ดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้จะพูดเรื่องเหลวไหลจริง ๆ เพราะเขาพยายามเรียกร้องความสนใจจากเอลล่าเขาคิดว่าวิชาชีพด้านการแพทย์เป็นเรื่องที่คนนอกสามารถพูดและตัดสินได้ตามความต้องการงั้นหรือ?ฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรจากคำพูดของเจนเซ่น เขากลับยิ้มและพูดคุยอย่างสบาย ๆ ว่า “ผมเพิ่งอ่านโครงการวิจัยของ ดร.คาร์ลสันตั้งแต่ต้นจนจบ… คุณสังเกตไหมว่าเอกสารฉบับนี้มีข้อบกพร่อง? เอกสารทางวิชาการที่อ้างถึงในผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยมนี้ล้วนเป็นข้อมูลของนักวิจัยคนหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน…”“ผมบอกได้แค่ว่าเขาโง่จริง ๆ ถึงแม้เขาจะขโมยผลงานของคนอื่นมา แต่เขาก็ควรจะปรับแก้ไขเอกสารที่อ้างอิงถึงเป็นฉบับปัจจุบันสิ จริงไหม?”“แต่สาเหตุที่เขาไม่ทำแบบนั้นก็เพราะเขาไม่รู้และไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับงานวิจัยนี้มากนัก เขากลัวว่าข้อความจะไม่เกี่ยวพันกันหลังจากแก้ไขเอกสาร”“ผมพูดได้เลยว่า ดร.คาร์ลสัน ทำผลงานออกมาแย่มากเพราะมันมาจากการขโมยผลงานการวิจัยของคนอื่น…”ในแวดวงวิชาการ จำเป็นต้องมีเอกสารที่รองรับความเป็นไปได้ในการเผยแพร่ผลงานวิจัยดังกล่าวโดยทั่วไปเอกสารดังกล่าวจำเป็นต้องอ้างอิงถึงงานวิจัยและข้อมูลเป็นจำนวนมากจำ
ฮาร์วีย์ยิ้มและเดินไปที่แท่นโพเดียม จากนั้นเขาก็คว้าไม้ชี้มาจากมือของเจนเซ่น จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังจุดต่าง ๆ บนหน้าจอหมอและผู้เชี่ยวชาญหลายคนตกเหมือนถูกดึงให้สนใจการเคลื่อนไหวท่าทางต่าง ๆ ของเขาอย่างอธิบายไม่ได้เขากำลังจะทำอะไร?อะไรคือการชี้ไปที่ผู้เขียนวิจัยหลายคนที่อ้างอิงถึง มากกว่าจะชี้ไปที่เนื้อหาของงานวิจัย?แต่ใบหน้าของเกรกอรี่เปลี่ยนไปทันที และอยากจะหยุดการกระทำของฮาร์วีย์ แต่เขาก็ยังเข้าเดินเข้าไปใกล้อีกก้าวหนึ่งในตอนนี้เจนเซ่นก็อ้าปากค้างราวกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างได้!ฮาร์วีย์ไม่ได้ชี้ไปที่ชื่อของผู้เขียน แต่เขาชี้ไปที่วันเดือนปีเกิดและวันตายของพวกเขาแทน!ในตอนนี้ทุกคนเริ่มสับสนจะสามารถพิสูจน์อะไรได้ถ้าชี้ไปตรงนั้น?การชี้ให้เห็นไปที่ข้อบกพร่องและการคัดบอกบนกระดาษยังสามารถอธิบายอะไรบางอย่างได้แต่เขากำลังจะสื่อถึงถึงอะไรที่ชี้ไปข้อมูลพวกนั้น?เป็นไปได้ไหมที่เขากล่าวหาว่าเจนเซ่นฉ้อโกงคัดลอกข้อมูลเพียงเพราะผู้เขียนหลายคนมีวันเดือนปีเกิดและวันตายเหมือนกัน? ฉ้อโกง? เป็นเรื่องตลกสิ้นดี!ในตอนนี้หลายคนมองฮาร์วีย์ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูคนโง่น่าชังคนหนึ่งผู้ชายคนน
“ใช่จริงด้วย! ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอื่น ๆ เหล่านี้ถึงแก่กรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา…”“งานวิจัยบางเล่มได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สามแล้ว แต่ข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ยังคงเป็นฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก!”“และงานวิจัยที่อ้างอิงถึงนี้ ผู้เขียนเคยพูดไว้ว่าเขาทำวิทยานิพนธ์ผิดพลาดและขอให้ทุกคนไม่เอาไปอ้างอิง แต่นี่…”ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจำนวนมากให้ความสนใจกับเนื้อหาของงานวิจัยนี้อย่างตื่นเต้นแต่เมื่อทุกคนให้ความสนใจกับรายละเอียดมากขึ้นกลับพบช่องโหว่มากมายแม้แต่เกรกอรี่และเอลล่าต่างก็ต้องตกใจเมื่อได้ดูรายงานวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน‘รายงานวิจัยฉบับนี้คัดลอกผลการวิจัยของคนอื่นมาด้วยงั้นเหรอ?’‘นั่นเพราะเจนเซ่นไม่รู้ว่าวิทยานิพนธ์และข้อมูลเหล่านี้ที่อ้างอิงในงานวิจัยนั่นมาจากไหน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีช่องโหว่มากมาย’เอลล่ามองกลับมาที่ฮาร์วีย์ หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมและเทิดทูนเขามันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่อะไรถ้าคนในวงการด้านการแพทย์จะมองผ่านช่องโหว่เหล่านั้นแต่ในกรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญในงานสัมมนามองไม่เห็นช่องโหว่เลยสักคน ในทางกลับกันคนนอกอย่างฮาร์
ฮาร์วีย์ฝืนยิ้มและพูดว่า “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง เหมือนเทพเจ้าในหมู่มวลมนุษย์ ถ้าเขาทิ้งงานวิจัยที่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ทำไมเขาถึงให้คำแนะนำคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ?”“คุณกำลังจะหมายความว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังพยายามจะให้ร้ายคุณงั้นเหรอ?”“นาย…”เจนเซ่นชี้ไปที่ฮาร์วีย์ ใบหน้าของเขาแข็งกระด้าง “ผมจะโทรหาผู้อาวุโสอาร์มสตรองตอนนี้เพื่อพิสูจน์ว่าคุณพูดหมิ่นประมาทเขา!”“อะไรนะ? โทรหาผู้อาวุโสอาร์มสตรองงั้นเหรอ?”“ผู้อำนวยการคาร์ลสันมีเบอร์โทรศัพท์ของผู้อาวุโสอาร์มสตรองงั้นเหรอ?”“ฉันได้ยินมาว่าในประเทศนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อผู้อาวุโสอาร์มสตรองได้เลยสีกคน ผู้อำนวยการคาร์ลสันทำได้ยังไง?”แม้แต่เกรกอรี่ก็ยังตกใจ เขาไม่คิดว่าลูกศิษย์ของเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองและโครงการวิจัยนี้ก็เป็นความคิดของผู้อาวุโสอาร์มสตรอง!ขอบคุณพระเจ้า!เป็นพระพรอย่างแท้จริงที่ได้เป็นครู!เกรกอรี่กระแอ่มไอเบา ๆ และพูดว่า “เจนเซ่น คุณจะพูดเรื่องไร้สาระกับคนนอกแบบนั้นไปทำไม?”“ข่าวลือว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังพักฟื้นที่ต่างประเทศ มันควรจะเป็นเวลาเช้าตรู่ที่นั่น ไม่ควรที่จะรบกวนเ
ทุกคนดูมึนงงเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ของฮา์วีย์ มันปรากฏเป็นชื่อ “แก่ แต่ไม่ซื่อสัตย์” บนหน้าจอโทรศัพท์ของฮาร์วีย์เจนเซ่นหัวเราะ“นายคิดว่าการโทรออกไปมั่ว ๆ จะพิสูจน์ได้ว่านายกำลังโทรหาผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง งั้นเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้”“แล้วทำไมนายถึงยังทำตัวอวดดีอยู่อีกล่ะ?!”ฮาร์วีย์เพียงแค่ยิ้ม“ผมไม่เหมือนคุณ ที่กดโทรหาเบอร์มั่ว ๆ แล้วบอกว่าเป็นผู้อาวุโสอาร์มสตรอง เบอร์ที่ผมโทรออกคือเบอร์ของเขาจริง ๆ ”ระหว่างที่ฮาร์วีย์กำลังพูดอยู่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเหมือนถูกตักสาย เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ตัดสายเขาฮาร์วีย์พูดไม่ออก‘บ้าอะไรเนี่ย? เขาตัดสายกับฉันงั้นเหรอ?’เจนเซ่นชะงักแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา“คุณบอกว่าเป็นเบอร์ของอาวุโสอาร์มสตรองจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเขาถึงกดตัดสายคุณล่ะ? อย่าบอกนะว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองอารมณ์ไม่ดีแล้วตัดสาย!”“ดูเวลาของเราตอนนี้สิ! ที่นี่เวลา 9 โมงเช้า แต่เป็นเวลา 5 ทุ่มที่ออสเตรเลีย ผู้อาวุโสอาร์มสตรองควรพักผ่อนอยู่!”“อย่าบอกนะว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ปลอม!”“ถึงมันจะเป็นเบอร์เขาจริง ก็ไม่มีทางที่เขาจะรับ
หน้าจอแสดงชื่อ “แก่ แต่ไม่ซื่อสัตย์” อีกครั้ง เป็นชื่อที่ฮาร์วีย์ตั้งขึ้นฮาร์วีย์รับสายในโหมดวิดีโอคอลทันที ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ เขาดูค่อนข้างผอม แต่ยังดูสง่าสมกับเป็นคนฉลาดหลักแหลมเต็มไปด้วยความรู้มากมายเขาคงเพิ่งตื่นนอน เพราะเขายังสวมชุดนอนอยู่เลย ถึงอย่างนั้นเขาก็ให้ความรู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยพลังพระเจ้า!นี่คือ…ปรมาจารย์แห่งประเทศ H!เทพเจ้าแห่งวงการแพทย์!ออสการ์ อาร์มสตรอง!ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง!ทุกคนสูดหายใยเข้าลึก ๆ หลังจากดูหน้าจอโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ “นี่… คือผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจริง ๆ ฉันจำได้ว่าเขามีไฝที่หน้าผาก ต้องเป็นเขาจริงแน่นอน...” ใครบางคนในฝูงชนพูดออกมา แต่ในจังหวะนั้นเองมันเสียงดังราวกับฟ้าฟาดทุกต่างตกใจคนที่ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายเท้าจะสามารถติดต่อกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองได้ยังไง?สายตาของพวกเขาพร่ามัวอยู่หรือเปล่า?บางคนถึงขั้นตบหน้าตัวเองเพื่อพิสูจน์ดูว่าพวกเขากำลังฝันอยู่หรือไม่ ความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับจากการตบหน้าตัวเองทำให้พวกเขามั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปเจนเซ่นนิ่งค้างเหมือนถูกแช่แข็งไปทันที ใบหน้าของเขาดูเหมือนเขาอ
ทุกคนเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวสภาพจิตใจของเจนเซ่นเกือบจะระเบิดออกมา ทำให้เขาสับสน‘เกิดอะไรขึ้น?’‘คนอย่างฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่รู้จักกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองเท่านั้น แต่เขายังคุยกับเขาเหมือนเป็นคนคุ้นเคยแม้จะอายุต่างกันก็ตาม’ก่อนที่ทุกคนจะได้สติ ผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็หัวเราะออกมา“เอาล่ะฮาร์วีย์ มาเยี่ยมฉันได้ทุกเมื่อ นายรู้ดีว่าที่นี่ยินดีต้อนรับนายเสมอ…”“เรามาเข้าเรื่องกันก่อนเถอะ มีเหตุผลอะไรนายถึงโทรหาฉันตอนดึก ๆ แบบนี้”ผู้อาวุโสอาร์มสตรองมีจิตใจที่ดี ฮาร์วีย์ต้องมีเรื่องด่วนมากถึงได้รีบโทรหาเขาก่อนหน้านี้พวกเขาได้รำลึกถึงความหลังเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ควรที่จะเข้าสู่หัวข้อหลักได้แล้วฮาร์วีย์ไม่อยากเสียเวลา เขาพลิกเปิดเอกสารในมือแล้วโชว์ที่กล้องหลังจากนั้นผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็เกิดอาการสับสน“ฮาร์วีย์ ทำไมนายถึงมีเอกสารโครงการวิจัยล่ะ?”“คุณเคยคุยกับผมเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถาม“ใช่ แต่หลังจากที่ฉันคิดพิจารณาแล้ว ฉันยืนยันว่าโครงการวิจัยนี้ไม่มีความเป็นไปได้ หากเราปฏิบัติจริงในชีวิตจริง จะมีโอกาสมากที่จะทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออก จนอาจจะทำให
ฮาร์วีย์มองไปที่เกรกอรี่ด้วยท่าทางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นักบุญคลาร์ก คุณพูดเองนะ ถ้าผมมีหลักฐานการฉ้อโกงของเขา คุณจะไล่เขาออกจากการเป็นลูกศิษย์ของคุณ”ใบหน้าของเกรกอรี่ดูแย่ลง เขาอึดอัดใจเป็นอย่างมากเขาพูดแบบนั้นออกไปจริง แต่ปัญหาคือ...ตระกูลคาร์ลสันมีสถานะพิเศษในเซาท์ไลท์!การขับไล่คนที่มาจากตระกูลด้านการแพทย์ แม้แต่เกรกอรี่เอง อาจจะต้องถูกลงโทษและเตรียมรับผลที่ตามมา!แต่ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น บรรทัดฐานของตระกูลของเขาจะถูกทำลาย!ฮาร์วีย์ไม่ได้ให้เกรกอรี่มีเวลาได้คิด“ผมช่วยคุณจากความอับอายโดยไม่ได้บอกผู้อาวุโสอาร์มสตรองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนะ”“แต่เนื่องจากคุณเป็นอาจารย์ของเจนเซ่น คุณควรจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”“ควรมีเอกสารที่ต้องถูกทำลาย และควรจะมีโครงการที่ต้องล้มเลิก”“ถ้าไม่อย่างนั้น หากคำพูดแพร่กระจายออกไป ผมคิดว่าแม้แต่คุณเองก็ไม่อาจจะรับผลที่ตามมาได้ ผมพูดผิดหรือเปล่า?”เกรกอรี่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขากำลังตัดสินใจหลังจากนั้นเขาที่มีท่าทีโกรธจัดและรีบวิ่งไปหาเจนเซ่นบนโพเดียมทันที“เจนเซ่น! นายคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่?!”“ในสายงานของเรา มันเป็นเรื่องปกติ