ขณะที่ตระกูลเยตส์จัดเตรียมการต่าง ๆ ในทางกลับกันครอบครัวของแมนดี้ก็ตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวังและวิตกกังวลอย่างมากเนื่องจากข่าวการเข้าจับกุมของแมนดี้ ฮาร์วีย์ซึ่งอยู่ที่สกาย คอร์ปอเรชั่นก็ได้รับข่าวด้วยเช่นกัน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครกล้าโจมตีแมนดี้และซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของเขา “ประธานกรรมการบริหารยอร์ก! จากข้อมูลที่ดิฉันค้นพบ มีความเป็นไปได้สูงที่เหตุการณ์ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์” อีวอนน์พูดพรางขมวดคิ้ว เธอถือเอกสารหลายฉบับอยู่ในมือ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มาทำงานสักพักก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ กับตระกูลซาเวียร์… ทันทีที่เธอรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแมนดี้ เธอไม่สนใจเรื่องของตัวเองและรีบกลับมาที่สำนักงานในทันที “นอกจากรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์แล้ว ฉันยังสงสัยว่ายังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลังด้วยค่ะ มิฉะนั้น สื่อและเหล่าเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องคงจะไม่ตอบสนองอย่างรวดเร็วขนาดนี้!” “สิ่งที่ยากที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาความจริง และโอกาสในการขายของเราทั้งหมดน่าจะถึงทางตัน!” อีวอนน์ยังคงพลิ
โยเอล เกรฮัมที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์รู้สึกงุนงง ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอน ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการช่วยนะครับ คราวนี้รัฐบาลเซาท์ไลท์ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษมาเอง คำพูดของผมจึงไม่มีอำนาจเลย” “ถ้าอย่างนั้นลองติดต่อผู้อาวุโสซาเวียร์ดูซิ” “นั่นก็อาจไม่เป็นประโยชน์ด้วยเช่นกัน ผมได้ยินมาว่าตั้งแต่ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เหล่าคนใหญ่คนโตในโวลซิ่งก็โกรธจัดและต้องการผลลัพธ์ภายในสามวัน” “ใครก็ตามที่กล้าเข้ามาแทรกแซงการสืบสวนสอบสวนจะต้องถูกเล่นงานอย่างหนักแน่นอน” “โอเค ผมเข้าใจแล้ว” ฮาร์วีย์วางสายและหัวเราะ เขาพอที่จะเดาได้ว่าใครเป็นคนที่เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้โดยใช้รัฐบาลเซาท์ไลท์เป็นเครื่องมือ แม้ว่าผู้ร้ายอาจที่จะเป็นตระกูลซาเวียร์ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าสร้างปัญหาใด ๆ ได้แน่นอนเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับอีวอนน์ ไคล์ ควินแลนผู้บัญชาการลำดับสองของเซาท์ไลท์เป็นสมาชิกของตระกูลควินแลนจากจอร์เจีย ในบรรดาตระกูลสิบอันดับแรก ตระกูลควินแลนจากจอร์เจียอยู่ในอันดับที่สูงกว่าตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่งด้วยซ้ำ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะมีความสนใจในธุรกิจระดับ
ไม่มีใครคาดคิดว่าอเล็กซ์ สวิฟต์จะมีจิตใจที่แน่วแน่มากขนาดนี้ แน่วแน่ถึงขนาดที่เขายอมขัดใจตำนานในวงการทหารและหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธ ถ้าหากหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธแค่เอ่ยปาก เขาก็จะสามารถขึ้นเป็นหัวหน้ากองกำลังเก้าอันดับแรกได้อย่างง่ายดาย และเขาอาจที่จะสามารถเข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโสของกองทัพได้ในอนาคต เขาเป็นคนที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดและดูมีอิทธิพลอย่างไม่น่าเชื่อ อเล็กซ์ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธเลย มือของเขาประสานกันไว้ที่ด้านหลัง เขาพูดต่ออย่างเย็นชา “หมายความว่าคุณกำลังจัดการกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้โดยไม่มีอคติใด ๆ เลยน่ะหรือ คุณสวิฟต์?” อเล็กซ์ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “โดยปกติแล้ว เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้งชื่อเสียงของบุคคลสำคัญระดับประเทศของประเทศ H ผมไม่สามารถแสดงความโปรดปรานจากทั้งสองฝ่ายได้ ผมเกรงว่าผู้บังคับบัญชาจะไล่ผมออก” ฮาร์วีย์ตอบกลับว่า “แล้วการสอบสวนเป็นอย่างไรบ้างล่ะในตอนนี้?” “เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากซ
"ไม่มีปัญหาครับ! ผมยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!” อเล็กซ์รีบตอบรับพร้อมกับโค้งคำนับทันที หลังจากนั้นไม่นาน สถานีตำรวจบัควู้ดก็ได้ส่งข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในมุมต่าง ๆ มาให้ฮาร์วีย์ เรย์ได้โทรจัดการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญและเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในทันที ฮาร์วีย์ยังสั่งให้คนของเขาเก็บตัวอย่างบางส่วนจากที่เกิดเหตุมาด้วย เมื่อฮาร์วีย์ตรวจสอบวัสดุแล้วเขาก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าสวิฟต์ ทรายนี้เป็นทรายทะเลจริง ๆ ด้วย” “มันถูกห้ามใช้ในการก่อสร้างเนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามสัญญาณของการสึกกร่อนดังกล่าวจะปรากฏออกมาในอีกสิบหรือยี่สิบปีต่อมาเท่านั้น” “อีกทั้งยังมีคอนกรีตที่ผสมอยู่ในทรายเป็นจำนวนมาก ตึกมันจะถล่มลงมาทันทีได้อย่างไร?” “ถ้าให้ตัดสินจากเหล่าตัวอย่างนี้ มันต้องมีใครบางคนจงใจผสมอย่างอื่นในวัสดุนี้อย่างแน่นอน” "อะไรนะ?!" อเล็กซ์และคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้าง มีคนพยายามที่จะใส่ร้ายแมนดี้หรือ? “กรดเข้มข้น” ฮาร์วีย์ตอบด้วยท่าทางนิ่ง ๆ “วิธีการง่าย ๆ ก็คือเติมกรดเข้มข้นที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงลงไปในส่วนผสมของอาคารที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่
ใบหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนนั้นเคร่งเครียดมาก โดยเฉพาะลิเลียน เธอเอาแต่ถามไปรอบ ๆ เพียงเพื่อจะรู้ว่าแมนดี้ต้องติดคุกอย่างน้อยสิบปีจริง ๆ หรือเปล่า คุณย่าเยตส์เข้ามาจับมือลิเลียน เธอปลอบโยนลิเลียนโดยพูดว่า “ลิเลียน ฉันล่ะเป็นกังวลจริง ๆ เกรงว่าทั้งไซม่อนและเธอก็อาจที่จะต้องเข้าคุกพร้อมกับแมนดี้ไปด้วย!” “เพราะในท้ายที่สุด พวกเธอสองคนก็เป็นคนที่มอบเงินปิดปากให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย หากสิ่งนี้ถูกเปิดเผยพวกเธอทั้งคู่จะต้องติดร่างแหไปด้วยแน่!” “โชคยังดีที่พวกเธอสองคนยังอยู่ดี!” คุณย่าเยตส์แสดงท่าทางปลอบโยน แต่คำพูดที่เธอใช้นั้นมันทำให้สีหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขายังคงต้องการได้รับความมั่งคั่งและความรุ่งเรือง! ใครจะไปอยากติดคุก? ลิเลียนโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “คุณแม่! โปรดช่วยพวกเราและแมนดี้ด้วยนะคะ!” “เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร? พวกเราคือครอบครัวนะ!” “ถ้าฉันสามารถช่วยได้ ฉันจะช่วยเธออย่างแน่นอน!” “มันก็แค่… ฉันถามพี่ชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาบอกว่ามันค่อนข้างยาก เธอเข้าใจใช่ไหม?” คุณย่าเยตส์เหลือบมองคีธหลังจากที่พูดจบ คีธดูงุนงง “
ลิเลียนอึ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณแม่ คุณแม่กำลังพูดถึงข้อตกลงเรื่องอะไรกันคะ?” “แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่แล้ว! เพื่อที่จะช่วยครอบครัวของเธอแก้ปัญหานี้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะนำเงินออมของฉันออกไปประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของแมนดี้” คุณย่าเยตส์พูดยิ้ม ๆ “หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์?!” ไซม่อนและลิเลียนทั้งสองต่างมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องการดำเนินงานของบริษัทมากนัก แต่พวกเขาก็พอที่จะรู้ว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พวกเขาจะขายหุ้นของพวกเขาด้วยเงินเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ได้อย่างไร? เมื่อมองไปที่การจ้องมองที่ดูสับสน คุณย่าเยตส์ก็หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าพวกเธอสองคนไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนี้ได้ในตอนนี้ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงมากแค่ไหน” “มาเถอะแกรนต์ มาบอกคุณลุงและคุณป้าของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้หน่อย” แกรนต์ ไบร์ทเดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณลุง คุณป้าครับ ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นรอ
ทั้งไซม่อนและลิเลียนต่างก็รู้สึกลังเล พวกเขารู้สึกว่าการขายหุ้นทั้งหมดของแมนดี้ในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์นั้นถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเริ่มหวาดกลัวอย่างมากหลังจากฟังคำอธิบายของแกรนต์ แกรนต์ยังคงยิ้มและพูดต่อ “คุณลุง คุณป้าครับ พวกคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอีกเหรอครับ?” “ถ้าพวกคุณยังลังเลอยู่ แล้วไม่รับหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ครั้งนี้ พวกคุณจะต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตนะครับ!” “ผมรับประกันได้เลยว่าถึงแม้หลังจากที่คุณขายบริษัทให้กับตระกูลเยตส์แล้ว พวกเราจะยังคงอนุญาตให้แมนดี้ทำงานในบริษัทต่อไปได้” “พวกคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะครับ!” อย่างไรก็ตาม ไซม่อนและลิเลียนยังคงตัดสินใจไม่ได้ จู่ ๆ คุณย่าเยตส์ก็กระแอมขัดจังหวะและเปลี่ยนเรื่อง “ลิเลียน เธอคิดยังไงกับแกรนต์บ้าง?” ลิเลียนตอบอย่างรวดเร็วว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คนหนึ่ง!” "ถูกต้องแล้ว!" คุณย่าเยตส์หัวเราะ “แกรนต์อยู่ในธุรกิจนี้มานานหลายปีแล้วและมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน หลังจากการได้มาซึ่งหุ้นของ ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ พวกเราตระกูลเยตส์วางแผนที่จะมอบหุ้นให้กับเขาสิ
ซีนเธียร์จับแก้มตัวเองและจ้องไปที่ธัญญ่าอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ เธอไม่อยากที่จะเชื่อเลยว่าน้าสาวที่รักเธอมากจะตบเธอด้วยเรื่องแบบนี้! ผัวะ! ทันใดนั้น ฮาร์วีย์ที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ ก็ก้าวออกมา แต่ทว่าก่อนที่ใครจะทันได้ทักท้วงอะไรเขาก็เดินตรงเข้าไปตบธัญญ่าอย่างแรงจนเธอถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่แค่ธัญญ่าคนเดียวที่อึ้งกับเหตการณ์นั้น เลย์ตันเองก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน คีธก็ไม่ต่าง คุณย่าเยตส์ก็ด้วย! ทุกคนต่างก็อึ้งไปตาม ๆ กัน! พวกเขารู้อยู่แล้วว่าฮาร์วีย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์เป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ซึ่งไม่ควรค่าจะเสียเวลาไปเสวนาด้วย แล้วเจ้าเศษสวะนี่ตบหน้าธัญญ่าจริงดิ?! เลย์ตันเป็นคนแรกที่กลับมามีสติสัมปชัญญะ เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์และเริ่มดุด่าต่าง ๆ นา ๆ “เลี้ยงเสียข้าวสุก! พยศ! อาศัยบ้านเขาอยู่แล้วกล้าดียังไงมาทำแบบนี้อีก?” “แกมันก็แค่หมาจนตรอก!” “แมนดี้ไม่ใช่คนเดียวที่จะต้องเข้าคุก!” “แกก็จะต้องใช้เวลาแสนเนิ่นนานในกรงขังนั่นด้วยเช่นกัน!” “อ๊ากกกกก!” ฮาร์วีย์จ้องเขม็งไปที่เลย์ตันซึ่งกำลังกระวนกระวายจากสายตาของฮ