ผู้คนทั้งตระกูลรู้สึกแย่มาก'เขามีสิทธิ์อะไร?''ลูกเขยที่เกาะครอบครัวภรรยามีสิทธิ์อะไรมารับคำขอโทษจากเขา?!''พวกเราทุกคนกำลังฝันไปเหรอ?'ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อตระกูลลีอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่คนพวกนั้นต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก“คราวนี้ฉันจะปล่อยผ่านไป"“ขอบคุณมากครับคุณยอร์ก!”คลิฟฟ์ยิ้มอย่างสดใสก่อนจะมองฮาร์วีย์อย่างให้ความเคารพ“ถ้าผมจะขอเบอร์โทรศัพท์จากคุณจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่าครับ?“ผมมีเรื่องบางอย่างต้องขอคำแนะนำจากคุณในเวลาอื่น!”ฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่เขาเขียนเบอร์โทรศัพท์ของเขาบนกระดาษทิชชูด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะขว้างไปตรงหน้าคลิฟฟ์“ขอบคุณครับ! ขอบคุณครับ!”คลิฟฟ์เก็บกระดาษทิชชูแผ่นนั้นไว้ราวกับเป็นของมีค่า ก่อนจะมองไปที่ตระกูลลี“ขอโทษที่ต้องรบกวนพวกคุณทุกคนนะ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"พวกลูกน้องของเขาต่างโค้งคำนับด้วยความเคารพ แต่ทำสีหน้าหวาดกลัวฮาร์วีย์โบกมือ“ออกไปซะ"ท่าทีที่ดูสบาย ๆ ของเขาทำให้รู้สึกเหมือนคลิฟฟ์และคนอื่น ๆ คือคนรับใช้ของเขาตระกูลลีไม่อาจยอมรับได้ พวกเขารู้สึกตัวชาอย่างมากในเวลานี้ในทางกลับกันแมนดี้ทำสีหน้าที่ดูชอบธรรม“ผมจะเลี้ยงคุณวันอื่น
"เอเวอร์กรีน แคปปิตอลทำแต่ธุรกิจปล่อยเงินกู้เท่านั้น! พวกเขาจึงไม่ใช่คนใจซื่อมือสะอาดตั้งแต่แรกแล้ว!“คลิฟฟ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น!“คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำอวดเบ่งเมื่อคุณเป็นเพื่อนกับผู้ชายแบบนั้น?!“เมื่อเวลาเปลี่ยนอะไร ๆ ก็ย่อมเปลี่ยน!“การทำงานอย่างซื่อสัตย์เท่านั้นที่จะคงอยู่ตลอดไป!“คนอย่างคลิฟฟ์อยู่ได้ไม่นานหรอก!เบย์เลอร์จ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยาม เธอทำสีหน้าภาคภูมิใจให้เห็นบนใบหน้าที่แต่งไว้อย่างงดงามในตอนนี้“ธุรกิจชั่วร้ายนั้นอยู่ได้ไม่นานหรอก! ที่นี่บริษัทของเราดีที่สุด!”แม่ของกาเบรียลทำสีหน้าที่ดูเป็นคนอวดดีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ใช่แล้ว! บริษัทของเราเป็นบริษัทเดียวที่ให้เกียรติกับบรรพบุรุษของเรา!”กาเบรียลรู้ว่าตระกูลของเขากำลังช่วยเขาทำการเยาะเย้ยฮาร์วีย์ แต่ตอนนั้นเขายังรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ระงับความรู้สึกเอาไว้ เพราะฮาร์วีย์เริ่มถูกดูหมิ่นในตอนนี้แล้ว“ทำในสิ่งที่ถูกต้อง!”ดูเหมือนเบย์เลอร์กำลังสั่งสอนฮาร์วีย์อยู่“ถ้าคุณเก่งกว่าฉันสักครึ่งหนึ่ง บางทีตระกูลซิมเมอร์ก็อาจจะให้โอกาสคุณได้กับกลับไปเป็นลูกเขยที่เกาะเมียกินอีกครั้
แต่ถึงกระนั้นแดเรียลก็ยังทำเมินเฉยต่อคนในตระกูลนั้นอย่างสิ้นเชิงเขารีบเดินไปอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์ ก่อนโค้งคำนับเขาอย่างให้ความเคารพ“คุณยอร์ก!”“คุณยอร์กเหรอครับ?!'แดเรียลพูดด้วยเสียงไม่ดังแต่ก็ไม่ค่อย...แต่คำพูดเหล่านั้นให้ความรู้สึกเหมือนมีระเบิดดังขึ้นในหัวของพ่อแม่เบย์เลอร์เบย์เลอร์ก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากด้วยบรรดาญาติ ๆ ต่างทำสีหน้าที่ดูไม่เชื่อเป็นอย่างมากในขณะที่มองดูฮาร์วีย์'อะไรกันวะเนี่ย?''คุณยอร์กอีกแล้วเหรอ?''ลูกเขยที่เกาะเมียกินคนนี้น่าประทับใจจริง ๆ เหรอ?'เบย์เลอร์ตัวแข็งทื่อ“ซีอีโอแจ็คสัน! เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะเมียกินนะคะ!”แดเรียลทำเมินเฉยต่อเบย์เลอร์อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เขาโค้งคำนับอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์อย่างนอบน้อม“คุณยอร์ก! คุณซิมเมอร์!“ผมไม่คิดว่าจะมาเจอคุณสองคนที่นี่! ช่างเป็นบุญของผมจริง ๆ!“ผมรู้สึกเป็นเกียรติจังเลยครับ!“ผมตื่นเต้นมากเลยเนี่ย!”แดเรียลดีใจมากจนเขาต้องยิ้มกว้างอยู่ตลอดเวลาทุก ๆ คนในตระกูลลีต่างตกตะลึงเมื่อเห็นแดเรียลมีความสุขอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์เบย์เลอร์อ้าปากค้างทันที เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้ในตอนนั้นเธอไม่คิดว่าฮาร
คำพูดของแดเรียลฟังดูเหมือนกำลังตำหนิตระกูลลีอยู่ แต่คำพูดนั้นแฝงความหมายอีกอย่างหนึ่งไว้ด้วยดวงตาของเบย์เลอร์ดูเป็นประกายทันที“คุณไม่ได้ถามนี่คะซีอีโอแจ็คสัน!” เธอตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“ไม่อย่างนั้นฉันก็คงบอกคุณไปแล้วล่ะ!“คุณต้องการทานข้าวกับฮาร์วีย์เมื่อไหร่ก็บอกฉันได้เลยค่ะ! ฉันจะเป็นคนนัดหมายเขาให้เอง!”เบย์เลอร์เบ่งหน้าอกราวกับเธอเป็นเจ้าของฮาร์วีย์ตอนนี้เธอค่อนข้างมั่นใจแล้วเธอเชื่อว่าฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำทุกอย่างตามความต้องการของกาเบรียล เมื่อเขาทำการควบคุมฮาร์วีย์ผ่านทางลิเลียนแดเรียลอดที่จะแตะไหล่เบย์เลอร์เบา ๆ ไม่ได้หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ“ดี! ดี! พรุ่งนี้มาพบผมที่สำนักงานนะ!”ดวงตาของเบย์เลอร์เป็นประกาย เธอคิดว่าเธอกำลังจะได้เลื่อนอันดับอีกแล้วตระกูลลีรู้สึกเบิกบานใจมาก พวกเขารู้สึกประทับใจในความฉลาดของเบย์เลอร์ ที่แอบใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้'ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้อย่างง่ายดาย...'“ผมว่าผมไม่รู้จักคุณนะ"ฮาร์วีย์พูดขึ้นด้วยท่าทีสบาย ๆ หลังจากเห็นสีหน้าภาคภูมิใจของเบย์เลอร์ ซึ่งทำลายจินตนาการของเธออย่างสิ้นเชิง
ฮาร์วีย์ทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อมองไปที่แมนดี้ เขาจำไม่ได้ว่าผู้หญิงที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเธอคือใครตั้งแต่เธอมาถึงยังโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ เธอก็ได้พบปะกับผู้คนมากมายภาพที่เห็นนั้นคือสัญญาณของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของเธอ“แมนดี้! ผู้ชายคนนั้นคือสามีเก่าในตำนานของเธอใช่ไหม?”ผู้หญิงบนหน้าจอโทรศัพท์ทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม เมื่อเห็นฮาร์วีย์ยืนอยู่ข้างหลังแมนดี้“ทำไมเธอถึงยอมให้โอ้โสโครกนั่นเข้ามาอยู่ในห้องเธอล่ะ?”แมนดี้จ้องมองเธอ“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไงอัลม่า ฉันจะแต่งงานกับเขาอีกครั้ง”“เธอล้อเล่นใช่ไหม?”อัลม่าตกใจมาก“เขาเป็นแค่ไอ้ตัวโสโครก! ทุกคนที่นี่รู้ว่าเธอแทบจะกระดิกตัวออกมาจากเขาไม่ได้เลย แล้วทำไมถึงไปหาเรื่องใส่ตัวเองอีกล่ะ?“เธอลืมไปแล้วเหรอ?“ฉันเคยแนะนำเธอให้รู้จักกับพี่ชายของฉันแล้ว! เธอน่าจะเป็นพี่สะใภ้ของฉันนะ!“พี่ชายฉันเป็นคนที่โดดเด่นมากในตระกูลจอห์น! “เธอทั้งคู่น่าจะเป็นคู่รักที่แข็งแกร่งได้นะ!”อัลม่าเผยให้เห็นสีหน้าที่ดูมุ่งมั่นฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดหวังว่าแมนดี้จะรู้จักกับใครในตระกูลจอห์นผู้หญิงคนนั้นถึงกับพยายามจะดึงแมนดี้ไปเป็นพวกด้วยหลัง
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล