จากนี้ไปบัควู้ดจะเป็นเมืองของตระกูลเยตส์! เพราะในท้ายที่สุด ตระกูลยอร์ก, ตระกูลร็อบบินส์, ตระกูลเซอร์เรย์, ตระกูลคลาวด์, และตระกูลซิลวาก็จะต้องถูกกำจัดไป มีเพียงตระกูลไนส์เวลล์และสกาย คอร์ปอเรชั่นจากบัควู้ดเท่านั้นที่สามารถนับว่าเป็นคู่แข่งได้ ตระกูลไนส์เวลล์ขายของโบราณเป็นหลัก พวกเขาไม่ได้ตะลุยในโลกวงการของธุรกิจมากนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขามากนัก สกาย คอร์ปอเรชั่นสามารถเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ได้หรือไม่? มันก็คงจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเขาอย่างแน่นอน! เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลเยตส์ที่บัควู้ดก็จะสามารถเข้าครอบครองและกลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเพียงตระกูลเดียวในบัควู้ดแห่งนี้! ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ก็เริ่มวาดภาพจินตนาการอันสวยหรูในใจของพวกเขา! ... ในเวลาเดียวกัน พ่อบ้านของตระกูลเยตส์จากอเมริกาก็เร่งรีบไปยังสนามบินบัควู้ดพร้อมกับผู้ติดตามในชุดสีขาวจำนวณมาก ในขณะนั้น ฮาร์วีย์ได้มาส่งผู้อาวุโสออสการ์ที่สนามบินด้วยตัวเอง นี่เป็นเพราะว่าผู้อาวุโสออสการ์ชอบนั่งรถตู้ ฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดหามันมาให้เขาโดยเฉ
ผู้อาวุโสออสการ์ถึงกับผงะหลังจากได้ยินสิ่งที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์พูด ก่อนหน้านี้ เหล่าผู้บังคับบัญชาตำแหน่งใหญ่ ๆ มากมายจากทั่ว ๆ ทุกมุมโลกได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสออสการ์ พวกเขามักจะเริ่มต้นด้วยวิธีต่าง ๆ อันสวยหรูและในที่สุดก็มักจะลงเอยด้วยวิธีอันน่ารังเกียจ แต่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขายังคงปฏิบัติต่อผู้อาวุโสออสการ์ด้วยความเคารพหลังจากที่ได้พบกับตัวเขา แต่ทว่า คนที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้นั้นช่างหยิ่งผยองและโอหังมาก ๆ แม้ว่าเขาจะมีเชื้อสายจีน แต่เขาไม่มีเค้าขนบธรรมเนียมอันดีงามในแบบฉบับจีนเลยแม้สักเสี้ยว ในทางกลับกันนิสัยของเขานั้นมันเต็มไปด้วยคำว่ามหาอำนาจในแบบฉบับของชาวอเมริกันอย่างเต็มเปี่ยม “ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น ฉันมีหลักการในการรักษาของฉัน ฉันจะไม่รักษาผู้คนที่มาจากห้าประเทศมหาอำนาจอีกในตลอดชีวิตนี้” คนอย่างผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจะกลัวอำนาจได้อย่างไร? เขาตอบกลับอย่างเย็นชา นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ชำเลืองมองผู้อาวุโสออสการ์และเอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า “หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตผู้คนไม่ใช่หรือ? และการช่วยชีวิตผู้คนก็ไม่ควรที่จะมีเรื่องพรมแดน
ณ สกาย คอร์ปอเรชั่น ฮาร์วีย์กำลังอ่านข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเยตส์จากอเมริกาที่อีวอนน์ส่งมาให้ ทันใดนั้น อีธาน ฮันต์ก็ได้โทรเข้ามา “นายท่าน! มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติครับ!" “ผู้อาวุโสอาร์มสตรองยังไม่ได้ขึ้นเครื่อง คนของเรากำลังค้นหาเขาอยู่ที่สนามบิน แต่ว่าเราก็ยังหาเขาไม่พบในขณะนี้ครับ” อีธานค่อนข้างกระวนกระวาย ผู้อาวุโสออสการ์ได้ปฏิบัติการรักษาให้กับเหล่าทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากระหว่างออกปฎิบัติการ นั่นคือเหตุผลที่คนในกองทัพต่างก็เคารพเขาอย่างสุดซึ้ง ในตอนนี้ออสการ์หายตัวไป แน่นอนว่าเหล่าผู้คนจากกองทัพย่อมเป็นห่วงเป็นใยเขาเป็นพิเศษ การแสดงออกของฮาร์วีย์ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน “ฉันเป็นคนไปส่งเขาที่สนามบิน ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น เป็นไปได้อย่างเดียวคือมีคนจับตัวเขาไปหลังจากที่ฉันออกจากสนามบินไปแล้ว!” “ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรในช่วงเวลานั้นอย่างละเอียดที!” อีธานไปทำตามที่ฮาร์วีย์พูด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้กลับมาพร้อมข้อมูลที่ค้นพบ “พบแล้วครับท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอน มีชายกลุ่มหนึ่งมาพาตัวเขาขึ้นรถโตโยต้า เอลฟ่าออกจากสนามบินไป” “ผมได้ให้สถานีตำรวจบัควู้ดช่วยเห
บรรยากาศตึงเครียด! นี่มันเป็นการข่มขู่และคุกคาม! นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เอาแต่ใช่อำนาจข่มขู่และเขาไม่ได้ให้ทางเลือกอื่นแก่ผุ้อาวุโสออสการ์เลยด้วยซ้ำ ถ้าผู้อาวุโสออสการ์ไม่ช่วยรักษาลูกชายของเขา เขาก็จะไม่ลังเลที่จะฆ่าผู้ชายคนหนึ่งทิ้ง "คุณ…" ผู้อาวุโสออสการ์ตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้แต่นายพลในกองทัพก็ไม่มีใครที่กล้าปฏิบัติกับเขาแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่เจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนก็ยังเคารพต่อเขา แต่กับนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์นั้นเขาไปไกลเกินกว่าที่จะกู่กลับแล้ว การข่มขู่ผู้อาวุโสออสการ์นั้นมันก็แย่มากพออยู่แล้ว แต่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ถึงกับคิดที่จะฆ่าผู้ช่วยของผู้อาวุโสออสการ์โดยไร้ซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ปัญหาก็คือผู้อาวุโสออสการ์ไม่สามารถใช้เวลาอยู่ในบัควู้ดได้นานมากนัก มีผู้ป่วยที่รอรับการรักษาจากเขามากมายที่เซ็นทรัลเพลนส์ นอกจากนั้นเขายังมีคิวที่ต้องเข้าผ่าตัดให้กับผู้คนอีกมากมาย การที่เขาเสียเวลาหนึ่งวันที่บัควู้ดมันก็เท่ากับว่าการผ่าตัดผู้ป่วยก็ต้องเลื่อนไปด้วยและนั่นมันหมายถึงความเป็นความตายของพวกเขาเหล่านั้นด้วย กว่านอร์ตันจะฟื้นตัวก็ใช้เว
เบ็น เยตส์ที่อยู่ทางด้านหลังรีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีหลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ เขาพูดเสียงดังว่า “คุณพ่อบ้านเยตส์ มันคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!” “มันเป็นคนที่ทำให้มิสเตอร์นอร์ตันกลายมาเป็นแบบนี้!” “ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดก็ตกต่ำมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะมัน!” “มันเป็นคนที่จัดการกับฟินน์ เยตส์ด้วย!” “คุณพ่อบ้านเยตส์ จัดการกับเจ้าขยะเหม็นเน่านี้ทีเถอะ!” “มันบอกว่าตัวมันไม่แม้แต่จะชายตามองอเมริกาด้วยซ้ำ! ดังนั้นเราต้องจัดการกับเจ้าคนอวดดีนี่ซะ!” ตระกูลเยตส์ทุกคนต่างหัวเราะอย่างเย็นชา ในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์จบสิ้นแน่วันนี้ พ่อบ้านเยตส์จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย็นชา “แกคือคนที่ทำให้นายน้อยนอร์ตันนอนเป็นผักแบบนี้เหรอ?” เหล่าชายฉกรรจ์ที่สวมชุดสูทสีขาวก็จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยท่าทางเย็นชา "ใช่แล้ว ฉันทำมันเองแหละ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ได้ทำให้ถึงตายก็เถอะ” “ฉันจะจำบทเรียนนี้เอาไว้ในครั้งต่อไป เมื่อฉันลงมือกับใครสักคน ฉันจะต้องทำให้ถึงตาย” ฮาร์วีย์แสดงท่าทีขอโทษขอโพย หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มให้ออสการ์ทันทีและพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง คราวนี้ผมไม่ได้ดูแลคุณอย่
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี!” “พวกแกไม่มีความสามารถแม้แต่จะรั้งใครคนหนึ่งไว้ได้เลยเหรอ?!” “พวกแกมีประโยชน์อะไรบ้าง?!” “ถ้าพวกแกคิดจะเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเยตส์จากอเมริกา ก็หัดใช้สมองอันน้อยนิดคิดทบทวนตัวเองเสียบ้างนะ! พวกแกไม่มีความสามารถแม้แต่จะรั้งคนคนหนึ่งไว้ได้แบบนี้น่ะเหรอ?!” พ่อบ้านเยตส์ชี้ไปที่เหล่าตระกูลเยตส์จากบัควู้ดในขณะที่ดุด่าพวกเขาอย่างโกรธจัด เขาตะคอกดุด่าใส่เหล่าตระกูลเยตส์ต่าง ๆ นา ๆ จนพวกเขาหน้าถอดสี แต่พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าที่จะโต้เถียงใด ๆ เลย นั่นเป็นเพราะว่าการแสดงออกของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ในตอนนี้นั้นดูเคร่งขรึมมาก ๆ หากพวกเขากล้าที่จะต่อล้อต่อเถียง พวกเขาอาจจะถูกจัดการโดยนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะตระกูลเดียวกัน นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์กำลังโกรธจนตัวสั่น อกของเขาแทบจะระเบิดออกมา นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เป็นคนแบบไหนน่ะหรือ? เมื่อสมัยที่เขายังเด็ก อำนาจและความมั่งคั่งของเขานั้นหาตัวจับได้ยากมาก เมื่อเขาเกษียณมียังสาวกนับไม่ถ้วนภายใต้การปกครองของเขา ผู้คนมากมายต่างก็เคารพเขาเมื่อเขาเดินไปรอบ ๆ
ในเวลาเดียวกัน ฮาร์วีย์ได้พาผู้อาวุโสออสการ์มาที่กองกำลังทหารของเซาท์ไลท์ เบลลามี่ เบลคได้จัดเครื่องบินทหารเอาไว้และส่งออสการ์ไปยังเซ็นทรัลเพลนส์ทันที เมื่อออสการ์จากไป เบลลามี่ขมวดคิ้วและแสดงสีหน้าเป็นกังวล “หัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ เรื่องนี้ผมจะต้องรับผิดชอบ!” “คนเหล่านี้ทำตัวโอหังมากจนเกินงามในประเทศ H ผมต้องหาโอกาสที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าใจว่าอะไรที่ควรไม่ควรเสียบ้าง!” ฮาร์วีย์ชำเลืองมองเขาและตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “คุณไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตำแหน่งปัจจุบันของคุณหรอก เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศหากเราไม่ดำเนินการอย่างระมัดระวัง” “แม้ว่าประเทศ H จะไม่ได้เกรงกลัวประเทศใด ๆ เลยก็ตาม แต่ถ้าเราทำสงครามผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มักจะเป็นเหล่าพลเมืองที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย” “นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรป้องกันไม่ให้สิ่งใดบานปลายไปมากกว่านี้ตราบเท่าที่เราสามารถจะทำได้…” เบลลามี่จึงตอบกลับว่า “แต่คนอเมริกันเหล่านี้ทำเกินไปจริง ๆ นะครับท่าน!” “ไม่ใช่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นนี่สิ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน, เผ่านักสู้, ประเทศหมู่
พ่อบ้านเยตส์ดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ถูกในขณะที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์แสดงความโกรธออกมา “นายใหญ่ที่สามครับ ตามข้อมูลที่ผมได้รับจากแหล่งข่าวของผม การที่ตาแก่ออสการ์อยู่ที่เซ็นทรัล เพลนส์แล้ว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีทางที่เราจะตามเขากลับมาได้แล้วครับ!” นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์สูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามที่จะสงบสติอารมณ์อีกครั้ง “พามันกลับมาจากเซ็นทรัล เพลนส์น่ะเหรอ? มีเหล่าคนใหญ่คนโตมากมายที่นั่น! นี่คิดว่าฉันเป็นคนโง่งี่เง่าที่จะไม่รู้เรื่องแค่นี้เลยหรือไง?” “แล้วรู้ไหมว่าใครเป็นคนส่งตาแก่ออสการ์ไปที่นั่น?” “น่าจะเป็นเจ้าฮาร์วีย์ ยอร์กครับท่าน!” พ่อบ้านเยตส์กล่าว “ผมได้ยินมาว่าเจ้าฮาร์วีย์เป็นคนส่งออสการ์ขึ้นเครื่องบินเอง!” เพล้งงงงง! นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เขวี้ยงถ้วยน้ำชาในมือลงพื้นพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างโกรธจัดว่า “สารเลว!” “เจ้าสารเลวนี้วอนซะแล้ว!” “ไม่เพียงแต่มันจะทำให้ลูกชายของฉันอยู่ในสภาพที่นอนเป็นผักเท่านั้น แต่มันยังส่งตาแก่ออสการ์ออกไปจากบัตวู้ดอีกด้วย! มันกำลังวอนหางานศพของตัวเองอยู่เหรอ?” พ่อบ้านเยตส์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาว่า “นายใหญ่