าผู้ฝีกสอนกำลังจะมาเยี่ยมตระกูลของพวกเราในอีกสามวันข้างหน้า!” “นอกจากนี้ กระจายข่าวลือโดยบอกว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะสนใจฟีบีอยู่ แต่อย่าลืมว่าอย่าให้ใครรู้แหล่งที่มาของข่าวลือนี้เป็นอันขาด!” “ฉันไม่เชื่อว่าจะมีคนโง่ที่ไหนที่คิดจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเราอีกหลังจากที่รู้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะเป็นลูกเขยของเราในอนาคต!” หลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าเยตส์ ทุกคนจากตระกูลเยตส์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นทันที “คุณย่าฉลาดหลักแหลมมาก ๆ ตามที่คาดเอาไว้เลย!” “ผมคิดไอเดียดี
ฮาร์วีย์ครุ่นคิดไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบกลับว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะไปประมูลเอง ฉันไม่ได้เข้าร่วมการประมูลมานานแล้ว” ก่อนหน้านี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เขาไม่ค่อยได้พาแมนดี้ออกไปไหนบ้างเลย นี่เป็นโอกาสที่ช่างยอดเยี่ยมมาก ๆ แม้ว่าตระกูลเยตส์จะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรต่อฮาร์วีย์อีกหลังจากนั้น แต่จะเป็นการดีกว่าถ้าเขาระมัดระวังตัวเองเอาไว้ การที่เขาจากมาก่อนนั่นมันเท่ากับว่าเขาต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา อย่างน้อย ๆ มันก็ได้ซื้อเวลาให้แมนดี้ได้สงบจิตสงบใจอีกสักสองวัน เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์ปลุกแมนดี้ให้ตื่น “ที่รัก ไปเตรียมตัวออกไปข้างนอกกันเถอะ ถ้าวันนี้คุณไม่ได้มีแผนที่จะทำอะไร” ดวงตาอันเปล่งประกายของแมนดี้กระพริบถี่ ๆ เธอเอ่ยถามในขณะที่ยังคงงงงวยอยู่ “ทำไมเหรอคะ? เรายังคงต้องออกไปที่สกาย คอร์ปอเรชั่นเพื่อหานักลงทุนร่วมกับเราในวันนี้อีกเหรอ?” ฮาร์วีย์หัวเราะคิกคัก "ไม่ใช่ ๆ วันนี้พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ!” แมนดี้ส่ายหัว “ถ้าเรามัวแต่ไปเที่ยวในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เราอาจพลาดโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่นะคะ” ฮาร์วีย์ตอบกลับว่า “นี่คือสิ่งที่คุณไม่เคยเข้าใจบ้างเ
ฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก ก่อนที่จะเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณคิดอย่างไรกับรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เหรอ?” แมนดี้คิดว่าฮาร์วีย์กำลังทดสอบอะไรบางอย่างกับเธออยู่ เธอจึงหัวเราะออกมาแล้วตอบกลับว่า “ฉันคิดว่าบริษัทนี้มันช่างยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยล่ะ! ถึงแม้ว่าเราจะมีข้อขัดแย้งกับบริษัทนี้อยู่บ้าง แต่ว่ามันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบริษัทนี้ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง ๆ ! “นอกเหนือจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของบัควู้ดแล้ว พวกเขายังเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่นวงการบันเทิงและวงการแฟชั่น เป็นต้น...” “ฉันได้ยินมาว่ามีคนดังและเน็ตไอดอลมากมายที่อยู่ภายใต้สังกัดของพวกเขา!” “ดาราดังทุก ๆ คนในสังกัดของเขาก็เก่งมาก ๆ ได้ออกรายการสดอยู่บ่อย ๆ ด้วย!” ฮาร์วีย์ครุ่นคิดอีกครั้งและเอื้อมมือไปลูบหัวของแมนดี้ “ในเมื่อภรรยาของผมชื่นชมรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์มากขนาดนี้ ผมจะต้องชนะการประมูลเพื่อคุณให้ได้เลย” แมนดี้หัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “แน่นอน ฉันจะรอข่าวดีจากคุณนะคะ” “แต่ฉันคิดว่าราคาประมูลพื้นฐานสำหรับรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์จะมีมูลค่าอย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แล้ว คุณมีเงินจำนว
ในความคิดเห็นของลุค ฮาร์วีย์เป็นผู้ชายที่จนและไม่มีสิทธิ์ที่จะยืนอยู่ข้างกายแมนดี้แต่อย่างไรก็ตาม แมนดี้กลับไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของลุคและถามขึ้นอย่างสงสัย “มิสเตอร์เพอร์รี่ ตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่นี่เหรอคะ?”ลุคยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขารู้สึกพึงพอใจพร้อมกับตอบกลับ “ครับ ผมเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการของรีสอร์ตแห่งนี้ อันนี้นามบัตรผมครับ”หลังจากที่เขาพูดจบ เขายื่นนามบัตรให้กับฮาร์วีย์และแมนดี้คนละหนึ่งใบแมนดี้รับนามบัตรมาพร้อมกับจ้อมดูมันอยู่หลายครับและพูดขึ้นอย่างสุภาพ “มิสเตอร์เพอร์รี่ ตอนนี้คุณกำลังทำไปได้ดีเลยนะคะ เมื่อก่อนคุณเป็นอาจารย์ที่ดีสุดเลยนะคะ”คำชมของแมนดี้ทำให้ลุคเคลิ้ม แต่อย่างไรเขากลับพูดขึ้นอย่างถ่อมตน “พูดตรง ๆ นะครับ คนอย่างพวกเราเป็นแค่พนักงานระดับสูง รายได้ประจำปีของเรายังไม่ถึง 1.5 ล้านและยังเทียบไม่ได้กับตระกูลใหญ่ ๆ อย่างนั้นอีก”“จริงด้วย ผมต้องขอโทษนะครับแมนดี้”“ผมลืมไปเลย ผมเพิ่งได้ยินข่าวมาเมื่อไม่กี่วันก่อนบอกว่าบริษัทของคุณถูกส่งมอบให้กับตระกูลเยตส์และพวกเขายังตัดคุณออกจากตระกูลอีกด้วย!”“แมนดี้ เมื่อก่อนที่โรงเรียน คุณได้รับชื่