อีวอนน์ไม่แยแส “ฮาร์วีย์จัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง เขาไม่ต้องให้ใครมาช่วยหรอก”“ไม่ต้องอย่างนั้นเหรอ?!“เธอบ้าไปแล้ว!“ฮาร์วีย์เป็นแค่คนบ้านนอก! เขาจะจัดการอะไรได้?“รอดูเถอะ! เขาจะถูกตีจนตายแน่นอน!”เฮเซลโกรธมาก เธอลืมไปนานแล้วว่าตระกูลของเธอและฮาร์วีย์รู้จักกันมาหลายชั่วอายุคนได้อย่างไรแม้ว่าฮาร์วีย์จะถูกทำร้ายจนตายในตอนนี้มันก็จะไม่เกี่ยวอะไรกับเธออีวอนน์ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแต่มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความกังวลเล็กน้อยเธอไม่เข้าใจว่าฮาร์วีย์กำลังพยายามจะทำอะไร เขาจะสามารถช่วยแม่ของเธอได้ด้วยการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม ๆ ในไซฟูโดเหรอ?อีวอนน์เชื่อใจฮาร์วีย์เสมอมา แต่เธอรู้สึกงุนงงเล็กน้อยกับการกระทำในตอนนี้ของเขาเช่นกัน“หยุดเดี๋ยวนี้! พวกคุณกำลังทำผิดกฎหมายกลางวันแสก ๆ เลยนะ!”ผู้ตรวจการหยิบปืนด้ามสั้นออกมาจากเอวและกำลังจะยิงขู่ อย่างไรก็ตามฮาร์วีย์คว้าปืนนั้นในขณะที่ผู้ตรวจการกำลังจะหยิบมันออกมา“ไป!”พวกอันธพาลกลุ่มหนึ่งรีบออกมาในเวลานี้โดยต้องการทำร้ายฮาร์วีย์จนตายในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและเล็งปืนไปที่หน้าผากของไมค์เขาปลดล็อคตัวล็อกปืนด้วย“บอกให้พว
หัวหน้าใหญ่คนหนึ่งจากท้องถนนของมอร์ดูกำลังยืนอยู่พร้อมแก้มที่แดงและบวม ใบหน้าของเขาน่าเกลียดและบิดเบี้ยวเด็กสาวกลุ่มหนึ่งกำลังตกอยู่ในภวังค์จากเหตุการณ์นี้ช่างหยิ่งยโสและอหังการ!พวกเขาไม่ได้เห็นผู้ชายแบบนี้มานานแล้วเขาประมาทแม้กระทั่งเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่ทรงพลังอย่างไมค์ เทย์เลอร์ นี่คือผู้ชายที่แท้จริง!เมื่อคนธรรมดาเจอสถานการณ์เช่นนี้ คนที่แข็งแกร่งกว่าจะพูดสิ่งดี ๆ และใช้ผู้หนุนหลังเพื่อปกป้องชื่อเสียงของเขาเป็นหลักคนที่อ่อนแอกว่าส่วนใหญ่จะคุกเข่าและร้องขอความเมตตาทันทีดังนั้น ผู้ชายแบบนี้จึงหายากมากบนโลกนี้!แม้ว่าเฮเซลจะตกใจเช่นกัน แต่ลึก ๆ ในใจของเธอค่อนข้างจะไม่พอใจเธอรู้สึกว่าแกรี่เพียงคนเดียวควรเป็นคนที่สามารถทำให้ผู้คนตกตะลึงเช่นนี้ได้คนบ้านนอกอย่างฮาร์วีย์มีสิทธิ์อะไรมาทำตัวเสแสร้งและขโมยซีน?“ฮาร์วีย์! ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ นายจะมีปัญหากับไมค์และตำรวจของมอร์ดู!“นายจะรับผลที่ตามมาได้เหรอ?“ฉันขอเตือนนายนะ! ครั้งนี้อย่าเอาพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องล่ะ! พวกเราจะไม่ช่วยนายแล้ว!”อีวอนน์มองเฮเซลที่กระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างต่อเนื่องและขู่ว่า “หุบปากซะ!”ตาของเฮเ
หยิ่ง!จองหอง!บ้าคลั่ง!โหดเหี้ยม!ใจเย็น!ความคิดต่าง ๆ เกิดขึ้นในใจของไมค์ การหายใจของเขาเร็วขึ้นและหน้าอกของเขาก็กระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเขาไม่กล้ายั่วยุฮาร์วีย์ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขารู้สึกเสียใจมากหากสาวกทั้งสามพันคนของไซฟูโดลงมือจริง ๆ เขาเชื่อว่าเขาจะมีหลายวิธีในการจัดการฮาร์วีย์แต่เขากลับถูกฮาร์วีย์จับเป็นตัวประกันด้วยปืนที่จ่อหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถใช้ทักษะใด ๆ ของเขาหรือแสดงพลังใด ๆ ได้เลย เขาอารมณ์เสียจนแทบจะกระอักเลือดหากเขา ซึ่งเป็นราชาแห่งท้องถนนของมอร์ดู ต้องตายด้วยน้ำมือของใครก็ไม่รู้ เขาคงจะไม่สบายใจแม้ว่าเขาจะกลายเป็นผีก็ตามฮาร์วีย์ถอนหายใจและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ผมเป็นคนใจร้อน ผมจะให้เวลาคุณอีกสามวินาที หากคุณปฏิเสธที่จะปล่อยคุณสมิธ ผมจะไม่เก็บคุณไว้แล้วนะ”อีวอนน์ตกใจเล็กน้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอเข้าใจว่าฮาร์วีย์มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตของแม่เธอ แต่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้มุมตาของไมค์กระตุก ในขณะนี้เขาเกือบจะลืมความเจ็บปวดของเขาได้ปล่อยเธอไปเหรอ?เรื่องแม่ของอีวอนน์จะส่งผลต่อแผนของเทอร์รี่ ถ้าไมค์ปล่อยเธอไปจ
ภายในสถานีตำรวจกลางมอร์ดูในห้องสอบสวนฮาร์วีย์ดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์อย่างเมินเฉยเนื้อหาของข่าวรายงานถึงเหตุการณ์ลักพาตัวที่น่าสยดสยองที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายไซฟูโดองค์กรที่ดูภายนอกบริสุทธิ์และซื่อตรงกลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวหญิงสาวจากตระกูลโด่งดังอย่างตระกูลสมิธซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำของมอร์ดู!ยังไม่ทราบว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของใคร แต่ตึกของไซฟูโดถูกเจ้าหน้าที่อายัดเอาไว้แล้วผู้บงการอย่างไมค์ก็ถูกโยนเข้าคุกเช่นกันขณะที่ฮาร์วีย์ดูการรายงานข่าว เขาก็จิบชาอย่างสบาย ๆเขาส่งยิ้มให้โอทิส ไคซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ “เรื่องนี้ผมก็จะปล่อยให้คุณจัดการอีกเหมือนเคยนะ หัวหน้าผู้ตรวจการไค”โอทิสหัวเราะอย่างขมขื่นแทนคำตอบ "เปล่าเลย คุณได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องและช่วยเหลือนายหญิงสมิธ“ไม่รวมสิ่งที่คุณทำไปก่อนหน้านี้ ผมต้องขอชื่นชมคุณจริง ๆ“แต่ถ้าคราวหน้าคุณจะทำอะไรแบบนี้อีก คุณยอร์ก คนช่วยบอกผมล่วงหน้าก่อนได้หรือเปล่า ผมจะได้มีเวลาคิดทบทวนสักหน่อย”“เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “คุณคิดว่าถ้าผมต้องบอกคุณล่วงหน้า ผมจะไปช่วยเธอทัน
“การกระทำที่ดูเหมือนบ้าบิ่นของคุณช่วยรับประกันความปลอดภัยของนายหญิงสมิธได้อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ศัตรูของคุณก็จะเล่นงานคุณได้น้อยลงหนึ่งวิธีด้วย“การเรียกเรื่องนี้ว่าแผนชั้นยอดคงไม่เกินจริงไปหรอก ใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบออกไปตรง ๆ “คุณเป็นคนดีจริง ๆ”“อีกอย่าง ผมสงสัยว่าคุณมีเป้าหมายอื่นในใจ…” โอทิสยังคงพูดต่อไป"โอ้?"ฮาร์วีย์อยากรู้ว่าโอทิสเดาไปถึงไหน“คุณยอร์ก ผมคิดว่าคุณจงใจสร้างความสับสนให้กับผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้”“หากเหตุการณ์นี้ทำให้ศัตรูเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ พวกเขาจะเปิดเผยช่องโหว่ของพวกเขาตอนที่พวกเขาจัดการกับคน ความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ได้”“อย่างน้อยจากมุมมองของคุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นไปตามแผนที่คุณวางแผนไว้ ผมเข้าใจถูกไหม?"ใบหน้าของโอทิสเต็มไปด้วยความปลื้มปิติอย่างสุดซึ้ง ราวกับว่าเขามองทะลุแผนการของฮาร์วีย์เป็นอีกครั้งที่ฮาร์วีย์ยิ้มโดยให้โอทิสโดยไม่ให้คำตอบอะไร“ผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจกลางมอร์ดูเป็นไปอย่างที่คิดเลย! คุณตาแหลมดีทีเดียว คุณต้องเป็นเชอร์ล็อก โฮล์มส
แกรี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและได้แต่เงียบจริงอยู่ที่เขาโทรหาคริสตัน ญาติของเขา นอกจากนี้เขายังกล่าวต่อสาธารณชนว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือฮาร์วีย์แต่เขาไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะออกมาจากการถูกคุมตัวได้เร็วขนาดนี้ขณะนี้แกรี่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขากำลังวิเคราะห์ฮาร์วีย์ อย่างพยายามคิดว่าฮาร์วีย์มีกลวิธีอย่างไร“คุณเป็นยังไงบ้าง ซีอีโอยอร์ก?”อีวอนน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป ตอนนี้มิเชลล์มองฮาร์วีย์ได้ความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง“โถ่ ฮาร์วีย์ ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจนายผิดไป! วันนี้ฉันขอขอบคุณนายจากใจจริงจากทุกสิ่งที่นายทำ”ฮาร์วีย์พยักหน้าและยิ้ม“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ และเพราะสถานการณ์ใหญ่โตมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าสร้างปัญหาให้คุณป้าได้อีก”“ผมสัญญาว่าคุณป้าจะกลับไปหาตระกูลสมิธได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ มิเชลก็ตัวแข็งคือและเงียบไปอย่างไรก็ตาม เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ติดตามเฮเซลมาด้วยก็ระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ“พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง ฮาร์วีย์?” หนึ่งในนั้นกรีดร้องอย่างเดือดดาล“นายน้อยดันเคนเป็นคนช่วยชีวิตนายไว้ แต่แต่นายกลั
เฮเซลเห็นอีวอนน์ถอยออกไปจึงสรุปเอาเองว่าเป็นเพราะอีวอนน์รำคาญฮาร์วีย์ ไม่คิดได้เช่นนั้น เฮเซลจึงส่งสายตาไปยังฮาร์วีย์ด้วยความเหยียดหยามและเยาะเย้ยถากถาง "ได้ยินหรือเปล่า นายยอร์ก"นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย!นายน้อยดันเคนจะไม่ยื่นมือมาช่วยนายอีกต่อไปแล้ว!“ให้ฉันเตือนอะไรนายสักอย่างนะ ครอบครัวมาโลนต้องเผชิญกับปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่าก็เพราะนาย!“เก็บข้าวของของนายให้เรียบร้อยและออกจากมอร์ดูไปเดี๋ยวนี้! อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าครอบครัวฉันอีก!“ทำไมพ่อถึงเรียกญาติที่น่าสมเพชอย่างนายมาจากบัควู้ดด้วย! ฮึ ตอนนี้ฉันได้แต่เสียใจ! “ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายพยายามเข้าหาฉัน คนที่อยู่ในโลกที่เหนือกว่าคน!”เฮเซลกรีดร้องด้วยความไม่เชื่อ ความขยะแขยงอย่างที่สุดเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเธอกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ติดตามเธอมาต่างก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามและความเย้ยหยันฮาร์วีย์หรี่ตา เขาพร้อมที่จะตบหน้าแกรี่เสียเต็มประดาแล้วทันใดนั้นโทรศัพท์ของเฮเซลก็ดังขึ้นเธอรับสายสั้น ๆ ในไม่ช้าเธอก็ดูดีใจ“นายน้อยดันเคน คุณรู้ข่าวหรือยัง!“ชายที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัม จาเดน สมิธกำลัง
เมื่อเห็นท่าทางของแกรี่แล้ว เฮเซลและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ใบหน้าของพวกเธอขึ้นสีแดงก่ำพวกเธอหันกลับมามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเหยียดหยามส่งท้ายเป็นการเตือน“ฉันต้องขอเตือนนายไว้เลยนะ ฮาร์วีย์ ยอร์ก อย่ามายุ่งกับพวกเรา!”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ให้นายไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยหรอก!”ฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขานึกอยากจะตบหน้าแกรี่สักฉาด แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดได้ว่าเทอร์รี่ สมิธต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หลังจากข่าวเรื่องการช่วยเหลือมิเชลแพร่ออกไป เขาคงจะง่วนอยู่กับการหารือเรื่องแผนการระหว่างเขากับอีวอนน์ เขาไม่อาจเสียเวลาไปกับคนโง่อย่างแกรี่ได้…ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในรถโตโยต้า อัลฟาร์ดอีวอนน์ส่งมิเชลซึ่งเป็นแม่ของเธอยังโรงแรมห้าดาวชั้นสูง ฮันเดลและคนอื่น ๆ อยู่ข้าง ๆ มิเชลล์เพื่อความปลอดภัยของเธอในขณะเดียวกันฮาร์วีย์และอีวอนน์นั่งรออยู่ในรถอีวอนน์ไขว้ขาเรียวสวยของเธอแล้วเหยียดร่างกาย“คุณทำให้ฉันกลัวเกือบตาย ซีอีโอยอร์ก!“ทีหลังถ้าจะทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ช่วยเตือนกันก่อนนะคะ อย่างน้อยให้ฉันได้มีเวลาเตรียมตัวบ้าง!”“ตอนแรกผมก็คิดว่าจะกำ