เห็นได้ชัดว่าเคลลี่ มาโลนใส่ใจฮาร์วีย์ ยอร์กมาก เขาตั้งใจอย่างมากที่จะให้ฮาร์วีย์อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแม้ว่าการกระทำของเคลลี่จะดูสุดโต่งและไม่ยุติธรรมเล็กน้อย แต่ฮาร์วีย์ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากเพราะท้ายที่สุดแล้ว เคลลี่ก็ทำเพื่อประโยชน์ของเขาเอง เขายินดีที่จะซื้อบ้านและรถให้เขาด้วยซ้ำนอกจากนี้เขายังเข้าใจได้เลยว่าหากวันนี้เขาไม่ไปทำงาน เคลลี่คงจะโกรธเขาน่าดูดังนั้นเขาจึงยิ้มและตอบกลับทางโทรศัพท์ว่า “ลุงมาโลน ไม่ต้องห่วง ผมจะไปทำงานเดี๋ยวนี้“ผมจะตั้งใจทำงานและจะไม่ทำให้ลุงผิดหวัง”“นั่นแหละ เด็กดี!”น้ำเสียงของเคลลี่ฟังดูร่าเริงเล็กน้อย “จำไว้ว่าคุณต้องมีหลักการ เช่นเดียวกับพ่อแม่ของหลาน!”เคลลี่ค่อนข้างหงุดหงิดในตอนที่เขาจากไปเมื่อวานนี้และการพูดว่าจะไม่ถือสาเรื่องคำมั่นสัญญาของเด็ก ๆ ก็เป็นเพียงคำพูดตอนกำลังโมโหก็เท่านั้นเขารู้สึกว่าหากฮาร์วีย์ตั้งตัวได้และมีชีวิตดีขึ้น เขาอาจมีอนาคตร่วมกับเฮเซล มาโลนเคลลี่ยังคงรู้สึกว่าฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นคนที่เขารู้จักทุกซอกทุกมุม ย่อมดีกว่าคนอย่างสตีเว่น วอล์คเกอร์ อย่างน้อยลูกสาวของเขาจะได้ไม่ต้องลำบากในอนาคตหลังจากวางสา
ในสายตาของสตีเว่น วอล์คเกอร์นั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระจอก ๆ ที่พอมีฝีมือ แต่แล้วไงล่ะ?สุดท้ายก็ยังต้องหาเงินเลี้ยงชีพอยู่วันยันค่ำตราบใดที่ฮาร์วีย์ทำงานในไคเซ็น กรุ๊ป เขาก็สามารถฆ่าหมอนี่ได้ทุกวิถีทาง!ในความเห็นของสตีเว่น แม้ไบรอัน โฮลท์จะใช้คนของหลงเหมิน เขาก็ยังจัดการกับฮาร์วีย์ไม่ได้หลังจากคุกเข่าในครอบครัววอล์คเกอร์ทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องนี้การใช้กำลังบดขยี้ผู้คนเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดพนักงานสาวสวยสองสามคนเหลือบมองสัญญาโดยอัตโนมัติ จากนั้นทุกคนก็ยกมือขึ้นป้องปากด้วยความประหลาดใจหลังจากนั้น สีหน้าที่พวกเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ก็เต็มไปด้วยความขมขื่นลูกค้าสองคนนี้จัดการได้ยากมากแม้แต่สตีเว่นก็ไม่อาตจัดการพวกเธอได้ด้วยตัวเอง แต่เขากลับต้องการให้ฮาร์วีย์จัดการเรื่องนี้ภายในสามวัน แน่นอนว่าเขาคิดจะใช้เรื่องนี้ทำให้ฮาร์วีย์ต้องเดินออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเขาเอง!เฮเซลพูดขึ้นโดยไม่ต้องคิดว่า “ผู้จัดการวอล์คเกอร์ ฮาร์วีย์เป็นพนักงานใหม่และไม่คุ้นเคยกับรายละเอียดปลีกย่อยของธุรกิจ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ให้เขา…”สต
สตีเว่น วอล์คเกอร์ตัวสั่นด้วยความโกรธเขาเป็นญาติห่าง ๆ ของจัสติน วอล์คเกอร์ ยิ่งไปกว่านั้นเขาทั้งสูง หล่อเหลา และถือว่าเป็นหนุ่มอนาคตไกลแต่คนอย่างเขาก็ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับเฮลีย์ สมิธ และแอนนา วินทัวร์จนทำให้พวกเธอเซ็นสัญญาได้สำเร็จเลยแล้วกับฮาร์วีย์ ยอร์กที่เพิ่งทำงานได้แค่สิบนาที และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจประเภทใด ในตอนนี้กลับมาบอกว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยการโทรออกเพียงครั้งเดียว?”ล้อกันเล่นรึไง?!พนักงานสาวสวยคนหนึ่งเย้ยหยันและพูดขึ้นว่า “นายน้อยวอล์คเกอร์ เด็กเส้นนี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทของเราทำธุรกิจอะไร แต่ก็ยังทำโอ้อวดถือดีอยู่ได้ หน้าหนาอะไรอย่างนี้!”พนักงานหญิงอีกคนก็เอ่ยเสริมอย่างเย้ยหยันว่า “โทรแค่กริ๊งเดียวก็ทำให้เฮลีย์กับแอนนามาถึงที่นี่ได้แล้วเหรอ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นนายน้อยของตระกูลสิบอันดับแรกหรือไง?!”พนักงานหญิงอีกคนเม้มปากแล้วพูดขึ้นว่า “เลิกเสแสร้งสักทีเถอะ! ยิ่งตอนนี้คุณเสแสร้งมากเท่าไหร่ ต่อไปคุณก็จะยิ่งอับอายมากเท่านั้น!”ฮาร์วีย์ชงกาแฟและจิบมันเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างวางเฉยว่า “รออีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวก็รู้”“ฮาร
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองไปที่สตีเว่น วอล์คเกอร์อย่างไม่แยแส “เอาล่ะ ถือว่าคุณรับปากแล้ว!”“ฮาร์วีย์ ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้นะ?”ใบหน้าสวยของเฮเซล มาโลนเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ฉันผิดหวังจริง ๆ ฉันไม่ควรแนะนำคุณเลย!”“การที่คุณมาที่นี่ เป็นเพียงความอัปยศสำหรับฉัน!”“ฉันรู้ว่าคุณชอบกับฉัน อยากจะแสดงความสามารถของตัวเองต่อหน้าฉัน!”“และหวังให้ฉันหันมามองคุณ!“หวังจะเติมเต็มความปรารถนาตัวเอง แถมยังอยากไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่คู่ควรอีก!”“แต่อย่าทำตัวแบบนี้ได้ไหม?”“วางศักดิ์ศรีของตัวเองลงเสียที!”“ยิ่งคุณทำตัวแบบนี้ ก็รังแต่จะทำให้ฉันเกลียดคุณ?”“ยิ่งกว่านั้น เมื่อวานฉันบอกคุณไปอย่างชัดเจนแล้วว่าการหมั้นหมายของเราสมัยเด็ก ก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระ!”“กาจะเข้าฝูงหกได้ยังไง?!”“คุณอยากจะประสบความสำเร็จโดยอาศัยคำสัญญาบ้า ๆ บอ ๆ พวกนี้งั้นหรือ? คุณคิดว่ามันเชื่อถือได้รึไง? มันเป็นไปได้หรือ?"ในสายตาของเฮเซล ฮาร์วีย์เป็นเพียงปลิงที่คิดแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อคนอื่น!ฮาร์วีย์เพิ่งกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านและเพิ่งถูกไล่ออกมา ตอนนี้เขายังคิดดจะมาเกาะแกเศรษฐีนีอย่างเธอขึ้นมาอีกทำไมเขาไม่คิดที่จะตักน้ำ
พนักงานคนอื่น ๆ ต่างตกอยู่ในความงุนงง ในขณะที่มองไปที่ผู้หญิงสองคนเฮเซล มาโลนอึ้ง!สตีเว่น วอล์คเกอร์ก็อึ้ง!นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะทำให้ผู้หญิงสองคนนี้มาที่นี่ได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว!ที่สำคัญที่สุดคือพวกเธอมาภายในเวลาครึ่งชั่วโมงได้จริง ๆ พวกเธอไม่กล้ามาสายเลยแม้แต่น้อย...นี่ นี่ นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?สิ่งที่ทำให้เฮเซลรู้สึกรับไม่ได้ที่สุดก็คือการที่ทั้งสองคนพูดกับฮาร์วีย์ด้วยความเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นเฮลีย์ สมิธหรือแอนนา วินทัวร์ราวกับว่าฮาร์วีย์เป็นคนใหญ่คนโตเปลือกตาของสตีเว่นกระตุก “เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?!”พนักงานสาวสวยกลุ่มหนึ่งก็รู้สึกร้อนเห่อที่ใบหน้าชอบกล แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้พูดอะไร แต่ภาพนี้ก็เป็นการตบหน้าพวกเธออย่างแรง“มาได้สักที”ฮาร์วีย์ยืนขึ้นอย่างไม่ยี่หระและโยนสัญญาไปให้พวกเธออย่างไม่แยแส “นี่คือสัญญาสองฉบับที่ผมได้รับมอบหมายมาหลังจากเริ่มทำงานที่นี่ กรุณาลงนามให้ด้วย”ทำตัวแบบนี้กับลูกค้าได้เหรอ?!เขาควรให้เกียรติอีกฝ่ายมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ?ทำไมฮาร์วีย์ถึงทำเหมือนกำลังออกคำสั่งอ
เวลาบ่ายสามโมง บนถนนหลินเจียง อเวนิวห่างจากเพิร์ล ออฟ มอร์ดูไม่ถึงสามกิโลเมตรในขณะนี้ รถปอร์เช่พานาเมร่าสีแดงกำลังแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็วมีหญิงสาวสวยในชุดกี่เพ้านั่งอยู่ที่เบาะคนขับเธอสวมแว่นกันแดดสีดำ ซึ่งทำให้ใบหน้าสวยของเธอดูงดงามยิ่งขึ้นมีผู้หญิงหน้าตาพอไปวัดไปวาได้อีกคนอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารผู้หญิงคนนั้นถือปืนอยู่ในมือ แต่เธอคอยหันกลับไปด้านหลังด้วยความหวาดระแวงราวกับว่าเธอกลัวว่าจะมีใครตามมาทันหลังจากดูอยู่พักหนึ่งและยืนยันว่าไม่มีใครตามมาแล้ว ผู้หญิงบนเบาะผู้โดยสารมองไปที่อีวอนน์ ซาเวียร์ขณะขับรถและพูดว่า “คุณหนูซาเวียร์ ทำไมคุณถึงเสี่ยงออกมาแบบนี้?!”“คุณควรรู้ว่าตอนนี้เราถูกกักบริเวณอยู่!”“ถึงเราจะยังสามารถกิน ดื่มและเดินไปมาในสวนได้…”“แต่ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้า เราจบเห่แน่!”“อีกอย่าง ตระกูลก็กำลังสืบสวนเรื่องของคุณผู้หญิงอยู่ และคุณหนูก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญเช่นกัน!” “ที่คุณหนูหนีมาอย่างนี้ ไม่ใช่เป็นการยอมรับกลาย ๆ เหรอว่าคุณผู้หญิงเป็นคนทำเรื่องเหล่านั้นจริง ๆ?!”“คุณซาเวียร์ ฟังฉันนะ เราย้อนกลับไปก่อนที่พ่อบ้านอีแวนส์จะรู้เรื่องนี้เถอะ”“ไม่อย
จากนั้นฮันเดลก็แสดงสีหน้าเย็นชาและตอบอย่างเย้ยหยันว่า “โอ้ เมลานี ซาเวียร์ เธอคิดว่าฉันมองไม่ออกจริง ๆ เหรอ?”“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันไม่เห็นความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอและความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเลียแข้งเลียขานายท่านคนใหม่?”“เราอยู่ในตระกูลสมิธมาก็หลายปีแล้ว เราจะไม่เข้าใจนิสัยของพวกเขาได้ยังไง?”“เธอน่าจะรู้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่หรือไป คุณผู้หญิงกับคุณหนูซาเวียร์ก็ยังคงเป็นแพะรับบาปสำหรับข้อกล่าวหาเหล่านั้นอยู่ดี!”“คุณผู้หญิงมีความสามารถมากเกินไป และคุณหนูซาเวียร์เองก็โดดเด่นเกินไป! นี่คือสาเหตุที่เจ้าชายสมิธและคนอื่น ๆ ระวังพวกเธอมาก!”“และตอนนี้นายท่านก็สิ้นชีวิตไปแล้ว เจ้าชายสมิธและคนอื่น ๆ ต่างกำลังคิดหาวิธีที่จะแบ่งปันทรัพย์สินให้เท่า ๆ กันก็แค่นั้น พวกเขาไม่เห็นต้องสนใจด้วยซ้ำว่าความจริงคืออะไร? พวกเขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”“และนั่นเป็นเหตุผลที่สมควรสำหรับคุณหนูซาเวียร์ที่จะจากมา! หากไม่ทำเช่นนี้ เธอจะกลายเป็นสิ่งของที่ตระกูลสมิธใช้แลกกับผลประโยชน์ก็เท่านั้น!”“ฉันสนับสนุนคุณหนูซาเวียร์!”ฮันเดลไม่รู้ว่าเหตุใดอีวอนน์ ซาเวียร์จึงตัดสินใจออกจากตระกูลสมิธในเวลานี้ แต่เขาร
“ให้ตระกูลสมิธชดใช้งั้นเหรอ?”เมลานี ซาเวียร์หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่ใบหน้าของเธอแสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมา“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้คุณจะมีชีวิตรอดหรือไม่ แต่คุณกำลังพูดถึงการแก้แค้นพวกเขาเนี่ยนะ?”“คุณหนู คุณเริ่มฝันกลางวันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ในสายตาของเมลานี หากอีวอนน์ ซาเวียร์มีโอกาสได้กลับมายืนหยัดอีกครั้งและคุณผู้หญิงมีโอกาสที่จะได้ควบคุมกองกำลัง เธอก็ไม่รังเกียจที่จะติดตามพวกเขาไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวแต่พลังของตระกูลสมิธเจิดจ้าราวกับกลางวันนักฆ่ากำลังรอที่จะกำจัดทายาทสายตรงของทั้งตระกูลจาเดน สมิธป่วยหนักคุณผู้หญิงถูกคุมขัง และเทอร์รี่ สมิธก็รับช่วงต่อภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น อีวอนน์จะมีโอกาสได้ยังไง?จากปัญหาล้อมรอบตัวเธอ เธอจะทำอะไรได้นอกจากหนีไป?นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งเดียวที่เมลานีคิดคือวิธีเลียแข้งเลียขาเทอร์รี่เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เธอมั่งคั่งและได้รับเกียรติยศไปตลอดชีวิตเธอยังต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ตัวเองมาพัวพันไปกับอีวอนน์และสำหรับการหลบหนีที่อาจหาญเช่นนี้…ดวงตาของเมลานีเป็นประกาย จากนั้นเธอก็เริ่มส่งข้อความถึงใครบางคนทางโทรศัพท์โดยไม่พูดอะไ