ภายในบริเวณสนามแขกทุกคนนั่งอยู่ที่นั่นเชลดอน ซาเวียร์, ไคล์ ควินแลน, ออสการ์ อาร์มสตรอง และคนอื่น ๆ นั่งแถวหน้าข้าง ๆ เชลดอนคือคริส ลีโอ เจ้าชายแห่งตระกูลลีโอจากฮ่องกง ถัดมาคืออีวอนน์ ซาเวียร์ตามมาด้วยตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลเยตส์ ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ผู้บัญชาการสูงสุดของกระทรวงต่าง ๆ ในเซาท์ไลท์ก็มาด้วยผู้บัญชาการสูงสุดและรองผู้บัญชาการของบัควู้ดอย่างโยเอล เกรฮัมและเรน แจ็กสัน และคนอื่น ๆ ก็เข้าร่วมด้วยเจสซี เทตก็มาพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกถึงความให้เกียรติอย่างสูงสุดคนเหล่านั้นต่างก็นั่งต่างลำดับเหลือเพียงหกที่นั่งที่ว่างอยู่ในแถวแรกทุกคนเข้าใจว่าที่ตรงนั้นเว้นไว้สำหรับใครก็เพื่อ ผู้บัญชาการเบลลามี่ เบลค ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเซาท์ไลท์ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ สี่ที่นั่งที่เหลือจะเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนและสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์คนเหล่านี้สามารถปลุกพลังอำนาจแห่งเซาท์ไลท์ได้ แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะปรากฏไปที่ใดก็ตามไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่เป็นตำนานของกองทัพอย่างหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานที่กำลังจะมาที่นี่ในงานวันนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นหัวหน้าผ
เบลลามี่ไม่ได้นั่งลงโดยทันที เขากลับยืนอยู่ที่ด้านข้างของทางเข้าเพื่อรอใครบางคนครู่ต่อมาบุคคลสำคัญสี่คนในชุดทหารเดินเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาคือ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาว หัวหน้าของสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ ตามมาด้วย นักรบดาบวิเศษ นักรบดาบสั้น และนักรบดาบฟัลชิออนสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์อยู่ที่นี่แล้ว กล่นอายรัศมีที่น่ากลัวของพวกเขาแผ่กระจายไปทั่ว แม้แต่เบลลามี่ก็สู้มันไม่ได้แม้แต่คนอย่างเชลดอนก็ยังรู้สึกว่าอะดรีนาลีนของเขาสูบฉีดรวดเร็วเมื่อได้เห็นสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ทหารเซาท์ไลท์แนวหน้าที่ต่อสู้อย่างดุเดือดกับประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมาหลายปีอย่างไม่หยุดยั้งจึงกล่าวได้ว่าสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ผ่านการต่อสู้กับทหารหลายพันคนอย่างไรก็ตาม ในบรรดาสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ อีธาน ฮันท์ นักรบดาบยาวนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดเทพสงครามอีกสามคนนั่งอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะสี่เทพสงครามแห่งกองทัพของเซาท์ไลท์ก็ไม่ได้เข้าไปนั่งทันทีเช่นเดียวกัน พวกเขาเพียงพยักหน้าไปทางเบลลามี่แทน จากนั้นพวกเขาก็เข้าแถวสองแถวและยืนรอ
ในอีกทางหนึ่งคริสก้มหน้าลง แต่ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาหันไปมองใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์ของอีวอนน์ เขาจินตนาการถึงวันที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนร่วมเป็นพยานในงานแต่งงานของพวกเขา!นั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในชีวิตของเขาไม่เพียงแต่เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้า แต่เขายังสามารถทำความรู้จักกับผู้สูงศักดิ์ที่มีสถานะสูงสุดในประเทศ H !ในเวลานี้ คริสรู้สึกว่าเขาก้าวมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว!***ตระกูลร็อบบินส์ และตระกูลคลาวด์ต่างตื่นเต้นไม่แพ้กันวันนี้พวกเขามีโอกาสที่จะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นการส่วนตัวตามข้อตกลงของคีธหากพวกเขาคว้าโอกาสนั้นนี้ได้ พวกเขาอยากจะติดตามหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อเป็นลูกน้องของเขาคัลลัมและไคล์ต่างก็ตื่นเต้นอบอวลไปด้วยความสุข พวกเขารอคอยช่วงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อในที่สุดฮาร์วีย์ก็มาถึงที่นั่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะภายใต้การคุ้มกันของเทพสงครามทั้งสี่ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขาได้เลยทุกคนมองเห็นแต่แผ่นหลังของเขาเท่านั้นแต่ทุกคนก็เบิกบานใจเพียงแค่ได้เก็นแผ่นหลังของเขาใครบางคนจากตระกูลเยตส์ก็หัวเราะและกระซิบว่า “ทุกคน
เดิมทีพวกเขาสามารถจัดหาบริกรทำหน้าที่นี้ได้แต่คีธตัดสินใจว่าเขาอยากได้สิทธิพิเศษนี้เอง!เขาจะเสิร์ฟชาให้กับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบคีธได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานานเพื่อเหตุผลนี้ตั้งแต่จำนวนก้าวเดิน ความถี่ของฝีเท้า มุมที่ร่างกายก้มลง แม้กระทั่งการแสดงออกทางสีหน้า รายละเอียดทั้งหมดนั้นเขาได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทที่เป็นมืออาชีพมากที่สุดมาฝึกเขา“การฝึกฝนทำให้เก่ง!”คีธได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษมาตลอดทั้งคืนเพื่อเสิร์ฟชาถ้วยนี้เขาเสิร์ฟชาให้กับหัวหน้าผู้ฝึกสอนด้วยมือทั้งสองและก้มศีรษะลง จากนั้นเขาก็ทำความเคารพแล้ววางชาลงอย่างสุภาพตามมารยาท คีธไม่ควรมองไปที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนแต่เขาไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของเขาไว้ได้และต้องการอยากจะเห็นหน้าว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเขาเป็นอย่างไรวินาทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง!ตุบ!คีธไม่สามารถประคองร่างให้ยืนนิ่งและล้มลงกับพื้น เหงื่อออกทั่วทั้งร่างกายของเขา‘ฮาร์วีย์ ยอร์กงั้นเหรอ?’‘ฮาร์วีย์ ยอร์ก เป็นไปได้ยังไง?!’‘ฮาร์วีย์เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนงั้นเหรอ?’‘เป็นไปได้ยังไง?!’คีธอึ้งไปชั่วขณะแม้ว่าเขาจะเคยประสบกั
“อย่าริอาจเงยหน้าขึ้นมา!”เมื่อทุกคนกำลังจะเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน...เบลลามี่ซึ่งยืนอยู่บนเวทีก็ตะโกนราวกับสายฟ้าฟาดจากฟ้ากลิ่นอายสังหารแผ่ออกมาจากร่างของเบลลามี่ ทำให้ผู้คนหวาดกลัว พวกเขาทำได้เพียงก้มหน้าลง ทำได้เพียงแต่มองไปที่ลูกน้องของหัวหน้าผู้ฝึกสอนมีเพียงนายพลและผู้บัญชาการจากกองทัพเท่านั้นที่กล้ามองใบหน้าของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่พวกเขาทำได้เพียงมองดูผ่าน ๆ ไม่ชัดเจนแต่ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงอาการไม่พอใจออกมา!เพราะเบลลามี่ทำถูกต้องแล้ว!หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือตำนานของกองทัพ ตำนานที่ยังมีชีวิต มันคงจะดูไม่ให้เกียรติหากมองหน้าเขา!แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนเองอาจไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เบลลามี่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็ไม่อนุญาตให้ใครได้ดูหมิ่นบุคคลที่เขาชื่นชมบนเวที ฮาร์วีย์พูดว่า “เบลลามี่ ที่นี่คือห้องพิธี ไม่ใช่สนามรบ ปล่อยทิ้งกลิ่นอายสังหารไปบ้างเถอะนะ”เบลลามี่ทำความเคารพและพูดว่า “รับทราบครับ! หัวหน้าผู้ฝึกสอน!”ขณะที่เบลลามี่ผ่อนคลาย บรรยากาศในพิธีก็เข้าสู่โหมดปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาพวกเขาเข้าใจดีว่าพว
ความกังวลของฟีบีมีมากล้นจนไม่สามารถเก็บอาการได้ เพราะไม่รู้ว่าคีธจะได้กลับมาปกติเมื่อไหร่สิ่งที่เธอกังวลก็คือแผนการที่เตรียมไว้ของคีธยังเป็นไปได้ใช่ไหมจากแผนที่วางไว้เพื่อให้เธอมีอะไรกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนไคล์และคัลลัมเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นกังวล “คุณย่าเยตส์ คีธกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เราจะยังไปต่อกับแผนการของเราสามตระกูลได้อีกไหม?”สีหน้าของคุณย่าเยตส์ดูแย่ลง คีธต้องเป็นแบบนี้มันเกินความคาดหมายของเธอเธอสงบสติอารมณ์และพูดว่า “คีธจัดการเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ด้วย แต่ถ้าพวกพนักงานทำตามแผนเดิม มันจะไม่ทำให้แผนของเราไปต่อได้”“แต่ตอนนี้ เราไม่มีคีธคอยช่วยประสานกับพวกภายในรัฐบาล เราต้องทำอย่างรอบคอบและอย่าลืมว่าอย่าทำให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนโกรธ!”“รับทราบครับ ทุกอย่างจะเป็นไปตามคำสั่งของคุณย่าเยตส์!”คัลลัมและไคล์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตราบใดที่พวกเขายังได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนทุกอย่างจะออกมาดีตามแผนพวกเขาถือว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา***อีกด้านหนึ่ง คริสลุกขึ้นยืนและมองเชลดอนซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “นายท่านซาเวียร์ ผมได้ม
‘ฮาร์วีย์ ยอร์ก!’‘หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือฮาร์วีย์งั้นเหรอ?’‘ฮาร์วีย์เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนาน?!’แม้เขาต้องถูกทุบตีจนตายก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ แถมยังเขาขอให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนไปเป็นพยานในพิธีแต่งงานด้วยงั้นเหรอ?!ที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของหัวหน้าผู้สอนจริง ๆ งั้นเหรอ?!ช่างเป็นเรื่องตลกอะไรสิ้นดี!นี่คือเรื่องตลกร้ายที่สุดในโลก!ในตอนนี้คริสตัวสั่นไปทั้งตัว จนเกือบจะเป็นลม“เป็นไปไม่ได้! เป็นฮาร์วีย์ไปได้ยังไง?!”“ฉันไม่เชื่อ มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ ๆ !”คริสไม่สามารถยอมรับความจริงตรงหน้าได้ แม้ว่าเขาจะได้เห็นกับตาแต่เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อสำหรับอีวอนน์ เธอเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่ใช่เพราะตัวตนของฮาร์วีย์ที่ทำให้เธอแปลกใจเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจในตอนนี้คือได้ยินฮาร์วีย์พูดคำว่า “ผู้หญิงของฉัน” ฮาร์วีย์พูดออกมาอีกว่า “เชิญนายท่านซาเวียร์เข้ามาก่อน เขาอยากจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้กับผม”เชลดอนก็เดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นคริสคุกเข่าอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็ดูลำบากใจ เขาโค้งคำนับให้ฮาร์วีย์ทันที “ยินดีที่ได้พบท่าน หัวหน้าผู้ฝึกสอน!
หลังจากจัดการเรื่องของคริสและบอกเชลดอนให้ออกไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ยืนขึ้นส่งยิ้มให้แล้วพูดว่า “อีวอนน์ เรื่องนี้ก็จบลงแล้ว คุณคงจะมีสมาธิกับงานของคุณได้สักที”สีหน้าของอีวอนน์นั้นดูสับสน แต่เธอก็ยิ้มออกมา “ท่านประธาน คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูดด้วยนะคะ ฉันจะรอคุณที่สกาย คอร์ปอเรชั่น”จากนั้นเธอก็ออกไปฮาร์วีย์ยกมือขึ้นเกาหัวครั้งนี้เขาพูดแบบนี้เพื่อให้อีวอนน์หลุดพ้นจากโซ่ตรวนของตระกูลซาเวียร์แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าไปพัวพันด้วยเสียแล้ว‘ลืมมันไปเถอะ’ ตอนนี้เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นฮาร์วีย์นั่งลงอีกครั้งและพูดอย่างเย็นชาว่า “ให้คนจากตระกูลร็อบบินส์และตระกูลคลาวด์เข้ามา”หลังจากนั้นไม่นานคัลลัมและไคล์ก็ถูกเชิญให้เข้ามา ทั้งสองคนเกือบจะเป็นลมเพราะความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเหรอ?!”ผู้เฒ่าทั้งสองตระกูลที่โหดเหี้ยมทั้งสองดูซีดเซียวลง“เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”“นี่ไม่ใช่ลูกเขยไร้ค่าคนนั้นหรอกหรือ นี่ ฮาร์วีย์ ยอร์กจริง ๆ หรือ?”“ควินตันหลอกพวกเรา!”คัลลัมและไคล์อยากจะบ้าตายเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ลูกเขยที่ถูกพวกเขาดูหมิ่นเหยียดหยา