“ก็ได้ ตกลงค่ะ!” แม้ว่าอีวอนน์จะลังเลเป็นอย่างมาก แต่เธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวของเธอเองเพื่อช่วยให้ฮาร์วีย์พ้นจากปัญหาครั้งนี้ เธอได้ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าคริสจะสามารถแต่งงานกับเธอได้ก็จริง แต่เขาก็จะไม่มีวันได้ใจของเธอ และเธอก็พร้อมที่จะดึงคริสให้ตกต่ำลงไปพร้อม ๆ กับเธอด้วย! ในขณะเดียวกัน ริต้า ลอว์สันพี่สะใภ้ของอีวอนน์ก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดขึ้นมาว่า “คุณปู่คะ แค่วาจาสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ของเธออาจจะยังไม่เพียงพอนะคะ บางทีพวกเราควรจะจัดการให้เธอทำการเซ็นสัญญาเสียก่อนดีไหมคะ” เหล่าคนอื่น ๆ ที่เหลือของตระกูลซาเวียร์ต่างก็เห็นพ้องต้องกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้นของริต้า ไม่นานหลังจากนั้นก็มีการทำข้อตกลงระหว่างกัน ในสัญญาระบุว่า หากตระกูลซาเวียร์สามารถช่วยฮาร์วีย์ให้รอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ อีวอนน์จะต้องแต่งงานกับคริส สีหน้าของอีวอนน์นั้นดูเคร่งเครียด เธอกัดฟันแน่นก่อนที่จะลงนามในสัญญานั้นในท้ายที่สุด เหล่าตระกูลซาเวียร์ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าอันพึงพอใจและเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เมื่อตระกูลลีโอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขาแล้ว พวกเขาตระกูลซาเวียร์
ตระกูลซาเวียร์ที่เซาท์ไลท์ทุกคนไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ พวกเขาทั้งหมดต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเชลดอน “เจ้าชายลีโอนี่ช่างมองการณ์ไกลเสียจริงเชียว ประกาศการแต่งงานในโอกาสเช่นนี้ เท่ากับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลีโอและตระกูลซาเวียร์จะถูกเผยแพร่ไปในที่สาธารณะได้อย่างรวดเร็ว!” “การมีหัวหน้าผู้ฝึกสอน, ออสการ์ อาร์มสตรอง, และผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์พร้อมด้วยคนอื่น ๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน นี่มันเป็นเรื่องที่จะเขย่าคนทั้งประเทศเลยนะ!” “หลังจากนี้อิทธิพลและอำนาจของตระกูลพวกเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน!” ในขณะเดียวกัน ไม่มีใครสนใจการแสดงออกของอีวอนน์เลยแม้สักนิด ในสายตาของพวกเขา การแลกอีวอนน์กับผลประโยชน์มากมายที่จะตามมานั้นมันก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่คุ้มค่ามาก ๆ เลยทีเดียวเชียว! ... ในเวลาเดียวกัน ภายในวิลล่าสุดหรู คริสอยู่กับแขกคนสำคัญของเขา แขกรับเชิญไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เขาคือเจสซี เทต เขาเป็นญาติห่าง ๆ ของตระกูลลีโอ ครอบครัวของเจสซีเป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของตระกูลลีโอ แต่พวกตระกูลลีโอส่วนใหญ่ไม่เคยมาเหลียวแหลคร
เจสซีแสดงความชื่นชมและเคารพอย่างออกหน้าออกตา หัวหน้าผู้ฝึกสอนค่ายศัสตราวุธช่างเป็นตำนานในกองกำลังทหารอย่างแท้จริง เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิต คริสตัวสั่นเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามว่า “อะไรนะ? หัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะสามารถเข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโสในกองทัพได้อย่างนั้นหรือ? คุณจริงจังไหมเนี่ย?!” “ไม่มีอะไรต้องน่าสงสัยเลยแม้สักนิด ใครจะมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งนี้ได้อีกล่ะนอกจากเขา” เจสซีคร่ำครวญพรรณนา คริสสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าเป็นในกรณีนี้ เราก็ควรจะพยายามสู้เพื่อการยอมรับจากเขา!” “ถ้าเขายอมรับพวกเราและเต็มใจที่จะช่วยเราแล้ว คราวนี้จะไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงานของผมเพียงเท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือเราจะสามารถมีสายสัมพันธ์อันดีงามกับว่าที่ผู้อาวุโสของกองทัพในอนาคตอีกด้วย!” “บางทีพวกเราอาจจะใช้สายสัมพันธ์ครั้งนี้เพื่อทำให้ตระกูลลีโอขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกของตระกูลแนวหน้าก็ได้นะ!” คริสรู้สึกเหมือนยังปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ถ้าเขาสามารถสนิทสนมกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้แล้วละก็...จะไม่มีใครหน้าไหนที่กล้าที่จะเข้ามาคุกคามตำแหน่งของเขาในฐานะเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอได้อี
ในเวลาเดียวกัน ที่คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ คุณย่าเยตส์, คาร์สัน คลาวด์, และคัลลัม ร็อบบินส์ ทั้งสามอยู่ที่นี่ด้วยกัน ในฐานะตระกูลชนชั้นหนึ่งในบัควู้ดแล้ว ถ้าทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นพร้อม ๆ กัน นั่นมันก็หมายความว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่ ๆ เกิดขึ้นแน่นอน และไม่ไกลจากพวกเขา มีชายสวมชุดสูทสีดำดูสุขุมยืนอยู่และกำลังมองไปที่ฝ่ามือด้านซ้ายของตัวเอง มีออร่าที่ไม่สามารถบรรยายได้รายรอบชายคนนั้น เขายืนนิ่ง ๆ แต่ทว่าบรรยากาศนั้นกลับทำให้คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ หยุดนิ่งอยู่กับที่และหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก หลังจากนั้นไม่นาน คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มที่จะกลับมามีความกล้าอีกครั้งหลังจากที่ชายคนนั้นวางมือซ้ายลงแล้วพูดว่า “คุณชาย ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่หรือ?” “ทำไมคุณไม่โทรหาพวกเราล่วงหน้าเพื่อที่พวกเราจะได้จัดเตรียมการต้อนรับคุณให้ดีกว่านี้ล่ะ?” ควินตันตอบกลับว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ทั้งสี่ตระกูลชนชั้นหนึ่งก็จะต้องตายในคูน้ำในไม่ช้า” คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น ควินตันมีท่าทางที่โกรธจัด ในตอนนี้นั้น เหล่าผู้อาวุโสทั้งสามคนต่างก็ไม่กล้
“คุณพูดจริงเหรอ คุณชาย!” “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราจะทำทุกอย่างให้เต็มที่และทำให้คุณชายได้เซอร์ไพรส์ก่อนพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์แน่นอน!” คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็จับมือกันด้วยความดีใจ การจัดการกับฮาร์วีย์ ยอร์กในครั้งนี้มันจะเท่ากับว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของพวกเขาได้ ไม่มีการต่อรองราคาใด ๆ ในโลกนี้แล้วที่จะดีไปกว่าครั้งนี้สำหรับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลเยตส์ พวกเขาไม่เคยลืมเรื่องซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ค่อยที่จะเต็มใจที่จะดำเนินการใด ๆ มากนัก เนื่องจากว่ามันจะเปรียบเสมือนว่าพวกเขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเบลลามี่ เบลคซึ่งเป็นว่าที่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ไปด้วย แต่ตอนนี้พวกเขามีควินตัน ยอร์กที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ พวกเขากลับมาไร้ยางอายและความหวาดกลัวไปโดยปริยาย เมื่อมองดูเหล่าผู้อาวุโสทั้งสามที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของควินตันก็เย็นชาราวกับเทือกเขาน้ำแข็ง เขาได้รับข่าวเรื่องความล้มเหลวของคัลลัม ร็อบบินส์แล้ว นอกจากนี้เขายังรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอ
คุณย่าเยตส์ส่ายหัว "ไม่ได้ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์คนใหม่คือไทสัน วูดส์ซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าชายยอร์ก” “การใช้ประโยชน์จากพวกนักเลงอันธพาลท้องถนนเพื่อช่วยพวกเราในเรื่องนี้นั้น มันก็เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวตายตั้งแต่เริ่มแล้ว” ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหัวมุม เจ้าชายจากตระกูลคลาวด์ เอริค คลาวด์ก็ได้เดินออกมาและขัดจังหวะของพวกเขาด้วยเสียงที่สุขุมนุ่มลึกว่า "ท่านผู้อาวุโสทั้งสาม ผมมีเรื่องที่จะพูดหน่อยครับ" ผู้เฒ่าทั้งสามมองมาที่เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากนั้นไม่นาน คาร์สันก็ตอบกลับว่า “เจ้าชายคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ?” เอริคเอามือไขว้หลังขณะที่เขาพูดด้วยท่าทางที่จริงจังว่า “เนื่องจากว่าพวกเราไม่สามารถใช้เหล่านักเลงอันธพาลท้องถนนได้ เราจึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น แล้วถ้าเป็นการเชิญเหล่าผู้คนจากนอกเมืองเซาท์ไลท์เข้ามาล่ะครับ?” “ผมได้ยินมาว่ามีคนรับจ้างจำนวนมากที่ชายแดนโอไฮโอซึ่งพวกเขานั้นรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี ตราบใดที่เราให้เงินแก่พวกเขา พวกเขาก็เต็มใจและพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เราทั้งสามตระกูลควรร่วมมือกันและจ้างพวกคนเหล่า
“หึหึ” ฮาร์วีย์หัวเราะ “พวกนายมาจากไทยใช่ไหม?” “แล้วทำไมฉันจะต้องไปกับพวกนายด้วยล่ะ?” ชายคนนั้นคำรามออกมาอย่างเย็นชา “แกกำลังทำให้คนที่แกไม่ควรจะทำให้ขุ่นเคืองรู้สึกขุ่นเคืองอยู่” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว “ฉันไปทำให้ใครขุ่นเคืองเหรอ?” “รีบมากับพวกเราเร็วเข้า! อย่าบังคับให้พวกเราต้องใช้ความรุนแรง แล้วก็อย่ามาโทษพวกเราถ้าผู้หญิงสองคนที่อยู่ด้านหลังถูกลูกหลงก็แล้วกันนะ!” ผู้ชายคนนั้นดูเริ่มที่จะหมดความอดทนเสียแล้ว แม้ว่าบริเวณนี้จะอยู่บริเวณแถบชานเมือง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะผู้คนสัญจรผ่านไปมาได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเหล่าผู้ที่ผ่านมาพบเห็นพวกเขาอาจจะโทรแจ้งตำรวจได้ ถ้ามีตำรวจเข้าเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย แผนการณ์ทั้งหมดของพวกเขามันก็จะลำบากมากยิ่งขึ้น “ฉันจะไปกับพวกนายก็ได้ แต่อย่างน้อยพวกนายก็ช่วยบอกหน่อยไม่ได้เหรอ ว่าฉันไปทำให้ใครขุ่นเคือง?” ฮาร์วีย์ถามอย่างต้องการความชอบธรรม “ก็ได้ ๆ ฉันจะบอกแกให้เอาบุญก็แล้วกัน คนที่แกไปทำให้ขุ่นเคืองก็คือเจ้าชายเอริค คลาวด์จากตระกูลคลาวด์ เขาเป็นคนที่ว่าจ้างพวกเราให้มาพาตัวแกไป!” จากนั้นชายคนนั้นก็กระชากประตูรถให้เปิดออกทันที ก่อนที่จะคว้าตัวฮาร์ว
ชายคนนั้นจุดบุหรี่สูบ เขายิ้มหลังจากที่เป่าควันของบุหรี่ออกมาเป็นรูปวงแหวน “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ตัวแทนของเจ้าชายยอร์กลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ ฉันเข้าใจถูกใช่ไหม?" "นายคือใคร?" ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่แยแสนัก "ฉันขอแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันชื่อเอริค คลาวด์” เอริคพูดด้วบท่าทางสุภาพ “ฉันไปทำอะไรให้นายขุ่นเคืองหรือ?” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเขาเคยไปมีเรื่องอะไรกับตระกูลคลาวด์มาก่อน “นายไม่ได้ทำให้ตระกูลคลาวด์ขุ่นเคืองหรอก แต่นายไม่ควรทำให้คุณชายรองต้องขุ่นเคือง” เอริคตอบด้วยรอยยิ้ม “คุณชายรอง?” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว “นายกำลังพูดถึงเจ้าขยะควินตัน ยอร์กอยู่หรือเปล่า?” "ฮะ?" เอริคอึ้งไปครู่หนึ่ง “นายเพิ่งเรียกคุณชายรองว่าขยะเหรอ?” สถานะของควินตันในเซาท์ไลท์คืออะไรกันแน่? แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้และได้ถอยกลับไปฮ่องกง แต่อันที่จริงก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นหรอกที่จะกล้าพูดถึงเขาเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ซึ่งอยู่ต่อหน้าของเอริคตอนนี้กลับเรียกเขาว่าเจ้าขยะควินตันแบบหน้าตาเฉย เอริคไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้าม เขานั้นฉลาดหลักแหลมมาก ความรู้สึกที่ไร้สาระกำลังปรากฏก่อตัวขึ้นในใจของเขาอยู่ในขณะนี