ลึก ๆ แล้วในใจของแมนดี้ก็เห็นด้วยว่าฌอนและแซ็คสมควรได้รับความอัปยศอดสูนั่นแล้วฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะแก้ตัวใด ๆ เขาคว้าแตงโมอีกชิ้นทันที“ไม่มีอะไร ผมก็แค่จะทิ้งขยะ มันไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อยที่คำพูดของใครบางคนเหม็นเหมือนถังขยะ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“ไอ้…” ฌอนเช็ดหน้าตัวเองพร้อม ๆ กับที่เขาจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ฌอนรู้สึกโกรธมากจนร่างกายสั่นอย่างห้ามไม่อยู่“แล้วผมล่ะ? เป็นเพราะลูกชายของคุณที่ทำให้เกิดปัญหาซึ่งภรรยาของผมก็ต้องเข้าไปจัดการ แม้จะเมินเฉยความพยายามของเธอและไม่มีแม้แต่จะขอบคุณที่เธอ แต่พวกคุณก็ยังใส่ร้ายกล่าวหาว่าเธอทำร้ายครอบครัว มันน่าตลกอะไรเช่นนี้? ได้ งั้นให้ลูกชายของคุณจัดการแล้วกัน!” ฮาร์วีย์พูดอย่างท้าทายฌอน“ฮาร์วีย์ นายเป็นแค่ลูกเขย นายคิดว่านายสามารถเสนออะไรในที่ประชุมของบ้านเราได้งั้นหรือ”“ฐานะคนของซิมเมอร์เองแมนดี้ควรทำงานเพื่อตระกูลของเราอยู่แล้ว…” ฌอนตะโกนใส่ฮาร์วีย์“และปล่อยให้ลูกชายสุดที่รักของคุณมาชุบมือเปิปไปใช่ไหมล่ะ” ฮาร์วีย์พูดแทรก“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาไปคุกคามพนักงานของพวกเขาอีกและอาจทำให้เราล้มละลายอีกครั้ง? คุณก็ไม่ควรกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…” แมนดี้ไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับคำขอนั่น เธอส่งสายตาไปหาฮาร์วีย์โดยไม่ได้ตั้งใจ“ก็แค่ยอมรับคำขอไป” ผู้อาวุโสซิมเมอร์หัวเราะขณะที่เขาคิดว่าแมนดี้มีคงจะคอนเนคชั่นที่ดีกับผู้บริหารระดับสูงบางคนของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ที่ทำให้เขาคิดอย่างน้ันเป็นเพราะหลังจากเห็นแมนดี้สามารถทำงานที่ยากเช่นนี้ให้สำเร็จได้“ได้ค่ะคุณปู่ หนูสัญญา…”“ไม่!” ฮาร์วีย์แทรกกลางในขณะที่แมนดี้กำลังจะยอมรับคำขอนั่น“เป็นบ้าอะไรของนาย! นายเป็นใครที่จะมาปฏิเสธ?” แซ็คตะโกนออกมาในขณะที่เขาก็กุมหัวตัวเองเช่นกัน เขาไม่ควรที่จะประมาทกับการกระทำที่ประมาทของฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ ฉันไม่สนใจการกระทำที่หยาบคายของนายก่อนหน้านี้เพราะฉันเคารพการตัดติดใจของแมนดี้ นายคิดว่านายยังมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะพูดออกเสียงในบ้านหลังนี้งั้นหรือ?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขู่ในขณะที่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชานั่นเพราะฮาร์วีย์ก่อความวุ่นวายหลายครั้งแล้ว“ก่อนหน้านี้คุณสัญญาว่าแมนดี้จะได้เป็นประธานหากเธอทำข้อตกลงได้ แต่ตอนนี้คุณมาสร้างเงื่อนไขใหม่และปล่อยให้เธอทำบางสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ผมคิดว่าคุณแค่พยายามทำให้ภรรยาของฉันดูแย่”
“แซ็คคือความหวังของครอบครัวเราอย่างแท้จริง!”“ดูเหมือนว่าแม้จะไม่มี ‘ใครบางคน’ ที่ไปมาเมื่อเช้านี้ พวกตระกูลยอร์กก็ยังติดต่อเรามา”ทุกคนเปลี่ยนจุดยืนอีกครั้ง คราวนี้หันมาต่อต้านแมนดี้แทน“นายแน่ใจใช่ไหมแซ็ค” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว"แน่นอน!" แซ็คตอบขณะที่เขาโทรหาเวนดี้และเปิดโหมดลำโพง“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์ซิมเมอร์” เสียงนุ่ม ๆ ของเวนดี้ดังออกมาจากลำโพง“สวัสดีครับคุณเซอร์เรล ผมได้แจ้งให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ทราบแล้วเกี่ยวกับการของคุณในคืนนี้ ผมขอทราบได้ไหมว่าคุณจะมาถึงเมื่อไหร่” แซ็คตอบพร้อมยิ้มเยาะ“ไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมอะไรหรอกค่ะ ดิฉันแค่มาเพื่อมอบของบางอย่างให้คุณ” เวนดี้ตอบ"ด้วยความยินดีครับ คุณต้องการให้ไปรับไหมครับ” แซ็คเสนอ“ไม่จำเป็นค่ะ ดิฉันมีรถของตัวเอง ดิฉันจะไปถึงประมาณ 19.00 น.” เวนดี้ตอบ“ได้ครับ เรากำลังรอคุณ!” แซ็คตอบด้วยความภาคภูมิใจก่อนวางสาย‘ของงั้นเหรอ? ของอะไร? มันอาจจะเป็นสัญญาหรือไม่?' ทุกคนต่างตกตะลึง“แซ็ค ฉันจำได้ว่าเธอบอกให้นายไสหัวไปให้พ้นเมื่อสองสามวันก่อน เป็นไปได้ยังไง…” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามด้วยท่าทางประหลาดใจ“คุณปู่ ไม่รู้หรือว่า
“คุณปู่…” แมนดี้มองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์อย่างเป็นกังวลผู้อาวุโสซิมเมอร์ยิ้มและพูดออกมา “แมนดี้ ปู่รู้ว่าวันนี้ปู่ทำผิดกับหลาน แต่ถึงอย่างไรก็ตามสัญญาที่หลานนำกลับมานี้ไ่ม่มีประโยชน์อะไรเลยกับเรา แน่นอนปู่จะไม่ลืมว่าหลานก็มีส่วนในเรื่องนี้ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ? เมื่อทุกอย่างเข้าที่และเราได้รับผลกำไรแล้วปู่จะให้มากกว่าที่สัญญาไว้ ดีไหม?”อาวุโสซิมเมอร์ไม่ปริปากพูดเกี่ยวกับตำแหน่งประธานเลยแม้แต่น้อย เขาโยนประเด็นเรื่องนั้นออกไปโดยไม่แม้แค่ได้ทบทวนมันอีกเขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกหลานสาวคนนี้เลยแม่แต่น้อย เขาคิดแค่ว่าผู้หญิงเป็นเพียงสินค้าที่ใช้แทนตัวเงินไม่ช้าก็เร็ว และมันก็ช่วยไม่ได้อีกที่สามีของเธอเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ค่าเขาเคยมองเห็นคุณค่าของเธอเพราะเธอสามารถทำสัญญากับยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ได้ แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าแซ็คมีความสามารถมากกว่าเธอ เขาถึงกับเมินเฉยเหมือนอย่างเคยแมนดี้นั่งลงอย่างเงียบ ๆ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีก คำพูดของผู้อาวุโสซิมเมอร์ถือเป็นที่สิ้นสุด หากเธอยังคงโต้เถียงกับเขาต่อไปมันจะสร้างความไม่พอใจส่งผลเสียให้กับเธอมากขึ้นเท่านั้น แมนดี้ทำได้เพียงแค่รุ่มร้อนอยู่เพีย
ที่หน้าคฤหาสน์ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ยกแขนขึ้นเพื่อดูเวลาบนนาฬิกาสีทองที่สวมอยู่บนข้อมือ เขาเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาจึงโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็พูดว่า “จำไว้ว่าคืนนี้เป็นคืนที่สำคัญสำหรับพวกเราตระกูลซิมเมอร์ คืนนี้จะตัดสินว่าครอบครัวของเราจะสามารถยกระดับเป็นตระกูลเฟิร์สคลาสในนิอัมมี่ได้หรือไม่ ทุกคนต้องทำให้เต็มที่และระมัดระวังที่จะโน้มน้าวแขกของเรา เข้าใจไหม?""รับทราบค่ะ!" ทุกคนตอบขานรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เวนดี้เป็นเหมืองแหล่งขุมทรัพย์สำหรับพวกเขา พวกเขาย่อมต้องการสร้างความประทับใจให้กับเธอเป็นอย่างดีจู่ ๆ แซ็คก็กระซิบว่า “คุณปู่ ผมมีข้อเสนอ”“ได้สิ หลานชายที่รักของปู่ บอกปู่มาเถอะว่าหลานคิดอะไรอยู่” ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกตื่นเต้นเขาค่อนข้างผิดหวังกับพฤติกรรมของแซ็คก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามคืนนี้เขารู้สึกถูกใจเขาเป็นพิเศษที่สำคัญกว่านั้นในรุ่นที่สามของตระกูลซิมเมอร์ เขาให้ความลำเอียงต่อแซ็คต่อมากที่สุดการเลือกที่รักมักที่ชังของผู้อาวุโสซิมเมอร์ทำให้แซ็คแสดงท่าทีผ่อนคลาย เขายิ้มและพูดว่า“ คุณปู่ ผมยังไม่มีแฟน คุณปู่คิดอย่างไรถ้าเราจะจับคู่กันในคืนนี้และทำให้เวนดี้เป็
ทุกคนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อรูปปั้นม้าขนาดเล็กสีทองอยู่ในกล่อง แม้ว่าจะมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่นั่นก็มีราคาแพงมาก! มันเป็นของเก่า แต่มีราคาติดอยู่ด้วยจริง ๆ แล้วโยฮันน์ สโตน และผู้อาวุโสซิมเมอร์มีสถานะเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญที่ดีเช่นนี้เมื่อพวกเขาต้องพบเจอกัน แต่มนวันนี้เขากลับทำตัวเป็นคนถ่อมตัวซึ่งนั่นทำให้ชื่อเสียงของตระกูลซิมเมอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก“ได้สิ แน่นอน มั่นใจได้เลย ใครก็ตามที่เดินผ่านประตูนี้เข้ามาคือแขกของเราทุกคน เชิญนั่งก่อนเถอะผู้จัดการสโตน ครั้งหน้าไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนี้ ผมคงจะต้องจะรับของขวัญนี้ด้วยความเกรงใจ!” รอยยิ้มของผู้อาวุโสซิมเมอร์กว้างมากจนเขาแทบจะปิดปากไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่เป็นเรื่องชื่อเสียง แม้ว่าโยฮันน์จะสงสัยและรู้ว่าเวนดี้ เซอร์เรลและเลขาซาเวียร์กำลังมา แต่เขาก็เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เพียงแค่ไม่เปิดเผยด้านนี้ของเขาหลังจากทักทายโยฮันน์แล้ว ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็เรียกแซ็คมา “เลขาซาเวียร์คนนี้คือใครที่ไอ้แก่สโตนนี่พูดถึง?”“เลขาซาเวียร์?” แซ็คหันมาด้วยท่าทางดีใจ “คุณปู่เลขาซาเวียร์เป็นเลขาของแระธานยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ คำพูดของเธอถ
ผู้อาวุโสซิมเมอร์สังเกตเห็นอาการของเธอและถอนหายใจเธอต้องเป็นผู้หญิงที่ไม่มีประสบการณ์เลยดูจะตกใจง่าย เธอคงเป็นประเภทที่ถูกชักจูงได้ง่ายแซ็คเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างและยื่นมือออกไป “ยินดีต้อนรับผู้จัดการเซอร์เรล รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณได้มาที่นี่ ขออนุญาตแนะนำ นี่คือผู้อาวุโสของตระกูลเรา…”เวนดี้ทำตัวสุภาพ เธอเพียงแค่ถอยกลับไปครึ่งก้าวโดยไม่มีแสดงท่าทีใด ๆ การแสดงออกของเธอเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ดิฉันเคยเห็นผู้อาวุโสมาก่อนค่ะ”มือของแซ็คแข็งค้างทันที แต่เขายังคงรักษาอาการเพียงแค่เปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว “คุณมาที่นี่แล้ว ผู้จัดการเซอร์เรลโปรดทานอาหารร่วมกันก่อนที่เราจะไปคุยเรื่องธุระกัน คุณจะโอเคไหม”เวนดี้ลังเลเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ฉันมีเพื่อนคนอื่นมาด้วย ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะเห็นด้วยกับคำเชิญรับประทานอาหารค่ำหรือไม่”จากนั้นไม่นานหญิงสาวสวยในชุดสูทมาดธุรกิจที่มัดผมเป็นหางม้าก็เดินลงมาจากฝั่งคนขับร่างกายของแซ็คสั่นและถัดมาเขาพุ่งเข้าหาเธอทันที “ผมไม่ได้สังเกตว่าเป็นคุณ เลขาซาเวียร์ ยินดีต้อนรับครับ ขออภัยความไม่มีมารยาทของเราที่ไม่ได้ต้อนรับคุณก่อนห
ตระกูลซิมเมอร์ต้อนรับเช่นนี้ ทำให้เวนดี้และอีวอนน์ต่างก็เขินอาย แต่พวกเขาก็นั่งลงอย่างสุภาพ พวกหล่อนไม่ได้ถูกข่มขู่จากตระกูลซิมเมอร์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามพวกหล่อนจำได้ว่าภรรยาของท่านประธานเป็นคนในตระกูลซิมเมอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแสดงความมีมารยาทออกมา มิฉะนั้นถ้ามีใครพูดออกไปว่าพวกหล่อนหยาบคายพวกหล่อนอาจสูญเสียโอกาสในมื้ออาหารในอนาคตไปด้วยอีวอนน์และเวนดี้นั่งที่ที่นั่งตรงกลางของโต๊ะ ข้าง ๆ พวกหล่อนมีผู้อาวุโสซิมเมอร์ ฌอนและแซ็คนั่งอยู่ข้าง ๆ พวกหล่อน อีกด้านหนึ่งเป็นโยฮันน์ สโตน ซาคาริอาห์ บรู๊ค และผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ ก็นั่งลงเช่นกัน คนเหล่านี้ล้วนมีระดับนเมืองนิอัมมี่ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่กล้าที่จะพูดจาไม่สุภาพใด ๆ ออกมาอย่างไรก็ตามเมื่อลูกหลานของตระกูลซิมเมอร์เห็นฉากตรงหน้านี้ ดวงตาของพวกเขาก็จะส่อแววความโกรธเคืองออกมา ไอ้แซ็คคนกะล่อนคนนี้คงโชคดีมาก เขาไม่เพียงแต่จัดการให้เวนดี้มาที่นี่ได้เท่านั้น แต่เขายังทำให้อีวอนน์มาร่วมงานเลี้ยงนี้อีกด้วย“วันนี้สาวสวยสองคนมาจับมือกันมาที่นี่ คุณทำให้ได้หน้าจริง ๆ ผมจะไม่ถ่อมตัวตัวอีกต่อไป ก่อนอื่นขอดื่มอวยพรให้กับสองสาวก่อน!” แซ็คหัวเราะด