ก่อนที่แมนดี้จะรู้ตัว อมีเลียก็คว้าของไปจากมือของเธอพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง “แมนดี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่จะโชว์ให้คนอื่นดู ทำไมเธอถึงยืนกรานที่จะเปิดมันเมื่อเธอกลับบ้านล่ะ?”“หรือเธอกลัวว่าของขวัญจะทำให้เธออับอาย?”“อมีเลีย! เธอไม่คิดว่ามันจะเกินไปหน่อยเหรอ?”สีหน้าของแมนดี้ดูเยือกเย็นลง นี่เป็นของขวัญจากฮาร์วีย์ที่ให้กับเธอ อมีเลียคว้ามันออกไปจากมือเธอได้อย่างไร?อมีเลียไม่รู้ตัวว่าเธอแสดงพฤติกรรมหยาบคายออกมาแค่ไหน ใบหน้าของเธอยังคงดูถูกเหยียดหยามขณะที่เธอตอบออกไปว่า “แมนดี้ เธอพูดแบบนั้นได้ยังไง? ฉันทำแบบนี้เพื่อเธอนะ!”“ฉันแค่กังวลว่าสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอแค่หยิบของไร้ค่ามาหลอกเธอ! แล้วถ้าหากมันเป็นของรุ่นเก่าเมื่อสองสามปีก่อนพร้อมส่วนลดสามร้อยดอลลาร์หลังจากลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เธอต้องขอให้เขาเลือกของขวัญอื่นให้เธอนะ!”ขณะที่อมีเลียพูดเธอก็เริ่มแกะห่อกระดาษออกทว่าทันทีที่เธอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เธอก็ต้องตกตะลึง รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นงั้นเหรอ?!ลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีราคาเกือบสามแสนดอลลาร์?!อมีเลียขยี้ตา พลางคิดว่าเธอคงตาฝาดไปหรือเปล่าเฟลิกซ์เดินเข้ามาแล
“พวกคุณทุกคนที่นี่ตาบอดไปแล้วเหรอ? ไม่มีใครรู้เลยหรือไงว่ากระเป๋าราคาแพงขนาดนี้ถูกสับเปลี่ยน?”ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในร้าน อมีเลียก็พูดขึ้นเสียงดังและวางอำนาจ พนักงานขายงงงัน ผู้จัดการร้านจึงเดินเข้ามาหาเธอทันทีและถามว่า “คุณคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่ดิฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร?”“ฉันหมายถึงอะไรงั้นเหรอ? ดูนี่สิ! สิ่งที่เขาซื้อ และสิ่งที่เขาเอาไปจริง ๆ!” อมีเลียตะโกนพลางชี้ไปที่ ฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอผู้จัดการร้านมองอมีเลียด้วยท่าทีแปลก จากนั้นเธอก็เบนสายตาไปที่ฮาร์วีย์ และก้มลงโค้งคำนับเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ“มีอะไรหรือเปล่าคะ? ลูกค้าท่านนี้ซื้อกระเป๋าใบนี้ไป”ท่าทีที่ให้ความเคารพของผู้จัดการร้านดูเหมือนจะไม่ใช่การเสแสร้งเธอยังนับเลขศูนย์ที่เหลืออยู่ในบัตรของฮาร์วีย์ไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ“เป็นไปได้ยังไง? เปิดตาของคุณให้กว้างและมองให้ดี! เขาจะซื้อกระเป๋าใบนี้มาได้ยังไง?!”อมีเลียเริ่มกระวนกระวายเธออยากทำให้ฮาร์วีย์อับอาย ไม่ใช่ตัวเธอเอง“คุณคะ โปรดระวังคำพูดของคุณด้วย! ลูกค้ารายนี้ซื้อกระเป๋าใบนี้จริง ๆ ใบเสร็จก็ยังอยู่มีอยู่ โปรดดูให้ดี!”ผู้จัดการร้านไม่พอใจเ
”ไอ้เศษขยะ! พยายามคิดจะทำอะไรอีก?”อมีเลียถามออกมาด้วยท่าทางดูถูก“อย่าบอกนะว่านายกำลังจะพูดว่านายจะซื้อของขวัญให้แมนดี้อีกชิ้น?”“เอาสิ! ซื้อเลย! ถ้านายมีความสามารถพอ ซื้อกระเป๋าทั้งร้านนี้เลย!”“ถ้านายทำแบบนั้นได้ ฉันจะยอมคุกเข่าลงต่อหน้านายแล้วเอาหัวแนบลงกับพื้น!”ตอนนี้อมีเลียทำตัวอวดดีมากกว่าเดิม สำหรับเธอแล้วฮาร์วีย์ที่ซื้อกระเป๋าราคาเกือบสามแสนดอลลาร์ได้ก็เกินพอแล้วเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะซื้อกระเป๋าทั้งหมดในร้านนี้ได้?คงจะต้องใช่เงินอย่างน้อยสองสามแสนดอลลาร์“รักษาคำพูดด้วยล่ะ” ฮาร์วีย์หัวเราะและหันไปหาแมนดี้ ซิมเมอร์ “อย่าลืมจดไว้ด้วยนะครับ”ฮาร์วีย์จึงหันไปหาผู้จัดการร้าน “แพ็คของทุกอย่างในร้านนี้ให้ผมด้วยครับ”ผู้จัดการร้านที่กำลังดูละครตรงหน้าเธออยู่ก็ตกตะลึง เขาต้องการของทุกอย่างในร้านจริง ๆ เหรอ?“คุณผู้ชาย… ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยคะ?” ผู้จัดการร้านถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“แน่นอนครับ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างหนักแน่นผู้จัดการร้านถอนหายใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฮาร์วีย์รวย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นใครบางคนซื้อของแบบนี้จิตใจของเธอสับสน เธอไม่สามารถตอบสนองอะไรออกมาได้อย่าง
ลิเลียนได้สติกลับมาและพูดเสริมทันทีว่า “แมนดี้ แม่พูดแบบนี้ไปกี่ครั้งแล้ว? ถ้าลูกมีเงินก็ไม่ควรเสียเงินมากมายแบบนี้! ลูกรู้ดีว่าเงินนี้ได้มาจากไหน!”“ถ้ายืมมา ลูกต้องให้ฮาร์วีย์ลงนามในข้อตกลงให้ชัดเจนพร้อมระบุว่าเขาจะจ่ายคืนเงินกู้ด้วยตัวเอง และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา!”ด้วยเพราะคำพูดของลิเลียน ทำให้ออทัมน์และครอบครัวของเธออารมณ์ดีสดใสขึ้น‘ยืมเงินเขามาแล้วแสร้งทำเป็นรวย' มาดูกันว่าฮาร์วีย์จะจ่ายคืนได้ยังไง!’แมนดี้มองฮาร์วีย์ด้วยสายตาแปลก ๆ ไปเธอไม่รู้ว่าฮาร์วีย์เอาเงินมาจากไหน แต่เธอไม่เชื่อว่าเขายืมเงินมาและแน่นอนว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่จะตกลงมาจากฟากฟ้าได้! เป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ หนึ่งจะกู้เงินถึงหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์!แม้ว่าฮาร์วีย์จะยืมเงินมาจริง เขาก็ต้องใช้กว่าจะได้เงินมา แต่เขาไม่ได้โทรไปหาใครเลย แมนดี้ตอบออกไปช้า ๆ พร้อมระงับความอยากรู้ของเธอไว้ “คุณแม่ คุณป้าเรเยส หนูไม่เคยคิดที่จะรังแกใคร แต่ทุกคนก็เห็นแล้วว่าใครเป็นคนดื้อรั้นและคอยสร้างปัญหา”“คนอื่นรังแกหนูไม่เป็นไร แต่ตอนนี้หนูกลายเป็นคนพาลโดยที่ไม่ทำอะไรเธอเลยอย่างนั้นเหรอคะ?”เห็นได้ชัดว่าแมนดี้กำลังโกรธ เอมิเล
เดิมทีโดยพื้นฐานนิสัยของฮาร์วีย์แล้ว เขาจะทำให้อมีเลียทำตามสัญญาของเธออย่างแน่นอนแต่ตอนนี้แมนดี้บอกให้เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เขาก็จะปล่อยมันไป สุดท้ายแล้วยังไงเรื่องนี้มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย“ไม่อยากไปช้อปปิ้งต่อแล้ว กลับบ้านกันเถอะ!”สีหน้าของอมีเลียหม่นหมอง ท่าทางของเธอแข็งกระด้างราวกับเหล็กกล้า เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าฮาร์วีย์และแมนดี้เลยด้วยซ้ำ เธอได้แค่หันหลังเดินจากไปออทัมน์พูดว่า “แมนดี้ สามีของเธอไม่มีมารยาทเลย ถ้าเธอยังต้องการเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเรา เธอควรจะเลิกกับเขาให้เร็วที่สุด!”หลัจากนั้นออทัมน์ก็เดินจากไปเช่นกันเฟลิกซ์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์นิ่งสงบเพียงใด เขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ทุกสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำในวันนี้ทำให้เฟลิกซ์รู้สึกว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เฟลิกซ์ก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่าฮาร์วีย์จะมีความพิเศษเพียงใดจนกว่าเขาจะแน่ใจในสถานะของฮาร์วีย์ เขาไม่ต้องการที่จะต่อต้านฮาร์วีย์อีกต่อไปไม่นานเขาก็เดินจากไปเช่นกันหลังจากที่ทั้งสามคนจากไป แมนดี้ก็หันไปหาฮาร์วีย์และถาม “ฉันขอถามคุณ เอาเงินมาจากไหน?”“อย่าบอกนะว่ายืมเพื่อนมา!”
“ถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไงดี?” ไซม่อนขมวดคิ้ว“ว่าไงนะ?” สีหน้าของออทัมน์เย็นชาลง “แน่นอน เราจะทำตามแผน!” “เฟลิกซ์ คุณเชิญผู้ชายคนนั้นมาที่นี่เหรอ?” อมีเลียถาม “คืนนี้จะเป็นคืนของคุณ คุณต้องทำมันได้ดี!” เฟลิกซ์มีความเกรงกลัวฮาร์วีย์เล็กน้อยอย่างไรก็ตามหลังจากที่รู้ว่าฮาร์วีย์ได้เงินมาอย่างไร ความโกรธก็มีอยู่เต็มหัวใจมันเป็นเรื่องน่าอายสำหรับคนอย่างเขาที่ถูกลูกเขยกาฝากข่มขู่!เฟลิกซ์พูดอย่างเย็นชา “คุณแม่ อมีเลีย ไม่ต้องห่วง”“ที่เหลือผมจัดการเอง!”“ในเมื่อลูกเขยขยะนั่นชอบแสร้งทำเป็นรวยมาก ผมจะพาเขาไปงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์!”“ผมขอให้ผู้ชายคนนั้นมาด้วย ผมจัดเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว!”“ผมรับรองได้ว่าหลังจากวันนี้เขาจะไม่มีวันปรากฏตัวต่อหน้าเราอีก!”อมีเลียกัดฟันกรอดและพูดเสริมว่า “นั่นยังไม่พอ! ฉันต้องการให้เขาคุกเข่าอ้อนวอน! แล้วอย่าลืมถ่ายวิดีโอให้ฉันด้วย!”***ทั้งสองครอบครัวได้ทานอาหารเย็นร่วมกันเนื่องจากเพราะเหตุการณ์ที่เจอะเจอมาด้วยกันฮาร์วีย์ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาพาแมนดี้ไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารตะวันตกชั้นล่างในโรงแรมฮาล์ฟมูนเบย์เนื่องจากพวกเขาลงม
แมนดี้ยังคงใจเย็นอยู่ “ผู้จัดการร็อบบินส์ ใช่ไหมคะ?”“ขอขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ แต่ตอนนี้บริษัทของเรายังไม่มีปัญหาทางการเงิน เราจะไปพบคุณเมื่อเราต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน”แม้จะพูดออกไปแบบนั้น เธอก็ไม่ได้เหลือบมองไปที่สแตนลีย์เลยด้วยซ้ำเธอไม่ได้โง่ เธอเห็นความโลภตะกละในดวงตาของเขาเฟลิกซ์พาเขามาและแนะนำคน ๆ นี้ให้เธอรู้จัก เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามเข้ามาขวางความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮาร์วีย์ และนั่นทำให้เธอโกรธแต่เฟลิกซ์ยังไม่รับรู้ความโกรธของแมนดี้ เขายิ้มและพูดว่า “แมนดี้ ผู้จัดการร็อบบินส์ยังหนุ่มและมีอนาคต เขาเก่งมากด้วย ผู้หญิงรวย ๆ หลายคนในบัควู้ดอยากจะพบเจอเขา แต่พวกเธอไม่มีโอกาส!”“เป็นเกียรติของเธอที่ได้พบกับผู้จัดการร็อบบินส์คืนนี้ ไปดื่มกับเขาต่อดีไหม? ช่วยฉันหน่อยเถอะ!”สีหน้าของแมนดี้เย็นชาลง “ตอนนี้ฉันกำลังทานอาหารเย็นกับสามีของฉัน ฉันเกรงว่าจะไม่มีเวลาไปต่อ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญทั้งสองคนค่ะ”พูดขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าแมนดี้กำลังไล่ทั้งสองคนออกไปสีหน้าของเฟลิกซ์ดูแย่ลง จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “แมนดี้ เธอพูดแบบนี้ เธอไม่ไว้หน้าฉันเลยหรือไง?”สแตน
เฟลิกซ์ยิ้มเยาะกับคำพูดของฮาร์วีย์ เขาดูถูกคนอย่างฮาร์วีย์เขามองแมนดี้ด้วยสายตาจริงจังและพูดว่า “แมนดี้ ฟังคำพูดที่สัตย์จริงของฉันนะ!”“สามีของเธอได้ถูกกำหนดไว้แล้วให้ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง!”“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไล่เขาออกจากบ้านไปซะ! และเมื่อนั้นเธอจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้!”“ฉันพูดแบบนี้เพื่อประโยชน์ของเธอ คนอื่นกำลังเยาะเย้ยเธออยู่นะ!”เฟลิกซ์แสร้งทำเป็นกังวล ราวกับว่าเขากำลังนึกเป็นห่วงแมนดี้อยู่จริง ๆสแตนลีย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะ “ใช่ มิสซิมเมอร์ คุณเก่งและประสบความสำเร็จมาก คุณยังสาวและสวย ผู้ชายคนนี้จะคู่ควรกับคุณได้ยังไง?”“คุณควรมองหาพิจารณาผู้ชายที่เก่ง ๆ คนอื่น ไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถดูแลคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการงานของคุณได้อีกด้วย!”สแตนลีย์เชิดอกพูดแบบนั้นออกไป ความหมายของเขาที่สื่อออกมานั้นเข้าใจง่ายมาก เขากำลังแสดงให้เห็นว่าชายที่เก่งคนนั้นคือเขาสองคนนี้มาที่นี่ด้วยกันและการมาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนแมนดี้ดูทั้งเย็นชาและเศร้า “คนนอกอย่างคุณไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันหรอกค่ะ”“ฉันคิดว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่เก่งมาก”“เราทานอาหารอย่างมีความสุข ได้