"โอ้พระเจ้า! เขาเป็นคนร่ำรวยที่มีนิสัยชอบเก็บตัวใช่ไหม?”“เขาไม่ได้ลังเลที่จะรูดบัตรด้วยซ้ำ น่าทึ่งที่สุด!"“เขาเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างนะ?”เมื่อเห็นฮาร์วีย์แสดงออกอย่างเปิดเผย เหล่าไทยมุงก็ตกตะลึงอีกครั้งในบรรดาไทยมุงเวสตันเป็นคนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ทันทีที่ฮาร์วีย์ดึงบัตรออกมา เขาก็อ้าปากค้างอย่างตกใจเช่นกัน“บัตรเอเม็กแบล็กการ์ด!”เมื่อคำอุทานของเขาความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งร้านฝูงชนอาจไม่เคยเห็นบัตรเอเม็กแบล็กการ์ด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนผู้ถือบัตรเอเม็กแบล็กการ์ดได้จะต้องมีเงินสดอย่างน้อยสองสามร้อยล้านในบัญชีธนาคารของเขา เงินสดนะ ไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน! แม้จะเป็นขาใหญ่อย่างเวสตัน แต่เขาก็มีเงินสดในมือเพียงไม่กี่แสน เงินสดไม่กี่ร้อยล้านหน้าตาเป็นอย่างไรกัน?สำหรับบัตรแบบนั้น ในเมืองนิอัมมี่มีไม่เกินห้าใบเท่านั้น!แม้แต่พนักงานขายยังตกใจ ในวันนี้เขาจะได้พบกับมหาเศรษฐีตัวจริงใช่ไหม?โดยไม่ทันตั้งตัว มีคนพูดถึงคำอธิบายสิ่งตรงหน้าที่เป็นไปได้ “เป็น…เป็นไปได้ไหมที่มันเป็นแค่บัตรที่เขาได้สั่งซื้อจากออนไลน์?”เมื่อเขาพูดอย่างนั้นทุกคนในร้าน
"ที่รัก ผมสังเกตว่าคุณชอบโทรศัพท์เครื่องนั้นมาก แล้วถ้าผมจะซื้อให้คุณล่ะ" เวสตันคว้าโอกาสที่จะเข้าใกล้อีวอนน์ เขายื่นบัตรธนาคารของเขาให้โดยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ “รูดบัตรของฉัน!”“ไอ้หนูยาจก นายรู้จักไหมว่าบัตรสีเงินคืออะไร? ฉันแนะนำให้นายใช้ความพยายามมากขึ้นในครั้งต่อไปถ้าคุณจะพยายามโออ้วดอีกครั้ง” เวสตันมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างหยิ่งผยอง “ใครอีกมากมายคงจะยังเชื่อคุณถ้าคุณใช้บัตรสีเงิน แต่เป็นบัตรเอเม็กนี่เหรอ? บ้าที่สุด!”"ว้าว! นั่นคือบัตรสีเงิน ฉันได้ยินมาว่าคุณต้องมีเงินมากกว่าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคารของคุณเพื่อที่จะได้มันมา!”“มิสเตอร์แจ็คแมนร่ำรวยกว่า! และเขาช่างเป็นคนที่ถ่อมตัวมาก!”“การเปรียบเทียบทั้งสองเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ!”“ ... ”ฮาร์วีย์กำลังจะโกรธถึงขีดสุด เขามีเงินเกือบหนึ่งหมื่นห้าพันล้านในบัญชี แต่ถูกคนที่มีเงินเพียงเกือบล้านมาหักหน้า เขาถึงกับพูดไม่ออกปัญหาคือเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมต้องเป็นตัวเองอีวอนน์ไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับเวสตัน แต่เธอหยิบบัตรธนาคารของเธอออกจากกระเป๋าเงินและส่งมันให้กับพนักงานขาย เธอบอกว่า “รูดบัตรฉัน และก็อยากได้ทั้งสองเครื่อง”
"มิสเตอร์ยอร์กเกิดอะไรขึ้น?” อีวอนน์สับสนจนต้องถามฮาร์วีย์ในรถเฟอร์รารีของพวกเขา“ให้ดิฉันโทรสอบถามเรื่องนี้นะคะ”ฮาร์วีย์ตกตะลึงเมื่อได้รับคำตอบเมื่อเขาได้รับคำตอบ “ธนาคารแจ้งให้ทราบว่าวงเงินการใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับบัตรของผมคือเจ็ดแสนห้าหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน ผมเพิ่งถอนเงินสดเจ็ดแสนห้าหมื่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกินโควต้าของผม ถ้าผมต้องการเพิ่มวงเงินผมต้องไปที่ธนาคารและลงนามในข้อตกลง”“บ้าที่สุด…”อีวอนน์ไม่สามารถกลั้นเรื่องขบขันนี้ได้ เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้จริง ๆ ฮาร์วีย์พูดไม่ออกเช่นกันกับความจริงที่ว่าเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้อาจเกิดขึ้นกับเขาได้ ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นต้องไปที่ธนาคารไม่เช่นนั้นเขาจะมีปัญหากับการใช้จ่ายในประจำวัน"โทรศัพท์เครื่องนี้ คุณคิดซะว่าเป็นเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกันนะคะ" อีวอนน์ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เงินจำนวนนี้ไม่ได้มีความหมายกับเธอมากนัก“เอาล่ะ ผมจะซื้ออย่างอื่นให้คุณก็แล้วกัน” ฮาร์วีย์ไม่ได้ปฏิเสธเธอ “ตอนนี้คุณไปส่งผมที่บริษัทได้ไหม? ผมคงต้องอยู่ที่นั่นสักคืน”"ฮะ?" อีวอนน์ซึ่งเพิ่งสตาร์ทรถเฟอร์รารีถึงกับต้องเหยียบเบรกกะทันหัน เธอหันมาหาเขาด้
เขาไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย อีวอนน์อาจดูแข็งแกร่ง แต่จากสิ่งที่ฮาร์วีย์รับรู้คือเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนในสถานการณ์เช่นนี้เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้าเธอจะแทงเขาด้วยมีดในตอนที่เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ...อีวอนน์เริ่มพูดติดอ่าง “ท่าน…ท่านคะ…กอดฉันเสร็จหรือยัง?”“โอ้!” ฮาร์วีย์ปล่อยเธอทันที เขาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังกอดเธออยู่โดยไม่รู้ตัวฮาร์วีย์ดูอึดอัดและเขาทำได้เพียงปล่อยเธอไป อีวอนน์ผุดลุกขึ้นในทันที แต่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเท่านั้นที่แสดงออกมาบนใบหน้าของเธอทั้งคู่รู้สึกได้แค่ว่าสถานการณ์มันน่าอึดอัดเกินไป แม้แต่คนไร้ยางอายอย่างฮาร์วีย์ก็ไม่สามารถแบกรับความอึดอัดจากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ได้อีวอนน์รู้สึกอับอายมาก เธอพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่า…คุณแต่งงานมาสามปีแล้ว”ฮาร์วีย์ตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้ ผมขอยืมห้องรับแขกของคุณคืนนี้แล้วกัน พรุ่งนี้คุณจะช่วยจัดห้องนอนในออฟฟิศของผมให้หน่อย ผมไม่เป็นไรตราบใดที่ยังมีที่ให้อาบน้ำและซุกหัวนอน”“ได้ค่ะ ดิฉันจะจัดการให้เอง” แม้ว่าอีวอนน์จะยังรู้สึกเขินอาย แต่เธอก็ช่วยฮาร์วีย์จัดห้องพักให้เรียบร้อย เมื่อ
อีวอนน์สังเกตเห็นฮาร์วีย์ที่กำลังเดินมาหาเธอ เธอยิ้มและพูดว่า “รอสักครู่นะคะ อาหารเช้าใกล้จะพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ”ฮาร์วีย์จ้องมองอีวอนน์ด้วยความสงสัย ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถเข้าใจได้ เขาระแคะระคายการกระทำของอีวอนน์ที่ไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างอบอุ่นเหมือนอย่างที่เธอเคยทำฮาร์วีย์มีความสุขกับการนอนหลับพักผ่อนตลอดทั้งคืน แต่เขาไม่รู้ว่าอีวอนน์ใช้เวลาทั้งหมดในการนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง เธอคิดว่าเธอควรจะเปิดประตูออกไปอย่างบังเอิญดีไหมถ้าฮาร์วีย์มาเคาะประตูปรากฎว่าฮาร์วีย์หลับไม่ได้สติเหมือนท่อนไม้และไม่มีเจตนาจะทำอะไรเช่นนั้น ความจริงกระทบเข้ากับประสาทรับรู้ของอีวอนน์อย่างจังหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านของอีวอนน์อีกต่อไป อีวอนน์ขับรถเบนท์ลีย์และส่งฮาร์วีย์ที่ยอร์ก เอ็นเตอร์ไพรส์ ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วและผู้คนก็ทยอยเข้ามากลุ่มคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ทางเข้าหลักของ ยอร์ก เอ็นเตอร์ไพรส์ โดยไม่ทราบสาเหตุ มีคนงานจากร้านดอกไม้กำลังยุ่งอยู่กับการวางของตกแต่ง พวกเขาตกแต่งทางเข้าหลักของ ยอร์ก เอ็นเตอร์ไพรส์ ราวกับว่าพวกเขากำลังเตรียมงานแต่งงานอีวอน
“ โอ้! คุณคือมิสซาเวียร์” ชายในชุดสูทสีขาวเดินออกมาจากบริษัท เมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายเขาก็ออกมาดูข้างนอกอีวอนน์ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแซ็ค ซิมเมอร์ ที่ถูกเวนดี้ปฏิเสธ เธอรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอและพูดอย่างเย็นชาว่า “อ้อ คุณคือแซ็ค ซิมเมอร์นี่เอง น่าเสียดายที่เราไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่โรแมนติกใด ๆ ที่นี่ ดังนั้นฉันคงจะต้องขอให้คุณออกไป”“ตอนนี้ ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน... ” แซ็คตอบพร้อมกับยิ้มเยาะ ดวงตาของเขาเย็นชาทันทีเมื่อเห็นใครคนหนึ่ง'บ้าอะไรเนี่ย?! และตอนนี้ฮาร์วีย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย! ผู้ชายที่น่ารำคาญคนนี้มีอยู่ทุกี่จริง ๆ! '“เกิดอะไรขึ้นกับแกฮาร์วีย์” แซ็คชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์และเริ่มตะโกนโดยไม่หยุดเพื่อรอคำตอบของฮาร์วีย์ “แกกำลังสะกดรอยตามฉันหรือเปล่า? เป็นบ้าอะไรฮะ!”ในขณะเดียวกันแซ็คก็เริ่มกังวลเมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮาร์วีย์เมื่อคืนนี้ ถ้าผู้ชายคนนี้ทำลายแผนการของแซ็คอีกครั้งมันคงจะจบเกมส์ของเขาแน่นอนฮาร์วีย์ยอร์กขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาเห็นการปรากฏตัวของแซ็ค ซิมเมอร์‘ผู้ชายอะไรน่ารำคาญ ทำไมเขาถึงมาที่นี่อีก
คนป่วยอย่างแซ็ค ฮาร์วีย์ไม่สนใจเขาและหันไปทางประตูทางเข้า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์“แซ็ค ซิมเมอร์ไม่ได้พูดหรอกหรือว่าเขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไม่มีประโยช์? ทำไมเขาถึงเข้าทางประตูใหญ่ล่ะ? อะไรอีกล่ะ เขายังมีบัตรผ่านเข้าตึกด้วยเหรอ?”“เป็นไปได้ไหมที่เขามีตำแหน่งในบริษัทนี้?” ฝูงชนส่งเสียงดังไม่หยุดกับคำถามเกี่ยวกับตัวตนของฮาาร์วีย์แซ็คเยาะเย้ย “เขาจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? ลูกเขยของเราทำงานเป็นคนทำความสะอาดที่นี่!”“เขาเป็นคนทำความสะอาดกว่าที่นี่เหรอ!” ความสงสัยได้ถูกทำให้กระจ่างเมื่อพวกเขาสงสัยว่าชายยากจนคนนี้เข้ามาในบริษัทได้อย่างไร มิน่าเล่า!จบประโยคของเขา แซ็คก็พูดกับอีวอนน์ว่า “มิสซาเวียร์ อย่าปล่อยให้เรื่องเลวร้ายไร้ค่าแบบนั้นมาทำลายบรรยากาศของเราในตอนนี้เลย หรือว่าเราจะไปเจอกันที่อื่นคืนนี้แล้วค่อยคุยกันดีกว่า?”ในที่สุดอีวอนน์ก็เข้าใจความรู้สึกของเวนดี้เมื่อคืนนี้ หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตอบกลับไปอย่างเยือกเย็น “มิสเตอร์ซิมเมอร์ ก่อนอื่นฉันต้องบอกว่าฉันไม่ได้สนใจในตัวคุณ ประการที่สองเราไม่ได้เป็นคนคุ้นเคยกันเลย และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดตามกฎของ บริษัทของเราสิ่งที่ไร้ประโยชน์จะต้
ข่าวที่แซ็ค ซิมเมอร์ไปสารภาพรักอีวอนน์ ซาเวียร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองนิอัมมี่ทันทีหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างยอร์กและซิมเมอร์ก็ยุติเพราะเขาเช่นกัน…คฤหาสน์ซิมเมอร์ครอบครัวซิมเมอร์ทั้งหมดรวมตัวกันที่ห้องโถงนั่งเล่นของคฤหาสน์ ไม่มีใครรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ แม้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็มีสีหน้ามืดมนแซ็คยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงด้วยความละอายและตื่นตระหนกขณะที่สมาชิกในครอบครัวรอบข้างของเขาดูถูกเหยียดหยามเขาด้วยท่าทางไม่ยอมรับในการกระทำของเขา“นายเป็นคนโง่งี่เง่าที่สุด แซ็ค ซิมเมอร์!”“นายไม่ได้บอกหรอกหรือว่าอีวอนน์มีความรู้สึกดี ๆ กับนาย? แล้วตอนนี้คืออะไร? นายไม่มีดีอะไร!”“ฉันรู้ดีว่านายมันไม่น่าเชื่อถือตั้งแต่แรก! ไม่เลย!”“ฉันไม่สนใจว่านายต้องทำอะไรต่อ แต่นายต้องให้คำอธิบายกับเรา! นายไม่ได้ทำลายแค่การร่วมมือทางธุรกิจของเรา แต่ยังทำลายชื่อเสียงของตระกูลซิมเมอร์ด้วย!”ตระกูลซิมเมอร์เริ่มโกรธมากขึ้น มีประกายเปลวไฟแห่งความโกรธลุกโชนผ่านการเพ่งมองของพวกเขา“ทุกคน ไม่ต้องตกใจไป จะต้องมีวิธีแก้ปัญหานี้ อาจเป็นเพียงการทะเลาะกันเล็กน้อยระหว่างคนทั้งคู่”