ในขณะเดียวกัน พวกซิมเมอร์คนอื่น ๆ ยังอยู่ที่วิลล่าที่เช่าเอาไว้ผู้อาวุโสซิมเมอร์เขวี้ยงถ้วยชาของเขาลงกับพื้นจนมันแหลกละเอียด เขาพึมพำอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?”หลังจากกลับจากบ้านของแมนดี้ ฌอนก็รีบรายงานทุกอย่างให้ทุกคนฟังและพูดเกินจริงออกไปผู้อาวุโสซิมเมอร์มีท่าทางเกรี้ยวโกรธและตะคอกออกมาว่า “เอาล่ะ! ดูเหมือนว่าไซม่อน และครอบครัวของเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากพอจนไม่เชื่อฟังฉันแล้ว!”“พวกเขาคิดว่าพวกเราซิมเมอร์จะทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีแมนดี้งั้นเหรอ?!”“แซ็ค! แกจะต้องเป็นผู้รับผิดงานนี้ สิ่งที่แกต้องทำคือพูดให้ดี แกไม่จำเป็นต้องได้โครงการกลับมา!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ประกาศออกมาแซ็คอยากที่จะปฏิเสธ แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสซิมเมอร์ในประโยคหลังหากสิ่งที่เขาต้องทำคือส่งไปทักทายและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหารของ สกาย คอร์ปอเรชั่น ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แซ็คเชื่อว่าเขาเป็นมืออาชีพในเรื่องนี้มากพอเขาตบลงที่หน้าอกของเขาและพูดว่า “คุณปู่ไม่ต้องกังวล! แมนดี้คิดว่าเราจะทำอะไรไม่ได้โดยไม่มีเธอ แต่ผมจะแสดงให้เธอไม่มีค่าอะไรเลย!”“ต่อให้ไม่มีเธอ เ
สีหน้าของฌอน และแซ็คเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำพวกเขาหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง พวกเขามาด้วยความทะเยอทะยานสูงมากแล้วพวกเขาควรจะต้องตอบสนองอย่างไรออกไปเมื่อได้รับข่าวว่าตระกูลของเขากำลังเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย?ในตอนนั้นเองพนักงานคนนั้นคิดอะไรบางอย่างและยิ้มออกมา“คุณคงมาจากบริษัทของซิมเมอร์ในนิอัมมี่ ผมต้องขอโทษด้วยที่ล่วงเกิน คุณนายแมนดี้ ซิมเมอร์ อยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า?”“ฮะ?”สองพ่อลูกถึงกับงงในคำถามนี้ ทำไมถึงถามถึงแมนดี้?แซ็คครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกไปอย่างระมัดระวังว่า “บอส ผมชื่อแซ็ค ซิมเมอร์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทของตระกูลซิมเมอร์”“แมนดี้เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินของตระกูลซิมเมอร์มาก่อน แต่เธอได้ทำผิดพลาดร้ายแรงและถูกไล่ออกไปแล้ว”“ทำไมถามถึงเธอล่ะ?”พนักงานคนนั้นดูโล่งใจเมื่อได้ยินแบบนั้น“เยี่ยม! เนื่องจากเธอถูกไล่ออกไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงจะง่ายกว่าเดิม”แววตาของสองพ่อลูกเป็นประกาย พวกเขาคงกำลังจะได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วใช่ไหม?“เนื่องจากคุณนายซิมเมอร์ไม่ได้ทำงานให้กับบริษัทนี้อีกต่อไป โปรดเตรียมรับมือกับกระบวนการล้มละลายในวันพรุ่งนี้ ผมจะม
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองพ่อลูกก็ถูกไล่ออกจากตึกการแสดงออกของพ่อและลูกชายดูแย่และถมึงทึงน่ากลัวเมื่อพวกเขายืนอยู่บนถนน“ผู้หญิงส่ำส่อน แมนดี้ต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าชายยอร์กแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมพนักงานคนนั้นถึงกับต้องให้เกียรติเธอด้วย?!”“แล้วเธอยังเป็นเพื่อนกับอีวอนน์ด้วยงั้นเหรอ? หยุดโกหกสักทีเถอะ!”แซ็คกำลังกัดฟันของเขาฌอนเอามือกุมศีรษะแล้วพูดว่า “เราเจอปัญหาใหญ่แล้ว ถ้าเราไม่ให้นังผู้หญิงส่ำส่อนแมนดี้ได้อำนาจของเธอกลับคืนมา เธอจะไม่ช่วยเหลือซิมเมอร์แน่”“เราทำให้พวกเขาหมดอำนาจไปได้แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?”พ่อลูกมองหน้ากัน และเห็นความขุ่นเคืองในดวงตาของพวกเขาพวกเขาคิดว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงบัควู้ด แมนดี้จะไม่สามารถทำให้พวกเขาทำตามคำสั่งของเธอได้อีกต่อไปใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากเธอในวันเดียวกับที่เธอถูกไล่ออกจากซิมเมอร์***ที่วิลล่าซิมเมอร์ ในบัควู้ดผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่เคยออกจากวิลล่าเลย ทันทีที่เขาเห็นฌอนและแซ็ค เขาก็เดินเข้าไปหาพวกเขาทันทีและถามว่า “แซ็ค เป็นไงบ้าง? สกาย คอร์ปอเรชั่น ทำเรื่องยุ่งยากให้พวกนายสอง
ไซม่อนและลิเลียนรู้สึกงงกับท่าทีที่เห็นในระหว่างนั้นขณะที่ซินเธียร์กำลังดูโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์ของเธอไปด้วยนั้น“ถ้านายมาหาพี่สาวฉันล่ะก็ ตอนนี้เธอไม่อยู่บ้าน”ควินน์ยิ้มและพูดว่า “ซีนเธียร์ เธอช่วยบอกพี่หน่อยได้ไหมว่าพี่สาวของเธอไปไหน?”ซินเธียร์ส่ายหัว“ฉันไม่แน่ใจ เธอออกไปกับฮาร์วีย์ตั้งแต่เช้าตรู่ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน?”“เข้าใจแล้ว คุณลุงคุณป้าคะ ซินเธียร์ งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ“รบกวนได้โปรดโทรหาเราหน่อยนะคะ ถ้าเมื่อแมนดี้กลับมาถึงบ้านแล้ว!”ทั้งสามโค้งคำนับ แม้มันจะรู้สึกกระอักกระอวนใจ แต่พวกเขาก็วางของขวัญไว้และออกมาซินเธียร์ไม่ได้สนใจอะไร แต่ไซม่อนและลิเลียนกลับมองหน้ากันไปมาด้วยใบหน้าที่ดูสับสน“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาต้องเอาของขวัญมาให้เราด้วย? พวกเขาจะใช้มันปิดปากพวกเราอยู่งั้นเหรอ?” ไซม่อนพูดพลางขมวดคิ้ว“แล้วจะทำยังไงถ้าพวกบ้านั่นกลับมาอีก? หรือว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ขอความช่วยเหลือจากเรา? ผมอ่านใจเขาไม่ออก!”ลิเลียนรู้สึกสับสนจากนั้นเธอก็เปิดกล่องออกดูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ที่รัก ไวน์พวกนี้มาจากโกลด์โคสต์ของประเทศ Z—บลูริบบ้อนไวน์กับช็อค
โทรศัพท์ของแมนดี้ปิดเครื่อง ขณะที่ฮาร์วีย์ไม่รับสายในขณะนั้น แซ็คและคนอื่น ๆ ถึงกับพูดไม่ออกถ้าพวกเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาจะปฏิบัติกับแมนดี้และครอบครัวของเธออย่างดีผู้อาวุโสซิมเมอร์โทรหาแซ็คอีกครั้งแซ็คแสดงความไม่พอใจออกมา แต่เขายังต้องกดรับสายผู้อาวุโสซิมเมอร์“คุณปู่ ไม่ใช่ว่าเราไร้ความสามารถ แต่เราไม่รู้ว่าไอ้ขยะไร้ค่านั่นอยู่ที่ไหน ฮาร์วีย์พาแมนดี้ไป!”“เราพยายามโทรหาพวกเขา แต่พวกเขาไม่รับสาย โทรศัพท์ทั้งสองคนปิดเครื่อง!”“แม้แต่คุณลุงกับคุณป้าก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปไหน!”มือของผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นสั่นทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นถ้าหากพวกเขาหาแมนดี้ไม่เจอ ตระกูลซิมเมอร์ก็จะล้มละลายหากเป็นเช่นนั้น ความพยายามทั้งหมดของเขาตลอดในช่วงครึ่งชีวิตที่ผ่านจะสูญเปล่า!“รีบไปหาพวกเขาให้เจอ! ไปเดี๋ยวนี้ ต้องหาให้เจอก่อนพรุ่งนี้เช้า!”“ถ้าไม่ ทั้งตระกูลจะต้องออกไปนอนตามท้องถนนแน่!”“แกจะรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ได้ไหม?!”แซ็คไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงในเรื่องนี้ได้ หากตระกูลของเขาล้มละลาย เขาจะได้มีชีวิตสะดวกสบายและมั่งคั่งอีกได้อย่างไร?เขาอยากกระโ
แมนดี้เข้าออกร้านค้าหลายร้อยแห่ง เธอลองสื้อผ้าที่เธอชอบ แต่เมื่อเห็นป้ายราคาเธอกลับซื้อไม่ลงนั่นเพราะโอลเด้น เทรดขายเฉพาะสินค้าแบรนด์หรู ที่นี่จะไม่มีอะไรที่ราคาถูกเลยแต่สำหรับเธอ การได้ลองเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกดีแล้วในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ที่คอยเดินตามเธอคอยจดจำเสื้อผ้าที่แมนดี้ลองสวม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแมนดี้รู้สึกพอแล้วที่ได้ลองเสื้อผ้ามาเรื่อย ๆ จนถึงร้านสุดท้ายเธอรีบวิ่งไปหาฮาร์วีย์และยิ้มให้อย่างมีความสุข“กลับบ้านกันเถอะ หลังจากลองเสื้อผ้าที่ร้านนี้เสร็จ”“ตามใจคุณเลยครับ”ฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่คิดจะปฏิเสธเธอพวกเขากำลังจะเดินเข้าไปในร้านในจังหวะที่มีชายหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างที่มีเสน่ห์ แต่งหน้าจัดจ้าน จนแทบไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอชายคนนั้นสวมเสื้อยืดและรองเท้าแตะพร้อมพวงกุญแจห้อยอยู่ที่เอว ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยของบัควู้ดผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในร้านและขอให้ผู้ช่วยร้านจัดเสื้อผ้าที่เธอชอบโดยไม่ได้ดูป้ายราคาด้วยซ้ำนั่นทำให้ผู้ช่วยร้านยิ้มอย่างสงวนท่าทีขณะคอยรับใช้ผู้หญิงคนนั้นด้วยความสุภาพเป็นพิเ
แมนดี้พูดพลางขมวดคิ้ว “คุณอย่าเป็นคนประจบสอพลอขนาดนี้ได้ไหม? เธอเป็นลูกค้า ฉันก็เป็นลูกค้าด้วยไม่ใช่หรือไง?”แมนดี้ชอบชุดที่เธอสวมอยู่ เธอรู้สึกอับอายมากหลังจากได้ยินพนักงานสั่งให้เธอถอดผู้ช่วยร้านตรงหน้าเธอยิ้มเยาะและหัวเราะออกมา“คุณผู้หญิง คุณควรรู้ว่าลูกค้าก็มีเกรดต่างกัน คุณสามารถเทียบกับผู้หญิงที่ซื้อของจำนวนมากที่นี่แบบนี้ได้ไหม?”“บางทีของที่ผู้หญิงท่านนี้ซื้อในครั้งเดียวอาจมากกว่าของที่คุณจะได้รับในชีวิต!”หญิงสาวผู้มีเสน่ห์ส่งรอยยิ้มที่ดูเหนือกว่าหลังจากได้สิ่งที่พนักงานพูด“คนบางคนก็ต้องรู้ที่ของตัวเอง และไม่ทำตัวให้ตัวเองอับอายไปมากกว่านี้…”“ประเมินตัวเองซะก่อนว่าคุณสามารถเทียบกับฉันได้ไหม!”ในตอนนั้นเองผู้ชายที่มีพวงกุญแจห้อยอยู่ที่เอวเดินเข้ามาหาผู้หญิง“ทำไมคุณต้องไปเสวนากับพวกจน ๆ แบบนี้ด้วย?”“ในเวลาแบบนี้ เงินบันดาลทุกสิ่งอยู่แล้ว!”“คนพวกนี้ดูไม่เหมือนคนมีเงินด้วยซ้ำ ถ้าคุณอยากทำตัวเหมือนพระเจ้า งั้นก็โชว์เงินสดที่มีออกมาสิ!”แมนดี้แสดงความไม่พอใจต่อชายหญิงคู่นั้นดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียเก็บของผู้ชายที่ดูรวย ๆ คนนั้น แต่เธอทำตัวก็หยิ่งยโสมากแม
แมนดี้โกรธมากหลังจากได้ยินแบบนั้น แต่เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันอดทนไว้ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นดูเหมือนเธอคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ เธอกลับไปกวนอารมณ์ฮาร์วีย์ แล้วพูดด้วยความไม่พอใจว่า “นี่ ไอ้โง่ สามีของฉันเป็นคนใจกว้างมาก นายคงต้องทำงานสักสองสามปีกว่าจะได้เงินสามหมื่นดอลลาร์ จริงไหม?”“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะเอาเงินแล้วหนีไป ทิ้งผู้หญิงคนนี้ไว้ที่นี่!”ผู้ช่วยร้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วมเหมือนกัน รีบเดินเข้าไปพร้อมเชิดอก“เฮ้อ ฉันหวังมาตลอดว่าจะมีคนที่มองข้ามข้อบกพร่องของฉันบ้าง…”“โอ้คุณสวย คุณโชคดีมาก ฉันยินดีที่จะจ่ายค่าทำขวัญการหย่าสามหมื่นดอลลาร์เพื่อคุณโดยเฉพาะ”แววตาของฮาร์วีย์เริ่มเยือกเย็นลงเรื่อย ๆ เขามองไปที่ผู้ช่วยประจำร้านและผู้ชายคนนั้น “นั่นเพราะที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้า ฉันจะเล่นตามกฎของคุณ”“คุณคิดว่าการมีเงินเป็นสิ่งที่น่าประทับใจแล้วงั้นเหรอ? ผมจะเอาทุกอย่างในร้านนี้…”“และคุณ ผมจะให้เงินคุณสามหมื่นดอลลาร์ แต่ผมไม่สนใจผู้หญิงของคุณ ผมแค่อยากให้เธอคุกเข่าขอโทษภรรยาของผม...”คำพูดของฮาร์วีย์เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง และดูมีอำนาจหัวใจของแมนดี้เต้นแรงหลังจากไ