"ไม่มีปัญหาครับ! ผมยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!” อเล็กซ์รีบตอบรับพร้อมกับโค้งคำนับทันที หลังจากนั้นไม่นาน สถานีตำรวจบัควู้ดก็ได้ส่งข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในมุมต่าง ๆ มาให้ฮาร์วีย์ เรย์ได้โทรจัดการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญและเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในทันที ฮาร์วีย์ยังสั่งให้คนของเขาเก็บตัวอย่างบางส่วนจากที่เกิดเหตุมาด้วย เมื่อฮาร์วีย์ตรวจสอบวัสดุแล้วเขาก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าสวิฟต์ ทรายนี้เป็นทรายทะเลจริง ๆ ด้วย” “มันถูกห้ามใช้ในการก่อสร้างเนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามสัญญาณของการสึกกร่อนดังกล่าวจะปรากฏออกมาในอีกสิบหรือยี่สิบปีต่อมาเท่านั้น” “อีกทั้งยังมีคอนกรีตที่ผสมอยู่ในทรายเป็นจำนวนมาก ตึกมันจะถล่มลงมาทันทีได้อย่างไร?” “ถ้าให้ตัดสินจากเหล่าตัวอย่างนี้ มันต้องมีใครบางคนจงใจผสมอย่างอื่นในวัสดุนี้อย่างแน่นอน” "อะไรนะ?!" อเล็กซ์และคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้าง มีคนพยายามที่จะใส่ร้ายแมนดี้หรือ? “กรดเข้มข้น” ฮาร์วีย์ตอบด้วยท่าทางนิ่ง ๆ “วิธีการง่าย ๆ ก็คือเติมกรดเข้มข้นที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงลงไปในส่วนผสมของอาคารที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่
ใบหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนนั้นเคร่งเครียดมาก โดยเฉพาะลิเลียน เธอเอาแต่ถามไปรอบ ๆ เพียงเพื่อจะรู้ว่าแมนดี้ต้องติดคุกอย่างน้อยสิบปีจริง ๆ หรือเปล่า คุณย่าเยตส์เข้ามาจับมือลิเลียน เธอปลอบโยนลิเลียนโดยพูดว่า “ลิเลียน ฉันล่ะเป็นกังวลจริง ๆ เกรงว่าทั้งไซม่อนและเธอก็อาจที่จะต้องเข้าคุกพร้อมกับแมนดี้ไปด้วย!” “เพราะในท้ายที่สุด พวกเธอสองคนก็เป็นคนที่มอบเงินปิดปากให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย หากสิ่งนี้ถูกเปิดเผยพวกเธอทั้งคู่จะต้องติดร่างแหไปด้วยแน่!” “โชคยังดีที่พวกเธอสองคนยังอยู่ดี!” คุณย่าเยตส์แสดงท่าทางปลอบโยน แต่คำพูดที่เธอใช้นั้นมันทำให้สีหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขายังคงต้องการได้รับความมั่งคั่งและความรุ่งเรือง! ใครจะไปอยากติดคุก? ลิเลียนโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “คุณแม่! โปรดช่วยพวกเราและแมนดี้ด้วยนะคะ!” “เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร? พวกเราคือครอบครัวนะ!” “ถ้าฉันสามารถช่วยได้ ฉันจะช่วยเธออย่างแน่นอน!” “มันก็แค่… ฉันถามพี่ชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาบอกว่ามันค่อนข้างยาก เธอเข้าใจใช่ไหม?” คุณย่าเยตส์เหลือบมองคีธหลังจากที่พูดจบ คีธดูงุนงง “
ลิเลียนอึ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณแม่ คุณแม่กำลังพูดถึงข้อตกลงเรื่องอะไรกันคะ?” “แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่แล้ว! เพื่อที่จะช่วยครอบครัวของเธอแก้ปัญหานี้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะนำเงินออมของฉันออกไปประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของแมนดี้” คุณย่าเยตส์พูดยิ้ม ๆ “หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์?!” ไซม่อนและลิเลียนทั้งสองต่างมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องการดำเนินงานของบริษัทมากนัก แต่พวกเขาก็พอที่จะรู้ว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พวกเขาจะขายหุ้นของพวกเขาด้วยเงินเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ได้อย่างไร? เมื่อมองไปที่การจ้องมองที่ดูสับสน คุณย่าเยตส์ก็หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าพวกเธอสองคนไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนี้ได้ในตอนนี้ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงมากแค่ไหน” “มาเถอะแกรนต์ มาบอกคุณลุงและคุณป้าของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้หน่อย” แกรนต์ ไบร์ทเดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณลุง คุณป้าครับ ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นรอ
ทั้งไซม่อนและลิเลียนต่างก็รู้สึกลังเล พวกเขารู้สึกว่าการขายหุ้นทั้งหมดของแมนดี้ในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์นั้นถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเริ่มหวาดกลัวอย่างมากหลังจากฟังคำอธิบายของแกรนต์ แกรนต์ยังคงยิ้มและพูดต่อ “คุณลุง คุณป้าครับ พวกคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอีกเหรอครับ?” “ถ้าพวกคุณยังลังเลอยู่ แล้วไม่รับหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ครั้งนี้ พวกคุณจะต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตนะครับ!” “ผมรับประกันได้เลยว่าถึงแม้หลังจากที่คุณขายบริษัทให้กับตระกูลเยตส์แล้ว พวกเราจะยังคงอนุญาตให้แมนดี้ทำงานในบริษัทต่อไปได้” “พวกคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะครับ!” อย่างไรก็ตาม ไซม่อนและลิเลียนยังคงตัดสินใจไม่ได้ จู่ ๆ คุณย่าเยตส์ก็กระแอมขัดจังหวะและเปลี่ยนเรื่อง “ลิเลียน เธอคิดยังไงกับแกรนต์บ้าง?” ลิเลียนตอบอย่างรวดเร็วว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คนหนึ่ง!” "ถูกต้องแล้ว!" คุณย่าเยตส์หัวเราะ “แกรนต์อยู่ในธุรกิจนี้มานานหลายปีแล้วและมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน หลังจากการได้มาซึ่งหุ้นของ ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ พวกเราตระกูลเยตส์วางแผนที่จะมอบหุ้นให้กับเขาสิ
ซีนเธียร์จับแก้มตัวเองและจ้องไปที่ธัญญ่าอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ เธอไม่อยากที่จะเชื่อเลยว่าน้าสาวที่รักเธอมากจะตบเธอด้วยเรื่องแบบนี้! ผัวะ! ทันใดนั้น ฮาร์วีย์ที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ ก็ก้าวออกมา แต่ทว่าก่อนที่ใครจะทันได้ทักท้วงอะไรเขาก็เดินตรงเข้าไปตบธัญญ่าอย่างแรงจนเธอถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่แค่ธัญญ่าคนเดียวที่อึ้งกับเหตการณ์นั้น เลย์ตันเองก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน คีธก็ไม่ต่าง คุณย่าเยตส์ก็ด้วย! ทุกคนต่างก็อึ้งไปตาม ๆ กัน! พวกเขารู้อยู่แล้วว่าฮาร์วีย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์เป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ซึ่งไม่ควรค่าจะเสียเวลาไปเสวนาด้วย แล้วเจ้าเศษสวะนี่ตบหน้าธัญญ่าจริงดิ?! เลย์ตันเป็นคนแรกที่กลับมามีสติสัมปชัญญะ เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์และเริ่มดุด่าต่าง ๆ นา ๆ “เลี้ยงเสียข้าวสุก! พยศ! อาศัยบ้านเขาอยู่แล้วกล้าดียังไงมาทำแบบนี้อีก?” “แกมันก็แค่หมาจนตรอก!” “แมนดี้ไม่ใช่คนเดียวที่จะต้องเข้าคุก!” “แกก็จะต้องใช้เวลาแสนเนิ่นนานในกรงขังนั่นด้วยเช่นกัน!” “อ๊ากกกกก!” ฮาร์วีย์จ้องเขม็งไปที่เลย์ตันซึ่งกำลังกระวนกระวายจากสายตาของฮ
ธัญญ่าพูดอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์! เนื่องจากว่านายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเรา เราจะมองข้ามสิ่งที่นายทำ” “อย่าใจร้อนไปนักเลย! อย่าทำให้พ่อตาและแม่ยายของนายต้องมีปัญหามากไปกว่านี้เถอะ!” "ปัญหาเหรอ? ฉันจะไปสร้างปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไร?” ฮาร์วีย์โต้กลับอย่างเย็นชา คีธแสร้งพูดเป็นกลางว่า “ถ้านายไม่ปล่อยให้พวกเขาขายหุ้นของบริษัทให้กับเรา นายก็อาจจะเป็นคนที่ทำร้ายพวกเขาก็ได้นะ!” “เมื่อเหล่าลูกค้าเรียกร้องขอเงินคืน นายวางแผนจะชำระหนี้ก้อนโตนั้นอย่างไรเหรอ?” ฮาร์วีย์ตอบอย่างประชดประชันว่า “เรามีคุณไม่ใช่เหรอครับ คุณลุง? ผมได้ยินมาว่าครูของคุณลุงในเมืองโวลซิ่งมีอำนาจมาก ตราบใดที่คุณออกมาช่วยจัดการกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ไม่น่าจะมีปัญหาใช่ไหมล่ะ?” ไซม่อนและลิเลียนตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ลิเลียนเสริมอย่างเร่งรีบ “ใช่แล้วพี่ เราลืมไปได้อย่างไรกัน?” “ไม่จำเป็นต้องโอนบริษัทหรอก ตราบใดที่คุณลุงเต็มใจที่จะยื่นมือออกมาช่วยเรา พวกเขาเหล่านั้นก็พร้อมจะช่วยเหลือคุณลุงอย่างแน่นอน หลังจากนั้น ผมจะให้แมนดี้มอบวิลล่าให้คุณลุงเป็นการตอบแทน!” หากมีโอกาสที่พอจะทำให้บริษัทไม่ล้มละลาย ลิ
ในช่วงเวลาค่ำ ตระกูลเยตส์ได้มารวมตัวกันที่คลับเฮาส์คีธยิ้มพร้อมกับถือแก้วไว้ในมือของเขาและกล่าวขึ้น “แกรนต์ แผนของคุณฟังดูเข้าท่านะ ฉันเพิ่งติดต่อหลาย ๆ คนจากรัฐบาลไป”“พรุ่งนี้พวกเขาจะกดดันซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ ฉันพนันว่าไซม่อนกับลิเลียนคงต่อต้านไม่ได้แน่!”“แล้วพรุ่งนี้ เราจะได้กรรมสิทธิ์หุ้นของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มา!”“และพวกเราตระกูลเยตส์ก็จะได้กลายเป็นตระกูลระดับแนวหน้า!”แกรนต์ยกแก้วไวน์ในมือของเขาขึ้นเช่นเดียวกัน “คุณเยตส์ ขอบคุณที่คุณมอบโอกาสนี้ให้กับผมนะครับ ผมสัญญาว่าต่อไปในอนาคตผมจะจัดเต็มเพื่อตระกูลเยตส์และจะไม่มีวันลังเลเด็ดขาดครับ!”“ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนที่ทำกำไรให้ตระกูลเยตส์เองครับ!”ผู้คนในตระกูลเยตส์ต่างหัวเราะอย่างเสียงดังในขณะที่ฟังแกรนต์พูดเลย์ตันปิดหน้าของเขา “พี่ใหญ่ครับ ผมคิดว่าเราจะต้องสั่งสอนไอ้โง่ฮาร์วีย์สักทีนะครับหลังจากที่เรื่องทั้งหมดจบลง!”“เขาเป็นแค่ขยะ! เขากล้ามาทำร้ายผมได้ยังไง?! เหลือเชื่อจริง ๆ !”ธัญญ่ากัดฟันของเธอเช่นกัน “ใช่! ผู้ชายคนนั้นควรจะไปอยู่ในคุกตลอดชีวิตที่เหลือของเขา!”แกรนต์เผยรอยยิ้มและพูด “คุณเยตส์ครับ ลูก
ไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้าของคีธเท่านั้นที่ดูย่ำแย่แต่ใบหน้าของสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลเยตส์ยังเปลี่ยนไปทันทีเช่นเดียวกันแต่อย่างไร คุณย่าเยตส์ก็รีบพูดเตือนอย่างทันที เธอเผยรอยยิ้มและพูดขึ้น “คุณสวิฟต์ ฉันยังจำได้ที่คุณมาแสดงความยินดีกับฉันในวันเกิดของฉันได้อยู่เลย ฉันอยากจะไปเยี่ยมคุณอยู่ตลอด แต่ฉันไม่มีเวลาเลย”“ดีแล้วที่วันนี้เรามีโอกาสได้เจอกัน เรามานั่งดื่มกันสักแก้วดีกว่าไหม?”ตระกูลเยตส์มองไปที่อเล็กซ์ ไม่มั่นใจว่าจุดประสงค์ในการมาอย่างกะทันหันของเขาในวันนี้คืออะไรเขาเอาแต่พูดว่ากรณีนี้จะต้องรับมืออย่างเป็นกลาง เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเขาพบเจอบางอย่างเข้า?อเล็กซ์ตอบอย่างเย็นชา “ไม่ดีกว่าครับ”“เรามาที่นี่เพื่อจับกุมใครบางคนครับ เรามาขอให้คุณเยตส์ให้ความร่วมมือกับเราครับ”“อะไรนะ? มาจับใครเหรอ?” คีธและคนอื่น ๆ ทั้งหมดประหลาดใจ“แกรนต์ ไบร์ทจากรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในหลายคดีและเรามีหลักฐานมัดตัวคุณหมดแล้ว ตอนนี้คุณถูกจับกุมแล้ว!”อเล็กซ์พูดและแสดงออกอย่างเลือดเย็น“ฮะ? อะไรนะ? ผมโดนจับเหรอ? คุณมีหลักฐานหรือเปล่า?”แกรนต์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง“พูดตามตรง