อีกด้านหนึ่งอาวุโสซิมเมอร์ยังคงปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มไว้อยู่ “ผู้จัดการเซอร์เรล ในนามของตระกูลซิมเมอร์ผมรับประกันได้ว่าทรัพย์สมบัติของเราทั้งหมดจะเป็นของพวกคุณทั้งสองหากตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน เพชรนั้นไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลซิมเมอร์ที่จะเป็นของคุณ จะทำให้เป็นเรื่องวุ่นวายทำไมตอนนี้?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นคนตรงไปตรงมากับความคิดของเขาเสมอ เขาเตรียมพร้อมที่จะส่งมอบทรัพย์สมบัติย์ทั้งหมดของตระกูลซิมเมอร์ให้กับคู่หนุ่มสาวนี้ หล่อนไม่จำเป็นต้องวุ่นวายใจกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ที่แซ็คกำลังขอเธอแต่งงาน“ถูกต้องค่ะพี่สะใภ้ นั่นก็แค่เรื่องเล็กน้อยจริง ๆ ! พี่จะลงโทษแซ็คโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ไม่ได้!”"ใช่! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแหวนเพชรวงนี้ที่มีมูลค่าแสนดอลลาร์ ก็แค่มองไปดูที่ไอ้ขยะฮาร์วีย์นั่น เขาไม่สามารถซื้อแหวนเพชรราคาที่แค่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์ได้ด้วยซ้ำ พี่โชคดีมากที่ได้แซ็คชื่นชอบพี่!”"ใช่! มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!”ตระกูลซิมเมอร์พยายามเกลี้ยกล่อมเธอแซ็คเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกของเขามากขึ้น “เวนดี้ ผมรับรองได้ว่ามจะซ
ที่กลางห้องโถง หางตาของผู้อาวุโสซิมเมอร์กระตุก เขาไอกระแอมและพูดว่า “ทุกคนเมื่อกี้นี้มันเป็นเพียงการเข้าใจผิดของเด็ก ๆ อย่าสนใจเลย ฉันจะเป็นเจ้าภาพในคืนนี้ เราจะทานกันต่อไหม?”ผู้นำตระกูลทุกคนล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ อย่างไรก็ตามพวกเขาคิดว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดเป็นความจริง พวกเขาจะรู้เองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่โดยสังเกตจากตระกูลซิมเมอร์จะประสบความสำเร็จในการลงทุนกับยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์หรือเปล่าหลังจากดื่มไวน์อีกสามรอบผู้นำตระกูลทุกคนต่างก็หาข้ออ้างที่จะกลับ พวกเขาไม่ได้มาเพื่อเห็นแก่ตระกูลซิมเมอร์ ตระกูลซิมเมอร์ไม่มีชื่อเสียงมากพอสำหรับพวกเขาที่จะทำเช่นนั้น เป้าหมายของพวกเขาคืออีวอนน์พวกเขารู้ว่าตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทยอร์กเอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้นำตระกูลบางคนมีความคิดบางอย่าง เนื่องจากตระกูลซิมเมอร์สามารถส่งชายหนุ่มไปจีบเวนดี้ได้พวกเขาก็ทำได้เช่นกัน***เมื่อแขกจากไปแล้วแซ็คก็รวบรวมความกล้าและเดินไปหาผู้อาวุโสซิมเมอร์ เขาก้มลงและพูดว่า “คุณปู่!”เพียะ!ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตบแก้มเขาอย่างแรง เขามีสีหน้าผิดหวัง “แกบอกไม่ใช่หรือไงว่าจัดการกับพวกหล่
“คุณปู่ เราคิดให้ดีสิ คุณปู่ไม่คิดว่าเธอจะมีความรู้สึกกับผมเลยเหรอ?”แซ็คทำหน้าให้ดูน่าเชื่อถือ แล้วทำไมเหตุผลของเขาต้องฟังดูน่าเชื่อถือล่ะ?ตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากัน เขาให้คำอธิบายได้ดีทีเดียว สถานะของอีวอนน์เป็นอะไร? ผู้นำตระกูลหลาย ๆ คนจึงอยากพบเธอ แต่ก็ไม่มีโอกาส แต่เธอมาพบตระกูลซิมเมอร์ ดูเหมือนว่าไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากเธอชอบแซ็ค“คุณปู่ การที่เวนดี้ปฏิเสธการขอแต่งงานขอผมถือเป็นเรื่องที่ดี ลองคิดดูเวนดี้เป็นเพียงแค่ผู้จัดการตังเล็ก ๆ แล้วเธอจะทำอะไรได้มากกว่านี้?” แซ็คมองทะลุความจริงของความเป็นจริงทั้งหมด “อีวอนน์ ไม่สิ วอนนี่ของผมเป็นถึงเลขาของซีอีโอของยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์! มีข่าวลือว่าเธอเป็นซีอีโอลับด้วย คุณปู่ตระกูลซิมเมอร์กำลังจะร่ำรวยอย่างฉุดไม่อยู่!”ซีอีโอของยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์?เมื่อเขาพูดแแบนี้ตระกูลซิมเมอร์ที่อยู่ด้วยกันทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซีอีโอคนก่อนที่ให้เงินลงทุนคือเบลล์ ยอร์ก ซึ่งเป็นผู้หญิงเช่นกัน ซีอีโอหญิงถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของผู้อาวุโสซิมเมอร์ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าสงบ เขาเคาะโต๊ะแล้วพ
เขาอยู่ในจุดสูงสุดในชีวิต เขาสามารถแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ฮาร์วีย์ลูกเขยขี้แพ้คนนี้กล้าที่จะหัวเราะเยาะเขาได้อย่างไร? เขาไม่หยาบคายเกินไปหรือ?ทันใดนั้นทุกคนก็หันไปมองฮาร์วีย์ พวกเขาคิดว่าคงจะมีการปะทะกันเกิดขึ้นแน่นอน นั่นทำให้พวกเขาไม่อยากจะพลาดเหตุการณ์ตรงหน้านี้“ผมคงต้องขอโทษด้วย ผมไม่สามารถบังคับตัวเองไว้ได้” ฮาร์วีย์ปิดปากขณะพูด “บางคนก็มีจินตนาการที่เลิศล้ำมากจริง ๆ แซ็ค ผมคิดว่าคุณไม่ควรพยายามจีบเธอนะ ทำไมคุณไม่ลองพยายามเป็นลูกเขยของตระกูลซาเวียร์ดูล่ะ ดูว่าเธอจะต้องการให้คุณเป็นหรือเปล่า!”“กะ...แกเป็นแค่ลูกเขยที่ยังที่ไร้ประโยชน์กล้ามาดูถูกฉันได้ยังไง!” ท่าทีของแซ็คเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะมีความต้องการทำตัวให้ดูเป็นลูกผู้ชาย แต่นั่นก็ทำได้แค่คิด แต่ภาพลักษณ์ก็พังทลายลง เขาไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป เขาตะโกนใส่ฮาร์วีย์เสียงดังผู้อาวุโสซิมเมอร์เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้เช่นกัน สำหรับคนที่พึ่งพาผู้หญิงเพื่อให้ได้มาซึ่งการลงทุนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการแมงดา ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ต้องการที่จะรักษาภาพพจน์ของตัวเองทุกคน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในสังคมชนชั้นสูง ดัง
ความอยากรู้อยากเห็นของแมนดี้พุ่งปรี๊ด เธอไม่สามารถต้านทานตัวเองได้และถามว่า “ความสัมพันธ์ของคุณกับอีวอนน์ยังเหมือนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือเปล่า? คุณทั้งคู่ไม่ใช่คู่รักกันใช่ไหม?”เมื่อเธอพูดแบบนี้แมนดี้รู้สึกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างผิดปกติ เธอรู้ความสามารถของสามีที่ไร้ค่าของเธอ เขาจะมีแฟนเก่าที่สง่างามเหมือนอีวอนน์ได้อย่างไร?ฮาร์วีย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ได้โปรดอย่าเพิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไม่เคยอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นมาก่อน” ดวงตาของลิเลียนเป็นประกายในทันที ราวกับว่าเธอจับฮาร์วีย์ได้คาหนังคาเขา เธออยากตำหนิเขา “นั่นไง เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง! ผู้ชายอย่างนายแอบซ่อนผู้หญิงไว้อย่างนายไม่ได้มีแค่ลูกสาวของฉัน! ฮาร์วีย์ ฉันจะบอกอะไรให้นะ! นายต้องหย่ากับลูกสาวของฉันทันที! เดี๋ยวนี้!”"แม่คะ!" แมนดี้จ้องไปที่ลิเลียน “ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะค่ะ”"ไม่มีทาง!"แซ็คพูดก่อนที่ลิเลียนจะพูดต่อ “ธุระของเรายังไม่จบ ฮาร์วีย์ โทรหาอีวอนน์และอธิบายความสัมพันธ์ของคุณให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นอย่าคิดที่จะออกจากที่นี้ได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” ฮาร์วีย์พูด
หลังจากเดินออกจากคฤหาสน์ ฮาร์วีย์ก็กดโทรออกอีกครั้ง คราวนี้ปลายสายรับสายเร็วมาก อีวอนน์ ซาเวียร์ตอบด้วยน้ำเสียงอยากขอโทษ “มิสเตอร์ยอร์ก ตอนนี้ฉันอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดินโทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ”“ไม่เป็นไร คุณมารับผมเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น คืนนี้เขาไม่มีที่ไหนให้ไปเลย มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขาไปนอนที่ห้องทำงานแทน“ฮะ? ได้ค่ะ คุณอยู่ไหนคะมิสเตอร์ยอร์ก? ฉันจะไปที่นั่นทันที” อีวอนน์ตกตะลึงไปชั่วขณะแต่เธอก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์บอกที่อยู่ให้กับเธอก่อนที่จะวางสาย ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เฟอร์รารีสีแดงก็มาจอดที่ด้านข้างของฮาร์วีย์และหน้าต่างรถก็ลดลง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อีวอนน์เปลี่ยนชุดเป็นสวมเสื้อหนังและกระโปรงสั้น เธอมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างเขินอายและพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันรีบขับรถออกมาทันทีที่คุณโทรหาฉัน ฉันเลยไม่สามารถเปลี่ยนชุดได้ทันเวลา”“ไม่เป็นไร ผมรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณหรือเปล่า?” ฮาร์วีย์ถาม“ไม่ ไม่เลย มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมงค่ะมิสเตอร์ยอร์ก” อีวอนน์รีบลงจากรถและเดินไปฝั่งที่นั่งผู้โดยสารก่อนจะช่วยเปิดประตูให้ฮาร์วีย์ฮา
ไวแอตต์ที่อยู่ข้างหลังเธอได้เดินไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณผู้หญิงคนนี้ดูไม่คุ้นเลย คุณอาจจะเพิ่งมาถึงเมืองนิอัมมี่เมื่อไม่นานมานี้ ผมจะพูดเตือนคุณอย่างไรดี? มีบางคนในนิอัมมี่ที่ชอบเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว คุณต้องระวังอย่ายุ่งกับพวกเขา พวกเขาน่าขยะแขยงมาก หากคุณต้องการอะไร ผมสามารถพาคุณไปเดินรอบ ๆ แหล่งช้อปปิ้งของเราได้ ผมเป็นผู้จัดการของร้านอาหารนอร์ทแลนด์และผมคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดี”เห็นได้ชัดว่าไวแอตต์สนใจในความงดงามของอีวอนน์ซึ่งเป็นคนที่ขับรถเฟอร์รารีด้วยเช่นกัน ดูเหมือนเธอจะมีความโดดเด่น ถ้าเขาสามารถจับเธอได้ เขาจะเป็นเจ้าของทั้งความงามและความมั่งคั่งไหมนะ?ในตอนแรกฮาร์วีย์ไม่ต้องการพูดกับพวกเขา แต่สองคนนั้นน่ารำคาญเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองไวแอตต์แล้วพูดว่า “เฮ้ จอห์นสัน พนักงานบริกรร้านอาหารอย่างคุณเลิกโอ้อวดในสิ่งที่คุณไม่มีได้ไหม? ทำไมคนของผมจะต้องมาเกี่ยวข้องกับคุณ?”ใบหน้าของไวแอตต์มืดมนลง เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมีความกล้าที่จะยอกย้อนเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ คุณกำลังแสร้งทำเป็นว่าเป็นลูกเขยที่แสนดีหรือเปล่า? คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญที
อีวอนน์ เบื่อเกินไปที่จะมองเซซิเลีย แต่แล้วเธอกลับจ้องไปที่ไวแอตต์ อย่างเย็นชาและพูดว่า “ใครจะสนถ้าฉันจะตบคุณ? เป็นแค่พนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารที่คุยโวอยู่ตรงหน้าฉัน? ปากของคุณสกปรกพอ ๆ กับห้องน้ำ ฉันจะตบใครถ้าไม่ใช่คุณ?”ในตอนนี้ อีวอนน์กลับมามีอารมณ์ใจเย็นขึ้นตามปกติแล้ว เพียงแค่แวบเดียวทำให้เธอมองและพูดหนึ่งประโยคกับไวแอตต์ความตะลึงของฝูงชนลดลงด้วยความหวาดกลัว“บ้าเอ้ย อารมณ์ของสาวสวยคนนี้ร้อนแรง!”“เธอเป็นเทพธิดาของผม ผมชอบบุคลิกนี้มากที่สุด!”“คนปกติไม่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเธอ คนอย่างเราทำได้แค่ฝันถึงมัน!”พวกเขาหลายคนเริ่มนินทา แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดออกมาเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวว่าอีวอนน์จะตบถ้าเธอได้ยินและพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเมื่อไม่มีใครสังเกตเห็น อีวอนน์ก็แอบเหลือบไปมองฮาร์วีย์ ที่ยืนพิงรถเฟอร์รารี เธอรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมุมปากของฮาร์วีย์โค้งขึ้นและยกยิ้มอย่างน่าชื่นชม“ไอ้บ้าสารเลว ใครจะสนใจถ้าฉันไปซื้อของกับเพื่อน? ระฆังปากแตกมักจะไม่สามารถส่งเสียงได้ดี! ถ้าฉันได้ยินอีกหนึ่งคำจากคุณ ฉันจะฉีกปากของคุณ!” อีวอนน์ยังคงตำหนิต่อไปไวแอตต์เอามือป