เสียงอึกทึกทำให้หูของทุกคนหนวกแทบระเบิดทุกคนสังเกตเห็นว่ามีเฮลิคอปเตอร์ทหารติดอาวุธส่องไฟสีขาวลงมาที่พวกเขา“ทำไมจู่ ๆ ทหารก็ปรากฏตัวขึ้น?”ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง แม้แต่โยนาธานก็ยังขมวดคิ้วด้วยเครือข่ายและเส้นสายที่เขามีในกองทัพ เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?ครู่ต่อมาทหารติดอาวุธหลายสิบนายที่ไม่มีสัญลักษณ์ของตำแหน่งโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ผู้ชายที่เป็นผู้นำยังเด็กมาก เขารีบเดินเข้าไปหาโทเบียสและโค้งคำนับ“มิสเตอร์เบเกอร์ มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งถูกส่งตัวกลับมาจากสนามรบอเมริกากลาง พวกเขามีอาการบาดเจ็บรุนแรงและล้มตาย ผมได้รับคำสั่งให้คุณเข้ารักษาพวกเขาโดยเร็วที่สุด ได้โปรดเข้าใจพวกเราด้วย!”หลังจากที่เขาพูดจบ เขาไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปและรับพาโทเบียสออกไปโยนาธานก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างโกรธจัดและตะโกนออกมาว่า“น่าเกลียดที่สุด! คุณมาจากทีมไหน?! ไม่มีกฎระเบียบที่จะต้องปฏิบัติตามเลยหรือไง?!”“มิสเตอร์เบเกอร์ได้รับเชิญจากเรา! คุณกำลังกระทำการรุกรานต่อต้านตระกูลอยู่รู้หรือเปล่า?!”“ใครคือหัวหน้าของคุณ? ให้เขามาพบฉันเดี๋ยวนี้! เขาไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร
“ท่านครับ ด้วยความสัมพันธ์ของท่าน พลทหารสองสามนายจะแย่งชิงคนของท่านได้ยังไง?”ควินตันไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินโยนาธานขมวดคิ้วมุ่น “ใช่ ปกติแล้วจะไม่มีกองกำลังทหารในเซาท์ไลท์คนไหนกล้าแม้แต่จะทำร้ายฉัน แต่คราวนี้มีใครบางคนบงการการเคลื่อนไหวครั้งนี้…”“มันใช้พวกหน้าใหม่ แน่นอนว่าคน ๆ นั้นไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน”ควินตันเริ่มคาดเดาได้“หรือบางทีพวกทหารเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเพราะตอนนี้อีธานอยู่ฝั่งเรา?”“มีตระกูลใหญ่ ๆ ที่พยายามจะต่อต้านเราอีกงั้นเหรอ?”“หรืออาจจะเป็นผู้ชายคนนั้น…”โยนาธานขมวดคิ้วอีกครั้ง “ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไร ประเด็นคือข้ออ้างของพวกมันคือมีทหารที่เพิ่งกลับมาจากสงครามบาดเจ็บ และพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด…”“ฉันได้รับข่าวมาเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น มีความขัดแย้งเล็ก ๆ คนในประเทศเพื่อนบ้านเสียชีวิตหลายคน และมีคนได้รับบาดเจ็บจากฝั่งเรา”“ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเพียงไม่กี่คนถือเป็นวีรบุรุษในกองกำลังทหาร ผู้บัญชาการมีคำสั่งในการสรรหาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ดีที่สุดเพื่อช่วยพวกเขา…”“คนที่ลงมืออาจเป็นสหายของทหารที่ได้รับบาดเจ็บพวกนั้น…”“ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงท
งานวันเกิดคุณย่ายอร์กใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ บัควู้ดทั้งเมืองอบอวลไปด้วยอารมณ์ความเบิกบานราวกับว่าวันนั้นเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ทั้งเมืองบัควู้ดรู้ดีพวกยอร์กมีสถานะที่สูงในบัควู้ดอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ของบัควู้ดตระกูลอันดับหนึ่งในบัควู้ดต่างตอบรับคำเชิญไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลยอร์กเพราะนั่นถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งหลายคนถ่ายรูปบัตรเชิญหลังจากที่ได้รับบัตรเชิญเพื่อโอ้อวดสถานะและอันดับของพวกเขาสิ่งนี้แสดงให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่ายอร์กที่พวกยอร์กจัดขึ้น การประชาสัมพันธ์ต่อ ๆ กันนั้นก็พิสูจน์มันได้ก่อนถึงวันงานเลี้ยง ซีนเธียร์นำบัตรเชิญไปร่วมงานเลี้ยงกลับบ้านอย่างเบื่อหน่ายเธอต้องใช้เวลานานในการขอร้องพ่อแม่บุญธรรมเพื่อให้ได้มันมาอีกด้านแมนดี้อาการเหมือนไม่สบายนั่นเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เกิดจากเวย์นเธอไม่กล้าไปร่วมงานวันเกิดของคุณย่ายอร์กใครเล่าจะทนรับรับผลที่ตามมาได้ ถ้าพวกยอร์กโกรธจัดขึ้นมาในงานเลี้ยง?แต่เธอไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับใครได้ และเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายสถานการณ์นี้ให้ซีนเธียร์ฟังอย่างไร“ถ้าคุณไม่ไป ผมไปเองก
ทุกคนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นในขณะที่งานเลี้ยงเริ่มจัดเตรียมความพร้อมอยู่มีแชมเปญทาวเวอร์และอาหารตะวันตกแบบบุฟเฟ่ต์ให้บริการฮาร์วีย์และซีนเธียร์หาที่นั่งของตัวเอง“ฮาร์วีย์… ฮาร์วีย์ ยอร์ก นั่นคุณเหรอ?”เสียงหนึ่งเรียกดังมาจากด้านหลังเขาฮาร์วีย์หันกลับไปมองและเห็นสาวงามกำลังเดินเข้ามาหาเขาผ่านไปไม่กี่เดือน แต่แววตาของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดดวงตาที่สุกประกายแวววาวของเธอมองมาที่ฮาร์วีย์ เธอค่อนข้างตื่นเต้นจนแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ผู้หญิงคนนี้มาจากตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่งของบัควู้ด เธอคือโรซาลี ไนส์เวลล์จากตระกูลไนส์เวลล์ทั้งสองเคยพบปะกันในช่วงที่พวกเขาอยู่ที่นิอัมมี่ ฮาร์วีย์ส่งเธอขึ้นรถก่อนออกเดินทางออกจากนิอัมมี่แต่หลังจากออกจากนิอัมมี่แล้ว ทั้งสองไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือนแม้หลังจากมาถึงบัควู้ดแล้ว ฮาร์วีย์ก็ยุ่งมาก เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธอในวันนี้“ทำไมคุณถึงไม่มาเจอฉันเลยตั้งแต่ที่คุณมาถึงบัควู้ด?”สายตาของโรซาลีหันไปมองซีนเธียร์ แววตาธอดูแปลก ๆ ไปเหมือนมีคำถาม..“โรซาลี นี่เพื่อนคุณเหรอ?”อีกเสียงหนึ่งที่อยู่ข้างเธอดังขึ้นชายในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ชา
ฮาร์วีย์ไม่มีอาการสะทกสะท้ายอะไรเมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยของชายคนนั้นในสายตาของเขาตัวตลกคนนี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขาแล้วทำไมเขาจะต้องไปสนใจเมื่อเทียบกับพวกยอร์กแล้ว ผู้ชายคนนี้เทียบได้กับฝุ่นผงเล็ก ๆ เท่านั้นหลังจากเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ โรซาลีก็เปลี่ยนความคิดของเธอที่มีต่อเขาเมื่อสามเดือนก่อน ดูเหมือนเขาจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ ผู้ชายที่สามารถปฏิเสธคำเชิญของเธอเองเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะนิ่งเงียบเพียงแค่กลืนความอัปยศอดสู?ระยะเวลาสามเดือนสามารถเปลี่ยนผู้ชายได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ?โรซาลีหายใจเข้าลึก ๆ เธอกลับมามีท่าทีเย็นชาอีกครั้งเธอจ้องไปที่ชายคนนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “บรูซ คลาวด์ ฉันจะออกเดทและเป็นเพื่อนกับใคร มันไม่เกี่ยวกับคุณ จริงไหม?”“ถ้าคุณดูถูกเพื่อนของฉันอีกครั้ง!”โรซาลีพูดด้วยท่าทีที่สุขุมเยือกเย็นบรูซตามจีบเธอ หลังจากที่เธอดุเขา เขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลยแต่ตอนนี้เขากลับดูถูกฮาร์วีย์‘ไอ้ขยะโสโครกที่เกาะเมียตัวเองจะมีประโยชน์อะไร? ฉันจะเหยียบย่ำเขาได้ตามใจฉัน!’‘อย่างน้อยเขาก็ยังรู้จักเจียมตัว หากไม่ล่ะก็ คงมีการปะทะเอาชนะให้ตายตรงนี้แน่นอน’“ค
เมื่อเห็นฮาร์วีย์ถูกทำให้อับอายขายหน้าโดยคนสองคนที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ซีนเธียร์ค่อนข้างรู้สึกโกรธเธอดึงแขนของฮาร์วีย์แล้วตะเบ็งเสียงอย่างเย็นชา “พวกคุณสองคนมาจากไหนก็ไม่รู้!”“พวกคุณมันก็แค่พวกสายตาสั้น!”“พี่เขยของฉันยอดเยี่ยมมาก! ยิ่งเมื่อเทียบกับคนเลวอย่างพวกคุณ!”“พวกคุณคิดว่าเขากลัวเหรอ! เขาก็แค่ไม่สนใจคุณ!”“เพราะคุณเป็นแค่มดตัวน้อยสำหรับเขา!”ซีนเธียร์ไม่ระแคะระคายถึงตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์แต่ชายคนหนึ่งที่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาร้อยล้านดอลลาร์ให้กับเธอโดยไม่ต้องสบตา ชายผู้ที่สามารถซื้อร้านอาหารสปินนิ่งบนตึกบัควู้ดทาวเวอร์ได้ คงไม่ใช่คนที่สามารถยั่วยุอารมณ์ได้ง่าย ๆ จากคนอย่างบรูซ คลาวด์“โอ้ ฮาร์วีย์! นายมีน้องสะใภ้ที่น่ารักอะไรอย่างนี้!””บรูซไม่ได้สะทดสะท้านอะไรแม้แต่น้อย เขากลับยิ้มเยาะพวกเขาแทน“ผมเป็นมดตัวน้อย ๆ งั้นเหรอ? ก็ได้ ผมจะน้อมรับมัน ต่อหน้าผู้ชายอย่างเจ้าชายยอร์ก ผมเป็นเพียงแค่มด”“แต่ ผม บรูซ คลาวด์ มาจากตระกูลคลาวด์ ตระกูลอันดับหนึ่งของบัควู้ด! ตัวตนของผมไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าถึงได้ แม้จะทำงานมาสามชั่วอายุคนก็ตาม…!”บรูซพู
โรซาลีรู้สึกผิดหวังในตัวฮาร์วีย์เล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้โพล่งปากว่าอะไรเขาออกไป เธอกลับเพียงพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ฉันเคยไม่เชื่อในตัวคุณมาก่อน แต่คุณได้พิสูจน์ว่าคุณเองมีความสามารถจริง ๆ ”“ตอนนี้ฉันอยากจะรอดูว่าคุณสามารถทำได้ตามที่พูดหรือเปล่า พิสูจน์ว่าคุณพูดจริงและมีความสามารถจริง ๆ !”บรูซหัวเราะอย่างเย็นชา“ในเมื่อโรซาลีอยากจะดู ฉันก็อยากจะรอดูเหมือนกัน”“ถ้านายได้เข้ายึดตระกูลยอร์กได้ ฉันจะยอมเป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของนายแน่นอน ได้โปรดให้โอกาสผมได้เป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยด้วยนะครับท่านประธานยอร์ก!”ฮาร์วีย์จะทำตามที่เขาพูดเขามองสำรวจบรูซ “เอาล่ะ ร่างกายผอมบางแบบคุณดูไม่เหมาะกับหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย แต่นั่นเพราะผมสัญญากับคุณแล้ว ผมให้โอกาสคุณได้ตำแหน่งนี้แน่นอน”“อย่าลืมไปที่สำนักงานตรงเวลาด้วยล่ะ”บรูซถึงกับอทนไม่ได้อีกต่อไปเขาไม่อยากจะล้อเล่นบ้า ๆ กับฮาร์วีย์อีกต่อไปแล้วในสายตาของเขาฮาร์วีย์เป็นเพียงแค่ตัวตลก‘มันเกินที่จะจินตนาการว่าเขาจะหลอกตัวเองมาถึงจุดนี้ได้’‘น่าสมเพชสิ้นดี’ถ้าบรูซยังอยากจะเหยียบย่ำฮาร์วีย์ ในตอนนี้ฮาร์วีย์คงหายไปจาก
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่โจเอล ฟลินน์ด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ในขณะที่เขาได้บอกคุณค่าของนาฬิกาโบราณนั้นออกมา อีกทั้งมันก็ยังเป็นสมบัติของคนที่ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย ในเวลาเพียงไม่นานนัก สีหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กก็ได้กลับกลายเป็นเย็นชาราวกับพายุหิมะที่กำลังจะโหมกระหน่ำ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์และโรซาลี ไนส์เวลล์ ทั้งสองเหลือบไปมองที่ฮาร์วีย์ ยอร์กโดยอัตโนมัติทั้งสองสัมผัสได้ถึงออร่าความปราถนาที่จะฆ่าใครบางคนในแววตาของเขา ในทางกลับกันทั้งโจเอล ฟลินน์และบรูซ คลาวด์ พวกเขานั้นไม่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ในสายตาของพวกเขาด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงไม่ทันสังเกตเห็นออร่าที่เต็มเปี่ยมจนแทบจะเอ่อล้นออกมาในสายตาคู่นั้น ในขณะเดียวกัน ภายในใจของฮาร์วีย์ ยอร์กนั้นมันเต็มไปด้วยความเจตนาและความปราถนาที่จะฆ่า สิ่งของของเพื่อนรักของเขาไม่เพียงแต่ถูกกระจายออกไปเท่านั้น แต่ยังมีคนที่คิดจะนำมันไปเป็นของขวัญมอบให้กับบุคคลอื่นอีกด้วย! โจเอล ฟลินน์โบกมือขึ้น และลูกน้องของเขาก็ถือกล่องนิรภัยออกมาอย่างระมัดระวัง โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอเดินเข้าไปและเหลือบมองสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาเ