“อะไรนะ? พวกเราตระกูลเยตส์กำลังเป็นกระแสในสังคมอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ก็ยังมีคนลาออกจากบริษัทภายใต้การบริหารของตระกูลเยตส์งั้นเหรอ?”คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ไม่อยากจะเชื่อคนพวกนี้ไม่เข้าใจหรือไงว่าตระกูลเยตส์แข็งแกร่งแค่ไหน?ทำไมพวกเขาถึงลาออกในเวลาแบบนี้?พวกเขาไม่ให้เกียรติตระกูลเยตส์เลยหรือไง!ที่สำคัญที่สุดคือคนที่ลาออกคือตัวหลักของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ถ้าพวกเขาออกไป องค์กรจะต้องตกอยู่ในสภาวะหยุดชะงักคุณย่าเยตส์ถึงกับขมวดคิ้ว...ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเบ็นก็ดังขึ้นอีกครั้ง“อะไรนะ? ผู้บริหารระดับสูงบางคนลาออก? แม้แต่คุณ ผู้บริหารฝ่ายบุคคล ก็ลาออกด้วยงั้นเหรอ? โทรมานี่ก็เพียงเพราะอยากจะเกียรติฉันเท่านั้นงั้นเหรอ?”เบ็นตกใจมากเมื่อเขาวางสาย โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“อะไรนะ? ทีมงานก่อสร้างซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ต ประกาศยุติความร่วมมือกับเรา?”“คนงานลาออก?”“อะไรนะ? แม้แต่พวกสุนัขเฝ้าประตูยังทำโซ่สุนัขขาดแล้ววิ่งหนีหลุดไป?”เบ็นนิ่งงัน นี่เป็นเรื่องเหนือจินตนาการที่เช้าวันนี้มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นครั้งนี้เบ็นไม่จำเป็นต้องรายงาน คุณย่าเยตส์ให้รับรู้
ไม่นานหลังจากนั้น คนของตระกูลเยตส์ก็ออกไปด้วยกันและในที่สุดก็พบว่าเกิดอะไรขึ้น“แมนดี้ได้ลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเพื่อเร่งความคืบหน้าของโครงการซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ต!”“ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีบริษัทเลย ผู้บริหารเหล่านั้นลาออกเพราะไม่ได้รับเงินเดือนในเดือนนี้!”“ทีมก่อสร้างไม่ได้รับเงินรายเดือน เป็นธรรมดาที่พวกเขาหยุดงาน!”“นอกจากนี้ ข่าวลือกำลังแพร่กระจายออกไปว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นหนี้ คนที่ซื้อวิลล่าไปแล้วขอยกเลิก!”“สำหรับข้อตกลงมันมีอยู่จริง แมนดี้เซ็นสัญญากับสกาย คอร์ปอเรชั่นในนามของบริษัทว่ากันนี่เป็นเงื่อนไขสำหรับเธอในการเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานบริษัท!”“สรุปคือทั้งหมดเป็นเพราะแมนดี้!”“หมาตัวน้อยนั่นโยนขี้ให้ตระกูลเยตส์!”“เราคิดไปเองว่าเราต่อรองชนะ!”หลังจากได้รับฟังคำชี้แจงเรื่องนี้แล้ว พวกตระกูลเยตส์ต่างก็โกรธจัดในเวลานี้เมอร์เซเดส เบนซ์ มายบัคก็มาถึงบ้านของตระกูลเยตส์ผู้ชายที่ดูสุขุมในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินเข้ามา“ขอโทษนะครับ คนที่ดูแลตระกูลเยตส์อยู่ที่นี่หรือเปล่า?”“ฉันเอง และคุณคือ…” คุณย่าเยตส์รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ แต่เธอก็ต้องเดินก
ในที่สุด ผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายกลางตกลงที่จะให้เวลากับตระกูลเยตส์สักสองสามวันในการระดมทุนหลังจากที่ตระกูลของพวกเขาได้ทำให้มันมาถึงจุดนี้ ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเยตส์จึงต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล เนื่องจากพวกเขามีเวลาเพียงไม่กี่วัน จำนวนเงินทั้งหมดที่พวกเขาต้องจ่ายคือเจ็ดล้านแปดแสนดอลลาร์ แม้ว่าตระกูลเยตส์จะเต็มไปด้วยความสับสนมึนงงในหัวอยู่ในขณะนั้น แต่ทว่าพวกเขาก็ยอมตกลงราคาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติที่มาจ่ออยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว เมื่อผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายกลางได้จากไป เหล่าตระกูลเยตส์ก็เอาแต่นิ่งเงียบ ทุกคนต่างก็เหงื่อไหลอาบหน้า อีกทั้งการแสดงออกของพวกเขาช่างดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาคิดว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว ทันใดนั้นรถกระบะหลายสิบคันก็เข้ามาจอดอยู่ที่ด้านนอก ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาที่ข้างในทันที พวกเขาเป็นผู้จัดหาวัสดุก่อสร้างของบริษัทมานานหลายปีแล้ว พวกเขามาที่นี่เพราะบริษัทค้างชำระพวกเขามามาหลายวันแล้ว “จ่ายเงินมาได้แล้ว!” “เราต้องการให้พวกคุณชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างในตอนนี้ เดี๋ยวนี้! และถ้าไม่จ่าย พวกเราจะทำลายคฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ท
"มีเพียงแค่การขอโทษ! แล้วชำระหนี้เพียงทางเดียวเท่านั้น!” เลย์ตันกล่าวพรางกัดฟันแน่น ฟินน์จะเต็มใจทำได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้บัญชาการลำดับสามของกรมตำรวจบัควู้ด มันคงน่าอายเกินไปสำหรับเขาที่จะโค้งคำนับและกล่าวคำขอโทษกับเหล่าซัพพลายเออร์ที่ต่ำต้อยเหล่านี้ ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์ก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ฟินน์ มันจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตนะถ้าหลานไม่รีบแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ รีบไปขอโทษเดี๋ยวนี้! “เบ็น เอาทุกอย่าที่เรามีออกจากบัญชี และชำระหนี้ทั้งหมดนี่ซะให้จบ ๆ ไป!” ฟินน์และเบ็นดุไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ท่าทางของคุณย่าเยตส์ในขณะนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม ในที่สุด ฟินน์ก็กัดฟันและโค้งคำนับขอโทษเหล่าซัพพลายเออร์ทั้งหมด ในทางกลับกัน เบ็นก็ได้ไปถอนเงินหลายพันดอลลาร์ออกจากบัญชีธนาคารของตระกูลเยตส์ อีกทั้งพวกเขายังต้องจำนองรถยนต์สองสามคันเพื่อให้ได้เงินจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์เพื่อมาชำระหนี้ให้เหล่าซัพพลายเออร์ทั้งหมด ซัพพลายเออร์ทั้งหมดจากไปหลังจากที่พวกเขานับเงินต่อหน้าของตระกูลเยตส์ แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไป ซัพพลายเอ
"อะไรกัน? ที่พวกเธอทุกคนมีอำนาจมีกินมีใช้ขึ้นมาได้จนถึงเท่าทุกวันนี้ นั่นก็เป็นเพราะแรงสนับสนุนเงินทองชื่อเสียงจากตระกูลทั้งนั้น!” “และในตอนนี้ตระกูลเยตส์กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ พวกเธอทุกคนกลายเป็นคนใบ้ไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?” คุณย่าเยตส์ทุบไม้เท้าของเธอลงกับพื้นเสียงดังอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับตัวสั่นไปด้วยความโกรธจัด หัวของทุกคนก้มลงต่ำ ไม่มีใครสามารถปริปากและตอบกลับเธอได้เลยสักคน เพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น! “พูดออกมาสิ พูดออกมาเดี๋ยวนี้! เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้? จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร?” คุณย่าเยตส์ยังคงตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “คุณย่าครับ ผมคิดว่าเราถูกนังสารเลวนั่นหลอก นังแมนดี้!” “คิดเกี่ยวกับมันดี ๆ อีกครั้งสิ เราต่างหากที่เป็นคนชี้ทางให้แมนดี้ต้องมอบหุ้นทั้งหมดของเธอที่มีให้กับเรา ถ้าหากว่าเธอยังต้องการให้ฮาร์วีย์มีชีวิตอยู่!” “แต่หุ้นที่มีมูลค่าสามร้อยล้านดอลลาร์! ผู้ชายแบบไหนกันที่จะคุ้มกับเงินจำนวนมากขนาดนั้น?” “และเธอก็ให้มันกับพวกเราอย่างง่ายดาย!” “ผมคิดว่าเธอทำมันโดยเจตนา เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์นั้นย
เหล่าตระกูลเยตส์กำลังคิดค้นกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการนำแมนดี้กลับมาแก้ไขปัญหานี้ ในส่วนของแมนดี้นั้น เธอกำลังศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลว่าอุตสาหกรรมใดที่น่าสนใจและควรก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ของเธอ ฮาร์วีย์เองก็ให้กำลังใจเธอมาโดยตลอด โดยบอกกับเธอว่าตลาดของบัควู้ดนั้นมีขนาดที่ค่อนช้างจะใหญ่และมีโอกาสที่รอเธออยู่ตั้งมากมาย นอกจากนี้ แมนดี้ยังเป็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นมาโดยตลอด เธอมักจะลุกขึ้นทันทีหลังจากที่เธอล้มลง ด้วยแรงสนับสนุนและกำลังใจจากฮาร์วีย์ มันยิ่งตอกย้ำความคิดของเธอในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ เธอใช้เวลาอยู่ที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์เพื่อค้นหาแผนงานและเตรียมมองหานักลงทุนมาร่วมหุ้นในธุรกิจใหม่ของเธอ ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์ก็ได้โทรหาเธอ “แมนดี้ นังเด็กเวร!” “ตระกูลเยตส์ไปทำอะไรให้แกนักหนาเหรอ?!” “แกกล้าดียังไงถึงได้วางแผนกำจัดตระกูลของพวกเราเอาไว้ตั้งแต่แรก?!” “แกสมควรตาย!” "ฉันเกลียดแก นังตัวดี! เมื่อตอนที่ลิเลียนท้องแก ฉันน่าจะทำให้แท้งไปซะ!” “ถ้าเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก ตระกูลสุดรักสุดหวงที่ฉันเฝ้าดูแลประคบประหงมมาเป็นอย่างดีก็คงจะไม่จบลงแบบนี้หรอก!” คุณย่าเยตส์กำลังดุด่าแมน
คุณย่าเยตส์พูดราวกับว่าเธอนั้นเป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม เธอเล่นทั้งบทนางฟ้าและปีศาจในเวลาเดียวกัน! โดยปกติแล้ว เธอรู้ซึ้งถึงบุคลิกของแมนดี้เป็นอย่างดี นั่นคือหัวใจที่อ่อนโยนและความรู้สึกที่แข็งแกร่งในเรื่องของครอบครัว ตระกูลเยตส์สามารถทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังได้เพียงเพื่อชื่อเสียงเงินทองและผลประโยชน์อื่น ๆ แต่แมนดี้เธอจะไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่ ๆ ประเด็นนี้มันก็เห็นกันชัด ๆ อยู่แล้ว เธอไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเจ้างั่งฮาร์วีย์ ยอร์กนั่นเลย เธอถึงกับยอมแลกทุกอย่างเพื่อมัน ถ้าเป็นฟีบี เยตส์นะ ถ้าเธอมีสามีแบบนี้สามีของเธอคงโดนเธอเตะกระเด็นไปแล้ว “อ้อ แมนดี้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้กับเธอได้ เราสามารถพูดคุยกันได้ ถ้าหากว่าเธอยินดีที่จะกลับมาสะสางเรื่องต่าง ๆ ซะ!” “ถ้าไม่เห็นแก่ฉัน อย่างน้อยก็ช่วยเห็นแก่แม่ของเธอบ้าง!” “ฉันเป็นแม่ของแม่เธอนะ!” คุณย่าเยตส์พูดราวกับว่าเธอนั้นมีพระคุณอย่างยิ่ง แต่ความหมายที่แท้จริงนั้นมันคือเรื่องผลประโยชน์หลังจากนี้ต่างหาก และคำพูดนั้นมันก็ได้บีบหัวใจของแมนดี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอก็ไม่ได้สนใจซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส
หลังจากนั้นไม่นาน แมนดี้กัดฟันแน่นและถอนหายใจออกมาในที่สุด เธอไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว เธอเป็นคนจิตใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เธอจะมองเหล่าตระกูลเยตส์ไม่ออกได้อย่างไร? แต่เธอเพียงแค่ไม่สามารถก้าวผ่านความรู้สึกที่มันติดค้างอยู่ภายในหัวใจของเธอได้ก็เท่านั้นเอง เมื่อฮาร์วีย์พูดเรื่องนี้ออกมาตรง ๆ มันก็ทำให้แมนดี้รู้สึกโล่งใจได้บ้าง “ที่รัก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจดีว่าพวกเขาปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นเครื่องมือ และฉันจะไม่ฟังพวกเขาอีกแล้ว” “ตระกูลเยตส์สมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง” แม้ว่าแมนดี้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของเธอก็ยังคงเจ็บปวดรวดร้าวด้วยคำว่าครอบครัว แต่ฮาร์วีย์นั้นเขาไม่คิดจะให้โอกาสกับตระกูลเยตส์อีกเลยแม้สักครั้งเดียว เขาส่งซีนเธียร์ไปสำรวจมหาวิทยาลัยที่ต่างเมืองเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้ทั้งไซม่อนและลิเลียนออกจากบัควู้ดไปก่อน อีกทั้งเขายังเสนอให้ทั้งสองใช้เวลาเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจในมอร์ดูและโวลซิ่งก่อนกลับมา และด้วยเหตุนี้ เหล่าตระกูลเยตส์ก็จะไม่มีทางติดต่อกับไซม่อนและลิเลียนได้ ... ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ ทุกคนพยายามโทรหาครอบครัวของแมนดี้ด้วยท่าทางอันสิ้