“บัตรรูดได้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามขึ้นทันที“งั้นเอาให้ผมอีกสามหมื่นดอลลาร์”ไคล์ไม่กล้าถามอะไรและรีบวิ่งออกไปจากร้าน จากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษแล้วยื่นให้ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะตรวจดูสิ่งของในถุงกระดาษและโยนมันทิ้งตรงประตูร้าน กองธนบัตรสีน้ำเงินกระจายออกมาจากถุงกระดาษ นั่นทำให้ทุกคนตกใจ“นี่คือเงินสามหมื่นของคุณ”ชายเย่อหยิ่งและหญิงสาวที่ดูมีเสน่ห์เกิดอยากจะหนีออกจากเหตุการณ์นี้ หัวใจของพวกเขาเต้นรัวเร็วพวกเขาจำได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการให้พวกเขาขอโทษเพื่อแลกกับเงินสามหมื่นดอลลาร์“แล้วไงถ้านายจะรวย? ฉันก็ไม่ใช่คนจนเหมือนกัน นายคิดว่าฉันจะสนใจเงินนี่งั้นเหรอ?”หญิงสาวที่มีเสน่ห์มองฮาร์วีย์ด้วยความรังเกียจฮาร์วีย์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรในขณะที่จ้องมองชายเย่อหยิ่งคนนั้นชายคนนั้นรู้สึกขนลุกขนชันเมื่อเขามองดูท่าทีของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าเขาทำไม่ทำ ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาจะต้องทำให้เขายอมจนได้เขาคิดพิจารณา ไคล์ วู้ด ผู้จัดการทั่วไปของ โอลเด้น เทรด ยังให้เกียรติต่อหน้าชายคนนี้ และไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหายใจจากเขาเศรษฐีอย่างเขาคงไม่สามารถเทียบกับชายหนุ่มคนนี้ได้เข
ผู้หญิงทุกคนล้วนเป็นนักช้อปที่เก่งกาจคืนนั้นแมนดี้หมกมุ่นอยู่กับเสื้อผ้าทั้งหมดจนเธอเกือบสามารถนอนในห้องแต่งตัวได้แล้วฮาร์วีย์กำลังรู้สึกเหมือนขาของเขาถูกหินทับจนแหลก แต่เขาทำได้เพียงยืนอยู่ที่นั่นและฝืนยิ้มมันสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของแมนดี้หลังจากพักผ่อนเต็มที่แล้ว แมนดี้ลืมถามว่าฮาร์วีย์ว่าเขาทำได้อย่างไรอยู่ดี ๆ โทรศัพท์ที่เธอชาร์จก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นแมนดี้ยังคงเบลอ ๆ ฮาร์วีย์ไปรับสายและดุด่าคนที่โทรมาว่า “คุณบ้าหรือไง? มันยังเช้าอยู่ คุณดูเวลาก่อนโทรหรือยัง?”ผู้คนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตกใจพอ ๆ กับดีใจที่มีคนรับสายฮาร์วีย์กับแมนดี้ลองเสื้อผ้าใหม่ตลอดทั้งคืนขณะที่แซ็คและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายพักแรมอยู่ที่ชั้นล่างบ้านของแมนดี้และโทรมาที่เธอซ้ำ ๆคนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตื่นเต้นดีใจเมื่อในที่สุดมีคนรับสายฌอนกลัวว่าแซ็คจะอารมณ์หงุดหงิดใส เขารีบคว้าโทรศัพท์มาทันทีและพูดว่า “โอ้ ฮาร์วีย์ ฉันเอง ฌอน ลุงของนายไง!”“โอ้ นั่นคุณเหรอ? ทำไมคุณถึงโทรมาตอนนี้ คุณควรจะนอนอยู่ไม่ใช่เหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น!?”ฌอนเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากได้ยินแบบนั้นเขาหายใจเข้าลึก ๆ และพูดก
ฮาร์วีย์พูดแบบสบาย ๆ ไม่ใส่ใจว่า “ผมไม่ชอบทำงาน ผมชอบให้ภรรยาเลี้ยงดู”ฮาร์วีย์ดูใจเย็นในขณะที่ฌอนและคนอื่น ๆ อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธพวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้มาก่อน นี่มันแมงดาในตำนานตัวจริง“ไม่เป็นไร งั้นบอกฉันสิ นายต้องการอะไร?”ฌอนยังคงโกรธอยู่เขากลัวว่าน้ำเสียงของเขาจะดูหยาบคายและทำให้ฮาร์วีย์วางสายใส่อีกครั้ง“เงื่อนไขนั้นง่ายนิดเดียว ใครก็ตามที่ไล่เธอออกก็ต้องมาพาตัวเธอไปเอง!” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ“ใช่ ฉันไล่เธอออก ฉันจะไปเอง!” ฌอนรีบพูดฮาร์วีย์หัวเราะเสียงดัง“คุณลุง คุณคิดว่าผมเป็นคนโง่งี่เง่าจริงงั้นเหรอ?”“ถ้าคุณลุงมีอำนาจในตระกูลซิมเมอร์ คุณลุงจำเป็นต้องโทรหาผมตอนนี้ไหม?”“ให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์มาด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะไม่กลับไป”ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด…ฮาร์วีย์เริ่มไม่ยอมแพ้ง่าย ๆฌอนดูเวลา ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว เขาไม่กล้ารีรออีกต่อไป เขารีบกลับบ้านและรายงานสถานการณ์ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืนเขาหอบหายใจแรง ๆ หลังจากได้ยินสิ่งที่ฌอนพูด“อะไรนะ? ไอ้ลูกเขยกาฝากพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?”“คนที่จะถูกเ
แมนดี้คุ้นเคยกับครอบครัวซิมเมอร์ที่มีสองมาตรฐานแบบนี้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ค่อยทำอะไรตามใจตัวเองในช่วงเวลาที่อยู่ที่นิอัมมี่ เขามักจะรักษาภาพลักษณ์และอำนาจที่สูงส่งของเขาเสมอทำไมครั้งนี้เขาถึงตัดสินใจมาด้วยตัวเองได้?ไม่น่าเชื่อ“เพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง เขาจะไม่มาได้ยังไง?”ฮาร์วีย์ยิ้มแมนดี้มองฮาร์วีย์อย่างสงสัย แล้วครุ่นคิดถึงสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง“ฮาร์วีย์ พูดความจริงมา จริง ๆ แล้วคุณทำอะไรลงไป?”“ผมไม่ได้ทำอะไร” ฮาร์วีย์ตอบ“ในวันนั้นที่งานเลี้ยงของเจ้าชายยอร์ก มิสซาเวียร์จำคุณได้ใช่ไหม?”“เธอยังเชิญคุณเข้าร่วมพิธีเปิดของ สกาย คอร์ปอเรชั่น”“ถ้าคุณไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ มีใครอีกบ้างที่มีสิทธิ์เข้าร่วมได้?“นั่นเพราะเจ้าชายยอร์กเป็นผู้ก่อตั้ง สกาย คอร์ปอเรชั่น จึงเป็นเรื่องยากที่จะได้เข้าถึงพูดคุยกับพวกเขา”“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเดาว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์และคนอื่น ๆ ถูกปฏิเสธในเข้างานเปิดตัว สกาย คอร์ปอเรชั่น และพวกเขาต้องมาขอร้องคุณ”หลังจากฟังการวิเคราะห์ของฮาร์วีย์แล้ว แมนดี้ก็อดยิ้มไม่ได้“คุณฉลาดมาก! คนที่ไม่รู้จักคุณอาจคิดว่าคุณคือเจ้าชายยอร์กตัวจริง
ฮาร์วีย์และแมนดี้มาถึงอาคาร สกาย คอร์ปอเรชั่น ก่อนสิบโมงพนักงานต้อนรับเชิญพวกเขาไปยังสำนักงานที่แซ็คและคนอื่น ๆ เคยไปเมื่อวันก่อนอย่างสุภาพผู้รับผิดชอบสำนักงานยืนขึ้นทันทีหลังจากเห็นแมนดี้เขาเดินไปหาแมนดี้อย่างสุภาพนอบน้อมและยิ้มให้“คุณคงจะเป็นคุณนายซิมเมอร์ เชิญนั่งครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาพบเราในวันนี้!”“คุณจะรับชาหรือกาแฟดีครับ?แมนดี้ตกใจคนที่อยู่ตรงหน้าสวมสูทและรองเท้าหนัง ผมของเขาหวีเซ็ตเนี๊ยบตรงข้อมือของเขาสวมนาฬิกา Rolex สีทองขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะมองเขาอย่างไร เขาดูเหมือนเป็นผู้บริหารระหว่างนั่งรถผู้อาวุโสซิมเมอร์เคยบอกว่าชายผู้นี้โหดเหี้ยม และบอกให้เธอระวังตัวตลอดเวลาแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะรับมือได้อย่างไรกับพละกำลังของผู้ชาย เธอกลับไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรออกไปดีฮาร์วีย์นั่งลงข้างหลังเธอทำตัวสบาย ๆ และพูดว่า “ผมขอน้ำ ส่วนภรรยาของผมขอกาแฟเพื่อเพิ่มพลังให้เธอ”“มาเถอะครับ เชิญนั่ง ผมจะจัดการให้คุณทั้งสองเอง”ผู้รับผิดชอบยิ่งแสดงความสุภาพผิดปกติหลังจากพาทั้งสองคนไปที่ที่นั่งแล้ว เขาก็ไปชงกาแฟในห้องจัดเตรียมของว่างด้วยตัวเอง แล้วนำมาเสิร์ฟให้พวกเขาเมื่อเที
แมนดี้นิ่งไป สักพักเธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง“รองผู้จัดการคะ หมายความว่าตระกูลซิมเมอร์ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นเลยครับ บริษัทพิจารณาเพิ่มการลงทุนให้กับคุณด้วยซ้ำ!”“แต่ยังมีตกลงเพิ่มเติมที่ต้องการให้คุณเซ็นยินยอม อีกสามวันเราต้องรบกวนคุณมาที่นี่อีกครั้ง!”รองผู้อำนวยการนั้นสุภาพมาก ส่วนผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสหลังจากรู้สึกถึงความเป็นมิตรของทุกคนแล้ว แมนดี้ก็ยิ้มออกมา“ขอบคุณทุกท่านที่ดูแลดิฉันอย่างดี”ฮาร์วีย์ยืนขึ้นและพูดว่า “ทำได้ดีมาก”ร่างกายของรองผู้อำนวยการนั้นสั่นสะท้านราวกับได้ดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่เข้าไป สีหน้าของเขาแสดงถึงความรู้สึกยินดีอย่างเต็มเปี่ยม“ไม่! ไม่เลยครับ! ผมก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี!”รองผู้อำนวยการเกือบจะคุกเข่าอยู่ตรงนั้น น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาของเขา ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ชายผู้นี้เยินยอพวกเขา!***แมนดี้ยังคงสับสน มึนงง กับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะก้าวเดินออกมาจาก สกาย คอร์ปอเรชั่น แล้วก็ตาม เธอไม่คิดว่าเรื่องต่าง ๆ จะราบรื่นขนาดนี้ผู้อาวุโสซิมเมอร์และคนอื่น ๆ รออยู่ข้างนอกเหมือนมดวิ่งพล่าน
ผู้อาวุโสซิมเมอร์จ้องไปที่แซ็คอย่างเย็นชาและขมวดคิ้วเข้าหากัน “คิดว่าฉันไม่ได้คิดในสิ่งที่แกพูดมาเมื่อกี้หรือไง?”“ฉันคิดมาตตลอด!”“แกรู้ไหมว่าถ้าไม่ใช่แมนดี้ เราคงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้”“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราส่งคนอื่นไปแทนแมนดี้ แล้วพวกเขายกเลิกสัญญา?”“แซ็ค ฉันเข้าใจในสิ่งที่แกกังวล”“แต่คราวนี้เราจะต้องระวังมากกว่าเดิม!”“นี่เป็นเรื่องความเป็นความตายของตระกูลซิมเมอร์!”แซ็คอ้าปากค้าง แต่ไม่มีคำพูดใดออกมาปู่ของเขาพูดถูก นี่เป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรที่เขาต้องการได้ถึงอย่างนั้น… เขาต้องให้แมนดี้มีอำนาจทั้งหมดจริง ๆ เหรอ? โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยอย่างนั้นเหรอ?หากเป็นแบบนั้นจริง ๆ ที่ของเขาในตระกูลซิมเมอร์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?เขาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแมนดี้ แม้แต่ที่บัควู้ดงั้นหรือ?แซ็คก้มหัวลงต่ำ สีหน้าบูดเบี้ยวผู้อาวุโสซิมเมอร์มองไปที่แซ็คเพียงแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินจากไปเขาเชื่อในความสามารถของแซ็คและเห็นคุณค่าในตัวของแซ็คมาก อันที่จริงแซ็คเป็นคนที่เขาอยากให้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลซิมเมอร์ในอนาคตทว่าในตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื
เอ็มเพอเรอร์ คลับเฮาส์ ณ เมืองบัควู้ดเฉพาะบุคคลสำคัญและมีฐานะร่ำรวยเท่านั้นที่สามารถใช้บริการคลับเฮาส์สุดพิเศษนี้ได้ที่นี่เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในหมู่ทายาทที่ร่ำรวยค่าเช่าห้องส่วนตัวเพียงคืนเดียวมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นดอลลาร์นี่คือที่ที่คนรวยใช้เงินของพวกเขาเสมือนน้ำโดยไม่สนใจแม้แต่น้อย ที่แห่งนี้คนจน ๆ ทำได้เพียงมองดูได้จากที่ไกล ๆ เท่านั้นในห้องส่วนตัว เบรนท์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะยาว เขายิ้มพลางเล่นโทรศัพท์ของเขา“ทุกคน คืนนี้ผมเป็นเจ้าภาพ ไม่มีใครสั่งเครื่องดื่มหรือเรียกผู้หญิงมาบริการเลย พวกคุณดูถูกผมงั้นเหรอ?”ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นพวกทายาทเศรษฐีอย่างน้อยสิบถึงยี่สิบคน พวกเขามักจะไม่ถือเอาตัวเองเป็นใหญ่ แต่ในตอนนี้พวกเขาทุกคนล้วนมีอาการตึงเครียดเหมือน ๆ กันเมื่อก่อนพวกเขามีความสุขที่จะได้เรียกใช้หญิงสาวมาปรนนิบัติแต่ในวันนี้ พวกเขาสั่งเฉพาะซุปใสและน้ำเปล่าเท่านั้น และไม่กล้าแตะต้องไวน์แดงฝรั่งเศสที่เสิร์ฟอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่มีใครกล้าพอที่จะเมินเฉยเบรนต์ คนหนึ่งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น “มิสเตอร์เบรนท์ ได้โปรดอย่าเยาะเย้ยพวกเราได้ไหม?”“คุณก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพว