อั่ก!เลอบรอนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาเย็นชา“ทำตัวให้สมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อย ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายฆ่าฉันได้ แต่อย่ามาหยามหน้ากัน!"ฆ่าฉันเลยสิ!“ฉันไม่มีวันยอมบอกอะไรนายหรอก!”"ดี"ฮาร์วีย์พยักหน้า จากนั้นเหยียบข้อมือซ้ายของเลอบรอนเกิดเสียงแตกดังลั่น และเลอบรอนก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับกระดาษเลอบรอนเป็นนักแม่นปืน และเขาอาศัยมือของเขาในการทำงาน แต่ตอนนี้ฮาร์วีย์ทำลายมันไปหนึ่งข้างแล้ว นี่ก็เท่ากับว่าเขาพิการไปครึ่งนึงแล้ว"แล้ว? ตอนนี้พร้อมจะคุยหรือยัง?” ฮาร์วีย์ถามอย่างสบาย ๆ เขาหรี่ตาลง“ถ้าแน่จริงก็ฆ่าฉันเลยสิ ฮาร์วีย์ การที่นายทำแบบนี้กับฉันมันน่าอายสิ้นดี นาย…!”แกร๊ก!ก่อนที่เลอบรอนจะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็หักมืออีกข้างของเขาเมื่อมองไปที่เลอบรอนซึ่งกำลังคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดฮาร์วีย์ก็เอ่ยปากสั่งกับราเชลว่า "พาเขาไปที่ห้องใต้ดิน ค่อย ๆ ถามเขาไปเรื่อย ๆ ผมแน่ใจว่าในไม่ช้าเขาจะให้ความร่วมมือกับเรา”"มีอีกเรื่อง หาคนมาซ่อมวิลล่าที”ฮาร์วีย์หมดคำจะพูด ในที่สุดเขาก็มีวิลล่าเป็นของตัวเอง แต่กลับมีคนมาทำลายมันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาจำเป็นต
ฮาร์วีย์ ยอร์ก รู้ดีว่ายิ่งนานวันเข้าจัสติน วอล์คเกอร์และลูคัส ฌองก็จะยิ่งทำตัวบ้าระห่ำมากขึ้นเว้นแต่เขาจะกำจัดสองคนนั้นให้สิ้นซาก มิฉะนั้นไคท์ วอล์คเกอร์ก็จะยังตกอยู่ในอันตรายถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องออกไปทำธุระข้างนอก และราเชล ฮาร์ดี้ก็มีงานของเธอเช่นกันไม่มีใครสามารถปกป้องไคท์ได้ในขณะนี้แม้ว่าพลังการต่อสู้ของเบรนแนน สแตนตันจะไม่อยู่ในระดับที่สูง แต่เขาก็ยังดีกว่าคนทั่วไปแม้ว่าเขาจะสู้กับคนเหล่านั้นไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังขอความช่วยเหลือได้หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สีหน้าของเบรนแนนก็เปลี่ยนไป และเขาพูดขึ้นว่า “นายน้อยยอร์ก ผมสัญญาว่าผมจะอยู่ต่อ แต่ผมมีเรื่องที่จะขอ”“ว่ามา” ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย“คุณช่วยสอนท่วงท่าที่คุณเพิ่งสอนราเชลให้ผมได้ไหม?” เบรนแนนดูกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มันการตบของฮาร์วีย์เร็วเกินไป แน่นอนว่ามันหาตัวจับได้ยาก ทั้งยังว่องไว และแข็งแกร่งอย่างที่สุดเขาต้องการที่จะเรียนรู้ท่านั้นจริง ๆฮาร์วีย์ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พยักหน้า “อืม ตราบเท่าที่คุณยังปกป้องไคท์ได้ ผมจะสอนท่านี้ให้คุณ“แต่ผมไม่มีเวลาสอนคุณเท่าไร คุณสามารถไปหาราเชลศึกษารายละเอียดเล็
สีหน้าของเลอบรอนเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกหลังจากได้ยินคำถามของฮาร์วีย์ ยอร์กหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเขาก็เคร่งขรึมอย่างมาก“ฮาร์วีย์ นายเป็นใครกันแน่?“ทำไมนายถึงอยากรู้เรื่องของหลงเหมินและเจ้าชายฌองนัก?“เรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับนายงั้นหรอ?”เดิมที ในสายตาเลอบรอนแล้ว ฮาร์วีย์ก็เป็นเพียงแค่พวกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงและอิจฉาลูคัส ฌองเพียงเท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะมีจุดประสงค์ชัดเจน และเขากำลังตามเก็บกวาดหลงเหมินก่อนที่ลูคัสและจัสติน วอล์กเกอร์จะรู้เรื่องฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ก็คอยจับตาดูพวกเขาอยู่แล้ว“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมเป็นใคร“เพราะรู้ไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก“คุณแค่ต้องบอกผมในเรื่องที่ผมอยากรู้เท่านั้น“อ้อ ใช่ มีอีกเรื่องหนึ่ง ผมสนใจชินดัน เวย์จากประเทศหมู่เกาะมาก หากคุณมีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็บอกผมมาได้เลย บางทีมันอาจช่วยชีวิตคุณได้ด้วยซ้ำ”สีหน้าของเลอบรอนดูแย่ลงหลังจากที่เขาได้ยินคำว่า "ชินดัน เวย์จากประเทศหมู่เกาะ"เขาเป็นคนฉลาด หลังจากจ้องมองฮาร์วีย์อย่างระแวดระวังอยู่สักพักหนึ่ง เขาก็พูดว่า “ฉันรู้แล้ว!“นายคือคนที่แก้ปัญหาให้เบนจามินและภรรยาของเขา!
ฮาร์วีย์ ยอร์กดูเฉยเมยและพูดช้า ๆ ว่า “คุณคือนักฆ่าอันดับหนึ่งของลูคัส ฌองจริง ๆ “แต่คุณไม่ภักดีต่อเขา คุณภักดีต่อเงินของเขาอย่างเดียว“และคนอย่างคุณ หากต้องการหนีอย่างปลอดภัย คุณก็จะต้องรักษาไพ่ของตัวเองไว้ให้ดี สิ่งที่ผมอยากรู้ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่จะเป็นความลับ แต่เพราะว่าเป็นคุณ ผมจึงแน่ใจว่าคุณจะต้องรู้เรื่องเหล่านั้นแน่นอน”“ฮาร์วีย์ นายคิดมากเกินไป” เลอบรอนส่ายหัว“ฉันอาจจะเก็บบางเรื่องไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านั้นมันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นเจ้าชายฌองคงจะไม่ให้ผมรู้เรื่องเหล่านั้นหรอก“เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลากับฉันเลย”ฮาร์วีย์ยิ้ม “จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเราก็จะไม่พูดถึงเรื่องไร้สาระนี้ต่อ ผมขอถามหน่อย ถ้าคุณตายไปใครจะดูแลภรรยาและครอบครัวของคุณ?“ไม่ต้องบอกผมหรอกว่าคุณมีบัญชีธนาคารในต่างประเทศและเงินในนั้นเพียงพอสำหรับให้พวกเขาใช้ทั้งชีวิต“เพราะตอนนี้บัญชีนั้นถูกระงับไปแล้ว”ฮาร์วีย์แสดงภาพหน้าจอบนโทรศัพท์ของเขาให้เลอบรอนดูหลังจากที่พูดจบตาของเลอบรอนกระตุก เขาคุ้นเคยกับบัญชีในภาพหน้าจอนั้นเป็นอย่างดี มันคือบัญชีต่างประเทศของเขาที
ขณะที่ฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังจัดการกับเลอบรอน...จัสติน วอล์คเกอร์กำลังยืนอยู่นอกห้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลสมาคม สีหน้าของเขาดูแย่มากเหล่าบรรดาแพทย์ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงในมอร์ดูห้อมล้อมเขา รวมทั้งมือศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์ศัลยแพทย์สมอง แพทย์โรคหัวใจ และอื่น ๆคนเหล่านี้มารวมตัวกันได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างกำลังขมวดคิ้วในขณะนี้จัสตินมองดูภาพเอกซเรย์ที่อยู่ตรงหน้าเขา สีหน้าของเขามืดลงเรื่อย ๆ“คุณหมอฟรอสต์ วางแผนได้หรือยัง?“นี่มันผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วนะ“ผมกลัวว่าภรรยาผมจะไม่รอดหากยังยืดเยื้อแบบนี้”ในขณะนี้สีหน้าของจัสตินดูแย่ที่สุดในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา อาการของแองเจลิน่า จอห์นดีขึ้นหลายเท่าตัว เธอยังสามารถขยับตัวได้เล็กน้อยด้วยอย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลของการจ่ายราคามหาศาลสิ่งที่เรียกว่าดีขึ้นนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเหมือนดั่งหิ่งห้อยในฤดูร้อน มันทำให้ผู้คนต่างสิ้นหวัง“ซีฮีโอวอล์คเกอร์ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากคิดแผนออกนะครับ แต่เรายังไม่พบต้นเหตุของโรคของภรรยาคุณ”แพทย์ที่ดูเหมือนจะอายุห้าสิบตอบอย่างเคร่งขรึม“ถ้าเรายังหาต้นเหตุไม่เจอ เราก็ไม่กล้าที่จะผ่าตัด เพราะต่อ
เมื่อได้ยินคำว่า “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง” จัสติน วอล์คเกอร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ผมได้ยินมาว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองจะไม่ยอมจากโวลซิงง่าย ๆ คุณแน่ใจเรื่องนี้เหรอคุณหมอฟรอสต์?”“ครับ ผมเป็นเพื่อนกับเขามานานหลายปีแล้ว ผมน่าจะเชิญเขามาได้ถ้าผมยอมก้มหัวและขอร้องเขาขนาดนี้แล้ว”สีหน้าของนายแพทย์ฟรอสต์แย่ลงเล็กน้อย“เพียงแต่ว่า…”“แต่อะไร?” สีหน้าของจัสตินมืดลงอีกครั้ง“ผมเพิ่งติดต่อผู้ช่วยของเขาเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ช่วยเขาบอกว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังทำการผ่าตัดครั้งใหญ่และไม่รู้ว่าเขาจะเสร็จเมื่อไหร่“และเขายังห้ามไม่ให้ใครขัดขวางในขณะที่เขากำลังผ่าตัด“ดังนั้น ถึงแม้ว่าผมจะมั่นใจว่าสามารถทำให้ผู้อาวุโสอาร์มสตรองมาที่นี่ได้ เราก็ต้องรอจนกว่าเขาจะผ่าตัดเสร็จก่อน นอกจากนี้เขาจะยังต้องบินมาที่นี่อีก หากทุกอย่างเป็นไปได้ดี เร็วที่สุดที่เขาจะมาถึงที่นี่ได้ก็คือ ยี่สิบสี่ชั่วโมง“แต่นายหญิงวอล์คเกอร์อาจอยู่ได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ”สีหน้าของนายแพทย์ฟรอสต์แย่มากหากเป็นคนอื่นเขายังสามารถสั่งให้อีกฝ่ายมาที่นี่โดยเร็วที่สุดอย่างไรก็ตาม คนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ในตอนนี้คือแพท
จัสติน วอล์คเกอร์เดินเข้าไปหาแองเจลีน่าหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เขาจับมือเธอแล้วพูดช้า ๆ ว่า “คุณหมอฟรอสต์ขอให้ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาที่นี่แล้ว“เขาจะมาทันทีที่เขาผ่าตัดเสร็จ“เพราะฉะนั้นเธอจะต้องอดทนไว้นะ!”สีหน้าของแองเจลิน่าซีดลง จากนั้นเธอก็ตอบอย่างอ่อนแรงว่า “ฉันได้ยินที่คุณพูดเมื่อกี้แล้ว“แล้วถ้าการผ่าตัดของออสการ์ อาร์มสตรองนานถึงสามวันสามคืนล่ะ? ถ้าคนไข้ของเขาอาการไม่ดีหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว เขาจะมาได้เหรอ?“หรือต่อให้เขามา แต่พอมาถึง ฉันกลายเป็นผักไปแล้วล่ะ?“เฒ่าแก่วอล์คเกอร์ เรารอไม่ได้หรอก! คุณต้องช่วยฉัน!”ตาของจัสตินกระตุกเล็กน้อย เขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่แองเจลิน่าพูดได้อย่างไร? ไม่เพียงแต่มันอาจเกิดขึ้นได้เท่านั้น แต่มันยังมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นมากอีกด้วยแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ปลอบเธอและพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย ผู้อาวุโสอาร์มสตรองจะต้องมาทันเวลาแน่นอน”แองเจลีน่ายิ้มอย่างขมขื่น“แล้วถ้าเขาไม่มาล่ะ?“เราใช้เส้นสายมากมายเพื่อติดต่อให้เขามารักษาอาการป่วยของฉันแล้ว แต่คำตอบของเขายังคงเหมือนเดิมเสมอ ยังไงเราก็ต้องรอคิว เพราะคนไข้ทุกคนต่างก็ต้องการความช่วยเหลือ
ณ เวลาเที่ยงคืนช่วงเวลาที่ควรจะเป็นเวลามื้อเย็นเวลานี้มอร์ดูบรอดเวย์ควรจะปิดไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อฮาร์วีย์ ยอร์กไปถึง เขาก็พบว่าสถานที่นั้นยังคงสว่างไสวอยู่และถูกจองไว้โดยจัสติน วอลคเกอร์อีกครั้งคราวนี้จัสตินนั่งอยู่กลางห้องโถง เขากำลังหั่นสเต็กระดับแรร์ตรงหน้าเขาอย่างพิถีพิถันเขาทานอย่างระมัดระวังและเชื่องช้าราวกับว่าเขาต้องการลิ้มรสกลิ่นเลือดในปากของเขานอกเหนือจากเขายังมีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเขียว ซึ่งดูไร้ความสำคัญ ยืนอยู่ข้าง ๆ จัสติน เขาถือแส้ในมือและกำลังอ่านเต๋าเต๋อจิงหากไม่ใช่เพราะแสงของหน้าจอโทรศัพท์มือถือตรงหน้าเขา ผู้คนอาจคิดว่าเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ฮาร์วีย์ดึงเก้าอี้ตรงข้ามจัสตินออกมาอย่าเป็นกันเองแล้วนั่งลง จากนั้นเขาก็สั่งบะหมี่หั่นหนึ่งชามฮาร์วีย์หยิบตะเกียบขึ้นมาหลังจากที่บริกรนำบะหมี่มาให้ เขาถามขณะทานบะหมี่ว่า “คุณวอล์คเกอร์ มีอะไรให้ผมช่วยกลางดึกแบบนี้เหรอ?”ในขณะนี้จัสตินดูเหมือนจะกระตือรือร้นมากขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกันเมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์สั่งบะหมี่เพียงชามเดียว เขาก็โบกมือ บริกรนำอาหารจานเด็ดที่ถูกเตรียมไว้ก่อนหน้านี้มาเส