ทุกคนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นในขณะที่งานเลี้ยงเริ่มจัดเตรียมความพร้อมอยู่มีแชมเปญทาวเวอร์และอาหารตะวันตกแบบบุฟเฟ่ต์ให้บริการฮาร์วีย์และซีนเธียร์หาที่นั่งของตัวเอง“ฮาร์วีย์… ฮาร์วีย์ ยอร์ก นั่นคุณเหรอ?”เสียงหนึ่งเรียกดังมาจากด้านหลังเขาฮาร์วีย์หันกลับไปมองและเห็นสาวงามกำลังเดินเข้ามาหาเขาผ่านไปไม่กี่เดือน แต่แววตาของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดดวงตาที่สุกประกายแวววาวของเธอมองมาที่ฮาร์วีย์ เธอค่อนข้างตื่นเต้นจนแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ผู้หญิงคนนี้มาจากตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่งของบัควู้ด เธอคือโรซาลี ไนส์เวลล์จากตระกูลไนส์เวลล์ทั้งสองเคยพบปะกันในช่วงที่พวกเขาอยู่ที่นิอัมมี่ ฮาร์วีย์ส่งเธอขึ้นรถก่อนออกเดินทางออกจากนิอัมมี่แต่หลังจากออกจากนิอัมมี่แล้ว ทั้งสองไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือนแม้หลังจากมาถึงบัควู้ดแล้ว ฮาร์วีย์ก็ยุ่งมาก เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธอในวันนี้“ทำไมคุณถึงไม่มาเจอฉันเลยตั้งแต่ที่คุณมาถึงบัควู้ด?”สายตาของโรซาลีหันไปมองซีนเธียร์ แววตาธอดูแปลก ๆ ไปเหมือนมีคำถาม..“โรซาลี นี่เพื่อนคุณเหรอ?”อีกเสียงหนึ่งที่อยู่ข้างเธอดังขึ้นชายในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ชา
ฮาร์วีย์ไม่มีอาการสะทกสะท้ายอะไรเมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยของชายคนนั้นในสายตาของเขาตัวตลกคนนี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขาแล้วทำไมเขาจะต้องไปสนใจเมื่อเทียบกับพวกยอร์กแล้ว ผู้ชายคนนี้เทียบได้กับฝุ่นผงเล็ก ๆ เท่านั้นหลังจากเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ โรซาลีก็เปลี่ยนความคิดของเธอที่มีต่อเขาเมื่อสามเดือนก่อน ดูเหมือนเขาจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ ผู้ชายที่สามารถปฏิเสธคำเชิญของเธอเองเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะนิ่งเงียบเพียงแค่กลืนความอัปยศอดสู?ระยะเวลาสามเดือนสามารถเปลี่ยนผู้ชายได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ?โรซาลีหายใจเข้าลึก ๆ เธอกลับมามีท่าทีเย็นชาอีกครั้งเธอจ้องไปที่ชายคนนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “บรูซ คลาวด์ ฉันจะออกเดทและเป็นเพื่อนกับใคร มันไม่เกี่ยวกับคุณ จริงไหม?”“ถ้าคุณดูถูกเพื่อนของฉันอีกครั้ง!”โรซาลีพูดด้วยท่าทีที่สุขุมเยือกเย็นบรูซตามจีบเธอ หลังจากที่เธอดุเขา เขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลยแต่ตอนนี้เขากลับดูถูกฮาร์วีย์‘ไอ้ขยะโสโครกที่เกาะเมียตัวเองจะมีประโยชน์อะไร? ฉันจะเหยียบย่ำเขาได้ตามใจฉัน!’‘อย่างน้อยเขาก็ยังรู้จักเจียมตัว หากไม่ล่ะก็ คงมีการปะทะเอาชนะให้ตายตรงนี้แน่นอน’“ค
เมื่อเห็นฮาร์วีย์ถูกทำให้อับอายขายหน้าโดยคนสองคนที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ซีนเธียร์ค่อนข้างรู้สึกโกรธเธอดึงแขนของฮาร์วีย์แล้วตะเบ็งเสียงอย่างเย็นชา “พวกคุณสองคนมาจากไหนก็ไม่รู้!”“พวกคุณมันก็แค่พวกสายตาสั้น!”“พี่เขยของฉันยอดเยี่ยมมาก! ยิ่งเมื่อเทียบกับคนเลวอย่างพวกคุณ!”“พวกคุณคิดว่าเขากลัวเหรอ! เขาก็แค่ไม่สนใจคุณ!”“เพราะคุณเป็นแค่มดตัวน้อยสำหรับเขา!”ซีนเธียร์ไม่ระแคะระคายถึงตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์แต่ชายคนหนึ่งที่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาร้อยล้านดอลลาร์ให้กับเธอโดยไม่ต้องสบตา ชายผู้ที่สามารถซื้อร้านอาหารสปินนิ่งบนตึกบัควู้ดทาวเวอร์ได้ คงไม่ใช่คนที่สามารถยั่วยุอารมณ์ได้ง่าย ๆ จากคนอย่างบรูซ คลาวด์“โอ้ ฮาร์วีย์! นายมีน้องสะใภ้ที่น่ารักอะไรอย่างนี้!””บรูซไม่ได้สะทดสะท้านอะไรแม้แต่น้อย เขากลับยิ้มเยาะพวกเขาแทน“ผมเป็นมดตัวน้อย ๆ งั้นเหรอ? ก็ได้ ผมจะน้อมรับมัน ต่อหน้าผู้ชายอย่างเจ้าชายยอร์ก ผมเป็นเพียงแค่มด”“แต่ ผม บรูซ คลาวด์ มาจากตระกูลคลาวด์ ตระกูลอันดับหนึ่งของบัควู้ด! ตัวตนของผมไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าถึงได้ แม้จะทำงานมาสามชั่วอายุคนก็ตาม…!”บรูซพู
โรซาลีรู้สึกผิดหวังในตัวฮาร์วีย์เล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้โพล่งปากว่าอะไรเขาออกไป เธอกลับเพียงพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ฉันเคยไม่เชื่อในตัวคุณมาก่อน แต่คุณได้พิสูจน์ว่าคุณเองมีความสามารถจริง ๆ ”“ตอนนี้ฉันอยากจะรอดูว่าคุณสามารถทำได้ตามที่พูดหรือเปล่า พิสูจน์ว่าคุณพูดจริงและมีความสามารถจริง ๆ !”บรูซหัวเราะอย่างเย็นชา“ในเมื่อโรซาลีอยากจะดู ฉันก็อยากจะรอดูเหมือนกัน”“ถ้านายได้เข้ายึดตระกูลยอร์กได้ ฉันจะยอมเป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของนายแน่นอน ได้โปรดให้โอกาสผมได้เป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยด้วยนะครับท่านประธานยอร์ก!”ฮาร์วีย์จะทำตามที่เขาพูดเขามองสำรวจบรูซ “เอาล่ะ ร่างกายผอมบางแบบคุณดูไม่เหมาะกับหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย แต่นั่นเพราะผมสัญญากับคุณแล้ว ผมให้โอกาสคุณได้ตำแหน่งนี้แน่นอน”“อย่าลืมไปที่สำนักงานตรงเวลาด้วยล่ะ”บรูซถึงกับอทนไม่ได้อีกต่อไปเขาไม่อยากจะล้อเล่นบ้า ๆ กับฮาร์วีย์อีกต่อไปแล้วในสายตาของเขาฮาร์วีย์เป็นเพียงแค่ตัวตลก‘มันเกินที่จะจินตนาการว่าเขาจะหลอกตัวเองมาถึงจุดนี้ได้’‘น่าสมเพชสิ้นดี’ถ้าบรูซยังอยากจะเหยียบย่ำฮาร์วีย์ ในตอนนี้ฮาร์วีย์คงหายไปจาก
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่โจเอล ฟลินน์ด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ในขณะที่เขาได้บอกคุณค่าของนาฬิกาโบราณนั้นออกมา อีกทั้งมันก็ยังเป็นสมบัติของคนที่ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย ในเวลาเพียงไม่นานนัก สีหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กก็ได้กลับกลายเป็นเย็นชาราวกับพายุหิมะที่กำลังจะโหมกระหน่ำ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์และโรซาลี ไนส์เวลล์ ทั้งสองเหลือบไปมองที่ฮาร์วีย์ ยอร์กโดยอัตโนมัติทั้งสองสัมผัสได้ถึงออร่าความปราถนาที่จะฆ่าใครบางคนในแววตาของเขา ในทางกลับกันทั้งโจเอล ฟลินน์และบรูซ คลาวด์ พวกเขานั้นไม่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ในสายตาของพวกเขาด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงไม่ทันสังเกตเห็นออร่าที่เต็มเปี่ยมจนแทบจะเอ่อล้นออกมาในสายตาคู่นั้น ในขณะเดียวกัน ภายในใจของฮาร์วีย์ ยอร์กนั้นมันเต็มไปด้วยความเจตนาและความปราถนาที่จะฆ่า สิ่งของของเพื่อนรักของเขาไม่เพียงแต่ถูกกระจายออกไปเท่านั้น แต่ยังมีคนที่คิดจะนำมันไปเป็นของขวัญมอบให้กับบุคคลอื่นอีกด้วย! โจเอล ฟลินน์โบกมือขึ้น และลูกน้องของเขาก็ถือกล่องนิรภัยออกมาอย่างระมัดระวัง โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอเดินเข้าไปและเหลือบมองสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาเ
ขณะนี้ โยนาธาน ยอร์ก, ควินตัน ยอร์ก, และเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลยอร์กเริ่มวิตกกังวลเล็กน้อย พวกเขารู้ดีว่าชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือฮาร์วีย์ ยอร์ก พวกเขาทำได้เพียงเฝ้าดูชายที่พวกเขาบีบบังคับให้ออกจากบัควู้ดเมื่อสามปีก่อนยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาอย่างปกติสุขดี ปกติถึงขนาดที่มายืนพูดจายียวนกวนประสาทอยู่ที่นี่... นี่มันเป็นวิธียั่วยวนหยามศักดิ์ศรีของตระกูลยอร์กด้วยหรือเปล่านะ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิด และถ้านี่เป็นวันอื่น ๆ ในเวลานี้นั้นก็คงจะมีคนที่พร้อมจะจัดการกับฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว ในท้ายที่สุด นี่มันช่างเป็นโอกาสที่หายากมากที่ฮาร์วีย์ ยอร์กจะอยู่เพียงลำพัง บางทีอาจจะไม่มีโอกาสอื่นอีกแล้วที่จะจัดการกับเขาหากพวกเขาพลาดโอกาสนี้ไป ทันใดนั้น ฮาร์วีย์ ยอร์กก็หัวเราะออกมาขำ ๆ “มันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีใครบาดเจ็บสาหัสหรือพิการไปแล้วจริง ๆ” “อย่างไรก็ตาม ผมได้ยินมาว่าแพทย์ชื่อดังอย่างโทเบียส เบเกอร์ถูกนำตัวไปที่ชายแดนเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ผมไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้” ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น โยนาธาน ยอร์ก
งานเลี้ยงของคุณย่ายอร์กได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และแขกทุกคนในงานก็เริ่มนั่งลงบนที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี คุณย่ายอร์กนั่งลงประจำที่ของเธอ เธอดูสูงส่งแต่ก็ดูลึกลับไปพร้อม ๆ กัน ในทางกลับกัน แขกทุกคนในงานต่างก็มีที่นั่งของตัวเองที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน คำเชิญที่ซีนเธียร์ได้รับนั้นที่นั่งของเธออยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา เธอได้นั่งที่ตรงกลางของแถวสุดท้าย ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้คิดอะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเดินไปข้างหน้าและนั่งลงข้าง ๆ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ ส่วนโรซาลี ไนส์เวลล์, บรูซ คลาวด์, และคนอื่น ๆ นั่งอยู่ที่เบาะตรงกลางใกล้ ๆ กับแถวหน้า ที่นั่งด้านหน้าส่วนใหญ่จะถูกสงวนไว้สำหรับผู้ที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคม คนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้นั้นต่างก็มีภูมิหลังและธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งข้าราชการ, มาเฟีย, ทหาร, หรือแม้แต่พวกนักธุรกิจก็อยู่ในงานนี้ด้วย พวกเขาทั้งหมดต่างก็มาจากชนชั้นสูงมีหน้ามีตาในสังคม นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าความสัมพันธ์และอิทธิพลของยอร์กนั้นน่ากลัวมากเพียงใด ตระกูลระดับแนวหน้าในเซาท์ไลท์ทั้งหมดยังคงไม่ปร
ในระหว่างที่โยนาธานกำลังแนะนำแต่ละคนอยู่ด้านบนเวที ที่นั่งแถวหน้าก็เกือบที่จะเต็มแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีจุดที่ยังว่างอยู่ตรงกลาง ทุกคนรู้ดีว่ามีชายเพียงคนเดียวที่จะนั่งที่ตรงนั้นจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และนั่นก็คือเจ้าชายยอร์กในตำนานนั่นเอง! อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทุกอย่างมันได้เปลี่ยนไปไปแล้ว ในวันนี้นั้น ตำแหน่งที่นั่งเก่าของเขามันมีไว้สำหรับหนึ่งในสี่เทพเจ้าแห่งสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์! ชายผู้ที่สามารถทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้บัญชาการสูงสุด ที่นั่งของพันโทอีธาน ฮันต์! แม้ว่าอีธาน ฮันต์จะมีตำแหน่งเพียงแค่พันโท แต่ทว่าอำนาจของเขานั้นเหนือความคาดหมายอย่างมาก โยนาธาน ยอร์กมองไปที่ใบหน้าของเหล่าฝูงชนที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง จากนั้นเขาก็ยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “ทุกคน โปรดปรบมือดัง ๆ ให้กับหนึ่งในสี่เทพเจ้าแห่งสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ พันโทแห่งค่ายศัสตราวุธ อีธาน ฮันต์!” แปะ แปะ แปะ แปะ! เสียงปรบมือของฝูงชนดังสนั่นราวกับสายฟ้าฟาดลงมาที่พื้น 'อีธาน ฮันต์มาแล้ว!' 'สถานะของเขาในเซาท์ไลท์นั้นสูงส่งมาก!' 'ค่ายศัสตราวุธนั้นทรงพลังมาก!' การมาของเขาทำให้สถานะของยอร์กแข็