“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นบราเทอร์ไทสัน ผมหมายถึงกำจัดคนโง่คนนี้…” เจครู้สึกสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของไทสัน เขารู้สึกว่าไทสันกำลังรู้สึกขุ่นเคืองจากการพูดของเขา แต่ใครเล่าจะต้านทานเงินที่มากขนาดนั้นได้?“คุณจะบอกว่าผมโง่อีกแล้วเหรอ?” ไทสันร้องเสียงหลงขณะที่เขาเตะเจคให้ล้มลงกับพื้น“เจ้าเซอร์เรย์คนนี้บอกฉันว่าเป็นคนโง่ ฉันจะจัดการแยกขามันออกจากกันซะ!” ไทสันตะโกนสั่งลูกน้องของเขาเขาจัดการเจค“บราเทอร์ไทสัน ผมไม่ได้บอกว่าคุณโง่! ผมมาที่นี่เพื่อให้เงินคุณจริง ๆ !”“บราเทอร์ไทสัน ผมจะให้มากกว่านี้!”“ทำไม บราเทอร์ไทสัน? ทำไมกัน?!"“อ้ากก!”เจคกรีดร้องขณะที่เขารู้สึกเจ็บขาอย่างรุนแรง เขาเป็นเด็กร่ำรวยที่ได้รับการปรนนิบัติอย่างดี เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้เจคเป็นลมหลังจากนั้นไม่กี่วินาที“ท่านครับ เขาหมดสติไปแล้ว” ไทสันบอกด้วยความเคารพขณะที่เขาเดินไปหาฮาร์วีย์“ตอนนี้คุณรับงานจากใครก็ได้อีกแล้วเหรอ? ผมทำให้คุณเป็นคุณในวันนี้เพื่อช่วยผมจัดเตรียมทรัพยากร ไม่ใช่ให้ไปรังแกคนอื่น หากคุณยังไม่เข้าใจ ผมก็ไม่คิดที่จะแลกเปลี่ยนกับคุณ” ฮาร์วีย์เตือนอย่างจริงจัง“
“ตระกูลบรู๊คมีส่วนร่วมทั้งในธุรกิจที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ผมได้ยินมาว่าพวกเขาเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองนิอัมมี่” ไทสันพูดอย่างคลุมเครือจากนั้นก็พูดว่า “พนักงานของเราสองคนถูกทุบตีหลังจากที่พวกเขาไปบอกเรื่องการเรียกเงินทุนคืน มันเป็นเรื่องที่เราควรเข้าไปจัดการหรือตอนนี้ควรให้พวกเขาหายไป”“คิดจะล้อเล่นกับยอร์กงั้นหรือ? พวกเขากล้าดีแค่ไหนกัน” ฮาร์วีย์หัวเราะดวงตาฉายแววสนใจ“ตระกูลยอร์กไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะจัดการ ผมได้ยินมาว่าเด็กที่ร่ำรวยจากตระกูลของพวกเขาสนิทกับ เลียม สโตน นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงกล้าทำตัวอวดดีนัก” ไทสันเย้ยหยันเลียม สโตน เป็นอีกหนึ่งอันธพาลในเมืองนิอัมมี่ อำนาจของทั้งเลียมและไทสันนั้นเท่ากัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรซึ่งกันและกันได้“คุณหมายความว่าเลียมเป็นเบื้องหลังของบรู๊คส์ใช่ไหม? คุณกำลังพยายามบอกผมว่าคุณไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามพลางหรี่ตา“ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน แต่เราอาจสูญเสียกำลังคนจำนวนมากถ้าเราเลือกที่จะต่อกรกับพวกเขา ผมจะไม่ลงมือทำหากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ” ไทสันตอบอย่างประหม่า“สำนักง
บ่ายวันนั้นฮาร์วีย์ได้รับโทรศัพท์จากแมนดี้“ฮาร์วีย์ เพิ่งได้รับเงินโอนงวดแรกของจากยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ฝากขอบคุณมิสซาเวียร์ด้วยนะคะ” แมนดี้ร้องขอด้วยน้ำเสียงของเธอที่มีความสุข“ฮะ?” ฮาร์วีย์แทบจะกระโดดออกจากที่นั่ง แมนดี้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วงั้นหรือ?!“เธอไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นของคุณเหรอ? ฉันอยากจะเลี้ยงอาหารเธอสักมื้อหากเธอว่าง” แมนดี้พูดต่ออย่างร่าเริง“เอาล่ะ เรามาดูว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมได้ยินมาว่าปกติแล้วเธอจะค่อนข้างยุ่งมาก” ฮาร์วีย์รู้สึกโล่งใจที่ควาามลับของเขาไม่ถูกเปิดเผยออกมาและปฏิเสธข้อเสนอของแมนดี้อย่างระมัดระวัง พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้หญิงสองคนนั้นกลายมาเป็นเพื่อนกัน“โอ้ คืนนี้ผมคงจะกลับบ้านดึกนะครับ ผมมีบางอย่างที่ต้องจัดการก่อน” ฮาร์วีย์บอกกับแมนดี้ในขณะที่เขาวางแผนที่จะไปพบเลียม สโตนในคืนนี้“โอเค… แต่ฉันจะไม่ล็อค…ประตู…” แมนดี้พูดอย่างเขินอายหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด…แมนดี้วางสายทันทีฮาร์วีย์รู้สึกตื่นเต้นหลังจากได้ยินสิ่งที่แมนดี้พูดและหวังว่าเขาจะกลับไปให้เร็วกว่านี้เลียม สโตน เป็นหนึ่งในอันธพาลที่ใหญ่ในเมือง
ในขณะเดียวกันชายสูงวัยที่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองยืนรออยู่ในโรงยิมมวยใต้ดิน เขามองสำรวจโดยรอบด้วยสายตาที่ไม่มีความสุข สายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจที่มีต่อสถานที่นั้นใครก็ตามที่เคยดูรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการพิสูจน์วัตถุโบราณจะจำชายคนนี้ได้ เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกซะจากเชน ไนส์เวลล์ ปรมาจารย์ด้านการตรวจสอบวัตถุโบราณเหตุผลที่เขามาถึงเมืองนิอัมมี่ก็เพื่อให้ฮาร์วีย์พิสูจน์ศิลปวัตถุที่มีค่าอย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของเขาในโรงยิมคืนนี้มีจุดประสงค์เพื่อพบปะกับเพื่อนเก่ามากกว่าที่จะมาทำงานโรซาลีซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลามีสีหน้าไม่พอใจเหมือนกันจากห้องที่พวกเขาอยู่พวกเขาสามารถมองเห็นการแข่งขันชกมวยที่จัดขึ้นบนสังเวียนได้อย่างชัดเจนแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นตระกูลที่น่านับถือ แต่โอกาสเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเขา ในฐานะที่เป็นตระกูลที่รู้จักกันดีในด้านของวัตถุโบราณจึงมีบ้างที่จะต้องเกี่ยวข้องคนที่ค่อนข้างไร้ศีลธรรมเมื่อต้องถูกบังคับให้รอเป็นเวลานาน ความโกรธของผู้อาวุโสไนส์เวลล์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเอี๊ยด…ประตูห้องวีไอพีเปิดออกเลียม สโตน เข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มประจบ ดว
นี่เป็นช่วงเวลาพิเศษของโรงยิมมวยใต้ดิน จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักมวยและผู้ชมทำให้ผู้ชมมีโอกาสสัมผัสกับการชกมวยบนสังเวียน หากพวกเขาชนะพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นเงินสด อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ดังกล่าวไม่มีทางเป็นไปได้ท้ายที่สุดพวกเขาเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะเอาชนะนักมวยอาชีพได้?“ผมจะขึ้นไปลองเล่นหน่อย” ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ และสวมหน้ากาก เขาเหวี่ยงขาเข้าไปในเวทีมวย“ดูเหมือนว่าเราจะมีผู้ท้าชิงที่กล้าหาญและลึกลับที่ต้องการเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นชก” ผู้ตัดสินกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามได้ ทำไมต้องทำตัวลึกลับในเมื่อจะต้องจบลงที่พื้นพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง? ครั้งก่อนผู้ตัดสินก็ได้เห็นมาแล้วว่าชายที่สวมหน้ากากไอรอนแมนที่ขึ้นชกคนนั้นก็จบลงด้วยการถูกเตะจนเลือดอาบอย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าคนแปลกหน้าคนนี้เหวี่ยงตัวเองเข้ามาในสังเวียนนั้นน่าประทับใจมากผู้ตัดสินเดินเข้าหานักมวยอีกคนพร้อมกับเสียงกระซิบ “ระวังด้วย ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังก่อปัญหา อย่าทำให้เราผิดหวัง…”นักมวยตะโกนว่า “ไม่ต้องกังวล
ในขณะที่เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของโรซาลี เลียม สโตนก็แอบดูอยู่ข้าง ๆ เขาไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกที่ว่าโรซาลีอาจมีความสัมพันธ์พิเศษกับผู้ชายที่เพิ่งปีนขึ้นไปบนสังเวียน เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็เกิดความหวังที่จะได้เธอมาเป็นของตัวเองไม่มีใครสังเกตเห็นเลียม สโตนที่แอบส่งข้อความทางโทรศัพท์ของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เหลือบมองไปที่โรซาลี หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนคืนนี้สาวสวยคนนี้จะเป็นของเขา…นอกเวทีมวยไทสันยืนอยู่ในฝั่งผู้ชม ฮาร์วีย์คงเสียสติไปแล้ว การเผชิญหน้ากับเลียม สโตนด้วยตนเองเพื่อทำข้อตกลงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสิ่งที่เขาพยายามทำในตอนนี้ บางทีฮาร์วีย์อาจไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รนหาที่ตาย’…ในเวทีมวยฮาร์วีย์พันหมัดด้วยผ้าพันสีขาว สีหน้าของเขาเป็นธรรมชาติและไม่มีความกังวลใด ๆ คู่ต่อสู้ของเขาเผยรอยยิ้มขบขัน “พี่ชาย ถ้าฉันเป็นคุณตอนนี้ฉันจะขอความเมตตาและออกไป คุณไม่ต้องมาประลองหมัดของฉันหรอก ฉันควบคุมไม่ได้หรอกนะว่าจะหมัดหนักแค่ไหน มันน่าเสียดายจริง ๆ ถ้าคุณถูกทำร้ายจนตายเพียงเพราะอยากดูดีต่อหน้าคนอื่น”ฮาร์วีย์ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร เขากระดิกนิ้วส่งสัญญาณ
ในขณะที่เขาพูดจบประโยค เลียม สโตนก็ไม่สามารถซ่อนความรังเกียจของเขาได้ นักมวยที่เพิ่งถูกฮาร์วีย์ล้มลงนั้นความจริงแล้วเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในโรงยิมแห่งนี้เคยชนะการแข่งขันติดต่อกันถึงสิบครั้ง แม้ว่าเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งที่สุด แต่ทักษะของเขาก็อยู่ในระดับสูงอย่างแน่นอนการเอาชนะเขาได้นั้นถือเป็นความท้าทาย“มิสไนส์เวลล์ คนต่อไปไม่ใช่นักมวยธรรมดา คุณมีอะไรจะพูดกับผมไหม?”เลียม สโตนหันไปมองโรซาลีใบหน้าของโรซาลีซีดเซียวราวกับแผ่นกระดาษ เธอเม้มปากแน่นและตอบว่า “เลียม สโตน ลูกน้องของคุณเพิ่งแพ้การแข่งขัน…”“ถูกต้อง เด็กของผมเพิ่งแพ้ไป แต่เนื่องจากผมต้องการให้คุณสนุกกับการเวทีมวยของผม ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” เลียม สโตนยิ้มกว้าง “แล้วเรื่องนี้ล่ะ? ถ้าคุณอยากจะบอกว่าหยุดก็ควรบอกในเวลาที่เหมาะสม หรือไม่ก็ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออก “ไปหาคนที่มีฝีมือมา ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่วีไอพีของเรารู้จักดังนั้นจงฉลาดให้มาก!”ในขณะที่เขาพูดสองคำสุดท้ายเขาก็ยิ้มกว้างให้กับโรซาลีอีกครั้งเธอฝืนยิ้ม แต่สายตาที่จ้องมองไปที่เวทีมวยนั้นเต็มไปด้วยความกังวลบนเวทีมวย
“นั่นก็เป็นไปได้ ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่ในเมืองหลวง ผมเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ปรมาจารย์ด้านนี้ต้องได้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลานาน” เชนตอบพร้อมหัวเราะเบา ๆ “พวกเขาอาจจะไม่ดีเท่าที่ได้ระบุไว้ในนิยายศิลปะการต่อสู้ แต่การที่คน ๆ หนึ่งฆ่าผู้ชายเป็นร้อยได้นั้นไม่ใช่แค่ตำนาน”ใบหน้าของเลียม สโตน เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ยิ่งความสนใจของเชนเพิ่มขึ้นเลียม สโตน ก็ยิ่งอับอายมากขึ้นเท่านั้นโรซาลีไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทั้งสองพูดได้ จิตใจของเธอปลิวล่องลอยออกไปแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา! แม้แต่นักมวยที่น่ากลัวทั้งสองคนก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นเขาก็เต็มใจที่จะกลายเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์และปล่อยให้ทุกคนในเมืองเย้ยหยันเขา ทำไมกัน?เป็นเพราะผู้หญิงจริง ๆ หรือ? แต่เขาไม่ได้สัมผัสมือภรรยาเลยแม้จะแต่งงานกันมาสามปีแล้วไม่ใช่หรือ?ความคิดของโรซาลีสับสนวุ่นวาย เธอไม่เข้าใจตัวเองเมื่อสังเกตเห็นความเขินอายที่เพิ่มขึ้นของเธอและหน้าแดง ๆ บนใบหน้าของเธอ เลียม สโตนก็เดือดดาลด้วยความโกรธ ในตอนแรกเขาต้องการโอ้อวดเธอจนถึงขั้นขู่ว่าจะเอาชีวิตของฮาร