“ข้อตกลงการโอนหุ้นของที่ดินตระกูลสมิธ? เป็นบริษัทลูกตระกูลสมิธแห่งมอร์ดู ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบโกนชั้นนำของประเทศ H ใช่หรือเปล่า?” ลิเลียนรู้สึกยินดี“ลูกเขยที่รักของฉัน! เตรียมของขวัญนี้ให้ฉันงั้นเหรอ? ไม่เลวเลย”ลิเลียนเย้ยหยันฮาร์วีย์อย่างโจ่งแจ้ง แต่เธอก็ยิ้มกว้างจนสุดหูเอกสารการโอนหุ้นซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อยสามหมื่นล้านดอลลาร์ มีชื่อของฮาร์วีย์เขียนไว้ในสัญญาแล้ว แต่เอกสารนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการลิเลียนกำลังคิดว่าหากเธอลบชื่อของฮาร์วีย์ออกจากเอกสารและแทนที่มันด้วยชื่อของเธอ หุ้นทั้งหมดจะตกไปอยู่ในมือของเธอหัวของฮาร์วีย์เริ่มปวดตุบ เขาเข้าใจดีว่าลิเลียนเป็นคนแบบไหน หากเธอได้ครอบครองหุ้น จะต้องเกิดเรื่องเลวร้ายเป็นอย่างแน่นอนก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้ตอบโต้ ลิเลียนก็ผลักประตูรถออกไปในทันที เธอเห็นวิลล่าหมายเลขหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อยู่ตรงหน้าเธอ และดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นทันที“ลูกเขยที่รักของฉัน! นี่ใช่วิลล่าที่ดีที่สุดของมอร์ดูใช่หรือเปล่า?!“พวกเราได้อยู่ในวิลล่าหลังที่ 1 กับเขาเหมือนกันเหรอ?!”ความสุขของลิเลียนแปรเปลี่ยนเป็นความเย้ยหยัน เธอหรี่ตาแล
“ตอนนี้ฉันยังไปที่นั่นไม่ได้ เพราะยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย ฉันจะไปที่มอร์ดูได้เร็วที่สุดคือมะรืนนี้“ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันคงต้องปล่อยให้คุณดูแลพ่อแม่ของฉันไปก่อน”“ไม่มีอะไรที่คุณต้องขอโทษหรอก ผมจะเป็นคนขับรถพาพวกเขาไปรอบ ๆ มอร์ดูสักสองสามวันโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” ฮาร์วีย์กล่าวพร้อมยิ้มอย่างอบอุ่น"ไม่ ไม่ใช่แค่นั้น…”แมนดี้ดูเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดิม“คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มเพื่อนของแม่ฉัน คุณจึงยังไม่เห็น“เธอดันไปนัดแนะกับเพื่อนที่อยู่ในมอร์ดูที่เธอไม่เคยเจอด้วยซ้ำ“เท่าที่ฉันรู้ พวกเขาเป็นญาติห่าง ๆ จากตระกูลฌอง ซึ่งแต่ละคนหัวสูงด้วยกันทั้งนั้น แม่ของฉันได้ออกปากเชิญชวนใครสักคนหนึ่งมาที่วิลล่าแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่า!“เธอยังบอกอีกว่าคุณจะเป็นคนไปรับแขกให้เธอ…”คำพูดของแมนดี้ทำให้ฮาร์วีย์ปวดหัวยิ่งกว่าเดิมการจัดการกับศัตรูทั่วมอร์ดู ไม่เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาขึ้นมาทันทีที่ลิเลียนปรากฏตัว...“ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ได้โปรดอย่าโกรธแม่ฉันเลยนะ” แมนดี้ขอร้อง“ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอคงอยากไปที่มอร์ดูล่วงหน้าเพื่อเป้าหมายสำคัญอย่างการพยายามทำให้คุณหย่ากับฉั
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์มาถึงเมืองปริมณฑลด้วยรถโตโยต้า อัลฟาร์ดของเขาในตอนแรกเขาไม่ยอมทำตามที่ลิเลียนสั่ง แต่หลังจากนึกถึงคำขอร้องของแมนดี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกและต้องขับรถออกไปรับแขกของลิเลียนด้วยความไม่เต็มใจอย่างที่สุดเรื่องบางเรื่องให้แมนดี้เป็นคนจัดการจะดีกว่า ถ้าฮาร์วีย์มีปัญหากับลิเลียน แม้แต่แมนดี้ก็อาจจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้เมื่อนึกถึงวิธีที่ลิเลียนยังคงพยายามทำให้เขาหย่ากับแมนดี้ งั้นก็ทำให้เขาได้แต่พูดไม่ออกอย่างเหลือเชื่อขณะที่ฮาร์วีย์ยังคงคร่ำครวญเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา แม่ลูกคู่หนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนจากมอร์ดูมาก ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะอายุใกล้ห้าสิบแล้ว เธอสวมเสื้อผ้าไม่มียี่ห้อใบหน้าสูงวัยของเธอถูกโบกทับด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ เธอมีกริยาเย่อหยิ่งไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของชาวเมืองมอร์ดูเธอเป็นคนประเภทชอบดูถูกใครก็ตามที่ไม่ได้มาจากมอร์ดู เมื่อเทียบกับชาวเมืองมอร์ดูแล้ว คนอื่นๆก็เป็นแค่คนต่างเมืองที่ไม่ควรค่าในการชายตามองในทางกลับกัน ลูกชายของเธอดูเหมือนจะมีอายุเพียงอายุยี่สิบ เขาดูเหมือนเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเขามีทรงผมที่ทันสมัยที่สุดของฤดูก
ฮาร์วีย์ชำเลืองมองที่ข้อมือของลูซี่ โลว์อย่างสงบและเงียบงัน“คุณน้าโลว์ ถ้าผมจำไม่ผิด ปาเต็ก ฟิลีปป์ไม่เคยเปิดตัวนาฬิกาควอทซ์เลยสักเรือน“ผมสงสัยจังเลยว่า… คุณซื้อนาฬิกา ปาเต็ก ฟิลีปป์ ราคาแสนห้าหมื่นดอลลาร์เรือนนี้มาจากร้านไหน ผมขอถามหน่อยได้หรือเปล่า ผมควรโทรแจ้งตำรวจให้คุณด้วยไหม?“หากทางร้านทางขายนาฬิกาปลอมให้คุณ พวกเขาจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้คุณเป็นจำนวนเป็นสิบเท่า“คุณจะได้เงินหนึ่งล้านห้าแสนดอลล่าห์เป็นการชดเชย”ฮาร์วีย์เริ่มกดหมายเลขสามหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ ทั้งยังยิ้มอย่างอบอุ่นให้ลูซี่ โลว์ขณะที่เขาทำเช่นนั้นลูซี่เอามือขวาปิดนาฬิกาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แต่ในการทำเช่นนั้น เธอตระหนักว่าเธอกำลังเผยไต๋ให้อีกฝ่ายได้รู้ เธอเริ่มกรีดร้องด้วยความโกรธใส่ฮาร์วีย์ด้วยความขุ่นเคืองและอับอาย“คนขับรถน่าสมเพชอย่างนายจะไปรู้อะไร“ฉันซื้อมันมาจากสวิสเซอร์แลนด์!“นายเคยไปที่นั่นเหรอ“นายเคยมีปาเต็ก ฟิลีปป์ใช้กับเขาด้วยหรือไง? แค่เพราะนายพูดว่าพวกเขาไม่ขายนาฬิกาควอทซ์ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่นายพูดเป็นเรื่องจริงนิ!“ทำไมคนขับรถอย่างนายถึงได้ทำตัวอวดดีแบบนี้“ขอบคุณพระเจ้าที่นายเป็
ฮาร์วีย์เม้มริมฝีปากอย่างหงุดหงิด น่าเสียดายที่เขาทำได้เพียงกลืนความหงุดหงิดและเปิดประตูรถให้ทั้งสอง“คนน้าโลว์ เชิญขึ้นรถ”ประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นการตกแต่งภายในที่หรูหราดวงตาของ ลูซี่ โลว์และนิโคลัสเป็นประกายเมื่อเห็นเช่นนั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูสวนที่ถูกตกแต่งหรูหราทันทีที่พวกเขาเข้าไปในรถ พวกเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเริ่มรัวชัตเตอร์ พวกเขาถ่ายภาพรวมหลายสิบภาพไปอวดในกลุ่มเพื่อนของตัวเอง แต่คนทั้งคู่เจ้าเล่ห์พอที่จะบล็อกลิเลียนและสมาชิกในครอบครัวของเธอไม่ให้เห็นโพสต์ของพวกเขาฮาร์วีย์เห็นข้อความของนิโคลัสผ่านหางตา ข้อความเหล่านั้นทำให้เขาพูดไม่ออก“ยิ่งทุ่มเทมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น โตโยต้า อัลฟาร์ด คันแรกของฉัน ใช้เงินไปตั้งสองแสนสามหมื่นดอลลาร์”ทันทีที่นิโคลัสอัปโหลดรูปภาพไปยังกลุ่มเพื่อนของเขา ยอดไลค์ก็เข้ามารัวเข้ามาในทันทีหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความเสียงจากหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามา ซึ่งเสียงอันไพเราะนั้นเป็นผลมาจากการทำศัลยกรรมพลาสติกอย่างหนัก“นี่นิโคลัส คืนนี้คุณมีเวลาว่างหรือเปล่า ถ้าฉันนั่งไปรอบ ๆ ชายหาดได้ไหม คืนนี้เรามาทำอะไรสนุก
ลูซี่ โลว์ผสมโรงและตะโกนใส่ฮาร์วีย์พร้อมกับลูกชายของเธอ"ใช่แล้ว! คนขับรถอย่างนายมาจู้จี้ใส่ลูกชายฉันทำไม!“นายเป็นคนรับผิดชอบรถคันนี้ใช่หรือเปล่า?“แต่ก็ไม่ได้ซื้อด้วยเงินของนายนี่! ปล่อยให้ลูกชายฉันสนุกกับมันสักหน่อยจะผิดตรงไหน!“อีกอย่าง นายได้รับอนุญาตให้ขับรถแบบนี้ก็เพราะเรา!“ถ้าไม่มีเรา คนอย่างนายก็คงได้แต่ขี่จักรยานไปตลอดชีวิต!“เลิกพูดมาก! แล้วจอดรถซะ!"ลูซี่ โลว์และนิโคลัสมั่นใจในการฝีปากของพวกเขามาก โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดฟังดูไร้สาระเพียงใด สำหรับพวกเขาเหตุผลของพวกเขาล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบฮาร์วีย์หมดความอดทน เขาพร้อมที่จะโยนคนโง่ทั้งสองออกจากรถในตอนที่มีเสียงระเบิดดังอยู่ข้างหน้าไม่ไกลดึงความสนใจของเขาเอาไว้ หันกลับไปดู ก่อนจะเห็นว่าผู้คนรอบตัวเขาตื่นตระหนกเพียงใดฮาร์วีย์เลื่อนกระจกรถลงและโยกศีรษะออกไปดู เขาเห็นรถแลมโบกินี่ติดอยู่บนราวสะพานและห้อยลงมาอย่างล่อแหลม มันสามารถตกลงสู่แม่น้ำได้ตลอดเวลา"สาวน้อย! สาวน้อย! เธอไหวหรือเปล่า?!""มาช่วยเธอที! เรียกรถดับเพลิงเร็วเข้า!”"ไป! ทุกคนไป!”รถโรลส์รอยซ์จากด้านหลังหยุดลงอย่างรวดเร็ว ชายชราตัวเล็ก ๆ ที่ดูคล้ายจะเ
ฮาร์วีย์ไม่สนใจสองแม่ลูกและรีบวิ่งไปที่ด้านหน้าของฝูงชน เขาหรี่ตาขณะศึกษาสิ่งรอบข้าง โดยเฉพาะรถแลมโบกินีที่ห้อยอยู่เครื่องยนต์ของแลมโบกินีเริ่มถูกเผาไหม้แล้ว คนที่ยืนอยู่รอบ ๆ รถไม่กล้าเข้าไปใกล้แม้แต่ก้าวเดียว แม้แต่พ่อบ้านและผู้คุ้มกันของหญิงสาวก็ยังไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง อย่าว่าแต่จะเข้าไปช่วยคุณหนูของพวกเขาเลย พวกเขาอาจเสียชีวิตไปพร้อมกับเธอด้วยซ้ำฮาร์วีย์วิเคราะห์สถานการณ์ พยายามคิดแผน เขาอนุมานได้ว่าผู้หญิงจะรอดชีวิตได้ก็ต่อเมื่อแง้มประตูรถเปิดออกและตัดสายเข็มขัดนิรภัยออกได้ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องทำในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ตามในความเป็นจริง กระบวนการทั้งหมดต้องทำภายในเวลาไม่เกินสามวินาที ไม่อย่างนั้นคนที่พยายามจะช่วยก็จะถูกลากลงไปในแม่น้ำเช่นกันในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แลมโบกินีจะระเบิดทันทีหลังจากตกลงไปในแม่น้ำ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่ผู้หญิงจะรอดชีวิตเป็นศูนย์ฮือฮา!ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะพุ่งไปข้างหน้าและกระโจนเข้าใส่ รถโตโยต้า พราโด้ก็ขับแซงหน้าและหยุดตรงหน้าฝูงชนที่ตื่นตระหนกชายหนุ่มร่างสูงหล่อโผล่ออกมาจากที่นั่งคนขับ เขามองแลมโบกินีด้วยส
ไม่นานแดเนียลก็นึกขึ้นได้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “พ่อบ้านทอมป์สัน คงคิดว่าคุณคงบอกได้อย่างชัดเจนว่าตรงหน้าคุณนี้เกิดอะไรขึ้น”“ฉันรับรองกับคุณเลยแล้วกันพ่อบ้านทอมป์สัน มีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น เราต้องดันรถลงไปในแม่น้ำเพื่อหยุดการระเบิด“แต่การทำเช่นนั้นก็มีความเสี่ยงสูงมาก หากคุณหนูของคุณโชคไม่ดี รถอาจระเบิดทันทีที่ไหลลงสู่แม่น้ำไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งสถานการณ์อาจเลวร้ายถึงตายได้สำหรับเธอ!“นั่นเป็นเหตุผลที่คุณในฐานะพ่อบ้านของเธอต้องตัดสินใจว่าเราคงจะช่วยเธอดีหรือเปล่า!”แดเนียลมีสติพอที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เมื่อเขารู้ว่าหากผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิดเขาจะต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงรีบโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้พ่อบ้านทอมป์สันแทนหากแดเนียลช่วยชีวิตหญิงสาวผู้มั่งคั่งคนนี้ได้สำเร็จ เขาย่อมได้รับถังเกียรติและคำชื่นชมทั้งหมดในทางตรงกันข้าม หากเขาล้มเหลวและผู้หญิงคนนั้นต้องตายในกระบวนการการช่วยเหลือความรับผิดชอบก็จะตกไปอยู่ที่พ่อบ้านทอมป์สันแทนในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็พร้อมที่จะจากไปทันทีที่พบว่าผู้หญิงที่ติดอยู่เป็นคนจากตระกูลทอมป์สัน เขาและเฮกเตอร์มีคว