หลังจากนั้นไม่นาน แมนดี้กัดฟันแน่นและถอนหายใจออกมาในที่สุด เธอไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว เธอเป็นคนจิตใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เธอจะมองเหล่าตระกูลเยตส์ไม่ออกได้อย่างไร? แต่เธอเพียงแค่ไม่สามารถก้าวผ่านความรู้สึกที่มันติดค้างอยู่ภายในหัวใจของเธอได้ก็เท่านั้นเอง เมื่อฮาร์วีย์พูดเรื่องนี้ออกมาตรง ๆ มันก็ทำให้แมนดี้รู้สึกโล่งใจได้บ้าง “ที่รัก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจดีว่าพวกเขาปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นเครื่องมือ และฉันจะไม่ฟังพวกเขาอีกแล้ว” “ตระกูลเยตส์สมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง” แม้ว่าแมนดี้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของเธอก็ยังคงเจ็บปวดรวดร้าวด้วยคำว่าครอบครัว แต่ฮาร์วีย์นั้นเขาไม่คิดจะให้โอกาสกับตระกูลเยตส์อีกเลยแม้สักครั้งเดียว เขาส่งซีนเธียร์ไปสำรวจมหาวิทยาลัยที่ต่างเมืองเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้ทั้งไซม่อนและลิเลียนออกจากบัควู้ดไปก่อน อีกทั้งเขายังเสนอให้ทั้งสองใช้เวลาเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจในมอร์ดูและโวลซิ่งก่อนกลับมา และด้วยเหตุนี้ เหล่าตระกูลเยตส์ก็จะไม่มีทางติดต่อกับไซม่อนและลิเลียนได้ ... ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ ทุกคนพยายามโทรหาครอบครัวของแมนดี้ด้วยท่าทางอันสิ้
ชายคนนั้นหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐน่ะเหรอ? ช่างน่ายกย่องเสียนี่กระไร! น่ากลัวจัง น่ากลัวสุด ๆ !” “นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอกเหรอว่าคีธ เยตส์ไปยั่วโมโหหัวหน้าผู้ฝึกสอนและยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทหารอีกทั้งอาการของเขาก็ยังคงอยู่ในขั้นโคม่าอยู่เลย!” “ตระกูลเยตส์ยังเหลือใครอีกไหม? อย่าบอกนะว่าตอนนี้พวกคุณทุกคนกำลังพึ่งพาอำนาจกระจอก ๆ ของฟินน์อยู่?” ฟินน์ตัวสั่นด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกคนเหล่านี้ไม่เคารพเขาในฐานะผู้บัญชาการลำดับสามของกรมตำรวจบัควู้ดเลยแม้สักนิด แต่นี่ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเหล่าซัพพลายเออร์ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับตระกูลเยตส์ออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าตรู่ ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าตระกูลเยตส์เป็นเพียงแค่ภาพวาดของเสือโคร่งไม่ได้น่ากลัวและยิ่งใหญ่อย่างที่คิด พวกเขาจึงจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อเงินทองของพวกเขา หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาอาจจะพลาดโอกาสทองนี้ไป ทันใดนั้น ฟีบีก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามและพูดขี้นมาว่า “พวกแก พวกแกทั้งหมดไม่รู้บ้างเลยหรือว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะมาที่คฤหาสน์ของพวกเรา
ยังดีที่เหล่ากลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ซื้อวิลล่าไปเพียงแค่สิบหลัง ตระกูลเยตส์จึงได้จำนองบ้านของบรรพบุรุษของพวกเขาที่ใจกลางบัควู้ด และในที่สุดก็รวบรวมเงินได้ทั้งหมดสิบห้าล้านดอลลาร์เพื่อตัดปัญหาจากคนเหล่านั้นออกไปก่อนในตอนนี้ ในช่วงเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ทั้งบ้านและรถยนต์ทั้งหมดของตระกูลเยตส์ก็ได้ถูกจำนองไปจนหมด หากไม่สามารถเคลียร์หนี้ได้เมื่อถึงกำหนดจำนองและขอสินเชื่อเพิ่ม พวกเขาอาจที่จะต้องนอนใต้สะพานลอยเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าใครจะมาทวงหนี้หลังจากนี้อีก ตระกูลเยตส์ก็คงจะไม่มีเงินจ่ายอีกแล้ว พวกเขาเคยคิดว่าตระกูลเยตส์เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตระกูลเยตส์จะจบลงแบบนี้ คุณย่าเยตส์รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจ! "คุณย่าคะ! พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” ใบหน้าของฟีบีถอดสีในขณะนั้น เธอไม่คิดว่าเธอจะต้องมาเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ทันทีที่เธอกลับประเทศมา การแสดงออกของคุณย่าเยตส์เปลี่ยนไปราวกับว่าเธอกำลังจะคลุ้มคลั่ง จากนั้นในที่สุดเธอก็แสดงท่าทีอันน่ากลัวออกมา “ดูจากสถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว พวกเราจะต้องรักษาโอกาสในเรื่อง
ฮาร์วีย์หันไปมองนอกหน้าต่างแล้วยิ้ม “ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? พวกเขามาที่นี่เพื่อทำให้คุณกลับไปเป็นแพะรับบาปไง” “ใครกันล่ะที่พวกเขาจะสามารถมอบความโกลาหลครั้งใหญ่ของบริษัทให้ได้นอกจากคุณ” แมนดี้ได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ผ่านแหล่งข้อมูลของเธอแล้ว จากนั้นเธอก็พูดพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “ตามความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ มันไม่น่าจะมีปัญหามากมายขนาดนี้ ทำไมปัญหามากมายจึงเกิดขึ้นทันทีที่ฉันไม่ได้ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานกรรมการบริหารของที่นั่นอีกต่อไป? “ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด” “แน่นอน” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น "ผมเอง" "ฮะ? มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า! ถ้าหากคุณมีความสามารถขนาดนั้น เราก็คงจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอให้ตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นตอบตกลงลงทุนในข้อเสนอทางธุรกิจของฉันหรอกน่า” แมนดี้ไม่เชื่อฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ยิ้มและตอบกลับว่า “มันก็ค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่แล้วว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์สูญเสียการสนับสนุนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นยังไงล่ะ” “หากไม่มี
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น “คุณกำลังขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นให้ทำอะไรบางอย่างให้กับคุณด้วยทัศนคติแบบนี้น่ะเหรอ แล้วยังจะมาขู่ว่าจะจับเข้าคุกอีก? เอาสิ! ฉันขอท้านายเลย!” “นายคิดว่าที่นี่คือที่ไหน?!” “ที่นี่คือสกาย คอร์ปอเรชั่น!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับสิบคนกรูกันเข้ามาในทันที และขับไล่เหล่าตระกูลเยตส์ทั้งหมดออกจากบริเวณอาคารบริษัท ตระกูลเยตส์ที่น่าสงสาร พวกเขาเป็นถึงตระกูลชนชั้นหนึ่ง พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต คุณย่าเยตส์ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ อำนาจของตระกูลเยตส์ส่วนใหญ่มาจากคีธ เยตส์ เขารู้จักมักจี่กับเหล่าคนใหญ่คนโตจากหลาย ๆ ที่ แต่ในเมื่อคีธไม่อยู่แล้ว ตระกูลของพวกเขาก็ได้กลับกลายมาเป็นแบบนี้ คุณย่าเยตส์ไม่สามารถแม้แต่จะหาวิธีติดต่อกับเหล่าคนระดับสูง ๆ จากสกาย คอร์ปอเรชั่น ทันใดนั้นรถโรลส์รอยซ์ก็เข้ามาจอดอยู่ที่ทางเข้าของสกาย คอร์ปอเรชั่น และมองเข้าไปก็จะสามารถมองเห็นเรย์ ฮาทที่กำลังจะลงจากรถ ขณะที่คุณย่าเยตส์เห็นเรย์กำลังลงจากรถ เธอก็คิดว่าฟ้าได้ประธานโอกาสมาให้เธออีกครั้งแล้ว เธอเคยพบเ
เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นฮาร์วีย์ที่กำลังเดินลงมา ตระกูลเยตส์ทุกคนที่ยืนอยู่บริเวรโถงต้อนรับต่างก็แสดงท่าทีอวดดีทันที 'เจ้างั่งฮาร์วีย์พร้อมท่าทางสุดหยิ่งผยองนั่นคืออะไรกัน?' 'ต่อหน้าของตระกูลเยตส์ มันก็เป็นได้แค่เด็กโง่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งเท่านั้นเอง!' 'แน่นอน ต่อหน้าของพวกเรามันจะต้องเชื่อฟังพวกเราอยู่แล้ว!' พวกตระกูลเยตส์แสดงสีหน้าราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ชนะ ในมุมมองของพวกเขา การกระทำที่เย่อหยิ่งของพวกเขาในสกาย คอร์ปอเรชั่นก่อนหน้านี้นั้นมันคือการขับไล่ฮาร์วีย์และแมนดี้ออกไปจากที่นี่ ตามที่คาดเอาไว้ ฮาร์วีย์ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว นี่คือพลังของตระกูลเยตส์! ฮาร์วีย์เดินไปหาเหล่าตระกูลเยตส์และยิ้ม “ตระกูลเยตส์นี่ช่างเหลือเชื่อเสียจริง ๆ พวกคุณทุกคนเคยคิดเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกคุณอยู่ในต้อนนี้บ้างไหม?” “พวกคุณกล้าที่จะสร้างความวุ่นวายภายในบริเวณอาคารของสกาย คอร์ปอเรชั่นเชียวหรือ? พวกคุณทุกคนคงจะกำลังรนหาที่ตายอยู่สินะ!” “ที่พวกเราทำเช่นนี้ก็เพราะแกกับนังตัวดีแมนดี้นั่นแหละ!” คุณย่าเยตส์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนังแมนดี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำไมหล่อนไม่มาที่นี่เพื่อพ
น้ำเสียงของฮาร์วีย์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะมอบให้กับตระกูลเยตส์ แต่หลังจากที่พวกเขาหยุดนิ่งไปสักพัก พวกเขาก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากนั้นไม่นานนัก "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…" “คุณย่า เจ้าหมอนี่มันคิดว่ามันสามารถเหยียบย่ำพวกเราได้อย่างนั้นเพียงเพราะว่าพวกเรากำลังมีปัญหาอยู่!” “มันไม่รู้อะไรเสียแล้ว!” “ผมได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมันมาแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่คนขับรถของเจ้าชายยอร์กเท่านั้นเอง คนขับรถกระจอก ๆ เพียงคนเดียวจะสามารถทำลายทั้งตระกูลเยตส์ได้หรือเปล่านะ? หยุดฝันกลางวันได้แล้ว!” “มันไม่สามารถแก้ไขนิสัยเก่า ๆ ของตัวเองในการคุยโวโอ้อวดได้เลยแม้สักนิด!” “แกกำลังคุกคามตระกูลเยตส์เหรอ? แกคิดว่าไม่มีใครสนับสนุนพวกเราแล้วจริง ๆ เหรอ?” การแสดงออกของเหล่าตระกูลเยตส์ทั้งหมดนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่ว่าพวกเขาจะตกต่ำไปมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใช่ตระกูลที่ลูกเขยกระจอก ๆ ที่เกาะภรรยาตัวเองกินจะสามารถก้าวข้ามไปได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนกำลังจะมาพบกับพวกเขาในอีกสามวันข้างหน้า เมื่อแผนของตระกูลเยตส์สำเร็จ พวกเขาก็จะได้เป็นตระกูลอันดับ
เหล่าชายจากตระกูลเยตส์ต่างแสดงสีหน้าอันเกรี้ยวกราดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฟีบี พวกเขาควรที่จะจัดการกับคนที่ทรยศต่อตระกูลเยตส์เช่นนี้ “คุณแม่ พวกเราควรที่จะทำอย่างไรต่อไปดี?!” มีคนเอ่ยถามขึ้น ตระกูลเยตส์กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ถ้าพวกเขาไม่สามารถทำให้แมนดี้มาเป็นแพะรับบาปได้ พวกเขาอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ คุณย่าเยตส์ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วตอบอย่างช้า ๆ ว่า “ณ ตอนนี้ เราทำได้เพียงพยายามต่อไปเท่านั้น!” “หยุดสนใจซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ไปก่อน ใช้คนของพวกคุณทั้งหลายเพื่อกระจายข่าวว่าหัวหน้าผู้ฝีกสอนกำลังจะมาเยี่ยมตระกูลของพวกเราในอีกสามวันข้างหน้า!” “นอกจากนี้ กระจายข่าวลือโดยบอกว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะสนใจฟีบีอยู่ แต่อย่าลืมว่าอย่าให้ใครรู้แหล่งที่มาของข่าวลือนี้เป็นอันขาด!” “ฉันไม่เชื่อว่าจะมีคนโง่ที่ไหนที่คิดจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเราอีกหลังจากที่รู้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะเป็นลูกเขยของเราในอนาคต!” หลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าเยตส์ ทุกคนจากตระกูลเยตส์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นทันที “คุณย่าฉลาดหลักแหลมมาก ๆ ตามที่คาดเอาไว้เลย!” “ผมคิดไอเดียดี