เจนเซ่นเอื้อมมือออกไปโบกมือให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “อย่างที่เราทราบกันดีว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเกิดจากอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ!”“ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบให้หายขาดตามวิธีการดั้งเดิมคือการผ่าตัดเพื่อตัดกล้ามเนื้อหัวใจที่อักเสบออกแล้วทำการผ่าตัดบายพาสหัวใจ!”“แต่วิธีนี้เสี่ยงมาก!”“ในอีกด้าน ผู้ป่วยต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล ในทางกลับกันยังเป็นการท้าทายทักษะของแพทย์ของเราอย่างมากด้วยเช่นกัน!”“บุคคลสำคัญในวงการศัลยกรรมหลายคนมีการผ่าตัดที่คล้ายคลึงกัน สิ่งนี้ทำให้ผู้ป่วยวิกฤตจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากไม่สามารถนัดวันผ่าตัดได้ นี่คือความรับผิดชอบของเรา!”เจนเซ่นพูดต่อ “อย่างไรก็ตามพลังงานของมนุษย์มีขีดจำกัด! แม้ว่าแพทย์ของเราทุกคนจะมีทักษะ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถผ่าตัดได้ 24 ชั่วโมงต่อวันก็ตาม แต่จำนวนผู้ป่วยที่รอดชีวิตที่สามารถช่วยชีวิตได้กลับน้อยมาก! ผมเสียใจเป็นอย่างมาก!”ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความชื่นชม ทุกคนเป็นหมอ หมอคนไหนที่ไม่เต็มใจที่จะรักษาผู้ป่วยบ้าง?อย่างไรก็ตามมนุษย์ทุกคนมีพลังเรี่ยวแรงจำกัด!หมอหลายคนยอมสละว
เกรกอรี่ยิ้มให้ทุกคนและพูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง แน่นอน ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้ามันเป็นไปได้!”“อย่างไรก็ตามเนื่องจากประเด็นหลักของวันนี้คือการสัมมนาทางการแพทย์ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!”“โอเค! ขอเชิญผู้อำนวยการคาร์ลสันขึ้นมาบรรยาย!”“เชิญครับ!”“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้มีส่วนร่วมในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ในวิชาชีพแพทย์ในวันนี้!มีเสียงอุทานดังขึ้นจากฝูงชน จากนั้นเจนเซ่นก็เดินไปที่แท่นโพเดียมและเริ่มกดเล่นวิดีโอในระหว่างนั้นเขาก็อธิบายว่า “ผู้อาวุโสที่เคารพรักของผม การทดลองวิจัยในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผลการทดลองบ่งชี้ว่าตราบใดที่การสร้างคาร์ดิโอไมโอไซต์ขึ้นใหม่ด้วยวิธีการทางเทคนิคสร้างเซลล์ใหม่จะสามารถแทนที่เซลล์เนื้อร้ายได้ ดังนั้นปัญหาของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดสามารถแก้ไขได้!”“เช่นเดียวกับถ้าคุณมีเนื้อร้ายที่ผิวหนัง คุณจะต้องตัดผิวหนังออกและรอให้มันปรับเซลล์ผิวใหม่ นั่นจึงมีแนวคิดที่คล้ายกัน”“แน่นอนว่าถ้ามันเกี่ยวข้องกับหัวใจต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่านี้และยาที่ใช่ก็จะต้องเฉพาะเจาะจงมากขึ้น…”“มีเอกสารตรงหน้าพวกคุณทุกคน คุณสามารถอ่า
ดวงตาของเจนเซ่น ซึ่งยืนอยู่ที่โพเดียมเกิดประกายความไม่พอใจอย่างไรก็ตาม เขาเก็บงำความลับไว้ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา“เอลล่า ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เขาพูดเรื่องเหลวไหลอะไรแบบนี้ที่นี่ได้ยังไง? เขาไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันจริงจังแค่ไหน!” เกรกอรี่ซึ่งอยู่ไม่ไกลพูดอย่างไม่พอใจเกิดอะไรขึ้น?ไม่ผิดถ้าเอลล่าจะพาผู้ชายมาที่นี่ถ้าเขาคนนั้นไม่ถามอะไรเหลวไหล แต่ตอนนี้ชายคนนี้กลับพูดเป็นนัยว่าเจนเซ่นเอาผลงานของคนอื่นมาเป็นของตัวเองเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหางั้นเหรอ?ในตอนนี้เกรกอรี่โกรธมาก!บางเรื่องไม่สามารถพูดโดยไร้ซึ่งหลักฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้!ผลที่ตามมาอาจร้ายแรงมากมันจะเปลี่ยนช่วงเวลาที่ควรจะเป็นเรื่องราวที่สวยงามให้กลายเป็นเรื่องตลกร้ายสำหรับทุกคน“เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนคุณจะไม่ใช่คนที่ทำงานด้านการแพทย์ ถ้าคุณพูดจาลวก ๆ แบบนี้ ผู้อำนวยการคาร์ลสันสามารถฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาทได้ คุณรู้ใช่ไหม?”“พ่อหนุ่ม ระวังปากของคุณไว้ก็ดี! อย่าพูดเรื่องเหลวไหลอะไรที่นี่!”“รีบไปขอโทษ ดร.คาร์ลสันซะ ถ้าไม่ใช่เพราะจะยังรักษามารยาทต่อ ดร.คาร์ลสัน เราคงสั่งให้หน่วยรักษาความ
สีหน้าของเกรกอรี่เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณหมายความว่ายังไง?”“คุณกำลังบอกว่าเจนเซ่น คาร์ลสัน ขโมยผลการวิจัยของคนอื่นมางั้นเหรอ?”“คุณควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะพูดมันออกมา!”“ฉันเป็นคนช่วยเขาประสานงานตั้งแต่เขาตั้งโครงการวิจัยเมื่อห้าปีที่แล้ว!”“ในช่วงแรก ๆ ของการจัดตั้งโครงการ ฉันยังตรวจสอบข้อมูลในฐานข้อมูลด้วย ไม่มีใครทำวิจัยที่คล้ายกันเลย!”“ฉัน เกรกอรี่ คลาร์ก เป็นที่รู้จักอันดับต้น ๆ วงการแพทย์ของประเทศ H ฉันสามารถยืนยันได้! ผลวิจัยนี้เป็นเรื่องจริง ฉันจับตาดูเจนเซ่นในการค้นคว้าหาคำตอบมาโดยตลอด!”“บุคคลชั้นนำในวิชาชีพนี้รู้ดีว่าฉันเกลียดการลอกเลียนแบบผลงานทางการแพทย์มากที่สุดในชีวิต ถ้าฉันรู้ ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้คนแบบนี้ไปแน่นอน!”หมอหลาย ๆ ท่านที่อยู่รอบ ๆ พยักหน้ารับทันทีที่เขาพูดประเด็นนี้สถานะของเกรกอรี่ในวงการแพทย์นั้นสูงมาก เขายังมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติอีกด้วยเขาเกลียดการคดโกงข้อมูลทางวิชาการมากที่สุดเพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยจำนวนมากเขาเฝ้าดูเจนเซ่นซึ่งเป็นเด็กฝึกงานของเขาด้วนตัวเอง เจนเซ่นมีจริยธรรมทางการแพทย์สูงเนื่องด้วยภายใต้
ดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้จะพูดเรื่องเหลวไหลจริง ๆ เพราะเขาพยายามเรียกร้องความสนใจจากเอลล่าเขาคิดว่าวิชาชีพด้านการแพทย์เป็นเรื่องที่คนนอกสามารถพูดและตัดสินได้ตามความต้องการงั้นหรือ?ฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรจากคำพูดของเจนเซ่น เขากลับยิ้มและพูดคุยอย่างสบาย ๆ ว่า “ผมเพิ่งอ่านโครงการวิจัยของ ดร.คาร์ลสันตั้งแต่ต้นจนจบ… คุณสังเกตไหมว่าเอกสารฉบับนี้มีข้อบกพร่อง? เอกสารทางวิชาการที่อ้างถึงในผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยมนี้ล้วนเป็นข้อมูลของนักวิจัยคนหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน…”“ผมบอกได้แค่ว่าเขาโง่จริง ๆ ถึงแม้เขาจะขโมยผลงานของคนอื่นมา แต่เขาก็ควรจะปรับแก้ไขเอกสารที่อ้างอิงถึงเป็นฉบับปัจจุบันสิ จริงไหม?”“แต่สาเหตุที่เขาไม่ทำแบบนั้นก็เพราะเขาไม่รู้และไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับงานวิจัยนี้มากนัก เขากลัวว่าข้อความจะไม่เกี่ยวพันกันหลังจากแก้ไขเอกสาร”“ผมพูดได้เลยว่า ดร.คาร์ลสัน ทำผลงานออกมาแย่มากเพราะมันมาจากการขโมยผลงานการวิจัยของคนอื่น…”ในแวดวงวิชาการ จำเป็นต้องมีเอกสารที่รองรับความเป็นไปได้ในการเผยแพร่ผลงานวิจัยดังกล่าวโดยทั่วไปเอกสารดังกล่าวจำเป็นต้องอ้างอิงถึงงานวิจัยและข้อมูลเป็นจำนวนมากจำ
ฮาร์วีย์ยิ้มและเดินไปที่แท่นโพเดียม จากนั้นเขาก็คว้าไม้ชี้มาจากมือของเจนเซ่น จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังจุดต่าง ๆ บนหน้าจอหมอและผู้เชี่ยวชาญหลายคนตกเหมือนถูกดึงให้สนใจการเคลื่อนไหวท่าทางต่าง ๆ ของเขาอย่างอธิบายไม่ได้เขากำลังจะทำอะไร?อะไรคือการชี้ไปที่ผู้เขียนวิจัยหลายคนที่อ้างอิงถึง มากกว่าจะชี้ไปที่เนื้อหาของงานวิจัย?แต่ใบหน้าของเกรกอรี่เปลี่ยนไปทันที และอยากจะหยุดการกระทำของฮาร์วีย์ แต่เขาก็ยังเข้าเดินเข้าไปใกล้อีกก้าวหนึ่งในตอนนี้เจนเซ่นก็อ้าปากค้างราวกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างได้!ฮาร์วีย์ไม่ได้ชี้ไปที่ชื่อของผู้เขียน แต่เขาชี้ไปที่วันเดือนปีเกิดและวันตายของพวกเขาแทน!ในตอนนี้ทุกคนเริ่มสับสนจะสามารถพิสูจน์อะไรได้ถ้าชี้ไปตรงนั้น?การชี้ให้เห็นไปที่ข้อบกพร่องและการคัดบอกบนกระดาษยังสามารถอธิบายอะไรบางอย่างได้แต่เขากำลังจะสื่อถึงถึงอะไรที่ชี้ไปข้อมูลพวกนั้น?เป็นไปได้ไหมที่เขากล่าวหาว่าเจนเซ่นฉ้อโกงคัดลอกข้อมูลเพียงเพราะผู้เขียนหลายคนมีวันเดือนปีเกิดและวันตายเหมือนกัน? ฉ้อโกง? เป็นเรื่องตลกสิ้นดี!ในตอนนี้หลายคนมองฮาร์วีย์ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูคนโง่น่าชังคนหนึ่งผู้ชายคนน
“ใช่จริงด้วย! ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอื่น ๆ เหล่านี้ถึงแก่กรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา…”“งานวิจัยบางเล่มได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สามแล้ว แต่ข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ยังคงเป็นฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก!”“และงานวิจัยที่อ้างอิงถึงนี้ ผู้เขียนเคยพูดไว้ว่าเขาทำวิทยานิพนธ์ผิดพลาดและขอให้ทุกคนไม่เอาไปอ้างอิง แต่นี่…”ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจำนวนมากให้ความสนใจกับเนื้อหาของงานวิจัยนี้อย่างตื่นเต้นแต่เมื่อทุกคนให้ความสนใจกับรายละเอียดมากขึ้นกลับพบช่องโหว่มากมายแม้แต่เกรกอรี่และเอลล่าต่างก็ต้องตกใจเมื่อได้ดูรายงานวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน‘รายงานวิจัยฉบับนี้คัดลอกผลการวิจัยของคนอื่นมาด้วยงั้นเหรอ?’‘นั่นเพราะเจนเซ่นไม่รู้ว่าวิทยานิพนธ์และข้อมูลเหล่านี้ที่อ้างอิงในงานวิจัยนั่นมาจากไหน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีช่องโหว่มากมาย’เอลล่ามองกลับมาที่ฮาร์วีย์ หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมและเทิดทูนเขามันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่อะไรถ้าคนในวงการด้านการแพทย์จะมองผ่านช่องโหว่เหล่านั้นแต่ในกรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญในงานสัมมนามองไม่เห็นช่องโหว่เลยสักคน ในทางกลับกันคนนอกอย่างฮาร์
ฮาร์วีย์ฝืนยิ้มและพูดว่า “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง เหมือนเทพเจ้าในหมู่มวลมนุษย์ ถ้าเขาทิ้งงานวิจัยที่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ทำไมเขาถึงให้คำแนะนำคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ?”“คุณกำลังจะหมายความว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังพยายามจะให้ร้ายคุณงั้นเหรอ?”“นาย…”เจนเซ่นชี้ไปที่ฮาร์วีย์ ใบหน้าของเขาแข็งกระด้าง “ผมจะโทรหาผู้อาวุโสอาร์มสตรองตอนนี้เพื่อพิสูจน์ว่าคุณพูดหมิ่นประมาทเขา!”“อะไรนะ? โทรหาผู้อาวุโสอาร์มสตรองงั้นเหรอ?”“ผู้อำนวยการคาร์ลสันมีเบอร์โทรศัพท์ของผู้อาวุโสอาร์มสตรองงั้นเหรอ?”“ฉันได้ยินมาว่าในประเทศนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อผู้อาวุโสอาร์มสตรองได้เลยสีกคน ผู้อำนวยการคาร์ลสันทำได้ยังไง?”แม้แต่เกรกอรี่ก็ยังตกใจ เขาไม่คิดว่าลูกศิษย์ของเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองและโครงการวิจัยนี้ก็เป็นความคิดของผู้อาวุโสอาร์มสตรอง!ขอบคุณพระเจ้า!เป็นพระพรอย่างแท้จริงที่ได้เป็นครู!เกรกอรี่กระแอ่มไอเบา ๆ และพูดว่า “เจนเซ่น คุณจะพูดเรื่องไร้สาระกับคนนอกแบบนั้นไปทำไม?”“ข่าวลือว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังพักฟื้นที่ต่างประเทศ มันควรจะเป็นเวลาเช้าตรู่ที่นั่น ไม่ควรที่จะรบกวนเ