แกร๊ง!ฮาร์วีย์ดีดนิ้ว เกิดเสียงดังตามมาและชายคนนั้นก็สั่นสะท้าน อาวุธในมือของเขาหลุดจากนิ้ว ลอยขึ้นไปในอากาศและทะลุเพดานไปชายผู้นั้นท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในวินาทีต่อมา เขาเริ่มเหวี่ยงหมัดหนัก ๆไปทางฮาร์วีย์'หมัดหนานหยางเหนือ!'แม้ว่าท่วงท่าของเขาจะไม่ถึงอันตรายเท่าท่วงท่ามวยไทย แต่ก็ถือว่าน่าประทับใจทีเดียวน่าเสียดายที่ชายผู้นี้ต้องมาเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ยังคงสงบเมื่อเผชิญกับการโจมตีของชายคนนั้น เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวก่อนจะคว้าแจกันที่อยู่ข้างทางเดินแล้วทุบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นปัง! ชายคนนั้นโซเซไปด้านหลังด้วยย่างก้าวที่ไม่มั่นคง ศีรษะของเขามีเลือดชโลมไปทั่วในที่สุดเมื่อเขาฟื้นคืนสติ ฮาร์วีย์ก็ส่งให้เขากลิ้งไปกับพื้นด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวพรืดดด!ปากของเขามีเลือดกระฉูดออกมา ใบหน้าในตอนนี้ดูหม่นหมองเขาพยายามคลานกลับขึ้นมา แต่กลับไม่มีแรงพอที่จะทำเช่นนั้น“นอนพักเสียให้พอเถอะ อีกสักครึ่งชั่วโมงนายก็จะขยับได้เอง ไม่อย่างนั้นนายจะทำให้ตัวเองต้องพิการเอาเปล่า ๆ”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า กำลังจะเตะประตูไม้ตรงหน้าให้
ทางฝั่งเคธี่ เธอค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์ยังดูปกติและไม่ได้รับผลกระทบจากมนต์สะกดของเธอถึงอย่างนั้น รอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเธอก็ไม่เคยจางไป ปฏิกิริยาของฮาร์วีย์ไม่ได้กระทบเธอเลยแม้แต่น้อย และอารมณ์ของเธอยังคงมั่นคงดังเดิมทันใดนั้น เสียงฝีเท้าอันกึกก้องก็ดังขึ้นที่หน้าทางเข้าสมาชิกแก๊งหนานหยางหลายสิบคนบุกเข้ามาพร้อมอาวุธปืนในมือนอกจากนี้ยังมีหน้าไม้ที่ปลายลูกดอกเปล่งแสงสีฟ้าจาง ๆเคธี่เหล่ตามอง เพื่อสังเกตว่าฮาร์วีย์มีท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ เมื่อเห็นว่าเขายังคงเหมือนเดิม เธอถอนหายใจและโบกมือจึงเป็นเชิงออกคำสั่งเหล่าชายฉกรรจ์ที่ปรากฏตัวมาเมื่อครู่ออกไปในทันทีหลังจากที่เธอทำอย่างนั้นเคธี่รู้สึกได้ว่าหากฮาร์วีย์ต้องการจบชีวิตของเธอจริง ๆ ก็ไม่มีใครในนั้นสามารถช่วยชีวิตเธอได้ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เธอควรจะเป็นฝ่ายยอมถอยก้าวหนึ่งและเจรจาต่อรองดังนั้นเธอจึงรินชาใส่ถ้วยและวางมันไว้ตรงหน้าฮาร์วีย์จากนั้นเธอก็จิบชาจากถ้วยของตัวเองก่อนที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น"คุยกันต่อเลยดีไหม?“ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งเจอกัน ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าสามสิ่งที่คุณอยากบอกฉันคืออะไร?”“อย่างแรก แ
แม้ว่าจะมองเธอเพียงแค่แวบเดียว แต่ฮาร์วีย์ก็ถูกกระตุ้นให้รู้สึกอยากเอาชนะผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจซึ่งนั่งตรงข้ามมากจนน่าประหลาดโชคดีที่เขารีบสลัดตัวเองออกจากความปรารถนานั้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ได้แล้วความรู้สึกสนใจในตัวเคธี่ก็ตื่นขึ้นเนื่องจากเคธี่อ้างว่าเธอไม่ได้ใช้มนต์สะกดใด ๆ ในการล่อหลอกฮาร์วีย์ ดังนั้นนี่อาจเป็นเสน่ห์ที่เธอมีตามธรรมชาติหากเป็นเช่นนั้นจริง ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงต้องยอมสยบอยู่แทบเท้าเธอแต่โดยดีฮาร์วีย์ถอนหายใจก่อนจะหรี่ตามองเธอ“เรามาพูดถึงอย่างที่สามกันดีกว่า“ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร แต่แบรนดอนต้องตายเพราะเขาพยายามลอบสังหารฟาเบียน“แล้วคุณก็ส่งดอมมาตามล่าผม การลอบสังหารล้มเหลว แต่คุณก็ยังไม่หยุด“นำทุกอย่างมารวมเข้าด้วยกันแล้ว ถ้าหากผมจะกวาดล้างแก๊งหนานหยางให้สิ้นซากเพื่อเป็นการชดใช้ให้กับการพยายามลอบสังหารพวกนี้ คุณก็คงไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุไปหรอก ใช่ไหม?“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ… วันนี้ผมจะให้โอกาสคุณ”ฮาร์วีย์กลืนชาที่ยังร้อนลงคอไปทั้งถ้วยโดยไม่สนใจความร้อนของมัน“ผมจะปล่อยพวกคุณไปก็ได้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามแตะต้องคนของผมแม้แต่ป
ฮาร์วีย์หรี่ตาของเขามองไปยังเคธี่พลางครุ่นคิด จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา“คุณคงลืมไปแล้ว หัวหน้าคอบบ์ ตอนนี้สาขาของวังมังกรอยู่ในมือของผมแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงค่อนข้างมีข้อมูลอยู่ในมือ“แบรนดอนมาจากตระกูลโมเรโน แต่ภูมิหลังของคุณก็น่าประทับใจเช่นกัน“ตามข้อมูลที่สาขาของวังมังกรของเราได้รับ ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นหัวหน้าของแก๊งหนานหยาง แต่คุณยังเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลคอบบ์ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของหนานหยางด้วย“ด้วยทักษะและภูมิหลังของคุณ แบรนดอนเทียบไม่ได้เลย“ถ้าคุณยอมเป็นพันธมิตรกับผม…“ทุกอย่างจะอยู่ในกำมือของคุณแน่นอน“คุณจะบอกว่าผมมีศัตรูในฮ่องกงและลาสเวกัสมากเกินไป? ถึงได้คิดที่จะสู้กับผมให้ตายกันไปข้าง?” ฮาร์วีย์พูดอย่างต้องการที่จะฟังคำตอบจากปากเธอเพราะฮาร์วีย์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเจรจาบอกกันตามตรงเขามาที่นี่เพื่อดูว่าแก๊งหนานหยางเลือกยืนข้างใครหากพวกเขายอมทำตามเขา ฮาร์วีย์ก็จะไม่เล่นงานพวกเขาแต่ถ้าพวกเขาตัดสินใจเดินตามเส้นทางเดิมฮาร์วีย์ก็ไม่ติดขัดที่จะล้างบางพวกเขา“โถ่ที่รัก คุณกำลังทำให้ฉันลำบากใจนะ คุณยอร์ก”เคธี่ถอนหายใจหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ก่อ
เคธี่รีบนำทางฮาร์วีย์ลงไปในส่วนลึกของกิลด์ฮอลล์ฮาร์วีย์ยักไหล่กับตัวเองและเดินตามเธอไปอย่างไม่อิดออดมีโอกาสที่เคธี่จะวางแผนฆ่าฮาร์วีย์อยู่ แต่เขาเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงมีหัวคิดผู้หญิงที่มีหัวคิดจะไม่จมอยู่กับความพยายามที่ไร้ค่าในไม่ช้า ทั้งสองก็เดินผ่านตรอกที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาไปยังลานเล็ก ๆ สไตล์หนานหยางเมื่อทั้งสองเข้าไปข้างใน ผู้หญิงผิวคล้ำคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากมุมลานบ้านและขวางทางฮาร์วีย์ไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอเย็นชาเธอดูอายุค่อนข้างน้อย ร่างกายซูบผอมมีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เธอทำให้ฮาร์วีย์นึกถึงเสือชีต้าที่ว่องไวเพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ เธอก็สามารถต้านแรงกดดันมหาศาลได้เธอส่งเสียงร้องแปลก ๆ และทันใดนั้น แมลงก็ปรากฏตัวขึ้นและคลานเข้าหาฮาร์วีย์ฮาร์วีย์มองดูผู้หญิงคนนั้นเงียบ ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ เขาปล่อยกลิ่นอายของนักฆ่ารุนแรงแบบในสนามรบออกมาเล็กน้อย และให้มันครอบคลุมไปทั่วทั้งร้านในไม่กี่วินาที ผู้หญิงผิวคล้ำก็ตัวสั่นด้วยความกลัวและเซถอยหลังไปเธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ดวงตาที่เบิกกว้างของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุดในเวลาเดียวกัน ตาซ้ายของเธอก็มีเลือดไหลอ
“ก่อนทำการสำรวจสุสาน ปู่ของฉันเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในหนานหยาง อันที่จริง เขามีความสามารถเทียบเท่ากับเทพสงคราม!“แต่กลิ่นเหม็นเน่านั่นทำให้เขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ!“ฉันพาเขาไปฮ่องกงและตามหาหมอที่จะมารักษาเขาไปทั่ว“โชคร้ายวิชาที่ฉันค้นพบทั้งยาแผนตะวันตกและยาจีนก็ไม่อาจช่วยเขาได้“มีคนบอกฉันว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะชะตาลิขิตเอาไว้“ฉันรู้ว่าถ้าฉันต้องการจะช่วยเขา ฉันต้องกำจัดกลิ่นเหม็นนั่นออกจากร่างกายของเขาเสียก่อน“ฉันมองหาปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยทั่วฮ่องกง แต่ไม่มีใครชำนาญพอสักคน“แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งในฮ่องกงอย่างจอน เซอร์เรย์ก็ยังได้แต่หน้าดำคร่ำเครียดหลังจากที่เห็นสภาพของคุณปู่ เขาบอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้และจากไปโดยไม่แม้แต่จะพยายามด้วยซ้ำ“เขาแนะนำให้ฉันไปวิหารคุณธรรมทั้งห้า เขาบอกว่าคุณปู่ของฉันมีโอกาสที่จะหายป่วยได้ ถ้าเจ้าอาวาสหรือนายหญิงมาช่วย“แต่น่าเศร้าที่เราไม่มีสิทธิ์ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา“แต่หลังจากที่ได้พบคุณคืนนี้ ฉันก็นึกย้อนไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณ เพราะจอน เซอร์เรย์เองต้องประสบกับความระทมเพราะคุณ แถมคุณ
“ก่อนหน้านี้เขาจะฟื้นคืนสติได้ราวสองถึงสามชั่วโมง“แต่เร็ว ๆ นี้ ช่วงเวลานั้นลดน้อยลง“ถ้าเราหาวิธีรักษาปู่ของฉันไม่ได้ เขาก็จะอยู่ได้ไม่นาน” เคธี่พึมพำเบา ๆ“คุณคงเคยประสบเรื่องแบบนี้มาก่อน คุณยอร์ก คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา?”ฮาร์วีย์หรี่ตาลงเล็กน้อย“ดูเหมือนนี้จะไม่ใช่อาการเจ็บป่วย แต่กลิ่นนั่นไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดทำให้เกิดความเสียหายได้ขนาดนี้“ขอผมเข้าไปดูใกล้ ๆ ได้ไหม”เมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ เคธี่ก็ชี้ไปที่ปู่ของเธอ“กรุณาเถอะ คุณยอร์ก”ฮาร์วีย์พยักหน้า โดยไม่สนใจคลื่นความร้อนที่แผดเผาร่างกาย เขาก้าวเข้าไปหาดีนเพื่อวิเคราะห์ชายชราอย่างใกล้ชิดมากขึ้นดีน คอบบ์ผ่ายผอมลงไปมาก ราวกับว่าเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ…พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเขา ก็จะเห็นได้อย่างง่ายดายว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลามากขนาดไหนขณะที่ฮาร์วีย์เอื้อมมือไปตรวจชีพจรของดีน จู่ ๆ ดีนก็ลืมตาขึ้นในขณะนั้น ออร่าที่ดุร้ายก็พุ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์ ซากศพที่กองกันเป็นภูเขาและทะเลเลือดส่องประกายในดวงตาของฮาร์วีย์แวบหนึ่งใครก็ตามที่มีพลังจิตไม่กล้าแข็งจะต้องเสียสติหลังจากได้เห็นภาพเช่นนั้น
“ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตอนนี้ผมจะมีสภาพแบบนี้ แต่เกรงว่าคงมีเพียงปรมาจารย์ในระดับเทพสงครามเท่านั้นที่สามารถต้านทานการโจมตีเมื่อครู่ของผมได้“เนื่องจากคุณสามารถรับมือกับมันได้อย่างสบาย ๆ เพราะงั้นผมรู้แน่ว่านี่มันหมายความว่ายังไง นายน้อยยอร์ก”ดีน คอบบ์ถอนหายใจและพูดว่า “ผมเคยเรียนประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนั้นเลย“เพราะไม่ว่าจะกี่ยุคต่อกี่ยุคประวัติศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นเสมอว่าประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่คือที่ที่เต็มไปด้วยผู้มากความสามารถ“ต่อมาประเทศ H อันยิ่งใหญ่ถึงได้มีบุคคลในตำนานถือกำเนิดขึ้น“นั่นก็คือหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธ“การปรากฎตัวของบุคคลผู้นี้ทำให้ผมเข้าใจในความหมายของชะตาลิขิตและประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี!“นอกจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนาน ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบุคคลอย่างคุณในประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่คนอื่นอีก!“เมื่อเวลาผ่านไป ประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่อาจกลายเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในกลุ่มประเทศทรงอำนาจในไม่ช้า!”ดีนถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าเชื่อในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กเคธี่ คอบบ์อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฮาร์วีย์อีกสองสามครั้งปู่ของเธอ