“ฉันอยากบอกคุณฮาร์วีย์”“คุณไม่มีความละอายใจเลย!”“ครั้งที่แล้วฉันให้โอกาสคุณ ฉันไม่ดูถูกคุณ ไม่เพียงแต่คุณไม่เห็นค่ามัน แต่คุณยังไล่ฉันออกจากงานด้วย!”“แต่นั่นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร คนที่มีความสามารถอย่างฉันก็ยังอยู่เหนือคนอื่นได้!”“ตอนนี้ฉันยังมีอำนาจตัดสินใจว่าน้องสะใภ้ของคุณจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยหรือเปล่า!”“เพียงหนึ่งประโยคที่ออกจากปากฉันก็สามารถกำหนดครึ่งชีวิตที่เหลือของเธอได้!”“หรือแค่ประโยคเดียว ฉันก็สามารถทำลายชื่อเสียงและชีวิตของคุณได้!”ซาช่าลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแสดงท่าทางเหนือกว่า พลางจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หัวเราะเยาะ “การปีนบันไดเข้าสังคมด้วยการใช้ร่างกายมันก็คงจะอยู่ได้ไม่นานนัก และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถ้าคุณยังคงสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้แม้ว่าคุณจะแก่และอ่อนแอลง มาอวดผมอีกครั้งแล้วกัน”ฮาร์วีย์จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าซาช่า ลาร์สันคนนี้มาถึงทุกวันนี้ได้ด้วยการเอาตัวเข้าแลก“เฮอะ! งั้นเหรอ? ผ่านไปกี่ปีแล้วแต่ฉันยังปีนป่ายขึ้นไปสูงไม่เคยหยุด! เพื่อเป็นข้อมูลนะ ฉันจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูในไม่ช้านี้!”
วินาทีแรกที่เธอเห็นอีวอนน์ ซาช่ารู้สึกเป็นปรปักษ์กับเธอทันทีเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นอุปสรรคใหญ่ในแผนการให้ได้มาซึ่งเจ้าชายยอร์กแต่เมื่ออีวอนน์ลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอ ซาช่าก็เพียงแค่ส่งรอยยิ้มแห่งชัยชนะไปให้นั่นเป็นเพราะว่าคนที่มีประสบการณ์อย่างซาช่ารู้สึกได้ทันทีว่าอีวอนน์ยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์นี่หมายความว่าอีวอนน์ไม่ได้เป็นอะไรไปมากเลขาฯเป็นโอกาสที่ดีของซาช่าเธอเชื่อว่าเสน่ห์ของเธอจะทำให้เจ้าชายยอร์กตกหลุมรักเธอได้อย่างแน่นอนหลังจากจับมือกันอย่างให้เกียรติกันแล้ว อีวอนน์เหลือบมองที่นามบัตรของซาช่าและพูดว่า “มิสซาช่า เจ้าชายยอร์กยังไม่สะดวกที่จะให้เข้าพบ” อีวอนน์เกิดความประทับใจแรกพบที่ไม่ดีต่อซาช่าผู้หญิงคนนี้มีออร่าแห่งตัณหาราคะแผ่ไปทั่วจนทำให้เธอไม่อยากจะให้เข้าพบกับฮาร์วีย์เลยดังนั้นเธอจึงพูดปฏิเสธซาช่าออกไปซาช่าสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังจากอีวอนน์ทันทีที่เธอส่งยิ้มให้“เลขาซาเวียร์ ฉันยังคิดว่าคุณควรไปรายงานให้เจ้าชายยอร์กทราบก่อน พวกเรามาจากมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูอยากที่จะเปิดสาขาในบัควู้ด คุณเองก็คงจะรู้จักถึงมาตรฐานและชื่อเสียงด้านการศึกษาของมหาวิยาลัยบั
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ โยเอลเหงื่อตกทันทีแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการต่อสู้ในวงการธุรกิจจะโหดร้ายเพียงใด แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงโยเอลพยายามสงบสติอารมณ์และเปลี่ยนเรื่อง “ท่านประธานยอร์ก ผมขอตรง ๆ กับคุณ ทุกวันนี้มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในวงการธุรกิจของบัควู้ด”“แม้แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของบัควู้ด ทางการได้จัดประชุมมาสองสามครั้งติดต่อกัน และในที่สุดก็ตัดสินใจจะจัดการประชุมส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติ”“แน่นอนว่าบัควู้ดจะไม่เปิดรับนักธุรกิจที่มีแรงจูงใจแอบแฝง คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ?” โยเอลถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเคารพแม้จะผ่านทางโทรศัพท์ก็ตามเขาไม่กล้าแสดงกิริยาอาการดูหมิ่นเหยียดหยามใด ๆ ออกมาต่อหน้า ‘ชายคนนี้’หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ฮาร์วีย์ตอบว่า “นี่เป็นความคิดที่ดี ผู้เฒ่าเกรแฮม”“วงการธุรกิจของบัควู้ดต้องหาและรวบรวมทรัพยากรอีกครั้ง ควรมีบริษัทดี ๆ มาลงทุนด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้คุณตัดสินใจได้เลย ผมพร้อมจะสนับสนุนคุณ” โยเอลมีอาการลังเลแล้วถามออกไป “แต่ผมมีข้อกังวลนะท่านประธานยอร์ก! ถ้าเราจัดกา
“อย่างไรก็ตาม ฉันยังได้ยินมาอีกว่าในการประชุมส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้ อำนาจทั้งหมดจะตกไปอยู่ในมือของที่ปรึกษาที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลของบัควู้ด ถ้าเธอสามารถทำคะแนนกับที่ปรึกษาได้ เราจากมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูก็จะสามารถลงทุนในโครงการที่เราสนใจในอนาคตได้ง่าย ๆ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปากอย่างแน่นอน!” “ซาช่า เธอต้องรู้เอาไว้นะว่าเรามีนักวิจัยและเงินทุนอยู่มากโข และเราจะสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำถ้าเราได้เข้าร่วมโครงการ!” ซาช่าทำท่าทางฉงนเหมือนเด็กไร้เดียงสาในอีกฟากฝั่งของโทรศัพท์ “แต่คุณพ่อคะ ฉันไม่อยากทำมันเลย!” “ฉันขอโทษสำหรับเรื่องนี้นะ แต่ซาช่า เธอจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอนหลังจากเรื่องนี้สำเร็จ!” ซาช่ายิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่คือสิ่งที่เธอรอคอยมานานแสนนาน ณ บ้านซิมเมอร์ ซีนเธียร์และแมนดี้ที่กำลังคุยกันอยู่ จู่ ๆ แมนดี้ก็มองข้ามคู่สนทนาตรงหน้าไปเมื่อเธอเห็นฮาร์วีย์กำลังเดินเข้ามา “เรื่องวิทยากรเป็นอย่างไรบ้าง?” “มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ” ฮาร์วีย์ตอบพรางพยักหน้า แมนดี้ยิ้มกว้างและพูดขึ้นว่า “ดีเลย ซีนเธียร์นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยแห่งมอร์
”ที่ดิฉันได้มีโอกาสมาเซาท์ไลท์ในครั้งนี้ ดิฉันได้พบกับสุดยอดผู้ปกครองของนักเรียนหลาย ๆ ท่าน และดิฉันเองก็รู้สึกยินดีมาก ๆ ที่ได้พบกับทุก ๆ ครอบครัว ดิฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรหลานของผู้ปกครองในเซาท์ไลท์นั้นมันยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ” ในวิดีโอซาช่ากำลังพูดอย่างฉะฉานและดูเป็นมืออาชีพมาก ๆ อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็เปลี่ยนเรื่อง “แต่ทว่าในระหว่างการตรวจสอบผู้ปกครองทั้งสิบในครั้งนี้ ดิฉันได้พบกับบุคคลแปลก ๆ มันทำให้ดิฉันแอบสงสัยว่าผู้ปกครองของนักเรียนคนนี้กำลังมีปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า?” “ไม่ว่านักเรียนคนดังกล่าวจะมีคุณสมบัติพอที่จะลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูได้หรือไม่!” ไซม่อนและลิเลียนต่างก็รูสึกตกตะลึงกับคำพูดเหล่านั้น เพราะนี่คือบันทึกการตรวจสอบของซีนเธียร์ จู่ ๆ กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? ขณะนี้ทั้งคู่เริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป “ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้ว ดิฉันไม่ควรที่จะเปิดเผยข้อมูลผู้ปกครองของนักเรียน… แต่ทว่ามหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูก็ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลามากกว่าร้อยปีแล้ว และเรายึดมั่นในทัศนคติของการรับผิดชอบต่อนักเรียนทุก
ฮาร์วีย์สูดลมหายใจเข้าลึก เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกใส่ร้ายเช่นนี้ วิดีโอนี้อัปโหลดอยู่บนเว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดู และวีดีโอนี้มันส่งผลกระทบอย่างมาก แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้สนใจผลกระทบจากมันมากนัก แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับซีนเธียร์ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพียงแค่มหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูเพียงเท่านั้น แต่เป็นไปได้ว่ามหาวิทยาลัยทุก ๆ แห่งในประเทศอาจจะไม่ยอมรับเธอด้วย เห็นได้ชัดว่าไซม่อนและลิเลียนเองก็คิดถึงผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน และในตอนนี้การแสดงออกของพวกเขาก็ค่อนข้างที่จะดูเคร่งเครียด สิ่งที่พวกเขากำลังรู้สึกเสียใจเป็นที่สุดในเวลานี้ก็คือเหตุใดพวกเขาจึงไว้วางใจฮาร์วีย์ ทั้งสองควรเข้าร่วมในการตรวจสอบผู้ปกครองด้วยตัวเอง แมนดี้ยังคงค่อนข้างอยู่ในอาการสงบ เธอขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “คุณพ่อ คุณแม่ ซีนเธียร์ ไม่ต้องเป็นกังวลไป หนูคิดว่ามีบางอย่างที่มันผิดปกติไปเกี่ยวกับวิดีโอนี้ เรื่องนี้มันดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ฮาร์วีย์ คุณรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม? มีความขัดแย้งอะไรระหว่างพวกคุณสองคนบ้างหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าขณะนี้แมนดี้สามารถสงบสติอารมณ์ได้มากพอสมควร
นี่เป็นเพราะชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูที่โด่งดังมาก ๆ เหล่าเศรษฐีทั่ว ๆ ไปไม่สามารถมีอิทธิพลต่อเจตจำนงของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูได้ เพื่อนของแมนดี้ต่างก็พากันส่ายหน้าและตอบกลับเธอว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ในเรื่องการลงทะเบียนเรียน ในท้ายที่สุด แมนดี้ก็ทำได้แต่เพียงฝากความหวังเอาไว้กับฮาร์วีย์ ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้จบลงด้วยดีได้ แมนดี้ก็ยังสามารถขายเหล็กเพื่อนำเงินมาบริจาคกองทุนการศึกษาได้ แต่ถึงแม้ว่าจะบริจาคเงินไปแล้ว เธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าในท้ายที่สุดแล้วมันจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้หรือไม่ แต่ก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นอีกแล้ว *** ขณะที่แมนดี้กำลังง่วนอยู่กับการคุยโทรศัพท์อยู่ ฮาร์วีย์เองก็ได้รับสายจากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย หลังจากที่เขากดรับสาย เป็นซาช่านั่นเองที่โทรเข้ามา “ฮาร์วีย์ นายได้ดูวิดีโอบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยแล้วใช่ไหม?” “ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คงยังมีอีกหลายคนเลยนะที่ยังไม่เห็นมัน บางทีมันอาจจะว่อนเน็ตในเช้าวันพรุ่งนี้ก็ได้!” “เมื่อถึงเวลานั้น น้องสะใภ้ของนายก็คงจะถูกเกลียดชังสาปแช่งแน่นอน!” “และทุกภาคการศึกษาในประเทศคงไม่มีที่ไหนร
ในเช้าวันรุ่งขึ้นฮาร์วีย์ได้มายังสกาย คอร์ปอเรชั่น เนื่องจากทุกคนต่างก็เข้าใจว่าเขาคือคนขับรถของเจ้าชายยอร์กและเขาก็มาที่บริษัทอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นทุกคนในบริษัทจึงรู้จักเขาไปโดยปริยาย แน่นอนว่ามีเพียงแค่ผู้บริหารหลักบางคนเท่านั้นที่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือเจ้าชายยอร์กในตำนาน ผู้บริหารระดับสูงและพนักงานทุกคนต่างก็คิดว่าเขาเป็นเพียงคนขับรถของเจ้าชายยอร์ก เหล่าพนักงานทั่วไปหลายคนต่างก็มองมาที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาแปลก ๆ เมื่อเขามาถึงยังบริษัท มาร์คัส หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดีกับฮาร์วีย์ รีบวิ่งปรี่มาหาเขาแล้วกระซิบว่า “ฮาร์วีย์ นายไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจมาหรือเปล่า?” “วันนี้มีคนส่งวิดีโอเข้าแชทกลุ่มภายในบริษัทของเรา” มาร์คัสรีบส่งวิดีโอให้ฮาร์วีย์ดูขณะที่กำลังพูดอยู่ด้วยสีหน้าสุดแสนกังวลใจ ฮาร์วีย์เปิดดูวิดีโอนั้น เนื้อหาตัวหนังสือข้างในนั้นมันชวนให้จับตามองเป็นอย่ามาก เช่นแมงดา หน้าตัวเมีย และคำแย่ ๆ มากมายที่ปรากฎขึ้นภายในวีดีโอนั้นและผ่านการตัดต่อเน้นย้ำให้เนื้อหาดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เนื้อหาในวิดีโอนั้นเป็นการตัดต่อคำพูดของฮาร์วีย์ที่เ