ใช้หัวร้อนร่างใหญ่ดูไม่แยแสขณะที่เขาพูดถึงอย่างนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นพวกนักเลงที่มีอำนาจบนท้องถนน น้ำเสียงของเขามีความคมคายอย่างไม่อาจปฏิเสธได้เหล่าผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ในขณะนี้เริ่มเข้าใจอะไร ๆ พวกเขาสบตากันด้วยความหวาดกลัว ไม่ปริปากหัวใจของเฮเซลสั่นสะท้าน เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอเดินจากไปพร้อมกับชายหัวโล้นคนนี้เฮเซลขมวดคิ้วและพูดทันทีว่า “คุณคะ ฉันแทบไม่รู้จักคุณเลยด้วยซ้ำ“แต่ถึงเราจะรู้จักกัน การที่คุณจะไปทานอาหารกับฉันก็ต้องนัดก่อนไม่ใช่เหรอ?“คุณไปบอกผู้ช่วยของฉัน คุณมัลลินส์ เพื่อนัดหมายและให้เธอตรวจสอบตารางเวลาของฉันได้เลย เธออาจจัดเวลาให้เราไปทานอาหารด้วยกันในอีกสองสามวันข้างหน้า“วันนี้ฉันมีแขกผู้มีเกียรติอยู่ด้วย ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจสถานการณ์ของฉันบ้าง“ครั้งหน้าฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารดี ๆ ด้วยกันอย่างแน่นอน”เฮเซลแสดงท่าทีเข้าใจ ความจริงแล้วเธอรู้ดีว่าข้ออ้างของเธอเป็นเพียงการถ่วงเวลาแม้ว่าจะโชคไม่ดีที่เธอได้พบกับชายหัวโล้นในวันนี้ แต่ทุกอย่างจะเรียบร้อยดีตราบใดที่เธอสามารถโน้มน้าวให้เขาฟังเธอได้ไม่กี่วันข้างหน้า? ต่อให้เธอจะไม่มีตารางงาน แต่
ชายร่างใหญ่หัวโล้นที่รู้จักกันในชื่อลีรอยเป็นศิษย์ภายนอกของหลงเหมิน เขายังเป็นอันธพาลข้างถนนอีกด้วยแต่เนื่องจากมีสาวกภายนอกของหลงเหมินเช่นเขานับหมื่นคน ดังนั้น เขาจึงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมในสังเวียนเมื่อคืนนี้ จึงไม่แปลกเลยที่เขาไม่รู้จักฮาร์วีย์ใบหน้าของเฮเซลซีดลงทันทีเมื่อเธอได้ยินว่าพี่ชายหัวโล้นลีรอยแท้จริงแล้วเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจัสติน วอล์กเกอร์ใช้ชื่อคนอื่นมาทำตัวเหนือกว่าแต่กลับเจอตอซะได้?ในโลกใบนี้จะมีอะไรน่าอายไปกว่านี้อีก?ยิ่งไปกว่านั้น จัสตินไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ ชื่อของสตีเว่น วอล์คเกอร์ก็อาจไม่มีประโยชน์สำหรับจัสตินเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ สีหน้าของเฮเซลก็ดูหวาดกลัวอย่างยิ่งในขณะเดียวกัน เสียงที่ไม่แยแสของจัสตินก็ดังมาจากนอกห้อง “ลีรอย ฉันไม่ได้ให้นายไปเอารีสลิ่งจากในรถมาขวดนึงหรอ? ทำไมชักช้านัก”เห็นได้ชัดว่าจัสตินเพิ่งส่งลีรอยออกไปทำธุระ หลังจากรออยู่นานสองนานแล้วลีรอยยังไม่กลับมา เขาจึงออกมาตามด้วยตนเองลีรอยตกใจ เขากลอกตาและรีบออกไปข้างนอก จากนั้นเขาก็พูดน้ำเสียงโทนต่ำว่า “รองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์ ผมเพิ่งพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้างชื่อของคุณเพื่อมาทำ
ทั้งจัสตินและลีโอนาร์ดรู้สึกขนหัวลุกทันทีที่พบเห็นฮาร์วีย์ในตอนนี้ฮาร์วีย์คือคนที่พวกเขากลัวที่สุด เขาน่ากลัวยิ่งกว่ายมบาลเสียอีกคนหนึ่งเพิ่งถูกฮาร์วีย์ปลดอำนาจไปจนหมดส่วนอีกคนหนึ่งถูกส่งให้ลอยออกไปหลังจากถูกฮาร์วีย์ตบอย่างแรงทั้งสองคนจะกล้าอวดเก่งได้อย่างไรในเมื่อฮาร์วีย์อยู่ที่นั่น?ฮาร์วีย์พยักหน้าเบา ๆ ทักทายพวกเขาอย่างเงียบ ๆเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของจัสตินไหลลงมาทันทีเขากัดฟันและหันไปหาพี่ลีรอย เขาพูดว่า “ลีรอย นายบอกว่ามีคนที่นี่ใช้ชื่อของฉันเพื่อหลอกลวงคนอื่นงั้นหรอ?”"ใช่! นั่นคือผู้หญิงคนนั้น…”พี่ลีรอยเริ่มพูด'เพี๊ยะ!'จัสตินหันไปตบลีรอยในทันที“ฉันไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย ฉันเป็นแค่รองหัวหน้าสาขาธรรมดา ๆ ของหลงเหมินเท่านั้น“สตรีผู้มีเกียรติผู้นี้อ้างชื่อของฉันขึ้นมาแล้วจะทำไม? ฉันบอกงั้นหรือว่าเธอทำไม่ได้?"แต่นายนี่สิ! ดูเหมือนนายจะโวยวายอยู่ที่นี่มาตลอด ทำไม คิดจะไปยุ่งย่ามอะไรกับเธอ?“นายคู่ควรกับเธองั้นหรอ?”จัสตินเองก็เคลื่อนไหวจัดการลีรอยต่อ หลังจากตบลีรอยไปหนึ่งโหล จัสตินก็เตะลีรอยจนเขากระเด็นออกไปเขาเช็ดเหงื่อเย็น ๆ และถอยมือออกไปหลังจากนั้น
ใบหน้าของอีวอนน์เปลี่ยนไป เธอไม่คิดว่าเฮเซลจะเด็ดเดี่ยวขนาดนี้แต่อย่างไรเสียอีวอนน์ก็ไม่ชอบแกรี่มากจริง ๆ แต่เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เฮเซลคงจะดูไม่ดีแน่ถ้าอีวอนน์ปฏิเสธเธออีวอนน์ได้แต่ถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง “เฮเซล ไม่ใช่ว่าฉันอยากทำให้คุณผิดหวังหรอกนะ“เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันต้องเรียงลำดับมาก่อนมาหลัง เนื่องจากฉันได้เชิญให้นายน้อยยอร์กมาปกป้องฉันแล้ว ฉันจึงไม่อาจทำลายน้ำใจของเขาได้“ยิ่งไปกว่านั้น นายน้อยดันเคนยังเป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก แม้แต่รองหัวหน้าสาขาของหลงเหมินยังต้องยำเกรงต่อเขา การให้คนอย่างเขามาเป็นผู้คุ้มกันของฉันมันน่าอายเกินไป“ฉันจ่ายไม่ไหวจริง ๆ“อืม งั้นทำไมไม่ให้ฮาร์วีย์ปกป้องฉันต่อไปล่ะ สำหรับนายน้อยดันเคนเราก็ปล่อยให้เขาอยู่เบื้องหลังและคอยสนับสนุนฉัน“แค่ให้ฮาร์วีย์ ยอร์กคอยแก้ปัญหาเล็กน้อยให้ฉัน และหากเจอปัญหาที่แก้ได้ยากฉันค่อยขอความช่วยเหลือจากจากนายน้อยดันเคนทีหลัง“สำหรับค่าเสียหาย คุณไม่ต้องกังวล นายน้อยดันเคน ฉันจะจ่ายสองเท่าตามมูลค่าของคุณ“นี่เป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงความขอบคุณของฉัน โปรดรับมันไว้ด้วย”อีวอนน์กำลังเล่นละครกับพวกเขาอย่างแน่น
เมื่อเห็นใบหน้าของฮาร์วีย์ซีดลงเล็กน้อย เฮเซลก็คิดว่าฮาร์วีย์คงต้องทนทุกข์ทรมานกับการพ่ายแพ้อย่างเงียบ ๆ ในขณะที่แข่งขันกับแกรี่ และเขาจะต้องรู้สึกเสียใจที่ได้เป็นผู้คุ้มกันของอีวอนน์แน่เฮเซลเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าหน้าบึ้งในทันที เธอพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ฮาร์วีย์ พ่อฉันบอกคุณไปกี่ครั้งแล้วว่าต้องเป็นคนติดดินอยู่เสมอ“คำพูดของพ่อพอเข้าหูคุณก็ทะลุออกไปทันทีเลย“ในเมื่อตอนนี้คุณอยากจะเป็นผู้คุ้มกันของอีวอนน์ ฉันก็จะไม่ห้ามคุณ“แต่บอกไว้เลยนะ! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณต้องกล้าที่จะเข้าไปช่วยเธอ“เพราะหากอะไรเกิดขึ้นกับคุณซาเวียร์ ฉันจะเป็นคนแรกที่ตามล่าคุณ!”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเฉยเมย "ไม่ต้องห่วง ถ้าผมอยู่ด้วยจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับอีวอนน์ทั้งนั้น“ผมเคยพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้คุณเห็นในไคเซ็น กรุ๊ปมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าสวยของเฮเซลเริ่มเย็นชา เธอพูดว่า “ฮาร์วีย์ เลิกทำตัวไร้ยังอายแบบนี้สักที!“เหตุการณ์สองครั้งนั้นคุณชายวอล์กเกอร์ช่วยคุณจัดการแท้ ๆ เพราะความหวังดีของเขาที่ทำให้คุณยืนหยัดอย่างมั่นคงในไคเซ็น !“คุณนี่มันเป็นพวกชอบเอาความดีความชอบของคนอื่นมาเป็นของตัวเองจริง
แม้ว่าจะต้องมีจุดประสงค์ในการมาร่วมการสังสรรค์และงานเลี้ยง...แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่สนใจกิจกรรมที่เรียกว่าปาร์ตี้เลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะอีวอนน์ต้องเข้าสังคมบ้าง เขาคงพาเธอกลับแล้วหลังจากตรวจดูเหตุการณ์ครู่หนึ่งและแน่ใจว่าไม่มีอันตรายใด ๆ ฮาร์วีย์ก็เดินไปที่ล็อบบี้ด้านนอกเพื่อสั่งอาหาร“นายน้อยยอร์ก!”“หัวหน้าสาขา!”ขณะที่ฮาร์วีย์นั่งลง จัสตินและลีโอนาร์ดซึ่งรอเขาอยู่เป็นเวลานานจากระยะไกลก็รีบวิ่งไปด้านข้างของเขาด้วยความเคารพและยืนต่อหน้าเขาพร้อมกับโค้งคำนับทั้งสองถือเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงในระดับชนชั้นสูงของมอร์ดูแต่ในตอนนี้พวกเขากลับทำตัวไม่ต่างไปจากลูกน้องของฮาร์วีย์และไม่กล้าทำตัวหยิ่งทะนงแต่อย่างใดหากมองใกล้ ๆ จะมีรอยฝ่ามือที่สดบนใบหน้าของจัสตินและลีโอนาร์ด แม้ว่าพวกเขาจะทาครีมลบริ้วรอยฝ่ามือแล้ว แต่มันก็ยังดูน่าตกใจเล็กน้อยฮาร์วีย์จิบชาของเขาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เกิดอะไรขึ้น คุณสองคน? พวกคุณมาที่นี่เพื่อแก้แค้นเหรอ?“มันมีปัญหากับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นหรอ“เห็นผมอยู่คนเดียวแบบนี้แล้วอยากจะทุบผมให้ตายเลยหรือไง?”รอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งจัสตินและลีโอนาร์ดแข็งทื่อเล็กน้
จัสตินรู้สึกอบอุ่นใจเพราะฮาร์วีย์อย่างเห็นได้ชัดท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ ยอร์กก็เป็นหัวหน้าสาขาที่แท้จริงของสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูพอจะกล่าวได้ว่าอนาคตของจัสตินอยู่ในกำมือของฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า “รองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์ คุณนี้มันไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ แต่ผมต้องขอชื่นชมในความสามารถของคุณในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ไวและทำตามความปรารถนาของผู้อื่นได้เสมอ”“ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็จะช่วยไคท์สักหน่อย”“หวังว่าคุณจะยินดีเช่นกัน”ฮาร์วีย์ยังคงไม่ยี่หระ เขารู้ดีว่าทำไมจัสตินถึงแสดงความเคารพต่อเขาทั้ง ๆ ที่อิจฉาอยู่ในใจนอกจากฮาร์วีย์จะเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินแล้ว ยังมีเหตุผลอีกประการหนึ่งนั่นคือการที่เขากำจัดลูคัส ฌอง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บพละกำลังของฮาร์วีย์ ยอร์กในการโจมตีลูคัส ฌองหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูนั้นก็เพียงพอที่จะแสดงความสามารถของเขาได้แล้วฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจจะเยาะเย้ยคนฉลาดอย่างเขา เขากลับชื่นชมจัสตินมากกว่าแน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องยากสำหรับจัสตินที่จะยอมละทิ้งความภาคภูมิใจของเขาต่อหน้าคนที่แย่งชิงตำแหน่งข
ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็ชิมเครื่องเคียงบางอย่างอย่างเมินเฉย เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาและชำเลืองมองผู้ช่วยมัลลินส์อย่างเฉยเมยการจ้องมองที่ไม่แยแสของเขาทำให้ร่างกายของผู้ช่วยมัลลินแข็งทื่อ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหากเธอพูดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปฉากที่จัสตินและหัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์รับใช้ฮาร์วีย์ด้วยความเคารพนั้นทำให้เธอตกตะลึงยิ่งกว่าแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าตัวตนของฮาร์วีย์ ยอร์กคืออะไรกันแน่ แต่ความสามารถของฮาร์วีย์ ยอร์กที่ใช้ในการข่มขู่จัสตินและลีโอนาร์ดก็เพียงพอที่จะเปิดเผยทุกอย่าง!ในตอนนี้เธอเข้าใจในทันทีว่าจัสตินและลีโอนาร์ดไม่ได้เห็นแก่หน้าแกรี่...แต่กลับเป็นฮาร์วีย์ต่างหาก!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ตัดสินใจว่าเธอต้องเก็บทุกอย่างที่เธอเห็นในวันนี้เป็นความลับคนรักเงินอย่างเธอมีข้อดีอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน และนั่นคือเธอรู้ว่าเธอเป็นบุคคลไร้อำนาจเมื่อคนอย่างเธอเจอคนที่อ่อนแอกว่า เธอจะเหยียบย่ำอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไม่สำนึกผิดแต่กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า เธอจะปิดปากเงียบไม่กล้าพูดหรือทำอะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจแม้สักนิดเดียวผู้ช่วยมัลลินส์รู้ดี