ทุกคนเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวสภาพจิตใจของเจนเซ่นเกือบจะระเบิดออกมา ทำให้เขาสับสน‘เกิดอะไรขึ้น?’‘คนอย่างฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่รู้จักกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองเท่านั้น แต่เขายังคุยกับเขาเหมือนเป็นคนคุ้นเคยแม้จะอายุต่างกันก็ตาม’ก่อนที่ทุกคนจะได้สติ ผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็หัวเราะออกมา“เอาล่ะฮาร์วีย์ มาเยี่ยมฉันได้ทุกเมื่อ นายรู้ดีว่าที่นี่ยินดีต้อนรับนายเสมอ…”“เรามาเข้าเรื่องกันก่อนเถอะ มีเหตุผลอะไรนายถึงโทรหาฉันตอนดึก ๆ แบบนี้”ผู้อาวุโสอาร์มสตรองมีจิตใจที่ดี ฮาร์วีย์ต้องมีเรื่องด่วนมากถึงได้รีบโทรหาเขาก่อนหน้านี้พวกเขาได้รำลึกถึงความหลังเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ควรที่จะเข้าสู่หัวข้อหลักได้แล้วฮาร์วีย์ไม่อยากเสียเวลา เขาพลิกเปิดเอกสารในมือแล้วโชว์ที่กล้องหลังจากนั้นผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็เกิดอาการสับสน“ฮาร์วีย์ ทำไมนายถึงมีเอกสารโครงการวิจัยล่ะ?”“คุณเคยคุยกับผมเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถาม“ใช่ แต่หลังจากที่ฉันคิดพิจารณาแล้ว ฉันยืนยันว่าโครงการวิจัยนี้ไม่มีความเป็นไปได้ หากเราปฏิบัติจริงในชีวิตจริง จะมีโอกาสมากที่จะทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออก จนอาจจะทำให
ฮาร์วีย์มองไปที่เกรกอรี่ด้วยท่าทางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นักบุญคลาร์ก คุณพูดเองนะ ถ้าผมมีหลักฐานการฉ้อโกงของเขา คุณจะไล่เขาออกจากการเป็นลูกศิษย์ของคุณ”ใบหน้าของเกรกอรี่ดูแย่ลง เขาอึดอัดใจเป็นอย่างมากเขาพูดแบบนั้นออกไปจริง แต่ปัญหาคือ...ตระกูลคาร์ลสันมีสถานะพิเศษในเซาท์ไลท์!การขับไล่คนที่มาจากตระกูลด้านการแพทย์ แม้แต่เกรกอรี่เอง อาจจะต้องถูกลงโทษและเตรียมรับผลที่ตามมา!แต่ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น บรรทัดฐานของตระกูลของเขาจะถูกทำลาย!ฮาร์วีย์ไม่ได้ให้เกรกอรี่มีเวลาได้คิด“ผมช่วยคุณจากความอับอายโดยไม่ได้บอกผู้อาวุโสอาร์มสตรองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนะ”“แต่เนื่องจากคุณเป็นอาจารย์ของเจนเซ่น คุณควรจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”“ควรมีเอกสารที่ต้องถูกทำลาย และควรจะมีโครงการที่ต้องล้มเลิก”“ถ้าไม่อย่างนั้น หากคำพูดแพร่กระจายออกไป ผมคิดว่าแม้แต่คุณเองก็ไม่อาจจะรับผลที่ตามมาได้ ผมพูดผิดหรือเปล่า?”เกรกอรี่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขากำลังตัดสินใจหลังจากนั้นเขาที่มีท่าทีโกรธจัดและรีบวิ่งไปหาเจนเซ่นบนโพเดียมทันที“เจนเซ่น! นายคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่?!”“ในสายงานของเรา มันเป็นเรื่องปกติ
“อาจารย์ครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษจริง ๆ โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่ทำอะไรโดยพลการ ผมสมควรตาย ผมสมควรตายจริง ๆ…”เอลล่าเคยเคารพรุ่นพี่ของเธอมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองไปที่เขาและเริ่มถอนหายใจเอลล่าจริงจังกับการศึกษาของเธอมากกว่าใคร ๆ‘เจนเซ่นใช้วิธีการเช่นนี้เพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ช่างงี่เง่าจริง ๆ ‘‘เขาไม่รู้หรือไงไม่ว่ายังไงมันก็จะถูกเปิดเผยไม่ช้าก็เร็ว นี่มันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมากไม่ใช่รึไง?’เจนเซ่นเห็นเอลล่ามองเขาราวกับแมลงที่น่าขยะแขยงก็ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่ภาคเรียนแรกของมหาวิทยาลัย ตอนที่เขาได้พูดคุยเอลล่าครั้งแรก เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงเขาจะตามจีบเธอเขารู้ว่ารุ่นน้องของเขาให้ความสำคัญกับการศึกษาของเธอมากที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องอดทนมาหลายปีเพื่อจัดฉากนี้เจนเซ่นคิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถพาสาวสวยคนนี้กลับบ้านได้ แต่เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะจบลงแบบนี้“อาจารย์ ได้โปรด! อาจารย์ต้องช่วยผม ได้โปรดเถอะ!”เจนเซ่นเห็นเกรกอรี่ไม่สบตาเขา เขาอดไม่ได้ที่จะขอความเมตตาอีกครั้งเขาไม่เชื่อว่าเกรกอรี่จะเป็นคนใจแข็งและจะไม่ทำอะไรเพื่อช่วยเขาแต่ป
เจนเซ่นเอามือกุมหน้าแสดงสีหน้าที่อ่อนล้า“พ่อครับ ผมพยายามแล้ว! ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีมาหลายปี!”“ผมรอจนกระทั่งผู้อาวุโสอาร์มสตรองเสียชีวิต จากนั้นจึงนำเอกสารวิทยานิพนธ์นั้นออกมา!”“สิ่งที่ผมทั้งหมดมันยังไม่พออีกเหรอ?!”“พวกเราคาร์ลสันก็ร่ำรวยเช่นกัน ทำไมเราต้องเป็นคนรับใช้อยู่เบื้องล่างของคนอื่นด้วย? ควินตัน ยอร์ก ก็แค่คนธรรมดา…”เพี้ยะ!ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเหวี่ยงมือตบลงใบหน้าของเจนเซ่นอีกครั้ง เพื่อต้องการหยุดเขาไม่ให้พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด“ไอ้เด็กไม่รักดี ฉันจะบอกแกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่มีนายท่านยอร์ก พวกเราคาร์ลสันคงอยู่ใต้ซากปรักหักพังไม่ได้โงหัวชูคอขึ้นมาแบบนี้!”“การได้ช่วยเหลือนายท่านยอร์กในธุรกิจของเขาถือเป็นเกียรติของเรา! และเราต้องรับผลที่จะตามมาในครั้งนี้สำหรับความล้มเหลวของเรา!” ผู้เฒ่าพูดอย่างเศร้าโศกร่างสูงใหญ่ของเขาสั่นสะท้านเห็นได้ชัดว่าชื่อ “ควินตัน ยอร์ก” ทำให้ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเกิดความกลัวขึ้นในใจเจนเซ่นรู้สึกขยะแขยงในสิ่งที่ได้ยิน“ถ้าควินตันมีความสามารถจริง ๆ ทำไมเขาต้องให้ผมจัดการกับฮาร์วีย์ด้วย? เขาเพียงต้องการบังคับฮาร์
เอลล่าเดินตามฮาร์วีย์ขณะที่พวกเขาเดินไปตามท้องถนน เธอรู้สึกราวกับว่าหัวของเธอหมุนอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันมากเกินไป เธอไม่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดีเธอไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงถ้าต้องให้ฮาร์วีย์เดินเคียงข้างเธอ‘ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่? เขาทำได้เกือบทุกอย่าง!’ฮาร์วีย์ไม่สนใจอะไรมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาทานข้าวเย็นกับเอลล่าแล้วรีบกลับบ้าน***ฮาร์วีย์เพิ่งกลับถึงบ้านขณะที่สวนกับแมนดี้ และแม่ของเธอที่รีบร้อนวิ่งออกไป สีหน้าของลิเลียนดูโกรธ ๆ หลังจากเห็นฮาร์วีย์ เธอดุฮาร์วีย์ทันที “แกไปไหนมาดึกดื่นขนาดนี้?!”ฮาร์วีย์ตอบว่า “ผมไปทานอาหารเย็นกับเพื่อนมาครับ”“กิน กิน กิน สิ่งที่แกรู้อย่างเดียวคือเรื่องกิน! แกรู้อะไรไหมว่าพ่อของแกกลับมาแล้ว!” ลิเลียนตะโกนดุด่าเขาอีกครั้ง“เขาอยู่ที่คฤหาสน์ซิมเมอร์แล้ว! เร็วเข้า อย่าปล่อยให้เขารอนาน!”ฮาร์วีย์ชะงัก พวกเขากำลังพูดถึงพ่อของเขางั้นเหรอ?เขาได้สติกลับมาอีกครั้ง ลิเลียนคงหมายถึงพ่อของแมนดี้ ไซม่อน ซิมเมอร์ พ่อตาของเขาเอง***ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ทางด้านขวาของผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยรอยยิ้มกว้างบ
“เอ๊ะ? แล้วจะทำยังไงให้ตระกูลซิมเมอร์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนั้น?”แววของผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นประกาย“มาฟังกันก่อนนะครับ!”สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์กลั้นหายใจรับฟังอย่างใกล้ชิดการเป็นตระกูลชั้นสองในเมืองหลวงจะทำให้พวกเขามั่งคั่งเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะอยู่บนกองเงินกองทอง ในตอนนี้ทุกคนไม่มีใครคิดที่จะต่อต้านหรือทำลายโครงการของไซม่อน ทุกคนต่างตื่นเต้นไซม่อนหัวเราะ“คุณพ่อครับ พ่อเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซิลวาแห่งเซาท์ไลท์ไหมครับ?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกไม่สบายใจทันที“ไซม่อน เธอกำลังหมายถึง ตระกูลซิลวา หนึ่งในตระกูลเฟิร์สคลาสแห่งเซาท์ไลท์ใช่ไหม?”“ใช่ครับ! หมายถึงพวกเขา!”ไซม่อสแสดงความภาคภูมิใจออกมา“เขาว่ากันว่าตระกูลซิลวาเป็นพระญาติของกษัตริย์ในสมัยก่อน ในยุคสมัยของลอร์ดไค ซิลวา!”“หลังจากสงครามจบลง พวกเขาตั้งหลักปักฐานที่เซาท์ไลท์และใช้นามสกุลว่าซิลวา!”“ถึงตระกูลจะนี้ไม่ได้หยั่งรากลึกเหมือนตระกูลยอร์ก”“แต่ตระกูลที่มีสถานะเท่าเทียมกับตระกูลซิลวานั้นมีเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น”“ซิลวากับไนส์เวลล์ล่ะ เป็นยังไง?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึก
‘อะไรนะ?’‘นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?’ทุกคนเย้ยหยันในความคิดนี้ มันจะเป็นเรื่องจริงได้ยังไง?พวกซิลวาจะโง่ถึงขนาดเซ็นสัญญาอะไรแบบนี้เหรอ?ไซม่อนมองหน้าทุกคนที่ฉายชัดถึงความไม่ไว้วางใจและยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็ดึงแฟ้มออกมาจากกระเป๋าเอกสารแล้วโยนลงบนโต๊ะ“นี่ ดูกันเอาเองนะครับ”ทุกคนล้อมรอบโต๊ะและตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียดสัญญาได้ระบุสิ่งที่ไซม่อนพูดไว้จริง ๆ พื้นที่ใหม่ในบัควู้ดที่จะได้รับมีพื้นที่สิบเอเคอร์เพื่อให้ตระกูลซิมเมอร์ดำเนินการนอกจากศูนย์การค้าแล้ว ยังมีอาคารที่พักอาศัยสองสามหลังรวมอยู่ในที่ดินด้วยทุกตารางนิ้วของพื้นที่ใหม่ในบัควู้ดแห่งนี้มีมูลค่าเท่ากับทองคำเป็นตัน ๆหากตระกูลซิมเมอร์สามารถดำเนินการโครงการด้วยพื้นที่สิบเอเคอร์นี้ได้จริง ๆ มูลค่าทรัพย์สินของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!สัญญาระบุไว้ว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้จะทำให้ตระกูลซิมเมอร์ได้รับส่วนแบ่งร้อยละห้าสิบเอ็ดของหุ้นทั้งหมด และได้รับการแต่งตั้งให้รับผิดชอบโครงการนี้ หากพวกเขาล้มเหลว ที่ดินจะถือเป็นค่าชดเชยให้กับตระกูลซิมเมอร์ตระกูลซิลวาจัดหาที่ดิน ในขณะที่ตระกูลซิมเมอร์จะรับผิดชอบเรื่องเงินทุนแล
“ใช่ครับคุณปู่ นี่เป็นเรื่องใหญ่ คุณปู่ต้องคิดให้รอบคอบ หากคุณปู่เดินผิดพลาดไปแค่ก้าวเดียว คุณปู่จะสูญเสียทุกอย่าง ในสัญญาดูเหมือนว่าเราจะได้ผลประโยชน์มากมาย แต่มันไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ แน่นอน!”“บัควู้ดเป็นที่ที่คนเลวและพวกที่มีแต่ความโลภมารวมตัวกัน ใครจะไปรู้ว่าตระกูลเฟิร์สคลาสจากเมืองระดับมณฑลแบบนั้นคิดอะไร? เราจะเอาตัวรอดในบัควู้ดได้ยังไง?”“ถ้าเราถลำลึกเข้าไปมากเท่าไหร่มันยากที่จะถอนตัวออกมาแล้วเราก็คว้าน้ำเหลว ทั้งตระกูลจะต้องเกิดความโกลาหลขึ้น!”แซ็คเป็นคนแรกที่ต่อต้านความคิดของไซม่อนด้วยสีหน้าระแวดระวัง หากแผนนี้ดำเนินต่อไป ตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเขาคงเป็นเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้น“คุณปู่ครับ ผมเป็นรองประธานฯ ผมต้องนึกถึงความปลอดภัยของครอบครัวเราสำคัญที่สุด เรื่องนี้ไม่ควรด่วนตัดสินใจเพียงเพราะบางคนแค่เอาโครงการกลับมาเสนอ ผมคิดว่าเราควรให้ทุกคนลงความเห็นในเรื่องนี้ งั้นเรามาลงคะแนนโดยไม่มีการระบุชื่อกันเถอะครับ!”“คุณพ่อครับ ผมรู้ว่านี่เป็นโครงการที่ดี ครอบครัวเราไม่ค่อยได้โอกาสแบบนี้มาบ่อย ๆ แต่ถ้าผู้ชายคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นล่ะครับ?”“ถ