ท่าทีของไซม่อน ซิมเมอร์เปลี่ยนไป เขาพูดเสริมอย่างเงียบ ๆ “บางทีฉันควรจะหาใครนำของขวัญมาที่นี่ ยังพอมีเวลา”ลิเลียน เยทส์ขมวดคิ้วทันที“ถ้าเราเพิ่งจะเริ่มตอนนี้ เจ้าชายยอร์กจะไม่คิดว่าเราสนใจเขามากพอไหม?”สีหน้าของไซม่อน ซิมเมอร์มืดมนมากกว่าเดิม นั่นดูป็นความเป็นไปได้สูงแล้วพวกเขาได้แค่อดทน มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะคิดแผนแมนดี้ ซิมเมอร์ยืนขึ้น“พ่อคะ แม่คะ อยู่นี่ก่อนนะ หนูจะไปเตรียมของขวัญให้ ถ้าไม่ใช่ของถูกเกินไป เราคงไม่เป็นไร”ไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยตส์พยักหน้าตอบ ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำคือควักเงินก้อนใหญ่เพื่อหาของขวัญฮาร์วีย์ ยอร์กดึงแขนของแมนดี้และพูดว่า “ที่รัก ผมไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องทำนะ เจ้าชายยอร์กได้เห็นและมีประสบการณ์กับทุก ๆ อย่างที่หรูหราในโลกนี้ เขาไม่สนใจของขวัญหรอก”“แม้ว่าเขาจะไม่ มันก็ไม่สำคัญ” แมนดี้ ซิมเมอร์กล่าว “เราควรทำในส่วนของเราและแสดงมารยาท”ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม“บางที เขาอาจรู้สึกระมัดระวังมากกว่า ถ้าเราทำเรื่องน่าละอาย เขาอาจะสนใจเราก็ได้”“และอย่าลืมว่า เราไม่มีคำเชิญ ถ้าคุณไปข้างนอกตอนนี้ คุณจะกลับเข้ามาทีหลังได้อย่างไร?”
ณ ลานซิลเวอร์นิมบัสในห้องวีไอพีชั้นสองร่างเป็นเงาดำยืนอยู่ข้างหลังเธอ เธอที่กำลังจ้องไปที่ชายที่อยู่ด้านล่างที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน ดวงตาที่สวยงามของเธอฉายแววความสุขไม่ไกลจากเธอ ชายคนหนึ่งยืนเล่นหมากรุกยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเขาเองก็เช่นกันมองไปยังชายที่ดูนิ่งเฉยเมยที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แววตาของเขาดูซับซ้อนสักพักเขาก็พูดขึ้นมา“ควีนนี่ นั่นใช่พี่ใหญ่ของเธอใช่ไหม ไม่เข้าไปทักทายเขาหน่อยเหรอ?”“เธอทุ่มเททั้งกายและใจสำหรับงานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ใช่เหรอ”เมื่อเขาพูดจบเขาก็จ้องมองเธอควินตัน ยอร์ก เขาได้รับการยอมรับจากตระกูลยอร์ก เป็นหนึ่งในนายน้อยแห่งยอร์ก ผู้หญิงตรงหน้าเขาคือควีนนี่ ยอร์กการแสดงออกของควีนนี่ยังคงปกติ แต่คำพูดของควินตันแฝงด้วยความหมายลึกซึ่งกว่านั้น เขาพูดราวกับว่าเขากำลังล้อเลียนและทดสอบเธอในเวลาเดียวกันเธอทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด และเพ่งมองไปที่ห้องโถงใหญ่ต่อไป“สามปีแล้ว แม้ว่าเขาจะดูด้อยอำนาจลงมาก แต่ความเย่อหยิ่งของเขายังคงอยู่ น่าเสียดายที่คนทั่ว ๆ ไปมองไม่เห็นค่าในตัวเขา และยังปฏิบัติต่อเขาเหมือนขยะโสโครก ช่างน่าขำสิ้นดี”ควินตันพูดอย่างใจเย็นว่า “
ดวงตาของอีวอนน์เป็นประกายและเธอเพียงแค่ส่งยิ้มให้ เธอชำเลืองมองตรงนั้นตรงนี้ไปมาชายคนนั้นส่ายหัวเล็กน้อย นั่นทำให้เธอยิ้มกว้างขึ้น“ทุกคนคะ ดิฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ”“ท่านประธานของฉันบอกว่าเขาไม่ใช่ทายาทของตระกูลยอร์กอีกต่อไป”“การเรียกขานท่านว่าเจ้าชายแห่งยอร์กนั้นดูจะไม่เหมาะสม”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคนสามารถเรียกท่านว่ามิสเตอร์ยอร์ก”ทันใดนั้นทุกคนก็พากันโวยวาย“เจ้าชายยอร์กจะไม่ใช่เจ้าชายแห่งยอร์กอีกต่อไป” หมายความว่าอย่างไร?หรือบางทีความจริงนั้นคือเรื่องที่เขาพูดลือกัน?เจ้าชายยอร์กออกไปจากบัควู้ดเพราะแพ้การต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในตระกูลยอร์ก เป็นจริงงั้นเหรอ?ถ้าเขาแพ้แล้วเขาจะกลับมาทำไม?แล้วนี่ตระกูลยอร์กยังจัดงานเลี้ยงสำหรับเขาที่ลานซิลเวอร์นิมบัสอีกผู้จัดการยอร์กไม่อยู่ที่นี่ รวมถึงนายน้อยแห่งยอร์กด้วยเรื่องทั้งหมดนี้หมายความว่าอะไร?ในขณะที่ทุกคนในที่นั้นคาดเดากันอยู่ อีวอนน์ก็ยังคงพูดต่อไป“ทุกคน ไม่จำเป็นต้องคาดเดากันไปเอง ที่ท่านประธานของฉันกลับมาที่บัควู้ด เขาก็คงไม่ได้มาพักผ่อนที่นี่แน่นอน!”“อีกไม่กี่วันนี้ เขาจะก่อตั้งบริษัทใหม่ในบัควู้ด ภายใ
เจ้าชายยอร์กจะมาถึงเมื่อไหร่?นี่เป็นคำถามที่ทุกคนให้ความสนใจอีวอนน์ส่งยิ้มให้ทุกคนด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข“อันที่จริงท่านประธานมาถึงได้สักพักแล้ว โดยปกติแล้วท่านจะเป็นคนที่ระมัดระวังตัวและจะไม่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ ที่ท่านมาในวันนี้ก็ทำให้ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน”คำบอกกล่าวของอีวอนน์ทำให้เกิดความโกลาหลอีกครั้งพวกเขาเริ่มสำรวจห้องโถงเพื่อมองหาเจ้าชายยอร์กทันทีอีวอนน์พูดอย่างเย็นชาว่า “ทุกท่านคะ สิ่งที่ทุกท่านกำลังทำอยู่ตอนนี้ดูจะไม่ค่อยเกียรติท่านประธานของดิฉันเท่าไหร่”“เขากำชับให้ดิฉันดูแลทุกท่านเป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีปัญหาอะไร ดิฉันจะเป็นคนจัดการเอง และหากต้องการสิ่งใด โปรดแจ้งให้เราทราบได้เลยค่ะ”สีหน้าไซม่อนเปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ“มันจบแล้ว! เธอกำลังบอกเป็นนัยว่าให้ทุกคนนำของขวัญของพวกเขาออกมา แต่เราไม่มีอะไรติดมือมาเลย เราจบแล้ว!”สีหน้าของลิเลียนก็ดูแย่เช่นกันทุกคนเข้าใจในสิ่งที่อีวอนน์กำลังสื่อออกมา แน่นอนว่าพวกเขาควรนำของขวัญออกมา!“พวกซิลวามอบคิเมียร่าโบราณคู่หนึ่งให้เจ้าชายยอร์ก!”“พวกคราวน์มอบไข่มุกเรืองแสงในตำนานให้กับเจ้าชายยอร์ก!”“ส
ไซม่อนลังเลฮาร์วีย์ไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อตาของเขาไม่ยอมเชื่อเขาอยู่ดีเขามองไปที่แมนดี้“แมนดี้ ถ้าคุณเชื่อผม ให้ยืนขึ้นเดี๋ยวนี้ นี่เป็นโอกาสที่เหมาะแล้ว!”แมนดี้ลังเลอยู่เพียงเสี้ยววินาที แต่แล้วก็ยืนขึ้นทันใดนั้น ทุกคนก็จ้องมองมาที่เธออีวอนน์เห็นเธอก็รู้สึกประหลาดใจ“อ่า คุณแมนดี้ ซิมเมอร์”“ท่านประธานค่อนข้างเสียใจ เขาคิดว่าเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณอีกหลังจากที่เขาออกจาก นิอัมมี่แล้ว ใครจะคิดว่าเราจะมาเจอกันที่นี่?”“ไม่แปลกใจเลยที่ท่านประธานปนะเมินคุณเอาไว้สูง! ดิฉันจะรายงานให้ท่านทราบที่คุณให้เกียรติเขามากถึงเพียงนี้”ทุกคนอยู่ในอาการตกตะลึงก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่รู้ว่าแมนดี้และครอบครัวของเธอเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้ว เธอและครอบครัวเคยทำงานร่วมกันกับเจ้าชายยอร์กมาก่อนบางทีการใกล้ชิดกับครอบครัวอาจจะเป็นหนทางที่ดีสำหรับพวกเขา?“คุณซิมเมอร์ ดิฉันขอเชิญคุณมาเยี่ยมชม สกาย คอร์ปอเรชั่น ในวันที่เปิดทำการ ดิฉันมั่นใจว่าท่านประธานอยากให้คุณเข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน” อีวอนน์พูดยิ้ม ๆสายตาของแขกทุกคนเปลี่ยนไป รวมถ
แม้ว่าตอนนี้แมนดี้จะกลับถึงบ้านแล้ว แต่เธอก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นก่อนหน้านี้ เธอบอกว่าเธอไม่เคยพบเจ้าชายยอร์กเป็นการส่วนตัวไซม่อนและลิเลียนกลับไม่เชื่อเมื่อดูปฏิกิริยาของแมนดี้ พวกเขาสงสัยว่าลูกสาวของพวกเขาอาจเป็นผู้หญิงเก็บของเจ้าชายยอร์กที่ซ่อนเอาไว้ถ้าเป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่บังคับให้หย่าพวกเขาจะปกปิดเอาไว้ ถ้าแมนดี้มีลูกกับเจ้าชายยอร์กแต่ถ้าเจ้าชายยอร์กเกลียดลูกเขยกาฝากนี่ล่ะ?คู่สามีภรรยาคิดมากดูยุ่งยากใจแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทุกคนสนุกกับช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในเย็นวันนี้พวกเขายังได้รับเกียรติจากพวกซิมเมอร์อีกด้วย ต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครกล้าดูถูกพวกเขาทันใดนั้น ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็โทรเข้ามา“ไซม่อน แกไม่ต้องมาทำงานที่บริษัทของซิมเมอร์ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป” ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดอย่างเย็นชาตามแผนแล้ว บริษัทของซิมเมอร์จะใช้สำนักงานใหญ่ที่ัควู้ดอย่างเป็นทางการในพรุ่งนี้ทุกคนต้องไปตามหน้าที่ ๆ ได้มอบหมายไว้สายเรียกเข้าจากผู้อาวุโสซิมเมอร์ ณ จุดนั้นเท่ากับการบังคับให้แมนดี้และครอบครัวของเธอออกจากตระกูลซิมเมอร์“อะไรนะครับ?!”สีหน้าของไซม่อนหมองลงเขาไม่คาดคิดว่าเร
แซ็คตะหวัดสายตามองพ่อของตัวเองด้วยสายตาเหยียดหยาม “พ่อครับ อย่าทำตัวเป็นคนขี้ขลาดได้ไหม?”“มีปัญหางั้นเหรอ?”“หมายความว่ายังไง มีปัญหาอะไร?”“โครงการความร่วมมือระหว่างเรากับตระกูลซิลวาจัดการเรียบร้อยแล้ว”“ตอนนี้เบรนท์ ซิลวาอยู่ฝั่งเดียวกับเราแล้ว”“ตราบใดที่เรามีเบรนท์ ไซม่อนจะมีประโยชน์อะไรสำหรับเราอีก?”“แล้วฉันยังได้ยินมาว่าเบรนท์ถูกไซม่อนและครอบครัวของเขาทำให้อับอายในงานเลี้ยงต้อนรับด้วย”“ถ้าเราไม่ไล่พวกมันออกไป เราจะต้องเป็นคนที่ต้องแบกรับปัญหาใช่ไหม?”เมื่อได้ยินคำพูดของแซ็ค พวกซิมเมอร์ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมเพรียงกันไซม่อนและครอบครัวของเขาคิดว่าพวกเขาเป็นใครกัน? พวกเขาทำให้มิสเตอร์เบรนท์ ซิลวา อับอายขายหน้า พวกเขาอยากตายใช่ไหม?“ฉันได้ยินมาว่าทุกคนนำของขวัญไปที่งานเลี้ยงต้อนรับยกเว้นพวกเขา!”“เมื่อเจ้าชายยอร์กบอกว่าเขาไม่ชอบของขวัญ พวกเขาก็เชื่ออย่างนั้นจริง ๆ!”“ฮ่าฮ่าฮ่า…!”ทุกคนต่างพากันหัวเราะเสียงดังเมื่อก่อนพวกเขาคิดว่าแมนดี้เป็นเพียงคนเดียวที่ยังคงไร้เดียงสา ใครจะคาดคิดว่าพ่อของเธอก็เป็นเหมือนกัน?พวกเขาช่างตลกสิ้นดี!ไซม่อนหมกมุ่นอยู่กับการทำงา
แมนดี้นวดขมับพลางขมวดคิ้วฮาร์วีย์พยายามปลอบเธอและพูดว่า “แมนดี้ เป็นอะไรมากไหม? ตอนนี้คนที่มีอำนาจคือ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ใช่ผู้อาวุโสซิมเมอร์”“ดูสิว่าคุณสนิทกับเลขาซาเวียร์แค่ไหน เธอคงจะช่วยอะไรบ้างแน่นอนถ้าเธอรู้ว่าคุณถูกไล่ออก”แมนดี้มองเขา “จะเป็นไปได้ยังไง? พวกยอร์กได้หุ้นของซิมเมอร์ไปห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมบริษัทใหญ่ ๆ แบบนั้นถึงสนใจครอบครัวหนึ่งที่ไม่สำคัญเท่าตระกูลซิมเมอร์ด้วยล่ะ?”ฮาร์วีย์ส่ายหัว “ใครบอกคุณ? เมื่อกี้คุณคุยกับเลขาซาเวียร์ไม่ใช่เหรอ?”“เธอเชิญคุณร่วมพิธีเปิดของ สกาย คอร์ปอเรชั่น ไม่ใช่เหรอ?”“เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าคุณไม่ไป แล้วใครจะมีสิทธิ์เข้าร่วมในฐานะตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ล่ะ?”“ธุรกิจของตระกูลอยู่ภายใต้การควบคุมของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แล้ว ถ้าคุณไม่ได้เข้าร่วมพิธีเปิดของ สกาย คอร์ปอเรชั่น ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าพวกซิมเมอร์ถูกไล่ตะเพิดออกมา!”“ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลอะไร พวกซิมเมอร์ตัดคุณหรือครอบครัวของเราไปไม่ได้หรอก”แมนดี้ถอนหายใจ เธอรู้ว่าฮาร์วีย์แค่พยายามปลอบเธอให้คลานจากความกังวลฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรอีก คืนนั้น เขาส่งข้อความไปหาอีวอนน