ในเวลาเดียวกัน ที่คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ คุณย่าเยตส์, คาร์สัน คลาวด์, และคัลลัม ร็อบบินส์ ทั้งสามอยู่ที่นี่ด้วยกัน ในฐานะตระกูลชนชั้นหนึ่งในบัควู้ดแล้ว ถ้าทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นพร้อม ๆ กัน นั่นมันก็หมายความว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่ ๆ เกิดขึ้นแน่นอน และไม่ไกลจากพวกเขา มีชายสวมชุดสูทสีดำดูสุขุมยืนอยู่และกำลังมองไปที่ฝ่ามือด้านซ้ายของตัวเอง มีออร่าที่ไม่สามารถบรรยายได้รายรอบชายคนนั้น เขายืนนิ่ง ๆ แต่ทว่าบรรยากาศนั้นกลับทำให้คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ หยุดนิ่งอยู่กับที่และหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก หลังจากนั้นไม่นาน คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มที่จะกลับมามีความกล้าอีกครั้งหลังจากที่ชายคนนั้นวางมือซ้ายลงแล้วพูดว่า “คุณชาย ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่หรือ?” “ทำไมคุณไม่โทรหาพวกเราล่วงหน้าเพื่อที่พวกเราจะได้จัดเตรียมการต้อนรับคุณให้ดีกว่านี้ล่ะ?” ควินตันตอบกลับว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ทั้งสี่ตระกูลชนชั้นหนึ่งก็จะต้องตายในคูน้ำในไม่ช้า” คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น ควินตันมีท่าทางที่โกรธจัด ในตอนนี้นั้น เหล่าผู้อาวุโสทั้งสามคนต่างก็ไม่กล้
“คุณพูดจริงเหรอ คุณชาย!” “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราจะทำทุกอย่างให้เต็มที่และทำให้คุณชายได้เซอร์ไพรส์ก่อนพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์แน่นอน!” คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็จับมือกันด้วยความดีใจ การจัดการกับฮาร์วีย์ ยอร์กในครั้งนี้มันจะเท่ากับว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของพวกเขาได้ ไม่มีการต่อรองราคาใด ๆ ในโลกนี้แล้วที่จะดีไปกว่าครั้งนี้สำหรับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลเยตส์ พวกเขาไม่เคยลืมเรื่องซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ค่อยที่จะเต็มใจที่จะดำเนินการใด ๆ มากนัก เนื่องจากว่ามันจะเปรียบเสมือนว่าพวกเขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเบลลามี่ เบลคซึ่งเป็นว่าที่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ไปด้วย แต่ตอนนี้พวกเขามีควินตัน ยอร์กที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ พวกเขากลับมาไร้ยางอายและความหวาดกลัวไปโดยปริยาย เมื่อมองดูเหล่าผู้อาวุโสทั้งสามที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของควินตันก็เย็นชาราวกับเทือกเขาน้ำแข็ง เขาได้รับข่าวเรื่องความล้มเหลวของคัลลัม ร็อบบินส์แล้ว นอกจากนี้เขายังรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอ
คุณย่าเยตส์ส่ายหัว "ไม่ได้ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์คนใหม่คือไทสัน วูดส์ซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าชายยอร์ก” “การใช้ประโยชน์จากพวกนักเลงอันธพาลท้องถนนเพื่อช่วยพวกเราในเรื่องนี้นั้น มันก็เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวตายตั้งแต่เริ่มแล้ว” ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหัวมุม เจ้าชายจากตระกูลคลาวด์ เอริค คลาวด์ก็ได้เดินออกมาและขัดจังหวะของพวกเขาด้วยเสียงที่สุขุมนุ่มลึกว่า "ท่านผู้อาวุโสทั้งสาม ผมมีเรื่องที่จะพูดหน่อยครับ" ผู้เฒ่าทั้งสามมองมาที่เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากนั้นไม่นาน คาร์สันก็ตอบกลับว่า “เจ้าชายคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ?” เอริคเอามือไขว้หลังขณะที่เขาพูดด้วยท่าทางที่จริงจังว่า “เนื่องจากว่าพวกเราไม่สามารถใช้เหล่านักเลงอันธพาลท้องถนนได้ เราจึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น แล้วถ้าเป็นการเชิญเหล่าผู้คนจากนอกเมืองเซาท์ไลท์เข้ามาล่ะครับ?” “ผมได้ยินมาว่ามีคนรับจ้างจำนวนมากที่ชายแดนโอไฮโอซึ่งพวกเขานั้นรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี ตราบใดที่เราให้เงินแก่พวกเขา พวกเขาก็เต็มใจและพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เราทั้งสามตระกูลควรร่วมมือกันและจ้างพวกคนเหล่า
“หึหึ” ฮาร์วีย์หัวเราะ “พวกนายมาจากไทยใช่ไหม?” “แล้วทำไมฉันจะต้องไปกับพวกนายด้วยล่ะ?” ชายคนนั้นคำรามออกมาอย่างเย็นชา “แกกำลังทำให้คนที่แกไม่ควรจะทำให้ขุ่นเคืองรู้สึกขุ่นเคืองอยู่” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว “ฉันไปทำให้ใครขุ่นเคืองเหรอ?” “รีบมากับพวกเราเร็วเข้า! อย่าบังคับให้พวกเราต้องใช้ความรุนแรง แล้วก็อย่ามาโทษพวกเราถ้าผู้หญิงสองคนที่อยู่ด้านหลังถูกลูกหลงก็แล้วกันนะ!” ผู้ชายคนนั้นดูเริ่มที่จะหมดความอดทนเสียแล้ว แม้ว่าบริเวณนี้จะอยู่บริเวณแถบชานเมือง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะผู้คนสัญจรผ่านไปมาได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเหล่าผู้ที่ผ่านมาพบเห็นพวกเขาอาจจะโทรแจ้งตำรวจได้ ถ้ามีตำรวจเข้าเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย แผนการณ์ทั้งหมดของพวกเขามันก็จะลำบากมากยิ่งขึ้น “ฉันจะไปกับพวกนายก็ได้ แต่อย่างน้อยพวกนายก็ช่วยบอกหน่อยไม่ได้เหรอ ว่าฉันไปทำให้ใครขุ่นเคือง?” ฮาร์วีย์ถามอย่างต้องการความชอบธรรม “ก็ได้ ๆ ฉันจะบอกแกให้เอาบุญก็แล้วกัน คนที่แกไปทำให้ขุ่นเคืองก็คือเจ้าชายเอริค คลาวด์จากตระกูลคลาวด์ เขาเป็นคนที่ว่าจ้างพวกเราให้มาพาตัวแกไป!” จากนั้นชายคนนั้นก็กระชากประตูรถให้เปิดออกทันที ก่อนที่จะคว้าตัวฮาร์ว
ชายคนนั้นจุดบุหรี่สูบ เขายิ้มหลังจากที่เป่าควันของบุหรี่ออกมาเป็นรูปวงแหวน “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ตัวแทนของเจ้าชายยอร์กลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ ฉันเข้าใจถูกใช่ไหม?" "นายคือใคร?" ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่แยแสนัก "ฉันขอแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันชื่อเอริค คลาวด์” เอริคพูดด้วบท่าทางสุภาพ “ฉันไปทำอะไรให้นายขุ่นเคืองหรือ?” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเขาเคยไปมีเรื่องอะไรกับตระกูลคลาวด์มาก่อน “นายไม่ได้ทำให้ตระกูลคลาวด์ขุ่นเคืองหรอก แต่นายไม่ควรทำให้คุณชายรองต้องขุ่นเคือง” เอริคตอบด้วยรอยยิ้ม “คุณชายรอง?” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว “นายกำลังพูดถึงเจ้าขยะควินตัน ยอร์กอยู่หรือเปล่า?” "ฮะ?" เอริคอึ้งไปครู่หนึ่ง “นายเพิ่งเรียกคุณชายรองว่าขยะเหรอ?” สถานะของควินตันในเซาท์ไลท์คืออะไรกันแน่? แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้และได้ถอยกลับไปฮ่องกง แต่อันที่จริงก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นหรอกที่จะกล้าพูดถึงเขาเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ซึ่งอยู่ต่อหน้าของเอริคตอนนี้กลับเรียกเขาว่าเจ้าขยะควินตันแบบหน้าตาเฉย เอริคไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้าม เขานั้นฉลาดหลักแหลมมาก ความรู้สึกที่ไร้สาระกำลังปรากฏก่อตัวขึ้นในใจของเขาอยู่ในขณะนี
“พวกอันธพาลจากไทยมันโหดร้ายมาก ๆ ในเมื่อฮาร์วีย์ทำให้พวกมันโกรธจนถึงขั้นมาจับตัวไป เจ้าขยะนั่นก็สมควรตายน่ะถูกแล้ว” “ส่วนเธอก็เตรียมตัวหาสามีมาแต่งงานใหม่ซะ!” ฟินน์ยิ้ม เขาแทบจะอดรนทนรอไม่ไหวเสียแล้วสิ ตามข้อตกลงแล้ว เจ้าขยะฮาร์วีย์กำลังจะตายในไม่ช้าใช่ไหมนะ? เจ้าขยะนั่นกล้าดีมากที่ให้ฟินน์คุกเข่าต่อหน้ามัน! มันสมควรตายด้วยน้ำมือของพวกอันธพาลนั่น! เมื่อเห็นการเยาะเย้ยถากถางของทุกคนแล้ว แมนดี้ก็เริ่มสิ้นหวัง จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงต่อหน้าคุณย่าเยตส์และร้องไห้อย่างน่าสงสาร “คุณย่าคะ! ไม่ว่าจะยังไง ฮาร์วีย์ก็ยังคงเป็นหลานเขยของคุณย่านะคะ!” “คุณย่าลืมไปแล้วเหรอคะ? ก่อนหน้านี้ในวันเกิดของคุณย่า เขาก็ได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะหาของขวัญสุดล้ำค่ามามอบเป็นของขวัญให้กับคุณย่า!” “แม้ว่าจะเป็นเพียงเพราะแค่เหตุผลนั้น แต่ได้โปรดช่วยพูดให้คุณลุงยอมช่วยเขาด้วยเถอะนะคะ!” คุณย่าเยตส์เย้ยหยัน “ทวงบุญคุณคนอื่นด้วยเม็ดยาธรรมดา ๆ นั่นนะเหรอ? ฝันไปเถอะย่ะ!” “แมนดี้! หากเธอยังคงยอมรับพวกเราชาวตระกูลเยตส์เป็นครอบครัวเดียวกันกับเธออยู่ ก็จงลืม ๆ เรื่องนี้ไปซะเถอะ” “รอจนกว่าข่าวการเสียชีวิตข
พวกตระกูลเยตส์รอคอยวันนี้มานานมากแล้ว! พวกเขาเป็นตระกูลของข้าราชการ พวกเขาไม่มีความรู้และไม่สามารถก้าวหน้าได้มากนักในวงการอุตสาหกรรมธุรกิจ เนื่องจากขาดเงินทุนและความสามารถในการก่อตั้งธุรกิจ พวกเขาจึงไม่สามารถขึ้นเป็นตระกูลระดับแนวหน้าได้สักทีแม้ว่าจะใช้เวลามาเนิ่นนานหลายปีแล้วก็ตาม ตอนนี้พวกเขามีหุ้นส่วนของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่ในกำมือแล้ว มันเท่ากับว่าพวกเขาเข้าใกล้การเติบโตไปเป็นตระกูลระดับแนวหน้าอีกก้าวหนึ่งแล้ว สำหรับชาวตระกูลเยตส์บางคน ตอนนี้มันเท่ากับว่าครอบครัวของพวกเขาได้เลื่อนไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นแล้ว เมื่อคีธเห็นว่าแมนดี้ลงนามในข้อตกลงแล้ว เขาก็กดโทรศัพท์โทรออกทันที “ใช่คุณยานนิค บิสสันหัวหน้าสารวัตรของกรมตำรวจบัควู้ดหรือเปล่าครับ? ผมชื่อคีธ เยตส์” “หลานเขยของผม ฮาร์วีย์ ยอร์ก เขาได้ถูกกลุ่มอันธพาลจากไทยลักพาตัวไป ผมอยากจะขอฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณ และผมคาดหวังผลลัพธ์ความคืบหน้าภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง!” "ครับท่าน!" อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ยานนิคตอบกลับด้วยความเคารพและรีบไปจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายอย่างรวดเร็วทันที หลังจากวางสาย คีธก็พูดอย่างไ
ปัง!ร่างหนึ่งลอยมาจนปะทะเข้ากับกำแพงตรงหน้าของเอริคเดิมทีใบหน้าของเอริคที่มีรอยยิ้ม แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขากลับหมองลงและหันกลับมาอย่างอัตโนมัติเมื่อเขาเห็นภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา ทั่วทั้งร่างกายของเขาเริ่มสั่นด้วยความหวาดกลัวเกิดอะไรขึ้น?ทหารรับจ้างทั้งหมดล้มพับลงไปง่าย ๆ เลยเหรอ?“นาย...นายเป็นใคร?!” เอริคตะโกน“ฉันเป็นใครเหรอ? ฉันคือใครบางคนที่นายยั่วยุไม่ได้ยังไงล่ะ”“ช่วยส่งของขวัญพวกนี้ให้คนที่อยู่หลังนายหน่อย บอกพวกเขาว่านี่คือผลที่ตามมาจากการทำให้ฉันโกรธ”ฮาร์วีย์เดินเข้าหาเอริคเอริคก้าวถอยหลังด้วยความกลัว ร่างกายของเขาแข็งทื่อและพูดขึ้นด้วยเสียงที่ตะกุกตะกัก “อย่าเข้ามานะ!”แคร๊ก!ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะพูดคุยเรื่องไร้สาระกับเอริค เขาก้าวตรงไปและเตะเข้าไปที่ขาข้างขวาของเอริค“อ๊าก!”ขาข้างขวาของเอริคหักจนนอนลงไปกลิ้งกับพื้น แต่ฮาร์วีย์กลับเมินเฉยและกระทืบเอริคอีกหลายครั้งจนแขนกับขาของเขาทั้งหมดหักทำไมเอริคผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยจะต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างนี้ด้วย?ไม่นานหลังจากนั้น เนื่องด้วยความเจ็บปวดทำให้เขาได้สลบไปฮาร์วีย์โทรศัพท์หาไทสัน ว