ฮาร์วีย์เดินไปที่ประตูวิลล่าด้วยท่าทางเยาะเย้ยในห้องนั่งเล่นของวิลล่า เอลล่ามองดูเหตุการณ์ตรงหน้า โดยไม่รู้ว่าเธอควรทำตัวยังไงเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนในภาพยนตร์ และเป็นเพียงแค่การแสดงละครเท่านั้น เธอไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะทำเพื่อเธอในวันนี้ประตูที่ล็อกในตอนแรกเริ่มเปิดออก ฮาร์วีย์เดินเข้ามาแคร็ก แคร็ก…ไม้เบสบอลในมือของเจนเซ่นกระแทกพื้นเบา ๆ จากนั้นเขาก็ยกมันขึ้นและชี้ไปทางที่ฮาร์วีย์“ฉันอยู่นี่แล้ว ปล่อยเธอไปซะ!” ฮาร์วีย์พูดอย่างเย็นชา“ใครบอกว่าฉันจะปล่อยเธอไปถ้าแกมาที่นี่?”“ฮาร์วีย์ แกยังไม่รู้สถานการณ์ตรงหน้าแกอีกงั้นเหรอ? ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริง ๆ”เจนเซ่นมองฮาร์วีย์ด้วยใบหน้าเย็นชาเขาไม่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าเขาถึงทำให้ควินตัน ยอร์ก สนใจคืนนี้เขาเพิ่งได้รู้ว่าฮาร์วีย์เป็นแค่ลูกเขยของตระกูลชนชั้นสองในนิอัมมี่คน ๆ นี้ดึงดูดความสนใจของตระกูลยอร์กได้ยังไง?“แล้วคุณต้องการอะไร?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว มันจะง่ายสำหรับเขาที่จะจัดการถ้าเจนเซ่นอยู่คนเดียวที่นี่แต่ตอนนี้เอลล่าก็อยู่ที่นี่ด้วย เขากลัวว่าเขาจะพลาดพลั้งเผลอทำร้ายผู้หญิงไร้เดียงสาคนนี้“ฉ
“แน่นอนว่าฉันไม่ใช่พวกเขา” ฮาร์วีย์หัวเราะ “แต่คนที่อยู่เบื้องหลังคุณปล่อยให้ขยะอย่างคุณมาทดสอบฉัน เขาไม่ดูถูกฉันไปหน่อยเหรอ?”“รู้เหรอว่าใครอยู่เบื้องหลังฉัน?” เจนเซ่น คาร์ลสัน อ้าปากค้าง“ในบรรดาผู้มีชื่อเสียงทั้งสี่คนแห่งตระกูลยอร์ก คนที่หัวแข็งที่สุดคือควินตัน แถมยังเป็นคนที่กลัวฉันมากที่สุด ถ้าเดาไม่ผิด เขาคือคนที่ส่งคุณมา” ฮาร์วีย์ตอบออกไปเจนเซ่นเกิดอาการสั่น มือข้างขวาของเขาสั่นเกินควบคุมได้ คนตรงหน้านี้เป็นใครกันแน่? ทำไมเขาถึงสามารถเดาทุกอย่างได้ถูกต้อง?ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความอดทนอดกลั้นในตัวฮาร์วีย์ได้แม้แต่ควินตันก็ไม่เคยมีความอดทนได้แบบนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยั่วยุคนที่ไม่ควรเข้าเสียแล้วคนที่แม้แต่ควินตันคิดที่จะทดสอบอยู่ห่าง ๆ แต่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงเหงื่อเย็น ๆ ออกทั่วทั้งหลังของเขาเปียกชุ่มในทันทีเจนเซ่นรับรู้ได้ตามสัญชาตญาณถ้าเขาทำให้ควินตันขุ่นเคือง ตระกูลคาร์ลสันคงจะล้มละลายทันที ถ้าเขาทำให้คนผู้นี้ขุ่นเคือง ชะตากรรมของตระกูลคาร์ลสันก็ยังไม่สามารถจินตนาการถึงมันได้“ฉันรู้ว่าตัวตนของแกไม่ธรรมดา และแกอาจมีความเกี่ยวข้องกับพวกตระกู
ณ ลานซิลเวอร์นิมบัสในเมืองบัควู้ดนี่คือการประชุมประจำเดือนของตระกูลยอร์กทุกสิ้นเดือนทุกคนที่อยู่กระจัดกระจายที่ถูกส่งไปยังที่ต่าง ๆ ของเซาท์ไลท์จะมารวมตัวกันที่ลานซิลเวอร์นิมบัสลานซิลเวอร์นิมบัสเป็นที่ ๆ ทายาทที่แท้จริงของตระกูลยอร์กเท่านั้นที่สามารถอยู่ที่นี่ได้เครือญาติคนอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาที่นี่ต้องผ่านการอนุมัติหลายขั้นตอนผู้ที่มีสถานะต่ำและมีอิทธิพลน้อยจะไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาที่นี่ได้ในวันนี้มีรถหรูหลายคันจอดอยู่ที่ลานจอดรถข้างลานทุกคันล้วนเป็นรถ Lexus ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นนี่เป็นแบรนด์รถธรรมดา ไม่เหมาะกับตระกูลชั้นนำอย่างตระกูลยอร์กดังคำกล่าวของบรรพบุรุษของตระกูยอร์กที่ว่า “ดวงจันทร์จะขึ้นเพียงเพื่อจะจางหาย และน้ำจะเอ่อขึ้นเพียงเพื่อจะล้นออกมา” พวกเขาเชื่อเสมอว่าสิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขามาถึงจุดสูงสุดและตระกูลยอร์กยังคงยึดมั่นคำขวัญนี้เสมอแม้ว่าทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลยอร์กจะชื่นชอบรถหรูหราและรถสปอร์ต แต่ผู้นำหลายคนในตระกูลยอร์กก็ยังขับรถ Lexus อยู่บางคนใช้มามาหลายสิบปีแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนสำหรับบางตระกูล รถยนต์หรูหราที่ใช้ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ขอ
ผู้นำตระกูลคาร์ลสันทำราวกับว่าเขาได้ยินเสียงราชโองการศักดิ์สิทธิ์ เขาถึงกับถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ใช่ ใช่ คุณชายรองมีเมตตาต่อตระกูลคาร์ลสันมาก มันเป็นโชคดีของเรา เราจะระลึกถึงความกรุณาและจะจงรักภักดีต่อคุณชายรอง เราจะไม่นำความยุ่งยากมาให้คุณชายรอง…”ตอนนี้ผู้นำตระกูลคาร์ลสันตัวสั่นไปทั้งตัวทันใดนั้น ก็มีเลือดไหลออกมาทางมุมปากของเขาดูน่ากลัว จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช้า ๆ ตะเกียกตะกายเหมือนหายใจไม่ออกเขาถูกสั่งให้กินยาพิษเข้าไปก่อนที่จะมาที่นี่!ในฐานะผู้นำตระกูลด้านการแพทย์ เขาควบคุมปริมาณยาพิษที่กินเข้าไปได้เหมาะสมกับเวลาผู้จัดการยอร์กพูดอย่างไม่สนใจว่า “ส่งศพนี้กลับไปหาพวกคาร์ลสันเพื่อทำพิธีฝังให้เหมาะสม”“แล้วสั่งให้ตระกูลคาร์ลสันแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ด้วยตัวเอง”ผู้จัดการยอร์กหันหลังเดินจากไปคุณชายรองให้โอกาสเสมอ แต่พวกคาร์ลสันทำงานล้มเหลวและทำให้แผนของคุณชายรองเสียหาย นี่ถือเป็นการลงโทษที่เบาที่สุดแล้ว***ที่โถงบริเวณด้านข้างของลานซิลเวอร์นิมบัส สถานที่แห่งนี้ดูธรรมดา สวยงาม และมีสไตล์ของศตวรรษที่ 18 และ 19 ผสมผสานเข้าด้วยกันทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ แต่ในตอนนี
ควินตันยกมือซ้ายขึ้นและมองมัน เส้นโชคชะตาไคว้สลับกันและอัดแน่นยุ่งเหยิงเหมือนกระดานหมากรุกแม้ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นชะตากรรมของเขา ควินตันยังคงยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาคน ๆ นั้นได้คอยให้ความช่วยเหลือพวกคุณหลายคน และในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกคุณจะย้ายฝั่งมาเป็นคนของฉัน ทว่ามีแต่พวกคุณเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่…”“พวกคุณรู้ว่าฉันปฏิบัติต่อคุณยังไง สิ่งที่เขาสามารถให้พวกคุณได้ ฉันสามารถให้พวกคุณได้มากกว่านั้น…”“ถ้าใครยังต้องการช่วยเขาอีกล่ะก็ ฉันจะให้โอกาสพวกคุณบอกฉันมาตอนนี้ ฉันจะไม่ไล่ตามล่าพวกคุณ และจะปล่อยคุณไป…”“แต่คิดให้รอบคอบก่อนนะ ทุกคนมีส่วนในการขับไล่เขาออกไปเมื่อสามปีที่แล้ว…”ประโยคสุดท้ายกระแทกพวกเขาเหมือนฟ้าผ่าเข้าอย่างจัง คนที่ลังเลในตอนแรกก็ตัดสินใจได้ทันทีบางคนถึงกับคุกเข่าลงบนพื้นแล้วส่งเสียงอ้อนวอนว่า “คุณชายรอง เราจะรับใช้คุณอย่างซื่อสัตย์ เราอยู่เคียงข้างคุณเสมอ!“เราขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อคุณ!”เจ้าพ่อวงการธุรกิจเหล่านั้นซึ่งปกติแล้วจะทรงอำนาจมาก แต่กลับกลายเป็นเหมือนลูกน้องที่ซื่อสัตย์พวกเขากำลังปฏิบัติต่อควินตันราวกับว่าเขาเ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอก็แค่กลัวสูญเสียตำแหน่งตอนนี้ไป!”“แต่เธอคิดดีแล้วหรือยัง? ตระกูลซิมเมอร์กำลังจะขยับขยายไปที่เมืองบัควู้ด!”“เมื่อฉันได้เป็นลูกสะใภ้ นั่นก็จะได้การสนับสนุนจากตระกูลซิลวา พวกเราซิมเมอร์จะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น!”“ถ้าเธอยอมเชื่อฟังดี ๆ ฉันอาจจะเลี้ยงดูเธอสักนิดในขณะที่ฉันได้รับการดูแลเยี่ยงเจ้าหญิง...”ควินน์กอดอกของเธอแน่นอย่างมั่นอกมั่นใจ เชิดหน้าอกผ่ายไหล่ผึ่งทำท่าทางเย่อหยิ่ง“ใช่! พ่อของเธอเอาความคิดดี ๆ แบบนี้มาเสนอเอง เธอจะต่อต้านพ่อตัวเองหรือไง เธอจะขัดขวางแผนการของเราที่จะขยับขยายไปที่บัควู้ดใช่ไหม?”“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเธอ เราก็ไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินของเราด้วยซ้ำ!”“ใช่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอและครอบครัวของเธอ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอยังคงทำตัวเหมือนเป็นตกเป็นเหยื่อ แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็ตาม!”“ถ้าถามฉัน เราไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดของเราก็จริง แต่โครงการของแมนดี้จะต้องขายโดยเร็วที่สุด!”“...”สมาชิกในตระกูลซิมเมอร์พูดแสดงความคิดเห็นของพวกเขาเสียงดังพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะมุ่งหน้าไปยังบัควู้ดเพื่อไปเป็นยักษ์ให
“คุณปู่”แมนดี้ไม่แม้แต่จะสบตากับแซ็ค แต่กลับมองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยสายตาอ้อนวอน“คุณปู่ พวกเราได้ทุ่มเทแรงกายไปกับโครงการศูนย์การค้าไปมาก ไม่คุ้มค่าที่จะทิ้งมันไป!”“ทำไมคุณปู่ไม่ลองให้โอกาสหนูอีกครั้ง ถ้าหนูไม่สามารถกู้เงินได้ คุณปู่ก็ขายโครงการนี้ได้เลย”เมื่อเขามองไปที่แมนดี้ ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกคล้อยตามเธอแซ็คตบมือลงบนโต๊ะและตะคอกใส่แมนดี้ “แมนดี้ เธอไม่รู้จักที่ของตัวเองเลยหรือไง?!”“พูดตรง ๆ เธอก็เป็นแค่เพียงผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัท และเป็นแค่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้เท่านั้น!”“การดำเนินงานของบริษัทยังอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณปู่และฉัน เธอไม่ได้รับอนุญาตให้มาโต้แย้ง!”“พ่อของเธอยังเร่งให้เรารีบดำเนินการตามแผนด้วยซ้ำ!”“เรามีการประชุมเพื่อขายทรัพย์สินของเราไปแล้ว ถ้าตอนนี้เธอเข้ามาขัดขวาง แล้วทำให้ลูกค้าหวาดกลัว จะทำยังไง?”“แล้วถ้าโครงการมีผลกำไรไม่พอจ่ายงวดแรกล่ะ?”“เธอรู้ไหมว่าเราจะสูญเสียเงินจำนวนมากแค่ไหนถ้าเราไม่ได้รับเงินสิบห้าล้านดอลลาร์ตามกำหนดเวลา”แซ็คไม่มีเหตุผลเหลืออยู่ในตัวเขาแล้ว ส่งคำถามมากมายไปยังแมนดี้โครงการที่บัควู้ดถูกนำกลับมาเสนอให
แซ็คเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นชี้ไปที่ฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะเขาอย่างเย็นชา“ไอ้ถังขยะไร้ค่า พวกเรากำลังพูดประเด็นสำคัญของตระกูล แกมีสิทธิ์อะไรเข้ามายุ่งวุ่นวายแบบนี้? ถ้าแกเปิดเผยความลับของตระกูลเรา แล้วมีคนล่วงรู้ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้?”แมนดี้จ้องไปที่แซ็ค“มากเกินไปแล้วนะแซ็ค ฮาร์วีย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเราด้วย”แซ็คหัวเราะสะใจ“โอ้ แมนดี้ เธอไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราเพราะคุณปู่ไม่ยอมให้เขาหย่ากับเธองั้นเหรอ?”“เธอคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้ของตตระกูลไนส์เวลล์ และช่วยให้เราได้มีโอกาสทำโครงการร่วมกับเขาจะทำให้เขามีจุดยืนในตระกูลขึ้นมางั้นเหรอ?”“ฉันบอกอะไรเธอให้นะ ตระกูลเราแตกต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เราก็แค่ให้เกียรติไนส์เวลล์เท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ทำโครงการนี้หรอก!”แซ็คมองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์“คุณปู่ ฉันว่าเราปลดแมนดี้ออกจากตำแหน่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลซิมเมอร์!”“แน่นอนว่าตระกูลเราไม่ได้ไร้หัวใจขนาดนั้น เราจะส่งเสียให้เงินสี่ร้อยห้าสิบดอลลาร์กับเธอทั้งสองคนทุกเดือน ก็น่าจะเพียงพอแล้วส