“หืม? พวกเธอเองเหรอ? ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”ได้ยินเสียงหนึ่งที่ดูมีความประหลาดใจจากด้านข้างแมนดี้และครอบครัวของเธอหันไปมองและเห็นวพกตระกูลเยตส์กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาคีธไม่ได้อยู่ ณ ตรงนี้ด้วย แต่คนที่เป็นผู้นำในกลุ่มนั้นคือคุณย่าเยตส์นั่นเองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ผมสีน้ำตาล เธอคือ ฟีบี เยตส์เธอเรียนที่อเมริกาและเพิ่งกลับมาเมื่อสองวันก่อน พวกเยตส์ไปรับเธอทันทีหลังจากลงจากเครื่องบินในช่วงเช้าตรู่ฟีบีสวย ริมฝีปากบางและดวงตาทาด้วยโทนสีสโมคกี้ทำให้เธอดูเคร่งขรึมฟีบียิ้มและพูด“ใช่แมนดี้ ซิมเมอร์ใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าทั้งครอบครัวของเธอโดนคุณย่าเยตส์ไล่ออกไปแล้ว! กล้าดียังไงมาในที่แบบนี้?”“ที่นี่คือที่ที่พวกหมาจรจัดอย่างพวกเธอมาได้งั้นเหรอ?”พวกเยตส์ต่างพากันหัวเราะเยาะกับคำพูดของฟีบีมันเป็นความจริง ทำไมพวกหมาจรจัดถึงมาปรากฏตัวในงานแบบนี้?วันนี้เป็นพิธีผลัดเปลี่ยนกำลังพล คนที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาไม่ได้และตามสิ่งที่คีธบอกไว้ บัตรเชิญไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับข่าวลือยังแพร่กระขายออกมาว่าแม้แต่ตระกูลลีโอจากฮ่องกงก็ยังได้รับบัตรเชิญเพียงสามใบ
คัลลัม ร็อบบินส์มองไปที่ฮาร์วีย์ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง“ผมอยากพบคุณมาตลอด ชื่อของคุณก้องอยู่ในหูของผมอยู่ตลอดเวลา!”อีกด้านหนึ่งคาร์สัน คลาวด์จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความโกรธแววตาเยือกเย็นแขนขาของเอริค คลาวด์ แตกหักเป็นเสี่ยง ๆ แม้ว่าเขาจะไม่ตายแต่ตอนนี้เขายังอยู่ในอาการโคม่าและนั่นเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้เพียงว่าฮาร์วีย์จะต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่แน่นอน เพราะเขาสามารถหลบหนีออกไปได้และเขาคิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอก นอกเสียจากเจ้าชายยอร์กอย่างแน่นอนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ คาร์สันอาจจะยังคงเกรงกลัวเจ้าชายยอร์ก แต่วันนี้แตกต่างออกไปด้วยการเตรียมการของคีธ พวกเขาจะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนถ้าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน แล้วทำไมพวกเขาถึงจะยังต้องกลัวเจ้าชายยอร์ก?ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!คุณย่าเยตส์ยิ้มและพูดว่า “ท่านผู้เฒ่า! ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะพาครอบครัวของเขามาร่วมพิธีผลัดเปลี่ยนกำลังด้วยเช่นกัน!”คัลลัมและคาร์สันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้หลังจากฟังคุณยายเยตส์พูด“ลูกเขยกาฝากที่ถูกไล่ออกจากตระกูลยังมีสิทธิ์อะไรมางานแบบนี้?”“ฮึ่ม!”คัลลัมและคาร์สันหัว
หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ สีหน้าของไซม่อนก็หมดสิ้นหนทางกว่าเดิมตอนแรกเขาคิดว่าลูกเขยของเขาที่เป็นคนขับรถของเจ้าชายยอร์กคงจะได้โอกาสดี ๆ แต่เจ้านายของเขากลับไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมางานในวันนี้ ดูเหมือนว่าเจ้านายของฮาร์วีย์คงจะไม่สำคัญอีกต่อไป!ไซม่อนไม่อยากจะถามรายละเอียดเขาถอนหายใจ “ในฐานะคนขับรถ แกมีคงมีความสามารถ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าผู้เฒ่าทั้งสามแทบรอไม่ไหวที่จะบีบคอแกให้ตาย!”“แกทำมันได้ยังไง? แกทำให้คนพวกนั้นขุ่นเคืองได้ยังไง คิดว่าเพราะตัวเองเป็นคนขับรถเจ้าชายยอร์กงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “พ่อครับ พวกเขาก็เป็นแค่ขยะ ทำไมคุณพ่อถึงต้องสนใจพวกเขาด้วย พวกเขาจะต้องยอมมาคุกเข่าทันทีเมื่อได้พบกับเจ้าชายยอร์ก ผมรับรองได้เลยว่าพวกเขาเป็นได้แค่ขยะ”ไซม่อนคิดว่าครั้งนี้ฮาร์วีย์ไม่ได้โม้โอ้อวด เขาถอนหายใจ “ฉันหวังว่าเจ้าชายยอร์กจะมีความสามารถอย่างที่แกพูด ไม่อย่างนั้นเราคงเดือดร้อนแน่”ลิเลียนเพิ่งได้สติจากอาการตกใจ เธอเปลี่ยนเรื่องและถามว่า “ฮาร์วีย์ แกพาพวกเราเข้าไปข้างในได้ไหม? เข้าร่วมไอที่พวกเขาเรียกว่าพิธีเปลี่ยนกองกำลัง”แมนดี้มองฮาร์วีย์ด้วยความสงสัย เขาจะพาเข้าไ
ภายในบริเวณสนามแขกทุกคนนั่งอยู่ที่นั่นเชลดอน ซาเวียร์, ไคล์ ควินแลน, ออสการ์ อาร์มสตรอง และคนอื่น ๆ นั่งแถวหน้าข้าง ๆ เชลดอนคือคริส ลีโอ เจ้าชายแห่งตระกูลลีโอจากฮ่องกง ถัดมาคืออีวอนน์ ซาเวียร์ตามมาด้วยตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลเยตส์ ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ผู้บัญชาการสูงสุดของกระทรวงต่าง ๆ ในเซาท์ไลท์ก็มาด้วยผู้บัญชาการสูงสุดและรองผู้บัญชาการของบัควู้ดอย่างโยเอล เกรฮัมและเรน แจ็กสัน และคนอื่น ๆ ก็เข้าร่วมด้วยเจสซี เทตก็มาพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกถึงความให้เกียรติอย่างสูงสุดคนเหล่านั้นต่างก็นั่งต่างลำดับเหลือเพียงหกที่นั่งที่ว่างอยู่ในแถวแรกทุกคนเข้าใจว่าที่ตรงนั้นเว้นไว้สำหรับใครก็เพื่อ ผู้บัญชาการเบลลามี่ เบลค ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเซาท์ไลท์ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ สี่ที่นั่งที่เหลือจะเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนและสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์คนเหล่านี้สามารถปลุกพลังอำนาจแห่งเซาท์ไลท์ได้ แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะปรากฏไปที่ใดก็ตามไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่เป็นตำนานของกองทัพอย่างหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานที่กำลังจะมาที่นี่ในงานวันนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นหัวหน้าผ
เบลลามี่ไม่ได้นั่งลงโดยทันที เขากลับยืนอยู่ที่ด้านข้างของทางเข้าเพื่อรอใครบางคนครู่ต่อมาบุคคลสำคัญสี่คนในชุดทหารเดินเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาคือ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาว หัวหน้าของสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ ตามมาด้วย นักรบดาบวิเศษ นักรบดาบสั้น และนักรบดาบฟัลชิออนสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์อยู่ที่นี่แล้ว กล่นอายรัศมีที่น่ากลัวของพวกเขาแผ่กระจายไปทั่ว แม้แต่เบลลามี่ก็สู้มันไม่ได้แม้แต่คนอย่างเชลดอนก็ยังรู้สึกว่าอะดรีนาลีนของเขาสูบฉีดรวดเร็วเมื่อได้เห็นสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ทหารเซาท์ไลท์แนวหน้าที่ต่อสู้อย่างดุเดือดกับประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมาหลายปีอย่างไม่หยุดยั้งจึงกล่าวได้ว่าสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ผ่านการต่อสู้กับทหารหลายพันคนอย่างไรก็ตาม ในบรรดาสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาวนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดเทพสงครามอีกสามคนนั่งอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ก็ไม่ได้เข้าไปนั่งทันทีเช่นเดียวกัน พวกเขาเพียงพยักหน้าไปทางเบลลามี่แทน จากนั้นพวกเขาก็เข้าแถวสองแถวและยืนรอ
ในอีกทางหนึ่งคริสก้มหน้าลง แต่ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาหันไปมองใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์ของอีวอนน์ เขาจินตนาการถึงวันที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนร่วมเป็นพยานในงานแต่งงานของพวกเขา!นั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในชีวิตของเขาไม่เพียงแต่เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้า แต่เขายังสามารถทำความรู้จักกับผู้สูงศักดิ์ที่มีสถานะสูงสุดในประเทศ H !ในเวลานี้ คริสรู้สึกว่าเขาก้าวมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว!***ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ต่างตื่นเต้นไม่แพ้กันวันนี้พวกเขามีโอกาสที่จะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นการส่วนตัวตามข้อตกลงของคีธหากพวกเขาคว้าโอกาสนั้นนี้ได้ พวกเขาอยากจะติดตามหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อเป็นลูกน้องของเขาคัลลัมและไคล์ต่างก็ตื่นเต้นอบอวลไปด้วยความสุข พวกเขารอคอยช่วงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อในที่สุดฮาร์วีย์ก็มาถึงที่นั่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะภายใต้การคุ้มกันของเทพสงครามทั้งสี่ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขาได้เลยทุกคนมองเห็นแต่แผ่นหลังของเขาเท่านั้นแต่ทุกคนก็เบิกบานใจเพียงแค่ได้เก็นแผ่นหลังของเขาใครบางคนจากตระกูลเยตส์ก็หัวเราะและกระซิบว่า “ทุกคน
เดิมทีพวกเขาสามารถจัดหาบริกรทำหน้าที่นี้ได้แต่คีธตัดสินใจว่าเขาอยากได้สิทธิพิเศษนี้เอง!เขาจะเสิร์ฟชาให้กับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบคีธได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานานเพื่อเหตุผลนี้ตั้งแต่จำนวนก้าวเดิน ความถี่ของฝีเท้า มุมที่ร่างกายก้มลง แม้กระทั่งการแสดงออกทางสีหน้า รายละเอียดทั้งหมดนั้นเขาได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทที่เป็นมืออาชีพมากที่สุดมาฝึกเขา“การฝึกฝนทำให้เก่ง!”คีธได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษมาตลอดทั้งคืนเพื่อเสิร์ฟชาถ้วยนี้เขาเสิร์ฟชาให้กับหัวหน้าผู้ฝึกสอนด้วยมือทั้งสองและก้มศีรษะลง จากนั้นเขาก็ทำความเคารพแล้ววางชาลงอย่างสุภาพตามมารยาท คีธไม่ควรมองไปที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนแต่เขาไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของเขาไว้ได้และต้องการอยากจะเห็นหน้าว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเขาเป็นอย่างไรวินาทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง!ตุบ!คีธไม่สามารถประคองร่างให้ยืนนิ่งและล้มลงกับพื้น เหงื่อออกทั่วทั้งร่างกายของเขา‘ฮาร์วีย์ ยอร์กงั้นเหรอ?’‘ฮาร์วีย์ ยอร์ก เป็นไปได้ยังไง?!’‘ฮาร์วีย์เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนงั้นเหรอ?’‘เป็นไปได้ยังไง?!’คีธอึ้งไปชั่วขณะแม้ว่าเขาจะเคยประสบกั
“อย่าริอาจเงยหน้าขึ้นมา!”เมื่อทุกคนกำลังจะเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน...เบลลามี่ซึ่งยืนอยู่บนเวทีก็ตะโกนราวกับสายฟ้าฟาดจากฟ้ากลิ่นอายสังหารแผ่ออกมาจากร่างของเบลลามี่ ทำให้ผู้คนหวาดกลัว พวกเขาทำได้เพียงก้มหน้าลง ทำได้เพียงแต่มองไปที่ลูกน้องของหัวหน้าผู้ฝึกสอนมีเพียงนายพลและผู้บัญชาการจากกองทัพเท่านั้นที่กล้ามองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่พวกเขาทำได้เพียงมองดูผ่าน ๆ ไม่ชัดเจนแต่ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงอาการไม่พอใจออกมา!เพราะเบลลามี่ทำถูกต้องแล้ว!หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือตำนานของกองทัพ ตำนานที่ยังมีชีวิต มันคงจะดูไม่ให้เกียรติหากมองหน้าเขา!แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนเองอาจไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เบลลามี่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็ไม่อนุญาตให้ใครได้ดูหมิ่นบุคคลที่เขาชื่นชมบนเวที ฮาร์วีย์พูดว่า “เบลลามี่ ที่นี่คือห้องพิธี ไม่ใช่สนามรบ ปล่อยทิ้งกลิ่นอายสังหารไปบ้างเถอะนะ”เบลลามี่ทำความเคารพและพูดว่า “รับทราบครับ! หัวหน้าผู้ฝึกสอน!”ขณะที่เบลลามี่ผ่อนคลาย บรรยากาศในพิธีก็เข้าสู่โหมดปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาพวกเขาเข้าใจดีว่าพว