แมนดี้โกรธมากหลังจากได้ยินแบบนั้น แต่เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันอดทนไว้ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นดูเหมือนเธอคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ เธอกลับไปกวนอารมณ์ฮาร์วีย์ แล้วพูดด้วยความไม่พอใจว่า “นี่ ไอ้โง่ สามีของฉันเป็นคนใจกว้างมาก นายคงต้องทำงานสักสองสามปีกว่าจะได้เงินสามหมื่นดอลลาร์ จริงไหม?”“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะเอาเงินแล้วหนีไป ทิ้งผู้หญิงคนนี้ไว้ที่นี่!”ผู้ช่วยร้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วมเหมือนกัน รีบเดินเข้าไปพร้อมเชิดอก“เฮ้อ ฉันหวังมาตลอดว่าจะมีคนที่มองข้ามข้อบกพร่องของฉันบ้าง…”“โอ้คุณสวย คุณโชคดีมาก ฉันยินดีที่จะจ่ายค่าทำขวัญการหย่าสามหมื่นดอลลาร์เพื่อคุณโดยเฉพาะ”แววตาของฮาร์วีย์เริ่มเยือกเย็นลงเรื่อย ๆ เขามองไปที่ผู้ช่วยประจำร้านและผู้ชายคนนั้น “นั่นเพราะที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้า ฉันจะเล่นตามกฎของคุณ”“คุณคิดว่าการมีเงินเป็นสิ่งที่น่าประทับใจแล้วงั้นเหรอ? ผมจะเอาทุกอย่างในร้านนี้…”“และคุณ ผมจะให้เงินคุณสามหมื่นดอลลาร์ แต่ผมไม่สนใจผู้หญิงของคุณ ผมแค่อยากให้เธอคุกเข่าขอโทษภรรยาของผม...”คำพูดของฮาร์วีย์เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง และดูมีอำนาจหัวใจของแมนดี้เต้นแรงหลังจากไ
“คุณผู้ชาย ถ้าคุณไม่มีเงิน ตอนนี้ยังพอมีเวลารีบเดินออกไปเถอะค่ะ”ผู้ช่วยร้านค้าหมดความอดทนกับการเสียเวลาไปกับฮาร์วีย์ และสั่งให้เขาออกไป“ผมขอโทรหาใครบางคนก่อน” ฮาร์วีย์พูดขณะเดินออกจากร้าน“ฮึฮึ โทรหาใครบางคนงั้นเหรอ? หยุดทำตัวโอ้อวดได้แล้ว ถ้าไม่มีเงินแล้วยังจะแกล้งทำเป็นโทรไปหาคนนุ้นคนนี้ทำไม? มาดูกันว่านายจะออกไปโทรนานแค่ไหน”ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นยืนกอดอกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจในสายตาของเธอ ฮาร์วีย์แสร้งทำเป็นโทรเพื่อจะหนีแมนดี้รู้สึกอับอาย เธอต้องการให้ฮาร์วีย์ยอมรับออกมาถ้าเขาไม่มีเงิน แทนที่จะทำโทรหาคนอื่นเป็นข้อแก้ตัว เธอยังไม่ได้ถอดชุดนั้นออกและไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรผ่านไปครึ่งนาที เสียงคนเดินด้วยรองเท้าส้นสูงก็ดังก้องมาจากภายในร้านผู้จัดการร้านรีบออกมาจากร้านและมองไปรอบ ๆ ตัวเธอ“ผู้จัดการ มีคนพยายามสร้างปัญหา…”ผู้ช่วยร้านเดินไปหาผู้จัดการร้านและยิ้มให้เธอทันทีที่เธอออกมาเพี้ยะ!ผู้จัดการร้านไม่รอให้ผู้ช่วยร้านพูดจบและตบหน้าเธอทันทีผู้จัดการร้านเดินไปหาแมนดี้และโค้งคำนับ“คุณผู้หญิง ผู้ช่วยร้านคนนี้ปฏิบัติต่อคุณอย่างไม่มีมารยาท และทำให้ค
ชายคนนั้นสบตากับผู้จัดการร้านในขณะนั้นทั้งสองเหมือนใจตรงกันทั้งสองอยากจะบีบคอสตรีคนนี้ให้ตายอยู่ตรงนี้คนหนึ่งสามารถคาดเดาถึงตัวตนของฮาร์วีย์ได้แล้วส่วนอีกคนรู้สึกว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่แค่คนธรรมดาแน่นอนณ จุดนี้พวกเขาทำได้เพียงควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้แต่หญิงโง่คนนี้ก็ยังแส่หาเรื่อง!เธอกำลังจะฆ่าพวกเขา!ก่อนที่พวกเขาจะพูดอะไรต่อ ฮาร์วีย์ก็เดินกลับเข้ามาในร้านเขาไม่ได้สบตากับชายคนนั้น และเริ่มคุยกับผู้จัดการร้านแทน“เมื่อกี้ผมโทรหา ไคล์ วู้ด เขาจะช่วยผมจัดการเรื่องชำระเงินก่อน”ผู้จัดการร้านใจสลายเมื่อได้ยินชื่อ “ไคล์ วู้ด”คนอื่น ๆ คงไม่เข้าใจความหมายของชื่อนั้น แต่เธอเข้าใจดี!ผู้จัดการทั่วไป นั่นคือชื่อของผู้จัดการทั่วไปของ โอลเด้น เทรด!คนธรรมดาทั่ว ๆ ไปจะไม่มีทางรู้จักนามสกุลของผู้จัดการทั่วไปด้วยซ้ำผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอกลับพูดชื่อผู้จัดการทั่วไปออกมาได้เต็มปากเต็มคำ!กจากคำพูดของผู้จัดการทั่วไปก่อนหน้านี้แล้ว ทุกสิ่งที่เธอสงสัยเป็นเรื่องจริงแน่นอนผู้จัดการร้านแทบทรงตัวไม่อยู่ ได้แต่ปาดเหงื่อเย็น ๆ ของเธอออก“คุณผู้ชายคะ ได้โปรดเลือกของในร้านที
“บัตรรูดได้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามขึ้นทันที“งั้นเอาให้ผมอีกสามหมื่นดอลลาร์”ไคล์ไม่กล้าถามอะไรและรีบวิ่งออกไปจากร้าน จากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษแล้วยื่นให้ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะตรวจดูสิ่งของในถุงกระดาษและโยนมันทิ้งตรงประตูร้าน กองธนบัตรสีน้ำเงินกระจายออกมาจากถุงกระดาษ นั่นทำให้ทุกคนตกใจ“นี่คือเงินสามหมื่นของคุณ”ชายเย่อหยิ่งและหญิงสาวที่ดูมีเสน่ห์เกิดอยากจะหนีออกจากเหตุการณ์นี้ หัวใจของพวกเขาเต้นรัวเร็วพวกเขาจำได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการให้พวกเขาขอโทษเพื่อแลกกับเงินสามหมื่นดอลลาร์“แล้วไงถ้านายจะรวย? ฉันก็ไม่ใช่คนจนเหมือนกัน นายคิดว่าฉันจะสนใจเงินนี่งั้นเหรอ?”หญิงสาวที่มีเสน่ห์มองฮาร์วีย์ด้วยความรังเกียจฮาร์วีย์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรในขณะที่จ้องมองชายเย่อหยิ่งคนนั้นชายคนนั้นรู้สึกขนลุกขนชันเมื่อเขามองดูท่าทีของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าเขาทำไม่ทำ ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาจะต้องทำให้เขายอมจนได้เขาคิดพิจารณา ไคล์ วู้ด ผู้จัดการทั่วไปของ โอลเด้น เทรด ยังให้เกียรติต่อหน้าชายคนนี้ และไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหายใจจากเขาเศรษฐีอย่างเขาคงไม่สามารถเทียบกับชายหนุ่มคนนี้ได้เข
ผู้หญิงทุกคนล้วนเป็นนักช้อปที่เก่งกาจคืนนั้นแมนดี้หมกมุ่นอยู่กับเสื้อผ้าทั้งหมดจนเธอเกือบสามารถนอนในห้องแต่งตัวได้แล้วฮาร์วีย์กำลังรู้สึกเหมือนขาของเขาถูกหินทับจนแหลก แต่เขาทำได้เพียงยืนอยู่ที่นั่นและฝืนยิ้มมันสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของแมนดี้หลังจากพักผ่อนเต็มที่แล้ว แมนดี้ลืมถามว่าฮาร์วีย์ว่าเขาทำได้อย่างไรอยู่ดี ๆ โทรศัพท์ที่เธอชาร์จก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นแมนดี้ยังคงเบลอ ๆ ฮาร์วีย์ไปรับสายและดุด่าคนที่โทรมาว่า “คุณบ้าหรือไง? มันยังเช้าอยู่ คุณดูเวลาก่อนโทรหรือยัง?”ผู้คนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตกใจพอ ๆ กับดีใจที่มีคนรับสายฮาร์วีย์กับแมนดี้ลองเสื้อผ้าใหม่ตลอดทั้งคืนขณะที่แซ็คและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายพักแรมอยู่ที่ชั้นล่างบ้านของแมนดี้และโทรมาที่เธอซ้ำ ๆคนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตื่นเต้นดีใจเมื่อในที่สุดมีคนรับสายฌอนกลัวว่าแซ็คจะอารมณ์หงุดหงิดใส เขารีบคว้าโทรศัพท์มาทันทีและพูดว่า “โอ้ ฮาร์วีย์ ฉันเอง ฌอน ลุงของนายไง!”“โอ้ นั่นคุณเหรอ? ทำไมคุณถึงโทรมาตอนนี้ คุณควรจะนอนอยู่ไม่ใช่เหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น!?”ฌอนเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากได้ยินแบบนั้นเขาหายใจเข้าลึก ๆ และพูดก
ฮาร์วีย์พูดแบบสบาย ๆ ไม่ใส่ใจว่า “ผมไม่ชอบทำงาน ผมชอบให้ภรรยาเลี้ยงดู”ฮาร์วีย์ดูใจเย็นในขณะที่ฌอนและคนอื่น ๆ อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธพวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้มาก่อน นี่มันแมงดาในตำนานตัวจริง“ไม่เป็นไร งั้นบอกฉันสิ นายต้องการอะไร?”ฌอนยังคงโกรธอยู่เขากลัวว่าน้ำเสียงของเขาจะดูหยาบคายและทำให้ฮาร์วีย์วางสายใส่อีกครั้ง“เงื่อนไขนั้นง่ายนิดเดียว ใครก็ตามที่ไล่เธอออกก็ต้องมาพาตัวเธอไปเอง!” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ“ใช่ ฉันไล่เธอออก ฉันจะไปเอง!” ฌอนรีบพูดฮาร์วีย์หัวเราะเสียงดัง“คุณลุง คุณคิดว่าผมเป็นคนโง่งี่เง่าจริงงั้นเหรอ?”“ถ้าคุณลุงมีอำนาจในตระกูลซิมเมอร์ คุณลุงจำเป็นต้องโทรหาผมตอนนี้ไหม?”“ให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์มาด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะไม่กลับไป”ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด…ฮาร์วีย์เริ่มไม่ยอมแพ้ง่าย ๆฌอนดูเวลา ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว เขาไม่กล้ารีรออีกต่อไป เขารีบกลับบ้านและรายงานสถานการณ์ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืนเขาหอบหายใจแรง ๆ หลังจากได้ยินสิ่งที่ฌอนพูด“อะไรนะ? ไอ้ลูกเขยกาฝากพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?”“คนที่จะถูกเ
แมนดี้คุ้นเคยกับครอบครัวซิมเมอร์ที่มีสองมาตรฐานแบบนี้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ค่อยทำอะไรตามใจตัวเองในช่วงเวลาที่อยู่ที่นิอัมมี่ เขามักจะรักษาภาพลักษณ์และอำนาจที่สูงส่งของเขาเสมอทำไมครั้งนี้เขาถึงตัดสินใจมาด้วยตัวเองได้?ไม่น่าเชื่อ“เพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง เขาจะไม่มาได้ยังไง?”ฮาร์วีย์ยิ้มแมนดี้มองฮาร์วีย์อย่างสงสัย แล้วครุ่นคิดถึงสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง“ฮาร์วีย์ พูดความจริงมา จริง ๆ แล้วคุณทำอะไรลงไป?”“ผมไม่ได้ทำอะไร” ฮาร์วีย์ตอบ“ในวันนั้นที่งานเลี้ยงของเจ้าชายยอร์ก มิสซาเวียร์จำคุณได้ใช่ไหม?”“เธอยังเชิญคุณเข้าร่วมพิธีเปิดของ สกาย คอร์ปอเรชั่น”“ถ้าคุณไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ มีใครอีกบ้างที่มีสิทธิ์เข้าร่วมได้?“นั่นเพราะเจ้าชายยอร์กเป็นผู้ก่อตั้ง สกาย คอร์ปอเรชั่น จึงเป็นเรื่องยากที่จะได้เข้าถึงพูดคุยกับพวกเขา”“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเดาว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์และคนอื่น ๆ ถูกปฏิเสธในเข้างานเปิดตัว สกาย คอร์ปอเรชั่น และพวกเขาต้องมาขอร้องคุณ”หลังจากฟังการวิเคราะห์ของฮาร์วีย์แล้ว แมนดี้ก็อดยิ้มไม่ได้“คุณฉลาดมาก! คนที่ไม่รู้จักคุณอาจคิดว่าคุณคือเจ้าชายยอร์กตัวจริง
ฮาร์วีย์และแมนดี้มาถึงอาคาร สกาย คอร์ปอเรชั่น ก่อนสิบโมงพนักงานต้อนรับเชิญพวกเขาไปยังสำนักงานที่แซ็คและคนอื่น ๆ เคยไปเมื่อวันก่อนอย่างสุภาพผู้รับผิดชอบสำนักงานยืนขึ้นทันทีหลังจากเห็นแมนดี้เขาเดินไปหาแมนดี้อย่างสุภาพนอบน้อมและยิ้มให้“คุณคงจะเป็นคุณนายซิมเมอร์ เชิญนั่งครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาพบเราในวันนี้!”“คุณจะรับชาหรือกาแฟดีครับ?แมนดี้ตกใจคนที่อยู่ตรงหน้าสวมสูทและรองเท้าหนัง ผมของเขาหวีเซ็ตเนี๊ยบตรงข้อมือของเขาสวมนาฬิกา Rolex สีทองขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะมองเขาอย่างไร เขาดูเหมือนเป็นผู้บริหารระหว่างนั่งรถผู้อาวุโสซิมเมอร์เคยบอกว่าชายผู้นี้โหดเหี้ยม และบอกให้เธอระวังตัวตลอดเวลาแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะรับมือได้อย่างไรกับพละกำลังของผู้ชาย เธอกลับไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรออกไปดีฮาร์วีย์นั่งลงข้างหลังเธอทำตัวสบาย ๆ และพูดว่า “ผมขอน้ำ ส่วนภรรยาของผมขอกาแฟเพื่อเพิ่มพลังให้เธอ”“มาเถอะครับ เชิญนั่ง ผมจะจัดการให้คุณทั้งสองเอง”ผู้รับผิดชอบยิ่งแสดงความสุภาพผิดปกติหลังจากพาทั้งสองคนไปที่ที่นั่งแล้ว เขาก็ไปชงกาแฟในห้องจัดเตรียมของว่างด้วยตัวเอง แล้วนำมาเสิร์ฟให้พวกเขาเมื่อเที